เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2303 ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ตอนที่ 2304 แผนซ้อนแผน
- Home
- All Mangas
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2303 ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ตอนที่ 2304 แผนซ้อนแผน
ตอนที่ 2303 ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว
จิตสังหารท่วมฟ้าพาเอาพลังทำลายล้างพุ่งเข้ามา แรงกดดันของผู้อาวุโสเซียนและพลังอันดุดันดุจคมดาบ เธอมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของเขาด้วยซ้ำ เห็นเพียงพลังขุมหนึ่งจู่โจมเข้ามา ชั่วพริบตาเงาดำก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว
สองมือยื่นเข้ามาก็หมายจะบีบคอของเธอ เธอรีบตวัดแพรป่วนฟ้าในมือพันธนาการไว้ ขณะเดียวกันก็พาร่างถอยหลัง ทว่า ขาของอีกฝ่ายเตะเข้ามาที่เธอพร้อมกับพายุดาบ รวดเร็วมาก แทบจะทำให้เธอตั้งรับไม่ทันเลยทีเดียว
“พลั่กๆ!”
“วืด!”
ทั้งสองต่อสู้กันกลางอากาศ ด้านล่าง สัตว์ร้ายเหล่านั้นกำลังสู้กับผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นอย่างโกลาหลวุ่นวายไปหมด เสียงคำรามและเสียงต่อสู้ดังไม่ขาดสาย เสียงกรีดร้องและโหยหวนก็ดังอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ท่ามกลางเมืองภูเขานิลทั้งเมือง มองไปทางใดล้วนเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน
นอกเมืองภูเขานิล ผู้ฝึกตนที่ตามมาดูฝูงสัตว์ร้ายนับร้อยตัวพวกนั้นขี่กระบี่บินขึ้นไปกลางอากาศ ยามเห็นเหตุการณ์ในเมืองภูเขานิลจากข้างบน ก็อดสูดปากไม่ได้
“ซี้ด! เจ้าเด็กชุดเขียวนั่นไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วรึนั่น!”
ผู้ฝึกตนคนหนึ่งร้องขึ้นด้วยความตกใจ จำได้ว่าเด็กหนุ่มชุดเขียวก็คือเด็กหนุ่มคนที่ทำให้พวกเขาเดาใจไม่ถูกก่อนหน้านี้ เวลานี้พวกเขาเห็นเขาสู้กับเจ้าเมืองภูเขานิลจากที่ไกล ต่างก็ตื่นตะลึง
เจ้าเมืองภูเขานิลเป็นถึงผู้ฝึกตนระดับผู้อาวุโสเซียน เด็กหนุ่มชุดเขียวคนนั้นนึกไม่ถึงว่าจะสู้กับเขาได้ เห็นได้ว่าพลังของเขาก็แกร่งมากเช่นกัน ไม่น่าเล่า ไม่น่าตอนที่ผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้นเรียกเขาไปป่าอสูรด้วยกัน สุดท้ายเขากลับมาแค่คนเดียว
ครั้นเห็นภาพที่เขากับผู้ฝึกวิชามารระดับผู้อาวุโสเซียนคนนั้นต่อสู้กัน ในที่สุดพวกเขาก็รู้แล้ว เหตุใดเขาคนเดียวจึงสามารถสังหารผู้ฝึกวิชามารได้ถึงสี่ห้าคน
ในเมือง ผู้ฝึกวิชามารหลายคนกำลังไล่ฆ่ากู่เสียง กู่เสียงด้านหนึ่งต่อสู้กับพวกเขา ด้านหนึ่งอาศัยเหล่าสัตว์ร้ายมาหลีกเลี่ยงการร่วมมือของคนพวกนั้น เพียงแต่แม้ทำเช่นนี้ เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
ทว่า ขณะที่ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งกำลังจะลอบโจมตีเขาจากข้างหลัง กลับถูกสัตว์ร้ายตัวหนึ่งที่จู่ๆ ก็โถมเข้ามาและลากลงไป จากนั้นก็ถูกฉีกร่างเป็นชิ้นๆ…
กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นกระจายไปทั่วเมือง เศษซากแขนขาหักเกลื่อนเต็มพื้น มีทั้งของสัตว์ร้าย มีทั้งของผู้ฝึกวิชามารพวกนั้น มองไปที่ใด ล้วนมีแต่สีแดงสดของเลือดที่บาดตายิ่งนัก
กลางอากาศ สู้กันมานานแต่กลับไม่สามารถฆ่าเด็กหนุ่มชุดเขียวได้เสียที ผู้ฝึกวิชามารระดับผู้อาวุโสเซียนอดเพ่งมองอย่างละเอียดไม่ได้ น้ำเสียงเคร่งขรึมเปล่งออกจากปากเขาอย่างไม่เข้าใจ “เจ้าเป็นเพียงผู้ฝึกพลังเร้นลับระดับเทพนักรบคนหนึ่ง เหตุใดสู้มานานแล้วก็ยังไม่พ่ายแพ้สักที”
มือของเฟิ่งจิ่วพันไว้ด้วยแพรป่วนฟ้า จ้องเขา เอ่ยว่า “เจ้าใช้พลังแค่ห้าส่วนมาสู้กับข้าเองไม่ใช่หรือ พลังแค่ห้าส่วนก็คิดจะฆ่าข้า ดูถูกข้าเกินไปแล้วกระมัง” สิ้นเสียง แพรป่วนฟ้าในมือเธอตวัดพุ่งออกไปดังวืด ครั้นนี้ จากฝ่ายรับเป็นฝ่ายบุก เธอเริ่มตอบโต้กลับแล้ว
ได้ยินอย่างนั้น ผู้ฝึกวิชามารหรี่ตา “ดีมาก! อย่างนั้นก็ให้ข้าได้เห็นความสามารถของเจ้าหน่อยก็แล้วกัน!” กลิ่นอายพลังวิญญาณในตัวระเบิดออกมาจนถึงขีดสูงสุด ห้านิ้วมือขดงอเป็นกรงเล็บคว้าไปกลางอากาศ พลังขุมหนึ่งโลดแล่นอยู่กลางกรงเล็บของเขา จู่โจมออกไปดังวืด
เฟิ่งจิ่วใช้แพรป่วนฟ้าปัดป้องการโจมตีของเขา แต่กลับเห็นว่ากลิ่นอายพลังเร้นลับบนแพรป่วนฟ้าถูกกระแทกสลายหายไปเพราะการโจมตีนี้ แพรป่วนฟ้าที่เดิมทีดุดันดุจกระบี่พลันอ่อนยวบในพริบตา ลอยล่องกลับมาอยู่ในมือเธออย่างเบาหวิว
ในเวลานี้เอง อีกฝ่ายโฉบไหวเงาร่าง โน้มตัวพุ่งกระแทกใส่เธอเต็มเรี่ยวแรง เฟิ่งจิ่วที่หลบไม่ทันรู้สึกเพียงถูกพลังอันแข็งแกร่งที่โอบล้อมรอบกายอีกฝ่ายกระแทกตัวปลิว แรงกระแทกนั้นรุนแรงมาก แม้เธอจะอยากยืนให้มั่นคงและสลายแรงนั้นก็ทำไม่ได้
………………………………….
ตอนที่ 2304 แผนซ้อนแผน
“พลั่ก!”
“อึก!”
เสียงกระแทกดังพลั่กดังขึ้น เธอถูกกระแทกตัวปลิวออกไปทั้งตัว เปล่งเสียงครางออกจากปาก เลือดในร่างถูกตีขึ้นมาจุกที่ลำคอ รู้สึกเพียงรสเค็มที่ปาก ไม่นานก็มีเลือดสายหนึ่งไหลออกมา
ร่างกายที่ถูกกระแทกรู้สึกเจ็บปวด รวมถึงบาดแผลที่ถูกกระแสพลังบาดเฉือน ทำให้เธอขมวดคิ้วแน่น หลังจากยืนอย่างมั่นคง เธอยกมือเช็ดเลือดที่มุมปาก ได้ยินเสียงของอีกฝ่ายดังมา
“เจ้าหนู ข้าจะแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของข้า!”
สิ้นเสียง เงาร่างของเขาแยกออก จากหนึ่งกลายเป็นสอง เงาร่างสองเงาล้อมเฟิ่งจิ่วไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ก่อนจะลงมือจู่โจม
กระบวนท่าเดียวกัน กลิ่นอายเหมือนกัน พลังของคนคนเดียว แยกแยะไม่ได้เลยว่าคนไหนคือตัวปลอม เผลอเพียงแวบเดียว เฟิ่งจิ่วก็ถูกโจมตีหนึ่งฝ่ามือ กระอักเลือดออกมาอีกคำ
กู่เสียงที่อยู่ข้างล่างเห็นอย่างนั้นก็อดร้องด้วยความตกใจขึ้นมาไม่ได้ “นายท่าน!”
เฟิ่งจิ่วเหล่มองไปข้างล่าง เห็นเขาบาดเจ็บไปทั้งตัว จึงบอกว่า “ดูแลตัวเองให้ดี”
สิ้นเสียง สัมผัสได้เพียงพลังอีกขุมโจมตีเข้ามาอีกครั้ง ไอสังหารพวยพุ่งท่วมฟ้า พลังขุมหนึ่งของอีกฝ่ายกลายเป็นเชือกมัดตัวเธอไว้ด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ทำให้เธอไม่อาจขยับได้อีกแม้แต่น้อย
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ! เจ้าหนู เป็นอย่างไรเล่า”
เสียงหัวเราะอันเย่อหยิ่งและชั่วร้ายดังก้อง ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นจ้องเฟิ่งจิ่วขณะถาม เห็นเขาถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือกพลังวิญญาณของตนเอง กลับไม่ได้รีบร้อนทำอะไร เพียงหยุดโจมตี มองดูเด็กหนุ่มที่เหมือนแกะรอถูกเชือด
เฟิ่งจิ่วนัยน์ตาไหวระริก หันมองรอบๆ แวบหนึ่ง รอบกายเธอ ถูกแรงกดดันระดับผู้อาวุโสเซียนของผู้ฝึกวิชามารคนนี้ปกคลุมไว้แล้ว พลังที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก่อตัวอยู่รอบๆ ตัวเธอ
ก้มหน้ามอง เชือกพลังวิญญาณส่องประกายรัศมีที่เกิดจากกลิ่นอายพลังวิญญาณกำลังค่อยๆ รัดแน่นขึ้น ราวกับจะบีบเธอให้กระดูกแหลกละเอียดไปทั้งตัว
เธอลองพยายามดู กลับพบว่าแก้เชือกไม่ได้เลย เมื่อครู่เธอหลบเลี่ยงได้แท้ๆ แต่ยามนี้กลับใช้แผนซ้อนแผนยอมโดนมัด ครั้นนึกถึงเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ก็ลอบทอดถอนใจอย่างอธิบายไม่ถูก
เธอมองหาโอกาสที่จะปลดผนึกกลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างกายมาคลอด และนั่น ก็จำเป็นต้องกระตุ้นพลังแฝงในตัวเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์คับขันถึงชีวิตถึงจะปลดผนึกได้
ตอนนี้ เป็นโอกาสที่ดี เพียงแต่ การจะกระตุ้นพลังแฝงในตัวกลับไม่ได้ทำได้ตามใจ แต่ต้องทำให้ตนเองเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่อันตรายถึงชีวิตจริงๆ ร่างกายจึงจะสามารถระเบิดพลังออกมาในพริบตาได้
ดูท่า เธอคงต้องทนรับความลำบากหน่อยแล้ว
“เจ้าหนู เป็นอย่างไรเล่า เจ้าเก่งมากไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงถูกมัดง่ายๆ เช่นนี้” ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นยกมือขึ้น พายุดาบฟาดฟันไปที่เฟิ่งจิ่ว เห็นเพียงดาบนั้นเฉือนผ่าน ทิ้งรอยเลือดเส้นหนึ่งไว้ที่ท้องของเฟิ่งจิ่ว
ซี้ด! เจ็บมาก!
เธอสูดปากในใจ แม้ดาบนี้จะไม่ลูกมาก แต่ก็เจ็บมาก เธอไม่ได้ลิ้มรสความเจ็บปวดเช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว รนหาที่เองแท้ๆ
“วางใจ ข้าไม่เอาชีวิตเจ้าในดาบเดียวหรอก เจ้าทำลายเมืองของข้า ทำให้คนในมือของข้าล้มตายบาดเจ็บ ข้าจะทำให้เจ้าได้ลิ้มลองวิธีการของข้าอย่างถึงใจเลยละ!”
ขณะเอ่ย เขาเงื้อมือขึ้น กระแสพลังหลายสายพวยพุ่งออกไป ผ่านไปไม่นาน ก็ทำให้เฟิ่งจิ่วบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัว
“ซี้ด! โอย!”
เฟิ่งจิ่วเปล่งเสียงครางด้วยความเจ็บปวดอย่างทนไม่ไหว กลิ่นอายพลังเร้นลับของเธอค่อยๆ หดหายไป โดยเฉพาะเมื่อเลือดบนตัวไหลออกมา ยิ่งทำให้หน้าเธอซีดขาว…
………………………………….