เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2279 อย่างง่ายดาย ตอนที่ 2280 ไปตอนนี้
ตอนที่ 2279 อย่างง่ายดาย
“เกราะคุ้มกันนี้เดินออกจากข้างในได้เท่านั้น ข้างนอกเดินเข้ามาไม่ได้ พวกเจ้าแค่อยู่ในนี้ก็จะไม่มีอันตรายแล้ว” เฟิ่งจิ่วบอกพวกเขา หลังจากกำชับพวกเขาเล็กน้อย ก็พาสองคนนั้นไป
“ท่านลุงรอง ท่านว่า เขาเป็นใครกัน?” เห็นพวกเขาไปแล้ว ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่อยู่ในเขตอาคมอดถามขึ้นไม่ได้
“ไม่ว่าจะเป็นใคร ในเมื่อยอมรับเป็นนายแล้ว ก็อย่าได้มีใจเป็นอื่น” ชายชราเอ่ย มองพวกเขาแวบหนึ่ง ก่อนว่าต่อ “เขาช่วยพวกเราได้ ยังเอายาออกมาให้พวกเราใช้ ตอนนี้ยังไปล่าสัตว์ร้ายให้พวกเราอีก แค่บุญคุณนี้ก็ยิ่งใหญ่ล้นฟ้าแล้ว”
“ขอรับ พวกข้าทราบแล้ว” คนที่เหลือรับคำ ในใจก็รู้เรื่องนี้ดี เพียงแต่ถึงแม้อย่างนี้ ก็ยังอดสงสัยเกี่ยวกับตัวนายท่านใหม่ผู้ลึกลับคนนี้ไม่ได้อยู่ดี
ในอีกด้านหนึ่ง
สองคนที่ตามเฟิ่งจิ่วเข้าไปในป่ามองเงาร่างที่อยู่ข้างหน้า ในสายตาแฝงความสงสัย ด้วยเหตุนี้ หนึ่งในนั้นจึงถามขึ้น “นายท่าน ข้างหน้านั้นเมื่อกี้ก็เจอสัตว์ร้าย เหตุใดไม่ให้พวกเราล่าเล่า?”
เฟิ่งจิ่วหันกลับไปยิ้มตอบ “เนื้อของสัตว์ร้ายชนิดนั้นแข็งเกินไปไม่อร่อย ข้าพาพวกเจ้าไปล่าสัตว์จำพวกหมู”
ทั้งสองชะงักเล็กน้อย กลับไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงตามเขาไปเงียบๆ
กระทั่งมาถึงที่แห่งหนึ่ง เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างหน้าหยุดเดิน หันไปส่งสัญญาณให้สองคนข้างหลัง
สองคนนั้นมองไปข้างหน้า เห็นเพียงในป่าข้างหน้ามีหมูป่าหนังดำซึ่งเป็นสัตว์ร้ายระดับสามตัวหนึ่งกำลังเดินไปเดินมาอยู่ตรงนั้น ทันทีที่พวกเขาเห็นมัน พวกเขารีบเอามือกดอาวุธที่เอวเตรียมลงมือ
ครั้นเห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขา เฟิ่งจิ่วหันกลับไปมองพวกเขาแวบหนึ่ง ยักคิ้วถามว่า “พวกเจ้าทำอะไร?”
สองคนนั้นตะลึง “ล่าสัตว์ร้ายอย่างไรเล่า!”
เฟิ่งจิ่วยิ้ม “ต้องลงไม้ลงมือเสียที่ไหน? พวกเจ้าดูข้านี่”
สองคนนั้นเห็นเพียงเขาหยิบของสิ่งหนึ่งออกมา จากนั้นก็จุดชนวนเหลือทิศลม ควันสีเขียวลอยคลุ้งไปทั่วผืนป่า
เหยื่อที่ถูกเฟิ่งจิ่วหมายตาไว้ ยังคงเดินไปเดินมาอย่างไม่รู้สึกตัว บ้างก็เดินไปเดินมาอยู่ในป่า บ้างก็หมอบหลับอยู่บนพื้น เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป เห็นเพียงสัตว์ร้ายที่กำลังเดินไปเดินมาพวกนั้นจู่ๆ ก็ล้มลงไปอย่างอ่อนแรง และเหล่าสัตว์ร้ายที่เดิมทีหมอบหลับอยู่ก็เริ่มส่งเสียงครวญคราง
สองคนนั้นมองดูจนปากอ้าตาค้าง เพื่อล่าสัตว์ร้าย พวกเขาทำเอาจนบาดเจ็บไปทั้งตัว คราวนี้ติดตามเจ้านายคนใหม่ออกมา ไม่ต้องออกแรงแม้แต่น้อยก็ทำให้สัตว์ร้ายพวกนั้นล้มลงไปได้แล้ว
“พวกเจ้ามัวยืนอึ้งอะไรอยู่? รีบไปจัดการเก็บสัตว์ร้ายพวกนั้นใส่ห้วงมิติสิ” เฟิ่งจิ่วหันไปตะโกนบอกสองคนนั้น
พวกเขาได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว รับคำด้วยความดีใจ “ได้” ก่อนจะวิ่งเข้าไป สังหารสัตว์ร้ายพวกนั้น ควักเอาผลึกอสูรของพวกมันออกมา จากนั้นก็เก็บพวกมันใส่ห้วงมิติ
“นายท่าน จัดการเรียบร้อยแล้ว นี่คือผนึกอสูรที่ควักออกมาจากในตัวสัตว์ร้ายพวกนั้น” ทั้งสองมองเฟิ่งจิ่วด้วยความตื่นเต้นระคนเลื่อมใส ขณะเดียวกันก็ประคองผนึกอสูรที่ควักออกมายื่นให้
นาทีนี้ พวกเขาเคารพเลื่อมใสเขาจากใจจริง ความสามารถเช่นนี้เป็นนายท่านของพวกเขาได้สบาย
“ของพวกนี้น่าจะมากพอให้คนในตระกูลพวกเจ้ากินได้ระยะหนึ่งแล้วกระมัง?” เฟิ่งจิ่วถาม
ทั้งสองพยักหน้า ใบหน้าปกปิดความยินดีไว้ไม่มิด “พอแล้วๆ”
“ในเมื่อเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็กลับกันเถอะ!” เธอเอ่ย หยิบน้ำเต้าสุหราออกจากห้วงมิติมาเปิด ดื่มเข้าไปหนึ่งอึก
………………………………….
ตอนที่ 2280 ไปตอนนี้
“นายท่าน เมื่อครู่ท่านจุดอะไร? เหตุใดแม้แต่สัตว์ร้ายระดับสามก็สามารถล้มได้?” ทั้งสองเดินไปพลาง ถามเฟิ่งจิ่วด้วยความตื่นเต้นไปพลาง
เห็นสีหน้าตื่นเต้นที่ปิดไม่มิดของชายฉกรรจ์ทั้งสอง เฟิ่งจิ่วอดยิ้มไม่ได้ “ถึงได้บอกอย่างไรเล่า อยู่กับข้ามีเนื้อกิน ต่อไปพวกเจ้ากินเนื้อคำโตๆ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีเนื้อกินอีก”
ทั้งสองยิ้มกว้าง นาทีนี้ชายฉกรรจ์สองคนดีใจและมีความสุขถึงขนาดนั้น หากเป็นเช่นนี้ คนในตระกูลของพวกเขาก็ไม่ต้องทนหิวต่อไปแล้ว เมื่อกลับไปแล้วผู้นำตระกูลรู้ว่าพวกเขาล่าหมูหนังดำระดับสามได้ทีเดียวหลายตัวขนาดนี้ จะต้องประหลาดใจมากแน่ๆ
ขณะที่สามคนทางนี้กำลังกลับมา ในอีกด้านหนึ่งที่เขตอาคม อสูรเขาเดียวระดับเจ็ดตัวหนึ่งกำลังพยายามพุ่งชนเขตอาคมเพื่อลากคนข้างในออกมา
คนในเขตอาคมนั่งแนบชิดกัน มองข้างนอกด้วยท่าทีระแวดระวัง ในมือกำอาวุธต่อสู้ เผื่อที่ว่าหากเขตอาคมถูกกระแทกพังทลาย พวกเขาจะได้สู้รบได้อย่างทันท่วงที
“กรรซ์!”
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังก้อง กีบเท้าหลังของอสูรเขาเดียวยันพื้นไว้ จากนั้นก็โถมกระแทกอีกครั้ง เห็นเพียงกลิ่นอายพลังเร้นลับสะท้อนออกมายามถูกชน คนที่อยู่ในเขตอาคมต่างก็อดกลั้นหายใจไม่ได้
พลังของพวกเขาแม้จะไม่เลว แต่เวลาในร่างกายล้วนบาดเจ็บไม่น้อย อีกทั้งเรี่ยวแรงที่ใช้ไปก็ไม่อาจฟื้นกลับมาได้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ หากจะสู้กับอสูรเขาเดียวระดับเจ็ดจิรงๆ เกรงว่าจะต้องเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก
ทว่า ขณะที่พวกเขากำลังตั้งท่าระวังตัวอย่างเต็มที่ กลับเห็นอสูรเขาเดียวที่อยู่ข้างนอกจู่ๆ ก็หันหลัง มันมองไปรอบๆ พ่นกลิ่นอายพลังสองสายออกจากจมูก ท่าทางเหมือนลนลานอยู่ไม่สุข
คนในเขตอาคมนิ่งอึ้ง “อสูรเขาเดียวนี่เหมือนจะ…” ยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นสามคนที่กำลังเดินกลับมาจากที่ไม่ไกล
“พวกเขากลับมาแล้ว!”
พวกเขาร้องขึ้นอย่างดีใจ เห็นสามคนนั้นกลับมา ขณะกำลังจะตะโกนบอกให้พวกเขาระวังอสูรเขาเดียวตัวนั้น กลับเห็นนายท่านกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ ส่วนอีกสองคนที่เดินขนาบซ้ายขวามาแยกกันล้อมอสูรเขาเดียวตัวนั้นไว้
“พวกเจ้าซ้อมมือหน่อยก็แล้วกัน! ด้วยพลังของพวกเจ้า จัดการอสูรเขาเดียวตัวนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหา” เฟิ่งจิ่วแนะนำ นั่งดื่มสุราอยู่บนต้นไม้ด้วยท่าทางผ่อนคลาย เหล่มองอสูรเขาเดียวระดับเจ็ดที่อยู่ข้างล่างแวบหนึ่ง
สองคนนั้นรับคำ เผยอาวุธของพวกเขาออกมา พริบตาเดียวก็พุ่งจู่โจมอสูรเขาเดียวระดับเจ็ด อาจเพราะได้กินอะไรเข้าไปบ้างแล้วเรี่ยวแรงจึงค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมา พวกเขาทั้งสองในเวลานี้สามารถสำแดงพลังต่อสู้ของปราชญ์เซียนออกมาให้เห็น แม้จะเป็นพลังแค่ระดับปราชญ์เซียน แต่เพียงชั่วก้านธูปเดียว ก็สามารถสังหารอสูรระดับเจ็ดตัวนั้นได้แล้ว
“ปึง!”
“โฮก!”
เสียงล้มกระแทกพื้นดังสนั่นป่า เห็นเพียงอสูรเขาเดียวระดับเจ็ดล้มลงบนพื้นอย่างแรง พลังกระบี่อันดุดันแข็งแกร่งสายหนึ่งฟาดฟันตามลงไป บั่นคอของอสูรเขาเดียวระดับเจ็ดตัวนั้นทั้งเป็น
เฟิ่งจิ่วที่นั่งดูอยู่พยักหน้าด้วยความพอใจ เธอโบกมือสลายอาคมคุ้มกัน ถามว่า “พวกเจ้าพักผ่อนดีแล้วหรือไม่?”
“นายท่าน” พวกเขาประคองกันเดินออกมา คารวะเฟิ่งจิ่ว “พร้อมเดินทางได้ทุกเมื่อ” พักผ่อนมาครู่หนึ่ง กอปรกับเพราะได้กินเนื้อสัตว์ร้าย สามารถเพิ่มพลังวิญญาณในร่างกายได้บ้าง เรี่ยวแรงค่อยๆ กลับมา จะออกเดินทางไปจากที่นี่ย่อมไม่ใช่ปัญหา
สองคนทางนั้นควักผนึกอสูรของอสูรเขาเดียวระดับเจ็ดออกมา จากนั้นก็เก็บใส่แหวนมิติ ก่อนจะกลับมายืนตรงหน้าเฟิ่งจิ่ว “นายท่าน จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว ไปตอนนี้เลยหรือไม่?”
………………………………….