เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)

ตอนที่ 2382 – แกนโลหิต 5 หยด

หลังจากผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดด้วยการรับรู้ที่ทรงพลังอย่างน่ากลัวของพวกเขา พวกเขาไม่พบร่องรอยของเจี้ยนเฉิน พวกเขาเคยเห็นรูปร่างหน้าตาและพลังตัวตนของเจี้ยนเฉินมาก่อน แต่เขาก็ได้หายตัวไปจากที่ราบ

“โอ้ ไม่นะ เจี้ยนเฉินหายตัวไปอีกครั้ง คราวนี้เขาหนีไปจริง ๆ ภายใต้การจับตามองของพวกเราทุกคน บัดซบ…”

“เขาต้องใช้สมบัตินั้นที่สามารถปกปิดตัวตนของเขาและปลอมแปลงรูปร่างหน้าตาของพวกเขาให้เป็นคนอื่น … ”

“ บัดซบ เราไม่ควรยกเลิกเหรียญโลหิตออกไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ถ้ามันเหมือนกับเมื่อสามปีก่อนที่ทุกคนมีเหรียญโลหิต เจี้ยนเฉินคงไม่สามารถหายตัวไปได้ภายใต้การเฝ้าดูของเรา … ”

“ไม่ต้องกังวล ค่ายกลส่งตัวระยะไกลในที่ราบได้ถูกปิดตัวลงไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เจี้ยนเฉินจะหนีไปจากที่ราบรกร้างอย่างไรก็ตาม เราจำเป็นต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับสมาชิกของเชื้อสายนักรบวิญญาณ …”

ผู้เชี่ยวชาญสูงสุดคำราม ในขณะที่พวกเขาทั้งหมดรู้สึกหงุดหงิด พวกเขารู้สึกเสียใจอย่างมาก

“เชื้อสายนักรบวิญญาณนันั้นง่ายต่อการติดตามดู แล้วคนจากเผ่าเทพ…” บางคนในกลุ่มขมวดคิ้ว เมื่อพวกเขาพูดถึงเผ่าเทพ พวกเขาต่างก็หวาดกลัว

แม้ว่าเผ่าเทพในปัจจุบันจะตกต่ำและไม่รุ่งโรจน์เหมือนในอดีตที่ผ่านมา พวกเขาก็ยังคงเป็นหนึ่งในองค์กรระดับสูงสุดในโลกแห่งเซียน

ตู้ซานที่มีสีหน้าซีดที่ยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขาแค่นเสียงอย่างเย็นชา เขาพูดอย่างเคร่งขรึม“ ปล่อยทีเน่แห่งเผ่าเทพไว้เป็นหน้าที่ของข้า หากนางยังคงอยู่บนที่ราบรกร้างอย่างเชื่อฟัง ข้าจะไม่สนใจนางอย่างแน่นอน แต่ถ้านางพยายามที่จะนำเจี้ยนเฉินออกไปอย่างลับ ๆ ข้าก็จะไม่ปล่อยนางไว้ ตระกูลทลายสวรรค์ของเราไม่ได้กลัวเผ่าเทพ”

ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น ตู้ซานมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาที่โกรธและเย็นชาของเขา เขามองไปที่เศษเลือดและร่างกายที่ปลิวขั้นไปในอากาศและดวงตาของเขาก็ค่อย ๆ ลุกโชนขึ้น

หลังจากนั้นในพริบตา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นทันทีห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรและเขาก็มาอยู่ตรงหน้าแขนของกุสต้า

แขนที่ยาวหลายหมื่นเมตร มันมหึมาและปลิวขึ้นไปที่ระดับความสูงหลายแสนเมตร มันร่วงลงมาอย่างรวดเร็วในขณะที่เลือดสีทองพ่นออกมา

ขั้นบรรพกาลหลายคนต่อสู้กันกับคนอื่นรอบแขนนั้นเพื่อแย่งเอามาเป็นเจ้าของ

ตู้ซานมาถึงตรงหน้าแขนและแค่นเสียงอย่างเย็นชา เขาแสดงออกถึงตัวตนที่น่ากลัวของขั้นบรรพกาล เขาคว้าแขนขนาดใหญ่ด้วยมือข้างเดียว ขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาและความสุขที่ซ่อนอยู่ เขาเก็บมันไว้ในแหวนมิติของเขาโดยไม่ลังเลเลย

ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่พุ่งออกมาจากใต้ดินทุกคนลงมือเช่นเดียวกัน ในขณะที่ตู้ซานลงมือปฏิบัติ พวกเขาเลิกค้นหาเจี้ยนเฉินเป็นการชั่วคราวเพื่อเก็บเลือดและชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายของร่างกายของกุสต้าอย่างเมามัน

อย่าลืมว่ากุสต้าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดในระดับเดียวกับบรรพบุรุษตระกูลทลายสวรรค์และสายเลือดของเขานั้นไม่ธรรมดา เป็นผลให้เลือดทุกหยดของเขามีพลังงานสูงและบริสุทธิ์ แม้แต่เศษร่างของเขาก็มีค่ามากพอที่จะทำให้ผู้คนในระดับบรรพบุรุษตระกูลทลายสวรรค์สนใจ นับประสาอะไรกับผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดที่อ่อนแอกว่าเหล่านี้

ด้วยเหตุนี้ เลือดและเนื้อของกุสต้าจึงกลายเป็นสมบัติล้ำค่าที่สามารถค้นพบได้โดยวาสนาในสายตาของผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเหล่านี้เท่านั้น มันทำให้พวกเขาทั้งหมดมีส่วนร่วม

แม้แต่หัวหน้าของโถงเซียนธาตุแสงและรองหัวหน้า 8 คนก็เข้ามามีส่วนร่วม

เบื้องหลังพวกเขาเป็นผู้อาวุโสต่าง ๆ ของโถงเซียนธาตุแสง !

โดยทั่วไปผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั่วทั้งที่ราบรกร้างมามีส่วนร่วมในการเก็บรวบรวมในครั้งนี้

มีเพียงเซียนกระบี่สวรรค์และชายชราที่หัวกระเซิงซึ่งดูแลค่ายกลส่งตัวระยะไกลที่ถูกปิดผนึกไว้ในจักรวรรดิวายุม่วงซึ่งมองออกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นขั้นอสงไขยนั้นที่ไม่ได้มาเก็บเอาชิ้นส่วนต่าง ๆ

ในขณะนี้ เลือดและเนื้อมีอยู่เต็มท้องฟ้า บุคคลเหล่านี้บินวนไปมารอบ ๆ เพื่อรวบรวมเลือดและเนื้อของกุสต้าอย่างเร่งด่วน มีหลายคนที่เริ่มต่อสู้กันด้วยสิ่งที่ดึงดูดสายตาของพวกเขา

ถึงตอนนี้ไม่มีใครสนใจเจี้ยนเฉินอีกต่อไป ผู้เชี่ยวชาญสูงสุดที่มาหาหอคอยอนัตตา ทุกคนเก็บเลือดและเนื้อของกุสต้าอย่างเมามัน

เจี้ยนเฉินหายไปจากการรับรู้ของจิตวิญญาณของพวกเขา ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพบเขาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเปรียบเทียบกับการเสียเวลาและความพยายามอย่างมากในการค้นหาเจี้ยนเฉิน พวกเขาค่อนข้างจะสนใจรับเอาวาสนาที่อยู่ต่อหน้าของพวกเขามากกว่า

อย่าลืมว่ามีหอคอยอนัตตาเพียงหอเดียว ใครจะรู้ว่ามันจะไปตกอยู่ในมือของใคร? อย่างไรก็ตาม ทุกคนสามารถได้รับวาสนาตรงหน้าของพวกเขา

ในระยะที่ห่างออกไป เจี้ยนเฉินและไคยะก็บินหนีไปและเคลื่อนตัวออกห่างจากจักรวรรดิมังกรสงครามอย่างรวดเร็ว

เจี้ยนเฉินมองย้อนกลับไปที่ฝนโลหิต เขาสัมผัสถึงพลังงานบริสุทธิ์ที่ซ่อนอยู่ภายในเลือดและรู้สึกว่ามันน่าเสียดาย

มันมีเลือดมากมายเหลือเกินและทั้งหมดนั้นมีพลังงานที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง เจี้ยนเฉินต้องการมีส่วนร่วมอย่างมากเช่นกัน แต่เขาไม่สามารถรองรับสถานการณ์ในปัจจุบันของเขาได้

ในขณะนี้ เสียงดังกึกก้องได้ดังออกไปและพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวก็กวาดเข้ามารอบ ๆ สภาพแวดล้อม การทำลายล้างและหยาดโลหิตได้กระจายขึ้นสู่ท้องฟ้า

ขั้นอัครสูงสุดได้เริ่มการต่อสู้

หัวใจดวงใหญ่ที่ร่วงหล่นลงจากท้องฟ้า ท่ามกลางสายฝนโลหิตที่ตกลงมาอย่างหนัก บรรดาผู้เชี่ยวชาญสูงสุดมารวมตัวกันเพื่อต่อสู้แย่งชิงหัวใจ

“หัวใจของกุสต้า!” ด้วยการจับตาของเจี้ยนเฉินในระยะไกลที่ได้มองผ่านอวกาศและเห็นหัวใจด้วยการเหลือบตามองเพียงครั้งเดียว เขาพยายามที่จะสงบสติอารมณ์

ภายในหัวใจคือแก่นโลหิตของกุสต้า แกนโลหิตมีค่ายิ่งกว่าเลือดปกติ

อย่าลืมว่ากุสต้าเป็นผู้เชี่ยวชาญสูงสุดที่ทรงพลังอย่างยิ่งเมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นเลือดของเขาจึงมีค่ายิ่งกว่าเดิม มันอาจถูกระบุว่าเป็นสมบัติที่ดีที่สุดและมันก็เพียงพอที่จะให้สร้างความสนใจให้กับขั้นอัครสูงสุด

ทันใดนั้นหัวใจขนาดใหญ่ของกุสต้าแตกสลายภายใต้การต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญระดับสูงทันที

แก่นโลหิตที่ซ่อนอยู่ภายในหัวใจปะทุขึ้นมา มันกระจัดกระจายไปทั่วโดยพลังงานที่รุนแรง

ผู้เชี่ยวชาญทุกคนเก็บชิ้นส่วนของหัวใจอย่างเต็มที่และตะกละตะกลาม พวกเขาเก็บแกนโลหิต

รอบตัวพวกเขา ขั้นอสงไขยและขั้นบรรพกาลที่อยู่ที่นั่นทั้งหมดได้รวบรวมแกนโลหิตอย่างตะกละตะกลามเช่นกัน

แต่ละหยดของแกนโลหิตบรรจุพลังงานบริสุทธิ์อย่างไม่น่าเชื่อตลอดจนตัวตนของวิถีและชิ้นส่วนของกฎ คุณค่าของมันชัดเจนอยู่ในตัวเอง

ในระยะไกล ดวงตาของเจี้ยนเฉินก็หรี่แคบลงและเขาก็เผยความยินดีออกมา เขาเห็นหยดแก่นโลหิตบางหยดพุ่งเข้ามาหาเขาหลังจากถูกคลื่นพลังงานกระแทกกระเด็นออกมา

เขารีบบินขึ้นไปและหยิบขวดหยกออกมาเก็บแก่นโลหิตทั้งหมด

ในท้ายที่สุด เขาก็เก็บมาได้ทั้งหมด 5 หยด พวกมันเปล่งประกายเหมือนทองคำและส่องแสงสดใสในขวดหยก พลังงานบริสุทธิ์ภายในพวกมันสร้างความสนใจให้แม้แต่เจี้ยนเฉิน มันทำให้เขาดีใจมาก

แม้ว่ามันจะมีเพียง 5 หยดเท่านั้น มันไม่มาก แต่เจี้ยนเฉินก็รู้สึกได้ว่าพวกมันนั้นยิ่งใหญ่กว่าพลังงานสำคัญทั้งสามส่วนที่เขาได้รับจากถ้ำใต้ดินในอดีต

“ข้าได้มาถึงขอบเขตอมตะกระบี่แล้ว ดังนั้นร่างบรรพกาลก็สามารถทะลวงผ่านด่านได้อีกครั้ง ข้าสามารถไปยังขั้นที่ 14 ได้ สิ่งที่ข้าขาดไปในตอนนี้คือพลังงาน ถ้าข้ามีแกนโลหิตของกุสต้าเพิ่มอีกสองสามหยด การทะลวงผ่านด่านก็จะเป็นเรื่องของเวลา” เจี้ยนเฉินคิดอย่างกระตือรือร้นเมื่อเขามองดูแกนโลหิต 5 หยด

ในขณะนั้น เขารู้สึกกระตือรือร้น เขาถูกล่อลวงให้พุ่งเข้าไปในสนามรบและเก็บแก่นโลหิตให้มากกว่าเดิม