เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)

ตอนที่ 2400 – ภายใต้การโจมตีจากอวกาศ (1)

ฟาหยุนจมอยู่ในความคิดของเขา เขาขมวดคิ้วขณะที่แววตาของเขากะพริบ ดูเหมือนเขาจะต้องเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างรุนแรง

เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น แต่เขายังคงใช้วัตถุเซียนขั้นสูงสุด ตอนนี้วัตถุเทพปรากฏขึ้นและเป็นดาบสองมือ อาวุธดังกล่าวเหมาะกับเขามากที่สุด เขาใฝ่ฝันที่จะมีวัตถุเทพที่เหมาะสมเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเอามันมา

หากเขาใช้วัตถุเทพ ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นโดยตรงในระดับใหม่ ทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็เตรียมพร้อมที่จะเข้าร่วมในสงครามการประมูลกับตระกูลใหญ่แล้ว

แม้ว่าตระกูลใหญ่จะมีชื่อเสียงในที่ราบหยกวารี แต่เขาก็ได้รับการสนับสนุนจากจักรวรรดิกลางหาว เขาไม่จำเป็นต้องกลัวลูกหลานและผู้เยาว์ของตระกูลใหญ่เหล่านั้นเพราะเขารับใช้จักรวรรดิกลางหาว

นี่เป็นเพราะองค์กรระดับสูงสุดจะไม่ล่วงเกินผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นเพียงเพราะวัตถุเทพขั้นต่ำ

อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคาดหวังว่าคนที่จะเสนอราคาจะเป็นตระกูลอันธกาล

ตระกูลอันธกาลอยู่ในอันดับที่ 3 ในที่ราบหยกวารี ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรวรรดิกลางหาวที่อยู่ในอันดับที่ 4 สมาชิกทุกคนในตระกูลมีทักษะในกฎแห่งความมืดและทุกคนล้วนเป็นมือสังหารที่เชี่ยวชาญ พวกเขาอยู่นอกกฎหมายอย่างแท้จริงบนที่ราบหยกวารีและเป็นเป้าหมายที่ไม่ดีในการยั่วยุ

ฟาหยุนไม่จำเป็นต้องกลัวรุ่นเยาว์ของตระกูลสูงสุดตระกูลอื่น ๆ เพราะเขารับใช้จักรวรรดิกลางหาว แต่นั่นก็ไม่รวมถึงตระกูลอันธกาล

“ ฟาหยุน เจ้ายังจะประมูลวัตถุเทพอยู่หรือไม่ ? ” สหายขอบเขตตั้งต้นข้าง ๆ ถามเขา

ฟาหยุนยังคงเงียบ เขาขัดแย้งกันอยู่ภายใน

ตระกูลอันธกาลนั้นไม่มีเหตุผล ทันทีที่เขาเสนอราคาเขาจะทำให้ตระกูลอันธกาลขุ่นเคืองโดยตรง

ในขณะนี้มีคนไม่กี่คนในวัยต่าง ๆ รวมตัวกันอยู่ในห้องประมูลส่วนตัวของตระกูลอันธกาล ในหมู่พวกเขามีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ดูเหมือนจะอายุยี่สิบ

ชายหนุ่มเป็นหัวหน้ากลุ่ม แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงราชาเทพช่วงต้นแต่สถานะของเขาก็ยิ่งใหญ่มาก

เขาเป็นบุตรชายคนที่ 13 ของประมุขตระกูลอันธกาลคนปัจจุบัน อันเย่จิวหยู

ความสามารถของอันเย่จิวหยูนั้นโดดเด่นตั้งแต่อายุยังน้อยโดยได้รับการฝึกฝนจนถึงราชาเทพช่วงต้นในเวลาเพียง 5,000 ปี เขาเป็นดาวที่เจิดจรัสที่สุดในตระกูลอันธกาลในปัจจุบันและได้รับการปฏิบัติอย่างมีนัยสำคัญ

“ นายน้อยจิวหยู ดูเหมือนวัตถุเทพจะเป็นของเรา การซื้อวัตถุเทพขั้นต่ำที่ใช้เหรียญผลึกห้าสีเพียง 10 เหรียญถือเป็นเรื่องดีสำหรับนายน้อยจิวหยู” ชายวัยกลางคนกล่าว เขายิ้มด้วยความสุภาพจากข้างอันเย่จิวหยู

อันเย่จิวหยูยังคงสงบ เขาไม่แสดงความดีใจเลยราวกับว่านี่ไม่มีอะไรสำคัญสำหรับเขา เขาพูดอย่างเย็นชา“ คนจากตระกูลในที่ราบหยกวารี แน่นอนว่าต้องเชื่อฟัง”

“นายน้อยจิวหยูจะเข้าควบคุมตระกูลอันธกาลของเราในอนาคต แม้ว่าคนเหล่านี้จะโดดเด่นกว่า แต่พวกเขาก็จะไม่ทำให้นายน้อยจิวหยูขุ่นเคือง” ชายวัยกลางคนกล่าวประจบชายหนุ่ม

เมื่อนั้นชายชราที่นั่งอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกันก็ลืมตาขึ้น เขาเหลือบมองชายวัยกลางคนด้วยความรังเกียจและพูดว่า“ข้ากลัวว่าเจ้าของวัตถุเทพจะไม่ยอมปล่อยให้เป็นแบบนี้”

ดวงตาของอันเย่จิวหยูเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาพูดว่า “แล้วไง ? ข้าปฏิบัติตามกฎของการประมูลและได้รับรางวัลอย่างชอบธรรม ถ้าเขามีปัญหาอะไรก็มาหาข้าได้”

“ นายน้อยจิวหยู ท่านเคยคิดบ้างไหมว่าเราอาจเดาผิดและพวกเขาก็ไม่ใช่ราชาเทพ แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น” ชายชราถามอย่างเคร่งเครียด

“ถ้าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นแล้วไงล่ะ ? ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่ยังคงอยู่ในห้องโดยสารชั้นสูงมักเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่ไร้ประโยชน์ที่สุด หากเขามีปัญหาใด ๆ เขายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมาหาข้า” อันเย่จิวหยูกล่าวอย่างหยิ่งผยอง เขาดูถูกผู้ขายโดยสิ้นเชิง

ชายชราถอนหายใจเบา ๆ และคิดว่า“ คงจะดีถ้าเขาเป็นแค่ราชาเทพ เราสามารถฆ่าเขาได้ในกรณีนั้น อย่างไรก็ตามหากเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญชาญขอบเขตตั้งต้น การทำให้เขาขุ่นเคืองด้วยเรื่องวัตถุเทพขั้นต่ำนั้นไม่ใช่การตัดสินใจที่ชาญฉลาด”

อันเย่จิวหยูหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “ยิ่งไปกว่านั้นข้ามั่นใจว่าเขาไม่มีความกล้า แม้แต่องค์กรที่ได้อันดับหนึ่งและสองบนที่ราบหยกวารียังต้องแสดงความเคารพต่อตระกูลอันธกาลของเรา…”

อย่างไรก็ตามทันทีที่อันเย่จิวหยูพูด เสียงนั้นก็ดังขึ้น

“ช้าก่อน ! วัตถุเทพชิ้นนี้จะไม่ถูกขายในราคาต่ำกว่าเหรียญผลึกห้าสี 5,000 เหรียญ ! ”

เจี้ยนเฉินพูดจากห้องประมูลของเขา น้ำเสียงของเขาสงบมาก มันดังไปทั่วทั้งโรงประมูลและไม่เหลือที่ว่างสำหรับการเจรจา

เขาจะปล่อยให้วัตถุเทพขั้นต่ำของเขาถูกซื้อในราคาต่ำเพียงแค่เหรียญผลึกห้าสี 10 เหรียญได้อย่างไร ?

เสียงของเขาทำให้โรงประมูลทั้งหมดเงียบลงทันที แม้แต่เจ้าภาพก็ยังคงตะลึง

ทัศนคติของเจี้ยนเฉินนั้นแน่วแน่มากจนเขาไม่สนใจกฎของโรงประมูล

ราคาของสินค้าใด ๆ จะถูกตัดสินก่อนการประมูล แม้ว่าผู้ขายต้องการขอราคาบางอย่าง แต่เขาก็ต้องดำเนินการก่อนที่การประมูลจะเริ่มขึ้นและไม่ใช่ตอนนี้เมื่อสินค้ากำลังจะขาย

สิ่งนี้ผิดกฎของโรงประมูลโดยสิ้นเชิง

สีหน้าของอันเย่จิวหยูมืดครึ้มลงในห้องประมูลของตระกูลอันธกาล ความเย็นชาปรากฏในดวงตาของเขา

“ข้ารู้จักเสียงนี้ มันเป็นคนที่นำวัตถุเทพออกมาประมูล” ชายวัยกลางคนที่รายงานนายน้อยอย่างกระตือรือร้นกล่าว

“ฮึ่ม” อันเย่จิวหยู ตะคอกอย่างเย็นชา เขาคำรามและกล่าวว่า “ตระกูลอันธกาลได้เสนอราคาแล้ว ท่านกำลังเพิ่มราคาทันทีหลังจากที่ตระกูลอันธกาลของเราเสนอราคาแล้ว ท่านตั้งใจสร้างปัญหาให้กับตระกูลอันธกาลของเราหรือไม่ ? นอกจากนี้โรงประมูลยังมีกฎ ข้าแนะนำให้ท่านเคารพกฎเหล่านั้น”

“กฎ? กฎของโรงประมูลจะถอดราคาเริ่มต้นออกและร่วมมือกับผู้อื่นเพื่อให้ขายสินค้าได้ในราคาที่ต่ำมากหรือไม่ ? หากนั่นเป็นกฎของโรงประมูล จำเป็นต้องปฏิบัติตามหรือไม่ ? จะมีใครกล้าพอที่จะขายของที่นี่ในอนาคต ? ” เจี้ยนเฉินกล่าวอย่างชอบธรรม

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดเสียงฮือฮาในโรงประมูลทันที ทุกคนพูดคุยกันอย่างเงียบ ๆ ต่างพากันตำหนิโรงประมูล

สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ชัดเจนสำหรับทุกคน วัตถุเทพอันล้ำค่าใช้เพียงเหรียญผลึกห้าสีเพียง 10 เหรียญในการประมูลและไม่มีใครเสนอราคาอีก เห็นได้ชัดว่ามีใครบางคนกำลังคดโกง ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน ?

“ เหรียญผลึกห้าสี 5,000 เหรียญเป็นราคาเริ่มต้นของวัตถุเทพนี้ ทุกคนสามารถเสนอราคาต่อได้…” เจี้ยนเฉินกล่าวอีกครั้ง เขาไม่สนใจโรงประมูลและตระกูลอันธกาลและตั้งกฎของตัวเอง

“คนผู้นี้กล้าหาญเพียงใดที่ไม่เกรงกลัวตระกูลอันธกาล” ชายวัยกลางคนจากองค์กรพหุวารีที่พูดกับเจี้ยนเฉิน อย่างข่มขู่เมื่อไม่กี่วันก่อน

“เป็นไปได้มากว่าเขาจะอยู่ในขอบเขตตั้งต้น” ชายชรากล่าวกับอันเย่จิวหยู

เจตนาฆ่าพลันปรากฏในดวงตาของอันเยจิวหยู ทันใดนั้นเขามองไปที่ชายชราและพูดอย่างเย็นชา “ไปขอให้ผู้อาวุโสเงาภูตลงมือ ใครก็ตามที่เพิกเฉยต่อตระกูลอันธกาลของเราจะไม่ได้รับอนุญาตให้มีชีวิตอยู่”