เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2277 ตกตะลึง ตอนที่ 2278 ตระกูลเร้นลับ
ตอนที่ 2277 ตกตะลึง
“ขอบพระคุณนายท่านที่ช่วยชีวิต!”
พวกเขาเก็บความตะลึงไว้ในใจ ลดเข่าข้างหนึ่งลงไปคารวะเฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วเห็นอย่างนั้นก็พึงพอใจมาก กล่าวว่า “เอาล่ะ ลุกขึ้นมาเถิด! จัดการบาดแผลบนตัวพวกเจ้าสักหน่อย” เธอพยักพเยิด ให้พวกเขาทำแผลเสียก่อน
“ขอรับ” พวกเขาประคองกันไปนั่งลงด้านหนึ่ง แต่กลับทำแค่เพียงฉีกเสื้อผ้าเก่าๆ มาพันแผลเท่านั้น
เฟิ่งจิ่วขมวดคิ้ว “พวกเจ้าไม่มียาหรือ?”
ทุกคนได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักงัน ตอบสนองไม่ทัน “ยาอะไร?”
“ยาห้ามเลือดเอย! ยารักษาแผลเอย! พวกเจ้าไม่มีหรือ?” เธอทำหน้าแปลกประหลาด อย่างไรพวกเขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับปราชญ์เซียน นึกไม่ถึงกลับมีชีวิตตกต่ำเช่นนี้
ได้ยินอย่างนั้น พวกเขายิ้มอย่างขมขื่น “นายท่าน อยู่ในนี้แม้มียาก็ใช้หมดไปนานแล้ว ปกติก็มีเด็ดสมุนไพรมาใช้บ้าง แต่ในนี้อันตรายเกินไป สมุนไพรเองก็หาไม่ง่าย…” ยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นขวดยาขวดหนึ่งถูกโยนเข้ามาที่อก พวกเขาเพ่งมอง สีหน้าพลันปรากฏแววตกตะลึง
“เอาไว้ใช้เถิด! ทำความสะอาดแผลก่อนแล้วค่อยพัน จะได้ไม่อักเสบ” เฟิ่งจิ่วว่า ก่อนสาวเดินไปรอบๆ ปล่อยดวงจิตออกไป สังเกตว่ารอบข้างมีสัตว์ร้ายเข้าใกล้เพราะกลิ่นคาวเลือดหรือไม่
เหล่าผู้ฝึกตนถือขวดยาไว้ในมือ ในใจเกิดคลื่นลมซัดสาด เดิมทีที่นี่ก็เป็นสถานที่ปิดตาย ไม่มีสิ่งของใดทั้งสิ้น พวกเขาใช้ชีวิตราวกับคนป่าอยู่ในนี้ สิ่งของเช่นยาทิพย์นี้ ถือเป็นสิ่งของล้ำค่าสำหรับคนที่นี่ แต่นายท่านที่พวกเขาเพิ่งยอมรับมานี้ นึกไม่ถึงว่าหยิบออกมาให้ก็หลายขวด? เขารู้หรือไม่ว่ายานี้ล้ำค่าขนาดไหนเมื่ออยู่ที่นี่?
กดข่มคลื่นลมที่ซัดสาดในใจ พวกเขารีบทำความสะอาดแผลโรยยาบนแผลจากนั้นก็พันแผล คนที่อาการบาดเจ็บค่อนข้างเบายืนขึ้นเดินไปหยุดตรงหน้าสัตว์ร้ายที่ถูกสังหาร หามสัตว์ร้ายสองตัวนั้นขึ้นมา
สุดท้าย พวกเขาส่งยาที่เหลือให้ชายชรา จากนั้นชายชราก็เอายามาให้เฟิ่งจิ่ว “นายท่าน ยังเหลือยาหนึ่งขวดครึ่ง”
เฟิ่งจิ่วหันไปมอง เห็นว่ายาสามขวดที่เธอโยนให้พวกเขาเหลือหนึ่งขวดครึ่ง ก็รู้ว่าพวกเขาประหยัดใช้ จึงเอ่ยกับชายชราว่า “พวกเจ้าเก็บไว้เถอะ!”
ชายชราอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “ขอรับ ขอบคุณนายท่าน” แรกเริ่มที่ยอมรับเขาเป็นนายเพราะเขาช่วยชีวิตพวกเขา แต่นาทีนี้ ชายชรารู้สึกตื้นตันและเลื่อมใสชายชุดเขียวผู้นี้จริงๆ
“พวกเจ้าเข้ามาได้อย่างไร? ไม่ได้เข้ามาล่าสัตว์หรือ? เหตุใดท่าแต่ละคนท่าทางเหมือนหิวโหยมานานแล้ว?” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ
ได้ยินเฟิ่งจิ่วถาม พวกเขาต่างก็เงียบงันไม่มีใครตอบ ยังคงเป็นชายชราที่เอ่ยขึ้นว่า “นายท่าน พวกข้าเข้ามาจากทางอุโมงค์ใต้ดินเส้นหนึ่ง เพียงแต่เพราะร่างกายอ่อนแรง กอปรกับสัตว์ร้ายที่เจอเมื่อครู่แข็งแกร่งมา พวกข้าถูกไล่ล่ามาหลายวันแล้ว ไม่ง่ายกว่าจะสลัดหลุด แต่ก็ดันมาเจอกับสัตว์ร้ายฝูงเมื่อกี้อีก ฉะนั้นจึง…”
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ หาที่พักก่อนก็แล้วกัน ย่างเหยื่อที่ล่าได้เมื่อกี้กินก่อนแล้วค่อยไปเถอะ!”
“ขอรับ” พวกเขารับคำ ตามเฟิ่งจิ่วไปจากพื้นที่ที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดแห่งนี้
มาถึงอีกด้านหนึ่ง พวกเขาช่วยกันจัดการสัตว์ร้ายสองตัวนั้นและย่าง เพียงแต่ตอนที่กินเนื้อ เฟิ่งจิ่วกลับสังเกตเห็นว่า ทั้งที่คนพวกนี้หิวโหยมาก แต่พวกเขากลับกินแค่ชิ้นเล็กๆ ก็หยุดกินแล้ว
“กินน้อยขนาดนี้เชียวหรือ?” เธอยักคิ้ว ถามด้วยความประหลาดใจ “พวกเจ้าเก็บเนื้อพวกนี้ไว้ทำอะไร?”
………………………………….
ตอนที่ 2278 ตระกูลเร้นลับ
พวกเขาเงียบไม่ตอบ ต่างคนต่างมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าควรพูดดีหรือไม่? ด้วยเหตุนี้ พวกเขาหันไปมองชายชราทั้งสองด้วยสายตาตั้งคำถาม
ชายชราทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะตอบว่า “นายท่าน ก่อนหน้านั้น อนุญาตให้พวกข้าถามอะไรสักสองสามอย่างได้หรือไม่?”
เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว หยิบน้ำเต้าสุราออกมาบิดฝาเปิดกลืนเหล้าไปหนึ่งอึก หน้าตาผ่อนคลาย เอ่ยว่า “ถามมาเถอะ!”
ชายชรามองเฟิ่งจิ่ว ถามว่า “ข้าเห็นว่าบนตัวนายท่านไม่ได้มีกลิ่นคาวเลือดมากนัก ไอสังหารก็ไม่มี เทียบกับคนที่นี่แล้วต่างกันมาก จึงอยากจะถามว่านายท่านเป็นคนที่ไหน? เหตุใดจึงมาที่นี่?”
เฟิ่งจิ่วได้ยินคำถามก็หัวเราะเบาๆ “ที่แท้ก็เรื่องนี้เองหรือ!” เธอมองพวกเขา ยิ้มตอบว่า “ข้าน่ะ เพิ่งเข้ามาไม่นานนี้ เหมือนที่พวกเจ้าเห็น ข้าไม่ได้เป็นผู้ฝึกวิชามาร และไม่ได้เป็นคนของสำนักใด ถือว่าเป็นผู้ฝึกตนไร้สำนักคนหนึ่งกระมัง! ตอนที่สู้กับปีศาจเลือดลูกน้องของจอมมารปีศาจ ก็ถูกเขาเปิดประตูแห่งความมืดแล้วดูดเข้ามา เรื่องก็เป็นอย่างนี้”
เธอยิ้มๆ ก่อนจะดื่มสุราอีกหนึ่งอึก มองพวกเขา “ครั้งนี้ บอกมาได้แล้วกระมัง?” คนพวกนี้ช่างระมัดระวังจริงๆ
ชายชรามองเฟิ่งจิ่วครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย เอ่ยว่า “นายท่าน ที่จริงพวกข้าถูกตระกูลศัตรูทำร้ายจนทำให้ต้องเข้ามาอยู่ในนี้ พวกข้าเป็นตระกูลเร้นลับตระกูลหนึ่ง ปีนั้นตอนที่ถูกดูดเข้ามาในนี้ นอกจากพวกข้า ยังมีลูกและภรรยาของพวกข้าด้วย ด้วยเหตุนี้ อยู่ในนี้นอกจากต้องหาเลี้ยงตนเองแล้ว ยังต้องเลี้ยงลูกและภรรยา และปกป้องพวกเขาด้วย”
“เอ๋?”
เฟิ่งจิ่วมองพวกเขาด้วยความประหลาดใจ “พวกเจ้าเป็นตระกูลเร้นลับหรือ ยังมีลูกและภรรยาเข้ามาด้วย?” เธอประหลาดใจ นึกไม่ถึงจริงๆ จากที่เธอรู้ ในนี้ส่วนมากเป็นคนชั่วและผู้ฝึกวิชามาร เด็กน้อยนั้นไม่ค่อยพบเห็น แต่หากเป็นตระกูลเร้นลับจริงๆ อย่างนั้นหากพวกเขามีลูกและภรรยาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“ใช่ นอกจากลูกและภรรยาของพวกเรา ยังมีคนในตระกูลอีกจำนวนหนึ่งด้วย” ชายชราอธิบาย
เธอปิดฝาน้ำเต้าแล้วเก็บ ก่อนถามว่า “พวกเจ้ามีกันทั้งหมดกี่คน? อยู่ในนี้คนอื่นไม่มีใครรู้หรือ?” ด้วยพลังของพวกเขาจะรอดชีวิตมาจนถึงตอนนี้ไม่ใช่ปัญหา แต่หากพวกเขายังมีลูกและภรรยาด้วย อย่างนั้นหากถูกผู้ฝึกวิชามารหรือผู้ฝึกตนที่จิตใจชั่วร้ายพบเข้า จะรอดไปได้คงเป็นเรื่องยากแล้ว
“รวมพวกเราแล้ว ทั้งหมดก็มีสามสิบเก้าคน”
เฟิ่งจิ่วยกมือเท้าคาง เอ่ยว่า “สามสิบเก้าคนหรือ! จำนวนคนไม่น้อยเลยนะ สัตว์ร้ายแค่สองตัวนี้ไม่พอแบ่งหรอก!” ครุ่นคิดครู่หนึ่ง เธอลุกขึ้นเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ข้าจะพาพวกเจ้าไปล่าสัตว์เอง! จะได้ไม่ต้องยุ่งยากเข้ามาสองสามวันที”
เหล่าผู้ฝึกตนอึ้งงัน มองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนจะรับคำอย่างดีใจ “ดี!” หลังจากพวกเขาได้กินเนื้อบ้างแล้ว เรี่ยวแรงก็ค่อยๆ ฟื้นกลับมา ขอเพียงเรี่ยวแรงกลับมา พลังต่อสู้ก็จะดีขึ้นตามไปด้วย สามารถสู้กับสัตว์ร้ายพวกนั้นได้แล้ว
เธอมองพวกเขาแวบหนึ่ง พูดว่า “อย่างนั้นพวกเจ้าสองคนที่ไม่ค่อยบาดเจ็บตามข้ามา! คนอื่นพักผ่อนอยู่ที่นี่รอพวกเรากลับมา”
“นายท่าน พวกข้าก็ไปด้วยเถอะ!” ชายชราเอ่ย กังวลว่าพวกเขาสามคนจะรับมือไม่ไหว
“เอาล่ะ พวกเจ้าบาดเจ็บ พักผ่อนก่อนเถอะ แค่ล่าสัตว์ป่าเท่านั้น สองคนก็พอแล้ว” เธอโบกมือ ก่อนจะร่ายเขตอาคมรอบๆ ให้พวกเขา
………………………………….