เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2317 ใช้แผนร้าย ตอนที่ 2318 เชือดไก่ให้ลิงดู
- Home
- All Mangas
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2317 ใช้แผนร้าย ตอนที่ 2318 เชือดไก่ให้ลิงดู
ตอนที่ 2317 ใช้แผนร้าย
คนพวกนั้นเป็นคนของเมืองปีศาจ ซ้ำยังมาด้วยเจตนาเช่นนั้น ไม่มีคำสั่งของนายท่าน เขาจะกล้าให้พวกเขาเข้ามาได้อย่างไร
ดวงตาของเฟิ่งจิ่วฉายประกายมืดดำ หยักยกมุมปากเผยรอยยิ้ม หันไปสั่งผู้อาวุโสกู่ว่า “เอียงหูเข้ามา”
ผู้อาวุโสกู่รีบเดินเข้ามา เอียงหูโน้มตัวเข้าไป ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของนางดังเข้าหู ครั้นได้ฟังคำพูดเหล่านั้น สีหน้าของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึง
“เข้าใจหรือยัง” เฟิ่งจิ่วยักคิ้วถาม
“เข้าใจแล้ว ข้าจะรีบไปเตรียมการเดี๋ยวนี้” อาวุโสรับคำอึ้งๆ มองเฟิ่งจิ่วด้วยสีหน้าซับซ้อนแวบหนึ่ง ก่อนจะหันตัวเดินออกไป
เห็นสีหน้าอึ้งงันระคนสับสนของผู้อาวุโสกู่ เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ขยับมือ เอาสุราจากห้วงมิติออกมาดื่ม…
เวลานี้ นอกประตูเมือง ผู้อาวุโสกู่ขึ้นมาบนกำแพงเมืองมองลงไปข้างล่าง ตะโกนบอกกับกลุ่มคนประมาณสามสิบคนที่อยู่นอกเมืองว่า “นายท่านของข้าได้ยินว่านายท่านของพวกเจ้ามาส่งมอบของขวัญ จึงสั่งให้เชิญทุกท่านเข้าเมือง ทุกท่านเดินทางลำบาก เชิญเข้ามาพักผ่อนกินเนื้อข้างใน”
เอ่ยจบ เขาโบกมือ เขตอาคมเปิดออก ประตูเมืองเปิดออก กู่เสียงพาคนรอรับหน้าอยู่ข้างล่าง “ทุกท่าน เชิญ!”
เหตุการณ์นี้กลับเหนือความคาดหมายของผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นที่มาส่งมอบของขวัญ พวกเขานึกไม่ถึงว่าเรื่องจะราบรื่นขนาดนี้ ดูท่า เจ้าเมืองเฟิ่งจิ่งคงจะต้องใจนายท่านของพวกเขาอยู่บ้าง
ก็จริง พลังของนายท่านพวกเขานับได้ว่าอยู่อันดับต้นๆ ของที่นี่ ในเมื่อนางเป็นคนฉลาด ย่อมรู้ว่าทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนาง เพราะอย่างไร อาศัยแค่ผู้หญิงคนเดียว จะสามารถรักษาเมืองเฟิ่ง ปกป้องตนเองได้อย่างไรกัน
ชั่วขณะนี้ พวกเขาล้วนรู้สึกภาคภูมิขึ้นมา เดิมนึกว่านี่เป็นงานหิน แต่ตอนนี้ดูท่าแล้วยังมีเรื่องดีอยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้ พวกเขาแต่ละคนล้วนยิ้มอย่างยโสโอหัง เชิดคางยืดอกสาวเท้ายาวๆ เดินเข้าไปข้างใน
แต่เพิ่งจะเดินเข้าไปข้างใน ก็ถูกสัตว์เทวะขั้นสุดยอดสองตัวที่จู่ๆ ก็พุ่งออกมาทำให้สะดุ้งตกใจ
“นี่เป็นสัตว์เฝ้าประตู ทุกท่านไม่ต้องกลัว ตามข้าเข้ามาเถอะ!” กู่เสียงอธิบาย ก่อนพาพวกเขาเดินเข้าไปข้างใน
หลังจากที่พวกเขาเข้าไป เขตอาคมด้านหลังถูกปิด ประตูเมืองก็ถูกปิดเช่นกัน
เห็นคนที่มาต้อนรับพวกเขามีแค่ผู้ฝึกตนไม่กี่คน อีกทั้งยังมีชายชรารวมอยู่ด้วย เหล่าผู้ฝึกวิชามารกลับไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะอย่างไรพวกเขาก็ไม่คิดว่าคนของเมืองเฟิ่งจะกล้าทำอะไรพวกเขา
ต้องรู้ว่าหากทำอะไรพวกเขา อย่างนั้นก็เท่ากับตบหน้านายท่านของพวกเขาตรงๆ เป็นการประกาศสงครามกับเมืองปีศาจอย่างชัดเจน!
ด้วยจำนวนคนหลายร้อยคนในเมืองปีศาจ บวกกับพลังระดับผู้อาวุโสเซียนขั้นกลางของนายท่าน พวกเขาคงเบื่อชีวิตที่ยืนยาวแล้วเท่านั้นจึงจะกล้าทำอย่างนั้น
“เหล่านี้ล้วนเป็นสมบัติที่นายท่านของพวกเราให้ส่งมา” ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าโบกมือ เอากล่องใหญ่สี่กล่องออกจากแหวนห้วงมิติมาวางเรียงรายด้านหน้า จากนั้นก็เข้าไปเปิดออกทีละกล่อง
ผู้อาวุโสกู่มองแวบหนึ่ง เห็นข้างในล้วนเต็มไปด้วยสิ่งของมีค่า จึงโบกมือสั่งให้คนยกไป เมื่อยกของออกไปแล้ว ก็ตะโกนสั่ง “เด็กๆ! ออกมาต้อนรับพวกเขาดีๆ สักหน่อย!”
เห็นเพียงคนหนึ่งร้อยคนปรากฏตัวในพริบตา ล้อมโจมตีสามสิบคนนั้น ผู้ฝึกตนหนึ่งร้อยคนสู้กับคนสามสิบคน เรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้ที่แทบไม้ต้องสู้ก็ได้รับชัยชนะแล้ว
ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องโหยหยวนดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ในนั้นยังมีผู้ฝึกวิชามารตะโกนว่า “พวกเจ้ากล้าทำอย่างนี้กับพวกข้าได้อย่างไร นี่พวกเจ้ากำลังประกาศสงครามกับเมืองปีศาจของเรา! พวกเจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ…อ๊าก…”
………………………………….
ตอนที่ 2318 เชือดไก่ให้ลิงดู
เงาร่างสีแดงร่างหนึ่งไม่รู้โผล่มาอยู่ข้างหลังพวกเขาตั้งแต่เมื่อใด เธอถือน้ำเต้าสุราไว้ในมือ ยืนพิงเสาต้นหนึ่ง สีหน้าเฉื่อยชาสะท้อนแววไม่ยี่หระ
เธอเพียงยืนดูอยู่เงียบๆ ฟังเสียงกรีดร้องที่ค่อยๆ แผ่วเบาลงไป กระทั่งเหล่าผู้ฝึกตนถอยหลังออกมา เธอจึงเห็นศพสามสิบสามศพที่นอนล้มอยู่บนพื้น
“เอาไปแขวนบนกำแพงเมือง ให้คนพวกนั้นได้เห็น”
เสียงไม่สะทกสะท้านของเธอดังมาจากข้างหลัง ทุกคนหันไปมอง ก็เห็นนายท่านยืนพิงเสาดื่มสุราอยู่ตรงนั้น เห็นท่าทางเฉื่อยชาเกียจคร้านของนายท่าน รวมถึงประกายเย็นชาในดวงตาที่พาดผ่านนั่น ทุกคนรีบเก็บงำอารมณ์ รับคำอย่างนอบน้อม ลากศพสามสิบศพขึ้นไปแขวนบนกำแพงเมือง
พวกเขาเองก็ได้ยินเรื่องที่นายท่านเป็นผู้หญิงแล้ว แต่นอกจากดวงหน้าที่งามเลิศล้ำนั่นแล้ว พวกเขามองไม่เห็นความอ่อนแอของหญิงสาวบนตัวนายท่านเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับมีความดุดันและวิธีการที่เด็ดขาดรวดเร็วดุจผู้ชายมากกว่า
นี่ทำให้พวกเขายากจะเชื่อมโยงนายท่านที่อยู่ตรงหน้าเข้ากับผู้หญิงได้จริงๆ
“นายท่าน ข้าสั่งให้คนยกของสี่ลังนั่นไปที่ลานบ้านของนายท่านแล้ว”
ผู้อาวุโสกู่เข้ามารายงาน ที่จริงพวกสมบัติเหล่านั้น อยู่ในนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์ พวกเขาล้วนถูกขังอยู่ในนี้ไม่อาจไปจากที่นี่ได้ มีสมบัติมากมายอย่างนั้นไปก็ไร้ประโยชน์ ว่ากันตามจริง สมบัติสี่ลังนั้นยังสู้เนื้อสัตว์ร้ายสองสามตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ
“สั่งให้พวกเขาช่วงนี้จับตาดูให้ดี ป้องกันการลอบโจมตี ตอนออกไปข้างนอกก็ให้ระวังตัวด้วย” เฟิ่งจิ่วทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านี้ จากนั้นก็หมุนเดินออกไป
เวลาเพียงสองวัน ข่าวเรื่องที่มีศพสามสิบศพแขวนอยู่บนกำแพงเมืองเฟิ่งก็กระจายออกไป เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ก็สร้างความแตกตื่นโกลาหลขึ้นทันที
“เจ้าเมืองเฟิ่งนั่นถึงกับกล้าสังหารคนของเมืองปีศาจ นางช่างใจกล้าไม่น้อย!” ชายวัยกลางคนอึ้ง เป็นครั้งแรกที่เขาตกใจ
“แค่ใจกล้าไม่น้อยเสียที่ไหน แทบเรียกได้ว่าเย่อหยิ่งจองหองไม่นึกถึงผลที่ตามมาเลยต่างหาก”
ชายชราผู้หนึ่งค้าน ก่อนเอ่ยกับชายวัยกลางคน “นายท่าน การกระทำของเจ้าเมืองเฟิ่งนี้เหนือความคาดหมายของผู้คนยิ่ง เดาว่าคงไม่มีใครคาดคิดว่านางจะกล้าสังหารคนที่ไปส่งมอบของขวัญอย่างนี้ ซ้ำยังเอาศพไปแขวนบนกำแพงเมืองเพื่ออวดบารมีอีก”
“หึๆ นี่ใช่แค่อวดบารมีเสียที่ไหน นางทำเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดูต่างหาก” ชายวัยกลางคนยิ้มๆ เอ่ยว่า “ข่าวแพร่ออกไปว่านางเป็นผู้หญิง มีหลายคนหมายตานาง และการที่นางทำเช่นนี้ก็เป็นการเตือนคนพวกนั้นที่มีแผนการต่อตัวนาง ว่าก่อนที่คิดจะหมายตานางให้ประเมินกำลังตนเองเสียก่อน”
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง แววปราดเปรื่องสาดฉายผ่านดวงตา “ข่าวนี้แพร่ออกไปแล้ว คนพวกนั้นที่หมายตานาง เดาว่าคงไม่กล้าทำอะไรวู่วามอีก ต้องยอมรับว่าเจ้าเมืองเฟิ่งผู้นี้มีความสามารถอยู่จริงๆ”
“จะพูดอย่างนี้ก็ไม่ผิด เพียงแต่หากทางเมืองปีศาจรู้ข่าว เดาว่าจะต้องเล่นงานเมืองเฟิ่งทันทีแน่ จำนวนคนในเมืองปีศาจถือว่ามีมากที่สุดในกลุ่มอำนาจทั้งหมด สำหรับพลังต่อสู้ของคนเพียงหนึ่งร้อยคนในตอนนี้ของเมืองเฟิ่ง แทบไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเมืองปีศาจเลย”
“นั่นก็ไม่แน่เสมอไป”
ชายวัยกลางคนเอามือไขว้หลังเดินทอดน่อง เอ่ยอย่างคาดเดาว่า “ในเมื่อนางกล้าฆ่าคนพวกนั้น ย่อมแสดงว่านางไม่เกรงกลัวพวกเขา รอดูไปเถอะ! ไม่นานก็จะรู้เอง”
เห็นนายท่านว่าอย่างนี้ ชายชรากลับไม่พูดอะไรอีก คารวะหนึ่งครั้งแล้วก็ถอยออกไป
ในอีกด้านหนึ่ง ที่เมืองปีศาจ ผู้ฝึกวิชามารที่กำลังรอฟังข่าวดีหยอกล้อกับหญิงสาวนางหนึ่งในอ้อมแขน พลันนั้น ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับสีหน้าเดือดดาล
………………………………….