เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2305 ปลดผนึก ตอนที่ 2306 ตายคาปากสัตว์ร้าย
ตอนที่ 2305 ปลดผนึก
ทว่า ครั้นสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวจากจุดตันเถียน นัยน์ตาของเธอไหวระริก
กลิ่นอายพลังเร้นลับเหมือนกำลังหดหาย แต่ภายในจุดตันเถียนกลับมีพลังขุมหนึ่งค่อยๆ ก่อตัว นั่นเป็นพลังที่เกิดจากกลิ่นอายพลังเร้นลับ
“รู้จักเจ็บแล้วหรือยัง นี่ยังไม่พอ ทำให้ข้าโกรธ ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มลองความเจ็บปวดจากการถูกถลกหนังทั้งเป็น!”
เสียงอันชั่วร้ายของผู้ฝึกวิชามารคนนั้นดังมา สองมือขยับหมุน ซัดกระแสพลังที่อยู่รอบๆ ไปทางเฟิ่งจิ่ว กระแสพลังนั้นส่งเสียงหึ่งๆ กรีดเฉือนผิวหนังของเฟิ่งจิ่วดุจมีดแหลมคมเล่มเล็กๆ
“อ๊า!”
เฟิ่งจิ่วแหงนหน้าตะโกนลั่น ทนรับความเจ็บปวดแสนสาหัสจากการถูกคมมีดนับไม่ถ้วนกรีดเฉือนร่างกาย ทันใดนั้น เธอสัมผัสได้ว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดในร่างกายพุ่งไปที่จุดปิดผนึกนั่น กลิ่นอายพลังวิญญาณที่ตอนแรกถูกปิดผนึกอยู่พลันระเบิดออกมาในพริบตาราวกับเขื่อนแตก
“พรึ่บ! บึ้ม!”
กระแสพลังอันแข็งแกร่งขุมหนึ่งสะท้อนไปในอากาศ แรงกดดันของสัตว์เทวะโบราณก็ถูกปลดปล่อยในเวลานี้เช่นกัน กระแสพลังที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าป่วนพล่านดุจคลื่นที่ซัดสาด ซัดกระจายไปรอบๆ แรงกระแทกมหาศาลสลัดพลังขุมนั้นของผู้ฝึกวิชามารที่พันธนาการเธอไว้ ร่างกายของเธอพุ่งขึ้นสูงเหนือฟ้าเพราะหลุดพ้นจากพันธนาการนั่น
ชุดสีเขียวเปื้อนเลือด ทั่วเต็มมีแต่บาดแผล ทว่าเธอในเสี้ยวเวลานี้ ทั่วร่างกลับปกคลุมไปด้วยแรงกดดันของปราชญ์เซียนขั้นสูงสุดและแรงกดดันของสัตว์เทวะโบราณผสมผสานกัน กลายเป็นพลังอันน่าครั่นคร้ามขุมหนึ่ง
เฟิ่งจิ่วก้มหน้ามองเสื้อสีเขียวบนตัวที่ถูกบาดเฉือนจนขาดวิ่น นัยน์ตาไหวระริก ฉีกเสื้อสีเขียวบนตัวทิ้งลงไปข้างล่าง ขณะเดียวกัน ก็หยิบเสื้อสีแดงสะดุดตาตัวหนึ่งออกจากห้วงมิติมาใส่ ปกปิดบาดแผลบนร่างกาย และปกปิดเลือดที่ย้อมจนแดงไปทั้งตัว
ทว่า ชุดสีแดงที่สะดุดตานั่น กลับทำให้เธอยิ่งดูโดดเด่น โดยเฉพาะกลิ่นอายของผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนือกว่าที่สะท้อนอยู่ตรงหัวคิ้วนั่น ทั้งแข็งแกร่งและแข็งกร้าว มั่นใจและเย่อหยิ่ง
“ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ ไม่อย่างนั้นข้าคงปลดผนึกนี้ไม่ได้แล้ว” กลีบปากของเธอขยับเล็กน้อย เปล่งเสียงออกไปอย่างเนิบช้า แต่กลับลอยเข้าไปกระทบโสตประสาทของผู้ฝึกวิชามารอย่างชัดเจน
ผู้ฝึกวิชามารระดับผู้อาวุโสเซียนนั่นมองเด็กหนุ่มชุดเขียวที่ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคนด้วยความตะลึงพรึงเพริด เบิกตากว้างจ้องมองเขา กลิ่นอายสัตว์เทวะโบราณของอีกฝ่ายแข็งแกร่งชัดเจนขนาดนั้น สัตว์คู่พันธสัญญาของเขาจะต้องเป็นสัตว์เทวะโบราณแน่ๆ!
เมื่อครู่ตอนสู้กันคิดเพียงว่าเด็กหนุ่มโอหังอวดดี ยามนี้เมื่อดูแล้ว กลิ่นอายของเขาเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนใหม่ แลดูดุดันน่าพรั่นพรึง กลิ่นอายเผด็จการแผ่กระจายออกมาจากตัวเด็กหนุ่มอย่างไม่ต้องพยายาม นั่นทำให้เขาอดสะท้านไปทั้งใจไม่ได้
เป็นเพียงเด็กหนุ่ม กลับมีพลังเช่นนี้แล้ว คนคนนี้เป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงมาอยู่ในสถานที่อย่างนี้ได้
จำต้องบอกว่า เด็กหนุ่มที่จู่ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนตรงหน้านี้ได้สร้างแรงกระทบกระเทือนใจให้เขาอย่างมาก เดิมคิดว่าอีกฝ่ายต้องตายอย่างแน่นอน แต่ใครจะรู้ เขายังเป็นร่างเทพประทับด้วย!
ก่อนหน้านี้นึกไม่ถึงว่าจะใช้แค่กลิ่นอายพลังเร้นลับสู้กับเขา ตอนนี้เมื่อปลดปล่อยกลิ่นอายพลังวิญญาณออกมา รัศมีดุดันราวกับผู้กุมชะตาชีวิตนั่น ทำให้เขาตกใจกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก…
“ร่างเทพประทับ!”
เขาจ้องเด็กหนุ่มตรงหน้า ในดวงตาสาดประกายตื่นเต้นราวกับเจอเหยื่อ “นึกไม่ถึงจริงๆ สถานที่เช่นนี้ข้ายังมีโอกาสได้เจอร่างเทพประทับด้วย ข้าช่างโชคดีจริงๆ เมื่อกี้ไม่ได้ฆ่าเจ้าในดาบเดียว ไม่อย่างนั้นก็น่าเสียดายเกินไปแล้ว”
เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปาก “แต่ข้าคิดว่าอีกเดี๋ยวเจ้าก็จะเสียใจที่ไม่ฆ่าข้าในดาบเดียว”
………………………………….
ตอนที่ 2306 ตายคาปากสัตว์ร้าย
มองดูรอยยิ้มที่มุมปากของเด็กหนุ่ม ผู้ฝึกวิชามารระดับผู้อาวุโสเซียนลอบประหลาดใจ เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้พอเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าสีแดงกลับให้ความรู้สึกเหมือนหญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิง จะว่าเขาเป็นชาย แต่ดวงตามืดทะมึนคู่นั้นกลับซ่อนเร้นเสน่ห์เย้ายวนไว้ ช่างน่าประหลาด
ทว่า ชั่วขณะที่เขาใจลอย อีกฝ่ายกลับมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าแล้ว ผ้าแพรสีแดงในมือตวัดพุ่งเข้ามา เขารีบหลบหลีก แต่กลับยังถูกผ้าแพรสีแดงเส้นนั้นที่แฝงพลังดุดันกรีดเนื้อจนเป็นแผลลึกเส้นหนึ่ง
“ซี้ด!”
เขาสูดปาก รีบยกมือปัดป้อง แต่กลับพบว่ากระบวนท่าในการโจมตีของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไปแล้ว ดุดันยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ และรับมือยากกว่าก่อนหน้านี้
“อ๊าก!”
ผ้าแพรสีแดงพาดผ่าน ดุจมีดแหลมคมกรีดเฉือนไหล่เขาทิ้งรอยแผลเส้นหนึ่งไว้ เลือดสีแดงสดไหลทะลัก ทำให้เงาร่างของเขาที่อยู่กลางอากาศโงนเงนไปเล็กน้อย แต่ไม่รอให้เขาตั้งตัวได้ เด็กหนุ่มบีบเค้นเข้ามาทีละก้าว ทุกกระบวนท่าล้วนหมายปลิดชีพ อีกทั้งแรงกดดันและรัศมีของอีกฝ่ายกดข่มเขาไว้หนึ่งระดับ ทำให้เพียงชั่วอึดใจ ร่างกายของเขาก็สะบักสะบอมเต็มไปด้วยบาดแผล กลิ่นอายก็วุ่นวายไปด้วย
ผ้าแพรสีแดงในมือจู่โจมออกไปอีกครั้ง พันรัดเท้าของผู้ฝึกวิชามารไว้ ขณะที่ผู้ฝึกวิชามารล้มหงายหลัง มืออีกข้างของเฟิ่งจิ่วรวบรวมพลังเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิง ซัดใส่ผู้ฝึกวิชามารตามไปทันที
“อ๊าก…”
เสียงกรีดร้องดังก้อง เห็นเพียงเปลวไฟลุกท่วมตัวเขาในพริบตา ด้านหนึ่งเขาพยายามสลัดแพรป่วนฟ้าของเธอ อีกด้านก็พยายามดับไฟบนตัว แต่เฟิ่งจิ่วไม่ให้โอกาสเขาได้หายใจ ซ้ำเติมเข้าไปอีกครั้ง ดาบสั้นในมือสะท้อนประกายเย็นเยือกภายใต้แสงอาทิตย์ พริบตาต่อมา ดาบสั้นพุ่งแทงไปยังผู้ฝึกวิชามารคนนั้น
“อึก!”
เปลวไฟที่ลุกไหม้ท่วมตัวทำให้จิตใจของเขาสับสนวุ่นวาย ทำให้เขาไม่ทันหลบตอนที่เฟิ่งจิ่วโน้มตัวพุ่งเข้ามาใกล้ และแทงดาบสั้นใส่เขา
เห็นเพียงดาบสั้นในมือเฟิ่งจิ่วแทงจากข้างหลังทะลุจุดตันเถียน ขณะเดียวกัน เปลวไฟลูกหนึ่งก็ลุกลามเข้าไปในบาดแผล เผาบาดแผลนั้นจนไหม้เกรียม…
“ซี้ด! อ๊าก…”
เสียงสูดปากและเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นอย่างไม่อาจทนกักเก็บไว้ได้อีก ร่างกายของเขาพยายามดิ้นรนอยู่กลางอากาศ อยากจะพุ่งโถมใส่เฟิ่งจิ่ว แต่เพราะเปลวไฟลุกลามทั่วตัว จุดตันเถียนก็ถูกทำลาย เขาจึงไม่อาจเข้าใกล้เฟิ่งจิ่วได้
เฟิ่งจิ่วเหล่มองเขาแวบหนึ่ง แพรป่วนฟ้าในมือพลิกหมุน พุ่งออกไปพันรอบคอของเขา จากนั้นก็สะบัดร่างเขาไปที่สัตว์ร้ายระดับสัตว์เทวะขั้นสุดยอดตัวหนึ่ง
“ยกให้เจ้า!”
เธอตะโกนเสียงใส ร่างของผู้ฝึกวิชามารนั่นดิ่งลงไปตามการตวัดของเธอ สัตว์เทวะขั้นสุดยอดตัวนั้นที่กำลังฉีกทึ้งร่างผู้คนอยู่ข้างล่างเห็นเข้า ก็รีบส่งเสียงคำราม พุ่งกระโดดมาข้างหน้า อ้าปากเผยเขี้ยวอันแหลมคมทั้งปาก งับร่างของผู้ฝึกวิชามารที่พยายามหนี เสียงดังกร๊อบแกร๊บเพียงครู่เดียว มันก็กลืนยาในของเขาลงท้องไปแล้ว
“อ๊าก…”
ชั่วพริบตาเดียว ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องโหยหวนดังสะท้อนอยู่ในอากาศ เสียงนั้นจากดังกลายเป็นเบา กระทั่งสุดท้ายก็ค่อยๆ เงียบหายไปท่ามกลางเสียงอันวุ่นวาย…
เมื่อเหล่าผู้ฝึกวิชามารที่กำลังต่อสู้กับสัตว์ร้ายด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลอยู่ข้างล่างเห็นเหตุการณ์นั้น ต่างก็ตกใจจนขาอ่อน ร้องด้วยความตกใจ “นายท่าน!”
นายท่านของพวกเขา! ผู้แข็งแกร่งระดับผู้อาวุโสเซียน นึกไม่ถึง นึกไม่ถึงว่าจะถูกฆ่าอย่างนี้ นะ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!
แม้พวกเขาจะไม่อยากเชื่อ แต่เหตุการณ์เลือดสาดนั่นกลับเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขาแล้ว ทำให้พวกเขาต่างก็พากันอกสั่นขวัญแขวน ความกลัวกัดกินไปทั้งร่างกาย ไม่อาจต่อสู้กับฝูงสัตว์ร้ายที่มีอยู่ทั่วเมืองนี้ได้อีก…
………………………………….