เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2289 ตามหลัง ตอนที่ 2290 ระเบิดตัวเอง
ตอนที่ 2289 ตามหลัง
คนพวกนี้ล้วนไม่ยอมถูกผูกมัด จึงไม่เข้าร่วมแปดกลุ่มอำนาจที่ถูกสร้างในนี้ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เธอประกาศอย่างนี้ออกไป เดาว่าพวกเขาคงมีไม่กี่คนที่มีปฏิกิริยาตอบสนอง และเธอก็ไม่ได้คาดหวังกับตรงนี้มากนัก เพียงแค่ประกาศออกมาให้พวกเขารู้ว่า เธอมีความคิดเช่นนี้ ภายหน้าหากเมื่อใดที่เธอมีพรรคพวกเป็นร้อย คนพวกนี้ย่อมนึกถึงประโยคที่เธอประกาศที่นี่ขึ้นมาได้เอง
ได้ยินประโยคนั้นแล้ว แววตาของทุกคนไหวระริก แต่กลับไม่มีใครเอ่ยปาก บางคนก็เหลือบมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง หลุบตาสำรวจอาวุธของตนเอง บางคนก็จ้องเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง สีหน้าไม่กระจ่าง บางคนก็ลุกขึ้นเดินจากไปตรงๆ
แน่นอนว่าย่อมมีคนถากถางเสียดสี “เจ้าคงไม่ได้คิดว่า หากในหมู่พวกเรามีคนยอมเข้ากลุ่มของเจ้า เนื้อย่างของเจ้า สุราของเจ้าก็จะแบ่งให้พวกเราหรอกกระมัง?”
เมื่อได้ยิน เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก ตอบว่า “คนเราย่อมต้องมีชีวิตอยู่ได้ด้วยลำแข้งตนเอง อาศัยผู้อื่นจะยั่งยืนได้เช่นไร? แม้จะเข้ากลุ่มของข้าแล้ว อยากได้ของของข้า ก็ต้องดูว่ามีคุณสมบัติมากพอหรือไม่”
เธอหยุดพูด ก่อนจะดื่มสุราหนึ่งอึก แล้วว่าต่อ “ข้าแค่เชิญชวน ไม่ได้บอกว่าจะใช้สุราและเนื้อย่างมาตอบแทน ด้วยวรยุทธ์ของพวกเจ้า หากเพียงเพื่อสุราอึกเดียว และเนื้อคำเดียวก็ยอมเข้ากลุ่มของข้า ข้าก็ไม่กล้ารับไว้หรอกนะ”
คนพวกนั้นสีหน้าไหวระริก มองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่งจากนั้นก็ละสายตาออกไป ไม่พูดอะไรอีก
ส่วนเฟิ่งจิ่วกลับนั่งกินเนื้อย่างและดื่มสุราอยู่ตรงนั้นต่อไป เนิ่นนาน จึงค่อยลุกขึ้นบิดขี้เกียจ สาวเดินเข้าไปในป่าข้างหน้า สาเหตุที่ที่นี่มีผู้ฝึกเซียนรวมตัวกันอยู่ไม่น้อยก็เพราะแถบนี้มีแหล่งน้ำ ห่างออกไปข้างหน้าไม่ไกล ลำธารที่ไหลลงมาจากภูเขาสูงสายหนึ่งทั้งหวานและเย็นฉ่ำ น้ำที่นี่ เป็นหนึ่งในแหล่งทรัพยากรสำคัญที่ทำให้ผู้ฝึกเซียนในนี้รอดชีวิตมาได้
ผู้ฝึกวิชามารบางคนเห็นเด็กหนุ่มชุดเขียวลุกขึ้นเดินไปที่แหล่งน้ำ ก็อดคิดแผนชั่วขึ้นมาไม่ได้ สองคนในนั้นมองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนจะลุกเดินตามออกไป
เห็นอย่างนั้น มีผู้ฝึกวิชามารอีกสองสามคนลุกตามหลังไปด้วย คนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์แม้จะมีแผนชั่วด้วย แต่ครั้นเห็นว่ามีห้าคนนั้นหมายตาเด็กหนุ่มแล้ว กลับไม่มีใครตามไปอีก
ในป่าที่เต็มไปด้วยกิ่งไม้และหญ้ารก ห่างออกไปประมาณหนึ่งร้อยห้าสิบจั้ง ได้บดบังการมองเห็นของคนข้างหลังที่เหลือแล้ว พวกเขาไม่เห็นเงาร่างของเด็กหนุ่มชุดเขียว แล้วก็ไม่เห็นเงาร่างของห้าคนที่ตามหลังเขาไปแล้วด้วย ทว่าทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ต่างก็ปลดปล่อยดวงจิตออกไปสำรวจพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
เพียงแต่ เมื่อพวกเขาปล่อยดวงจิตออกไปสำรวจทางนั้น จู่ๆ กลับถูกดวงจิตที่แข็งแกร่งมากดวงหนึ่งสะท้อนกลับมา ชั่วพริบตานั้น พวกเขาตื่นตะลึง ขณะที่เก็บดวงจิตกลับมาก็ครุ่นคิดในใจเงียบๆ ด้วย
เจ้าของดวงจิตดวงนั้นเป็นใครกัน เป็นของผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นหรือ? ในหมู่ห้าคนนั้น มีคนที่ซ่อนดวงจิตที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ไว้ด้วยหรือ? ขณะเดียวกัน ปราชญ์เซียนที่เฟิ่งจิ่วหมายตาคนนั้นซึ่งกำลังนั่งเช็ดอาวุธอยู่ เขาชะงักไปเล็กน้อย เงยหน้ามองไปทางป่าผืนนั้น ราวกับสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง
ข้างหน้า เฟิ่งจิ่วที่เดิมทีกำลังเดินไปทางลำธาร พอสัมผัสได้ถึงกลุ่มคนที่ตามหลังมา ก็เดินลึกเข้าไปในป่าอีก เพื่อทิ้งระยะห่างกับพวกคนข้างหลัง
คนข้างหลังเห็นเงาร่างด้านหน้าเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ ต่างก็พากันแค่นเสียง ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตามไป
พวกเขาไม่รู้เลย ข้างหลังพวกเขายังมีคนตามมาอีกคน…
………………………………….
ตอนที่ 2290 ระเบิดตัวเอง
กู่เสียงที่เดินตามหลังพวกนั้นอยู่ไม่ไกลหันไปมองปราชญ์เซียนที่กำลังเช็ดอาวุธผู้นั้นแวบหนึ่ง การกระทำของคนคนนั้นเมื่อกี้เขาก็สังเกตเห็นแล้ว จากที่นายท่านบอก คนคนนี้คือคนที่เขาหมายตาอยากจะดึงมาเป็นพวก เมื่อครู่เขาสังเกตเล็กน้อย คนคนนี้ระวังตัวมาก ดูจากกลิ่นอายพลังของเขา พลังต่อสู้น่าจะยอดเยี่ยมมาก
เพียงแต่ ตลอดทางเขาตามหลังนายท่าน จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ นายท่านคิดจะดึงคนมาเป็นพวกอย่างไร?
ในเวลานี้เอง กระแสพลังที่กระจายมาจากข้างหน้าทำให้เขาต้องกลั้นหายใจ รีบประชิดเข้าไปใกล้อย่างเงียบๆ มาซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ขณะเดียวกันก็ปลดธนูบนหลังลงมาด้วย
ด้านหน้า เฟิ่งจิ่วมองผู้ฝึกตนเหล่านั้นที่ล้อมรอบเธอ เผยรอยยิ้มหนึ่งออกมา เธอจ้องพวกเขา ถามว่า “พวกเจ้าร่วมมือกันหรือ?”
เห็นสีหน้าของเด็กหนุ่มไร้ความเกรงกลัว พวกเขาขมวดคิ้ว “ถูกต้อง หลังฆ่าเจ้า พวกข้าก็จะแบ่งของกัน!” พูดนั้นพูดเช่นนี้ แต่สุดท้ายจะแบ่งเท่ากันหรือไม่ ก็พูดยากแล้ว
“ไม่เป็นไร พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันเลยเถอะ! ข้าเองก็อยากยืดเส้นยืดสายบ้าง” เฟิ่งจิ่วเอ่ย ยกมือทำท่าทาง นั่นเป็นการส่งสัญญาณให้กู่เสียงที่อยู่ในที่ลับ สั่งให้เขาดูอยู่เงียบๆ ไม่ต้องยื่นมือเข้ามา
แต่ผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นกลับไม่เข้าใจท่าทางมือที่เฟิ่งจิ่วทำ เห็นเขายกมือ พลังกระบี่สายหนึ่งก็พุ่งจู่โจมใส่เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างหน้า เห็นผู้ฝึกวิชามารเริ่มลงมือ คนที่เหลือเองก็ไม่ยอมแพ้ พลิกหมุนกระบี่ พลังขุมแล้วขุมเล่าแฝงไว้ด้วยไอเย็นพุ่งออกไป ประกายดาบเงากระบี่ส่องแสงหักสะท้อน เห็นเพียงในมือเฟิ่งจิ่วถือดาบสั้นกลับด้าน เงาร่างโฉบพุ่งออกไปราวกับภูตผี
เงาร่างสีเขียวถูกห่อหุ้มไว้ด้วยกลิ่นอายพลังเร้นลับในพริบตา กลิ่นอายของเทพนักรบกระจายออกไป ทำให้ผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นแหงนหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าๆๆๆๆๆ! นึกไม่ถึงว่าจะเป็นแค่ผู้ฝึกพลังเร้นลับ! ดูท่า วันนี้เจ้าคงหนีไม่รอดแล้วล่ะ!”
เสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งที่เกิดจากความย่ามใจแฝงไว้ด้วยความชั่วร้าย ในกลุ่มพวกนั้นยังมีสองคนที่เป็นปราชญ์เซียน เวลานี้พวกเขาร่วมมือกันทำการสังหารครั้งใหญ่ พลังกระบี่ที่ประสานกันกลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่แผ่ปกคลุมเด็กหนุ่มชุดเขียวไว้ตรงกลาง ขณะที่พวกเขาคิดว่าเงาร่างสีเขียวที่อยู่ตรงกลางกำลังจะถูกเฉือนร่างเป็นชิ้นๆ นาทีถัดมา เงาร่างสีเขียวที่เดิมทียังอยู่ในครรลองสายตาของพวกเขาพลันหายวับไปในพริบตา
“หัวเราะตอนนี้เร็วไปหน่อยหรือไม่!”
เสียงเย็นใสของเฟิ่งจิ่วราวกับพญามัจจุราชจากขุมนรก ดังกระทบโสตประสาทของพวกเขาอย่างชัดเจน ทว่า หนึ่งในผู้ฝึกวิชามารเพียงได้ยิน กลับรู้สึกได้ถึงไอสังหารอันเยือกเย็นที่พวยพุ่งจากปลายเท้าขึ้นมาถึงหัว ตกใจจนตัวสั่นอย่างไม่อาจควบคุม
เขาหันหลังขวับ เบิกตาทั้งคู่กว้างมองเด็กหนุ่มชุดเขียวที่ไม่รู้มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเขาตั้งแต่เมื่อใด อยากจะหลบหลีก แต่กลับรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาที่ลำคอ เลือดอุ่นๆ พุ่งออกมาในตอนนั้นเอง ร่างกายของเขาแข็งทื่อ อ้าปากอย่างเหลือเชื่อ…
ความเคียดแค้นและอาฆาตพุ่งพล่านในใจเขา เขาเค้นวรยุทธ์ทั้งหมดที่มี ในชั่วขณะที่ยังเหลือลมหายใจเฮือกสุดท้ายอยู่ กระตุ้นวรยุทธ์ทั้งหมดที่มีออกมา หมายจะดึงเด็กหนุ่มชุดเขียวตรงหน้าให้ตายตกไปตามกัน!
เห็นเพียงร่างกายของผู้ฝึกวิชามารคนนั้นบวมเป่งขึ้นมาราวกับลูกหนังที่ถูกสูบลม แรงกดดันอันแข็งแกร่งน่าพรั่นพรึงกระจายแผ่ปกคลุมไปหาเฟิ่งจิ่วในชั่วพริบตา ดวงตาของเขากระทั่งถลนออกมานอกเบ้าเพราะกระแสพลังในร่างกายพองขึ้นมา
ผู้ฝึกวิชามารที่เหลือเห็นอย่างนั้นก็อดร้องขึ้นด้วยความตกใจไม่ได้ “แย่แล้ว! เขาจะระเบิดตัวเอง!”
………………………………….