เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2297 วิ่งเร็วเข้า ตอนที่ 2298 คลื่นสัตว์ร้าย
ตอนที่ 2297 วิ่งเร็วเข้า
“กรรซ์!”
“ตึงตังๆๆ…”
ด้านหลังกู่เสียง ฝูงสัตว์ร้ายประมาณหนึ่งร้อยตัวกำลังวิ่งทะยานด้วยเท้าทั้งสี่ข้าง เปล่งเสียงคำรามต่ำวิ่งไปทางกู่เสียง กู่เสียงเพียงหันกลับไปมองแวบเดียว หัวใจก็แทบกระเด้งขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ ร่างกายตึงเกร็งไปทั้งตัว ลมหายใจกระชั้นชิด
“กู่เสียง! เร็วเข้า!”
เสียงหนึ่งดังมาจากข้างหน้ารางๆ ครั้นได้ยินเสียงนั้น กู่เสียงสะท้านไปทั้งใจ รีบสงบสติอารมณ์เร่งเครื่องรองเท้าตามเมฆที่สวมใส่อยู่ จากนั้นก็พุ่งโถมไปข้างหน้า ขณะเดียวกันก็แหงนหน้าคำรามใส่ฟ้า “ท่านผู้นำตระกูลเอ๋ย! นายท่านกำลังล้อเล่นกับชีวิตเสียยิ่งกว่าล้อเล่นแล้ว!”
ในน้ำเสียงเศร้าสรดของเขายังแฝงแววหวาดกลัวสุดขีดไว้ด้วย นึกถึงว่าหากถูกสัตว์ร้ายฝูงนั้นไล่ทันจะไม่ได้ถูกฉีกทึ้งร่างกาย แต่ถูก…
ภาพนั้นแวบผ่านหัวสมอง ทำเอาตกใจจนกรีดร้องออกมา เงาร่างพุ่งทะยานไปข้างหน้าราวดับแสง เพียงชั่วอึดใจ ก็สามารถทิ้งระยะห่างจากสัตว์ร้ายที่กำลังไล่ตามมาฝูงนั้นสำเร็จแล้ว
ตรงเขตอาคม เฟิ่งจิ่วสลัดสัตว์ร้ายฝูงนั้นสำเร็จก็มารออยู่ที่นี่ก่อน เห็นกู่เสียงยังมาไม่ถึง จึงตะโกน “กู่เสียง! เร็วหน่อย! เร็ว!” นี่เป็นเรื่องการชี้ขาดภายในเสี้ยวนาที! หากไม่อาจเปิดช่องเขตอาคมก่อนที่สัตว์ร้ายฝูงนั้นจะมาถึง พวกเขาต้องแย่แน่
“อ๊าก…นายท่าน นายท่านข้ามาแล้ว! เร็ว รีบเปิดเขตอาคม!” กู่เสียงวิ่งมาทางนี้ด้วยความเร็วดุจลมกรด ขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนกลิ่นอายพลังวิญญาณมารวมกันที่ฝ่ามือ
“มาได้พอดี!”
เฟิ่งจิ่วดวงตาเป็นประกาย รีบหันหน้าเข้าหาเขตอาคมที่อยู่ข้างหน้า สองมือขับเคลื่อนกลิ่นอายพลังขุมหนึ่ง ขณะเดียวกัน ตราประทับซับซ้อนหนึ่งปรากฏกลางฝ่ามือของเธอ ในชั่วขณะนี้ กู่เสียงที่มาจากข้างหลังเร่งฝีเท้า มาหยุดอยู่ข้างหลังเฟิ่งจิ่ว จากนั้นก็ถ่ายพลังวิญญาณให้
กลิ่นอายพลังวิญญาณค่อยๆ ไหลเข้าสู่ร่างกายของเฟิ่งจิ่ว หลังจากผ่านเข้ามาในร่างกายของเธอก็มาปรากฏกลางฝ่ามือของเธอ เห็นเพียงกลิ่นอายพลังวิญญาณที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าพลุ่งพล่านไปพร้อมกับตราประทับเขตอาคมที่อยู่กลางฝ่ามือเธอ ใต้เท้าของเธอค่อยๆ มีค่ายกลพลังเร้นลับปรากฏขึ้นมา
กู่เสียงในเวลานี้ไม่ได้สังเกต เขามัวถ่ายพลังวิญญาณเข้าไปในร่างเฟิ่งจิ่ว ขณะที่อีกด้านก็ได้แต่พะวงหลัง ได้ยินเสียงฝีเท้าของเหล่าสัตว์ร้ายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และเมื่อเห็นฝุ่นดินที่คละคลุ้งกระจายมาทางนี้แล้ว หน้าผากของเขามีเหงื่อเท่าเม็ดถั่วผุดออกมา
“นายท่าน เขตอาคมเปิดได้แล้วหรือยัง? สัตว์ร้ายพวกนั้นใกล้ตามมาถึงแล้ว!”
เวลานี้ หน้าผากของเฟิ่งจิ่วเองก็มีเหงื่อซึมเหมือนกัน เธอกำลังต้านทานกับแรงกดดันที่สี่จักรพรรดิใหญ่สร้างไว้เพื่อเปิดช่องเขตอาคม นอกจากต้องใช้กลิ่นอายพลังวิญญาณและจิตอันมุ่งมั่นแล้ว โชคดีที่เธอยังมีแรงกดดันของสัตว์เทวะโบราณคุ้มกันร่างกายอยู่ด้วย
“จงเปิดออก!”
เธอตวาดเสียงใส กลิ่นอายพลังวิญญาณกลางฝ่ามือทั้งสองข้างพุ่งออกไป ค่ายกลใต้เท้าและตราประทับกลางฝ่ามือผสานรวมกลายเป็นพลังขุมหนึ่ง พวยพุ่งกระแทกออกไปข้างหน้า เห็นเพียงกระแสพลังขุมนั้นราวกับมือใหญ่คู่หนึ่งที่กำลังแหวกเปิดเขตอาคมอย่างไรอย่างนั้น ทางออกช่องนั้นค่อยๆ ใหญ่ขึ้น เปิดออกจนมีขนาดเกือบหนึ่งจั้งก่อนจะหยุด
“นะ นายท่าน…”
กู่เสียงที่คอยสังเกตการเคลื่อนไหวอยู่ข้างหลังตลอดเห็นสัตว์ร้ายฝูงนั้นกำลังคำรามและวิ่งทะยานมาทางนี้ ดวงตาสีแดงเลือดจ้องเขม็งมาที่เขา เขาตกใจจนเย็นสันหลังวาบ
“ยังจะมาเรียกนายท่านอะไรอีก! วิ่งเร็วเข้า!”
เฟิ่งจิ่วเก็บกลิ่นอายพลัง เอื้อมมือดึงเขาพุ่งตรงไปทางช่องเขตอาคมที่ถูกเปิดออก ก่อนจะวิ่งผ่านค่ายกลออกจากป่าอสูรแห่งนี้ไป…
………………………………….
ตอนที่ 2298 คลื่นสัตว์ร้าย
ข้างหลังของพวกเขา เสียงตึงตังๆ ดังอย่างบ้าคลั่ง สัตว์ร้ายเหล่านั้นแย่งกันมุดออกจากช่องเขตอาคมที่ถูกเปิดออก ไล่ตามเฟิ่งจิ่วกับกู่เสียงไปพร้อมกับคำรามลั่น
ด้านหน้า เฟิ่งจิ่วปล่อยมือกู่เสียง ตะโกนบอกเขา “จำไว้ให้ดี! วิ่งไปทางเมืองภูเขานิล! ล่อให้สัตว์ร้ายพวกนั้นตามมาติดๆ สลัดพวกเขาทิ้งไม่ได้” สิ้นเสียงสั่ง เธอแยกทางกับเขา วิ่งไปอีกทาง ขณะเดียวกันก็หยิบขนนกเคลือบแก้วหลากสีโยนไปข้างหน้า จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนนั้น
เห็นสัตว์ร้ายฝูงนั้นถูกนายท่านล่อออกไปครึ่งหนึ่ง กู่เสียงถอนหายใจเบาๆ หันกลับไปมองแวบหนึ่ง ก่อนจะสงบจิตสงบใจลงมา หลังจากปรับลมหายใจและข่มความลนลานในใจ กู่เสียงใช้รองเท้าตามเมฆวิ่งต่อไปเพื่อให้สัตว์ร้ายฝูงนั้นไล่ตามมาต่อ
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังไล่หลังเขามา ดังสะท้อนไปทั่วผืนป่า ฝุ่นดินที่ม้วนตลบยามพวกมันวิ่งผ่านกระจายคลุ้งไปทั่ว ต้นไม้ที่ถูกสัตว์ร้ายพวกนั้นกระแทกชนล้มระเนระนาด หญ้าที่มีขนาดสูงเท่าครึ่งคนถูกเหยียบจนแบนราบเป็นหน้ากลอง…
เฟิ่งจิ่วนั่งผ่อนลมหายใจอยู่บนขนนก หันกลับไปดูจำนวนสัตว์ร้ายข้างล่าง “แค่ตรงนี้ก็มีสัตว์ร้ายถึงร้อยตัวแล้วหรือ? เหลือคาดจริงๆ!” เธอประหลาดใจเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าพวกเขาสองคนวิ่งอ้อมป่าอสูรไปรอบเดียว กลับมีสัตว์ร้ายตามออกมามากมายขนาดนี้
ฝั่งเธอมีสัตว์ร้ายหนึ่งร้อยตัว ถึงแม้ฝั่งกู่เสียงจะมีแค่ไม่กี่สิบตัว เดาว่าจำนวนนี้ก็มากพอที่ช่วยพวกเขาทำลายเมืองภูเขานิลได้แล้ว
เมื่อนึกถึงว่าพวกเขาล่อสัตว์ร้ายฝูงนี้บุกตรงไปยังเมืองภูเขานิลทั้งอย่างนี้ เฟิ่งจิ่วอดยิ้มมุมปากไม่ได้ “ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ!”
ห่างออกไปจากที่นี่ไม่ไกลนัก ครั้นสัมผัสได้ถึงแผ่นดินที่กำลังสะเทือน รวมถึงได้ยินเสียงคำรามที่ดังก้องอยู่ในป่า ผู้ฝึกวิชามารกลุ่มหนึ่งต่างชะงักเท้าด้วยความตกใจกลัวไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้น? เสียงนี้มัน…หรือว่าคลื่นสัตว์ร้าย?”
“ไป! เจ้าไปสำรวจข้างหน้าหน่อย!” ผู้ฝึกวิชามารที่เป็นหัวหน้าชี้นิ้วสั่งให้หนึ่งในกลุ่มไปสำรวจสถานการณ์ข้างหน้า
ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นที่ถูกชี้ตัวฝืนใจเหาะไปข้างหน้า ตามหาไปตามเสียง แต่ขณะที่เขาเพิ่งจะออกมาได้ประมาณสามสิบจั้ง จู่ๆ ก็เห็นเด็กหนุ่มชุดเขียวคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนขนนกที่ส่องแสงเรืองรองหลากสีมองมาทางเขาอย่างงุนงง สายตานั้นแฝงไว้ด้วยความแปลกใจและสงสาร
“นี่! เกิดอะไรขึ้นทางนั้น?” หลังสะกดสังหรณ์ใจที่ไม่ดีนั่นไว้ เขาหันไปตะโกนถามเด็กหนุ่มชุดเขียวที่นั่งอยู่บนขนนก
“อ้าว? เจ้าไม่รู้หรือ?” เฟิ่งจิ่วบินผ่านเหนือหัวเขาไปอย่างง่ายดาย ค่อยๆ ไกลออกไป จากนั้นก็ชี้ไปข้างหลังเขาอย่างหวังดี “เจ้าดูทางนั้นก็จะรู้เอง”
ผู้ฝึกวิชามารอึ้ง ได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้ายที่ชัดเจนขึ้น สัมผัสได้แรงสะเทือนบนพื้นดินรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หัวใจตึงเกร็ง หันกลับไปมอง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นตะลึง
“คลื่น คลื่นสัตว์ร้าย!”
ทอดมองออกไป เขาเห็นเพียงฝูงสัตว์ร้ายนับร้อยตัวกำลังวิ่งเบียดเสียดกันออกมาจากในป่า สัตว์ร้ายเพศผู้ร่างกายกำยำบางตัวที่วิ่งนำหน้าพุ่งชนต้นไม้ที่ขวางทางจนหัก ตอนที่เห็นต้นไม้หักและล้มลงไป เห็นต้นหญ้าถูกเหยียบจนราบ เห็นสัตว์ร้ายฝูงนั้นกำลังจะวิ่งมาถึงตรงหน้าแล้ว เขากรีดร้องด้วยความตกใจกลับ สาวเท้าออกวิ่งทันที
“คลื่นสัตว์ร้ายมาแล้ว! หนีเร็ว! หนี!”
เสียงตะโกนด้วยความหวาดกลัวแฝงด้วยกลิ่นอายพลังวิญญาณกระจายออกไป เพียงแต่เสียงนั้นได้ถูกเสียงคำรามของสัตว์ร้ายกลบจนมิดแล้ว…
………………………………….