เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2029 มองการณ์ไกล ตอนที่ 2030 คำพูดยังมีผล
ตอนที่ 2029 มองการณ์ไกล ตอนที่ 2030 คำพูดยังมีผล
ตอนที่ 2029 มองการณ์ไกล
สิ้นเสียงของเขา ก็เห็นเงาร่างสีเขียวเดินผ่านข้างกายเขามาถึงกลางวงล้อม
พวกคุณชายรองไฉตามไป แม้แต่ฮุ่นหยวนจื่อก็ยังลูบหนวดตนเอง จากนั้นก็ชะโงกหน้าเข้าไปดู
เห็นเพียงเฟิ่งจิ่วก้าวเข้าไปนั่งยองข้างๆ ยื่นนิ้วมือสองนิ้วไปตรวจชีพจรที่คอของชายคนนั้น ก่อนจะโน้มตัวลงไปฟังเสียงหัวใจเต้น จากนั้นก็ประสานมือสองข้างกดลงไปที่หน้าอกเพื่อทำการกู้ชีพให้เขา หลังผ่านไปหลายสิบครั้ง กอปรกับหยิบเข็มเงินออกมาแทงจุดทางเดินหายใจที่ติดขัด เห็นเพียงชายคนนั้นอาเจียนออกมา ก่อนที่จะกลับมาหายใจเป็นปกติ
“ซี๊ด! ตะ ตื่นแล้ว?”
“ไม่ใช่ตื่นแล้ว แต่ฟื้นคืนชีพมาแล้วต่างหาก!”
“สวรรค์! วิชาแพทย์ของเสี่ยวจิ่วกลับยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้เชียวหรือ? นึกไม่ถึงว่าเขาจะช่วยคนที่สิ้นลมไปแล้วให้กลับมามีชีวิตได้?”
ชั่วขณะ สายตาตกตะลึงระคนตื่นตาตื่นใจล้วนจับจ้องไปที่เฟิ่งจิ่ว โดยเฉพาะพวกคนที่ถูกมดกินคนกัด ยิ่งล้อมเข้าไป “เสี่ยวจิ่ว เสี่ยวจิ่วเจ้าต้องช่วยข้านะ ข้าถูกมดกินคนกัด รู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัวเหมือนตาย เสี่ยวจิ่ว…”
“เสี่ยวจิ่ว ยังมีข้าอีกคน ข้าก็เหมือนกัน”
พวกเขาเบียดเสียดกันเข้ามา ทำให้เฟิ่งจิ่วอดขมวดคิ้วไม่ได้ เธอถอยหลัง เอ่ยว่า “อย่าเบียดกัน เงียบก่อน”
เมื่อได้ยินเขาพูดอย่างนี้ ทุกคนต่างเงียบกริบ สายตาที่เดิมทีสิ้นหวังกลับมามีความหวังอีกครั้ง ที่แท้เซียนฮุ่นหยวนก็พูดจริง วิชาแพทย์ของเสี่ยวจิ่วร้ายกาจมากจริงๆ ด้วย!
“พิษไฟใช่ว่าจะแก้ไม่ได้” เธอเอ่ยขณะมองหน้าพวกเขา “เมื่อกี้ข้าไปเด็ดสมุนไพรมาจำนวนหนึ่ง รอข้ากลั่นยาเสร็จพวกเจ้าก็มียาแก้พิษแล้ว หากโดนพิษไฟ ยิ่งใจสงบ พิษก็จะยิ่งออกฤทธิ์ช้า พวกเจ้านั่งสงบใจก่อนสักครู่เถิด!” เธอกำชับ จากนั้นก็หันไปเอ่ยกับหมอตระกูลไฉ “ท่านลุงไฉ ท่านมาช่วยข้า”
“ได้ๆ” หมอคนนั้นรีบรับคำ จากนั้นก็ตามเขามาที่ริมลำธาร
ฮุ่นหยวนจื่อนั่งลง ลูบหนวดเอ่ยว่า “ข้าบอกแล้วใช่หรือไม่! เจ้าเด็กเมื่อวานซืนนี่จะต้องมีวิธีแน่นอน” ขณะเอ่ย เขาหันไปกวักมือเรียกจัวจวินเยวี่ย “มานี่ๆ ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า”
จัวจวินเยวี่ยหันไปมองเด็กหนุ่มที่นั่งริมลำธาร จากนั้นก็หยิบของออกมาจากห้วงมิติไม่น้อย นัยน์ตาไหวระริก แม้ครั้งก่อนเฟิ่งจิ่วจะแก้พิษให้เขา แต่ตอนนั้นเขาหมดสติอยู่ตลอด วันนี้กลับได้เห็นเขาฝังเข็มช่วยคนกับตาตนเอง ซ้ำยังช่วยคนที่สิ้นล้มแล้วให้กลับมาหายใจได้อีก ดูท่า วิชาแพทย์ของเขาคงจะสูงส่งมาก ถึงขั้นช่วยฟื้นคืนชีพให้คนตายได้จริงๆ
ได้ยินตาเฒ่าเรียกเขา จัวจวินเยวี่ยจึงเดินไปหา มานั่งข้างเขา “มีอะไร?” เขาถามพลางสังเกตการกระทำของเฟิ่งจิ่วด้วยหางตา
ฮุ่นหยวนจื่อมองเขา ถามอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย “พวกเจ้าทำอะไรบ้างตอนอยู่ข้างหลัง?”
จัวจวินเยวี่ยได้ยินคำถามก็ขมวดคิ้ว “ทำอะไรบ้างตอนอยู่ข้างหลัง? ท่านคิดว่าพวกข้าจะทำอะไรได้เล่า?”
“เจ้าเข้าใจความหมายของข้า” ฮุ่นหยวนจื่อเอ่ย
“ข้าไม่รู้” จัวจวินเยวี่ยเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนละสายตาออกไป
“เฮอะ ยังแสร้งทำเป็นโง่กับข้าอีกรึ? ว่ามาเถอะ! ตอนอยู่ข้างหลังพวกเจ้าพูดถึงเรื่องเก่าๆ กันใช่หรือไม่? ยังบอกว่าไม่รู้จักกันอีก ดูท่าเจ้าเด็กเมื่อวานซืนนั่นก็เลือกคนเหมือนกัน” ยิ่งพูด เสียงของเขาก็ยิ่งโมโห
คนที่เขาถูกใจ อยากรับเป็นศิษย์ กลับไม่สนใจเขา? ตรงกันข้ามกับพูดคุยถูกคอกับเจ้าท่อนไม้นี่งั้นหรือ? ช่าง ช่างตาไม่มีแววเสียเลย!
“พวกข้าเพียงไปเด็ดสมุนไพรแล้วกลับมา” พูดมาถึงตรงนี้ จัวจวินเยวี่ยหันไปมองเด็กหนุ่มที่กำลังยุ่งอยู่ “เขามองการณ์ไกล”
………………………………….
ตอนที่ 2030 คำพูดยังมีผล
หากเขาไม่ได้ย้อนกลับไปเด็ดสมุนไพร เดาว่าคนพวกนี้คงไม่รอดแล้ว
ทุกคนรออย่างใจจดใจจ่อ เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป ก็เห็นพวกเขาเดินกลับมา ในมือยังถือถุงน้ำไว้
“มาๆ ดื่มคนละหน่อย” หมอตระกูลไฉเทน้ำที่ผสมยาออกจากถุงใส่น้ำครึ่งหนึ่ง ก่อนจะยื่นให้หนึ่งในศิษย์ตระกูลไฉที่ถูกมดกินคนกัด
ทุกคนมองดูน้ำสีม่วงอ่อน อดตะลึงไม่ได้ หนึ่งในนั้นถามเบาๆ “นี่เป็นยาแก้พิษจริงหรือ? จะได้ผลจริงหรือ?”
เฟิ่งจิ่วเหลือบมองคนผู้นั้นแวบหนึ่ง “ไม่ได้ผล เจ้าจะไม่ดื่มก็ได้”
ทว่า คนอื่นกลับดื่มยาน้ำหลังจากหมอตระกูลไฉพยักหน้าให้ แต่ละคนล้วนไม่มั่นใจ เพราะอย่างไรยาแก้พิษนี้ก็ดูเหมือนจะกลั่นง่ายเกินไปหรือไม่? แม้พวกเขาจะไม่เห็นเสี่ยวจิ่วทำอะไรอยู่ตรงนั้น แต่เหมือนเขาเพียงเอาสมุนไพรมาคั้นเอาน้ำ และผสมเข้าไปในน้ำ เท่านี้ก็กลายเป็นยาแก้พิษได้แล้วหรือ?
“ดื่มเถิด!” เฟิ่งจิ่วยื่นยาขวดหนึ่งให้ฝานอี้ซิว
“ขอบใจมาก” ฝานอี้ซิวรับไปดื่มทันที
พวกเขาพักผ่อนอยู่ที่เดิม ประมาณหนึ่งก้านธูปผ่านไป อาการป่วยของทุกคนเริ่มดีขึ้น พิษไฟในร่างกายเริ่มบรรเทาลง เหลือเพียงอาการแผลบวมแดงเล็กน้อยเท่านั้น
“หายแล้ว หายแล้วจริงๆ ด้วย อาการร้อนรุ่มเหมือนไฟเผาหายไปแล้ว!” ศิษย์ตระกูลไฉคนหนึ่งโพล่งขึ้นด้วยความดีใจ รู้สึกเหมือนเพิ่งรอดชีวิตหลังประสบเคราะห์กรรม
“หายแล้วจริงๆ ร่างกายของข้าก็ไม่ได้รู้สึกทรมานขนาดนั้นแล้วด้วย” ชายอีกคนเอ่ยเสริม หันไปมองเฟิ่งจิ่ว “เสี่ยวจิ่ว ขอบใจเจ้ามาก”
“เสี่ยวจิ่ว ขอบใจเจ้ามาก”
“เสี่ยวจิ่ว ขอบใจเจ้ามากที่ช่วยชีวิตพวกเรา!”
เสียงขอบคุณด้วยความยินดีและปลาบปลื้มดังมาจากปากทุกคน เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “เรื่องเล็กน้อย” เธอเห็นว่าคนของตระกูลไฉเป็นคนดีใช้ได้จึงช่วย หากเป็นคนจิตใจไม่มีคุณธรรม เธอไม่มีทางช่วยแน่นอน
“บาดแผลยังต้องใส่ยาอีกหน่อย มาๆ ข้าช่วยพวกเจ้าดู” หมอตระกูลไฉเอ่ย พลางมาหยุดอยู่ข้างๆ ศิษย์ตระกูลไฉคนหนึ่ง จากนั้นก็ใส่ยาและพันแผลให้เขาใหม่
“เจ้าเด็กเมื่อวานซืน มานี่” ฮุ่นหยวนจื่อนั่งริมลำธาร ตะโกนเรียกเฟิ่งจิ่ว
พอได้ยินคำเรียกขานเด็กเมื่อวานซืน เฟิ่งจิ่วส่ายหน้า ก่อนลุกขึ้นด้วยความเอือมระอา เดินไปหาเขา “ข้าไม่ได้ชื่อเด็กเมื่อวานซืนนะขอรับ! ไม่มีใครเคยกล้าเรียกข้าอย่างนี้” เธอมองเขาด้วยสายตาแฝงรอยยิ้ม แววลึกล้ำแฝงความหมาย
“ไม่มีใครกล้าเรียกเจ้าอย่างนี้ งั้นข้าก็จะเรียกเจ้าอย่างนี้แหละ” ฮุ่นหยวนจื่อแค่นเสียง มองดูเด็กหนุ่มนั่งลงตรงหน้าเขา ถามด้วยความไม่พอใจ “ครั้งก่อนตอนช่วยจัวจวินเยวี่ยเจ้าหลอกเอาสมบัติล้ำค่าของข้าไปชิ้นหนึ่ง คราวนี้ช่วยคนมากมายขนาดนี้ เหตุใดเจ้าไม่ขอค่าตอบแทนจากพวกเขาบ้างเล่า?”
“นี่จะเหมือนกันได้อย่างไร!”
เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยี มองเขา “เรื่องบางเรื่อง ไม่จำเป็นต้องคิดเล็กคิดน้อยทุกอย่าง ข้าคนนี้น่ะ มักทำอะไรตามใจเสมอ ก็เหมือนกับครั้งก่อนที่ช่วยจัวจวินเยวี่ยแก้พิษ ก็เป็นเพียงเพราะความสนใจชั่วขณะ ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนทำการรักษาข้าก็บอกล่วงหน้าแล้วนี่นา! ว่าจะเอาค่าตอบแทน”
“เฮอะ! ไหนเจ้าว่าเจ้าไม่รู้จักข้าไม่ใช่หรือ? ทำไม? ตอนนี้จำได้แล้วหรือ?” ตาเฒ่านั่งขัดสมาธิ สองมือกอดอกแค่นเสียง
“ท่านเอาแต่เตือนความจำข้าตลอดเส้นทาง ข้ามีหรือจะจำไม่ได้?” เธอยิ้มตาหยีมองเขา “แต่จำได้แล้วอย่างไรเล่า? ของที่ตกอยู่ในกำมือข้าแล้วท่านเอากลับคืนไปไม่ได้หรอก อีกอย่าง ของสิ่งนั้นของท่านข้าก็ไม่ได้หลอกเอามา แต่เป็นค่าตอบแทนของข้าต่างหาก”
ฮุ่นหยวนจื่อจ้องเขา ถามว่า “คำพูดของข้าครั้งก่อนยังมีผลอยู่ เจ้าจะพิจารณาดูใหม่หรือไม่?”
………………………………….