เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1067 ใช้แต่พระเดช!
บทที่ 1067 ใช้แต่พระเดช!
………………….
บทที่ 1067 ใช้แต่พระเดช!
ซูอันคิดกับตัวเองว่า จักรพรรดิอาจรู้อะไรบางอย่างแล้ว อย่างไรก็ตาม เขายังคงรักษาท่าทางสงบไว้ได้ “องค์หญิงรัชทายาททรงสงสัยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือพระสนมไป่พะย่ะค่ะ”
“แล้วทำไมจู่ ๆ พวกนางถึงดูเหมือนจะเข้ากันได้ขึ้นมา?” จักรพรรดินำถ้วยชามาจ่อที่ริมฝีปาก
ซูอันเลิกคิดเกี่ยวกับความว่องไวในข้อมูลที่จักรพรรดิได้รับแล้ว “เป็นเพราะธรรมชาติของพระสนมไป่เป็นผู้มีน้ำใจดี นางอธิบายความเข้าใจผิดอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การทดสอบขององค์รัชทายาทก็ใกล้เข้ามาแล้ว พวกนางจึงต้องการร่วมมือกันและหลีกเลี่ยงความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้น”
จักรพรรดิทรงกริ้ว “อย่างน้อยพวกนางก็รู้ว่าต้องคิดถึงภาพรวม” จากนั้นเขาก็พูดต่อ “แล้วเจ้าคิดว่าใครเป็นคนใส่ร้ายเจ้า?”
ซูอันพูดอย่างขุ่นเคือง “กระหม่อมไม่แน่ใจพะย่ะค่ะ”
“เจ้าไม่แน่ใจ?” จักรพรรดิเย้ย “ในคุกหลวง เจ้ายังบอกว่าเป็นตระกูลซืออยู่เลยนี่?”
ซูอันอธิบายว่า “กระหม่อมเพียงคาดเดาเท่านั้น ไม่มีหลักฐานอื่นใด ดังนั้นจึงยังไม่กล้าทูลต่อหน้าฝ่าบาทพะย่ะค่ะ”
อารมณ์ของจักรพรรดิดีขึ้นเมื่อเห็นว่าซูอันมีไหวพริบเพียงใด “เจ้ารู้ไหมว่าทำไมในครั้งนี้ข้าจึงตัดสินใจให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปได้?”
จักรพรรดิเย้ยหยัน “มีบางอย่างที่เจ้าไม่เข้าใจ อันที่จริง ต่อให้ผู้เบิกเท็จยืนยันความบริสุทธิ์ของเจ้า เจ้าก็ไม่รอดตัว! ผู้ที่เกี่ยวข้องกับข่าวลือเสียหายขององค์หญิงรัชทายาทนั้นเป็นอาชญากรรมที่แม้แต่ความตายก็ไม่สามารถชดใช้ได้”
ซูอันเหงื่อออก ดูเหมือนว่าเขายังประเมินจักรพรรดิองค์นี้ต่ำเกินไป บัดซบ… ตัวข้าเองก็เคยเป็นจักรพรรดิในมิติลับซากเมืองอินซวี! แต่ข้าไม่เคยตัดสินใครอย่างไม่ยุติธรรมแบบเจ้า!
จักรพรรดิกล่าวว่า “เจ้าทำได้ดีกับคดีของสำนักมาร และยังหาได้ว่าใครบ้างที่สมรู้ร่วมคิดกับนักฆ่า เนื่องจากเจ้ามีพรสวรรค์ ข้าจึงตัดสินใจปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ ในครั้งนี้เจ้าจะเป็นผู้รับผิดชอบในการหาตัวคนที่ใส่ร้ายองค์หญิงรัชทายาทเช่นกัน เจ้ามีเวลาจนกว่าการสอบของรัชทายาทจะมาถึง ถ้าเจ้าไม่พบสิ่งใด ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก”
ซูอันพูดไม่ออก พี่ชาย! ท่านควรใช้ทั้งพระเดชและพระคุณ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ใช้แต่พระเดชอย่างเดียว! แม้ว่าจะสาปแช่งอยู่ในใจ ซูอันก็ทำได้เพียงยิ้ม “พะย่ะค่ะ กระหม่อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิด”
“อย่าลืมปกปิดตัวตนทูตยุทธ์เสื้อแพรทองหมายเลขสิบเอ็ดของเจ้า” จักรพรรดิเตือนเขา จากนั้นเขาก็หลับตาเป็นสัญญาณว่าซูอันสามารถออกไปได้
ซูอันรู้สึกประหลาดใจ เขาถือโอกาสถามว่า “ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น”
“พูดมา” จักรพรรดิยังคงหลับตา
ซูอันกล่าวว่า “กระหม่อมคิดว่ามีใครบางคนแอบสะกดรอยอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ว่าจะพยายามใช้วิธีใด กระหม่อมก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ดูเหมือนว่าคนผู้นั้นจะมีความชำนาญอย่างมากในทักษะการอำพราง”
เขาให้ความสนใจใกล้ชิดกับท่าทีของจักรพรรดิในขณะที่ถามเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เขาสงสัยว่าจักรพรรดิเป็นคนที่ส่งบุคคลลึกลับนั้นมา แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาเริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แน่นอนว่า เขาไม่ได้ลดความระมัดระวังลง แต่เขาต้องการได้รับข้อมูลบางอย่างจากท่าทีของจักรพรรดิ
“อะไร?” ดวงตาของจักรพรรดิเบิกกว้างขึ้นทันใด “ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าคนผู้นี้มีการบ่มเพาะระดับสูงในทักษะอำพราง แล้วเจ้ารู้ตัวได้อย่างไร?”
ซูอันตอบว่า “กระหม่อมมีความสามารถพิเศษที่ช่วยให้เห็นผู้คนในระยะที่กำหนดรอบตัว กระหม่อมรู้สึกได้ว่าเขาอยู่ใกล้ ๆ แต่หาเขาไม่เจอพะย่ะค่ะ”
ซูอันได้บอกกับจักรพรรดิแล้วว่าได้รับทักษะทั้งหมดจากผู้เฒ่ามี่ ด้วยเหตุนี้ จักรพรรดิจึงรู้ว่าเขาเป็นผู้บ่มเพาะที่มีอำนาจอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ทักษะดังกล่าวไม่อาจเป็นภัยคุกคามต่อจักรพรรดิได้
แน่นอนว่าจักรพรรดิไม่ถามอะไรมากไปกว่านี้ แต่กลับเริ่มขบคิดกับตัวเอง “ด้วยการบ่มเพาะในปัจจุบันของเจ้า ผู้คนที่สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าได้…”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่างออกและพูดอย่างจริงจังว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป ข้าจะส่งคนไปดูแลเอง”
“เข้าใจแล้วพะย่ะค่ะ!” ซูอันได้รับข้อมูลที่เขาต้องการแล้ว ดังนั้นเขาจึงจากไปอย่างพึงพอใจ
เมื่อเขาเดินออกไป ขันทีเหวินได้เดินเข้ามาหา และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านซูน่าประทับใจจริง ๆ! ข้าไม่เคยเห็นใครได้รับความชื่นชมจากจักรพรรดิอย่างท่านซูตลอดหลายปีที่ผ่านมา”
“ขันทีเหวินกล่าวเกินไปแล้ว” ซูอันตอบ แต่ภายในใจเขาสาปแช่งอย่างไม่รู้จบ บัดซบ! นี่คือความชื่นชมตรงไหน!? ไอ้เวรนั่นพร้อมที่จะฆ่าข้าตลอดเวลา ฮึ่ม ต่อไปข้าจะทำให้นางสนมของมันได้ลิ้มรสความชั่วช้าของข้าให้ได้
…
หลังจากคุยกับขันทีเหวินและขอบคุณที่ดูแลฉู่ชูเหยียน เขาก็จากไปในขณะที่อารมณ์ยังดีอยู่ และเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรทองหมายเลขสิบเอ็ดที่เรือนพัก จากนั้นจึงไปพบกับแม่ทัพกองทหารฝ่ายขวาโกวซือ
โกวซือประสานมือเมื่อได้ยินว่าซูอันมาถึง “ท่านสิบเอ็ด โปรดบอกข้าว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่?”
แม้ว่าตำแหน่งของเขาจะสูงกว่า แต่ทูตยุทธ์เสื้อแพรมีสถานะพิเศษ ยิ่งกว่านั้นการดำรงอยู่ของทูตยุทธ์เสื้อแพรทองแต่ละคนล้วนล้ำลึกและประเมินค่าไม่ได้ บุคคลนี้กระทำการโดยตรงภายใต้พระบรมราชโองการ เขาจึงไม่กล้าล่วงเกินอีกฝ่าย
ซูอันตอบว่า “ข้าต้องการดูบันทึกของทุกคนที่เข้าและออกจากวังในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้”
โกวซือตกตะลึง “บันทึกทั้งหมด? นี่เป็นงานหนักเลยนะ ข้าขอถามสิ่งที่ท่านสิบเอ็ดกำลังสืบสวนอยู่ได้ไหม? ข้าสามารถช่วยจำกัดขอบเขตให้แคบลงก่อนได้”
หลังจากลังเลเล็กน้อย ซูอันกล่าวว่า “ข้าต้องการตรวจสอบบันทึกของนางกำนัลที่เข้าออกวัง”
โกวซือถอนหายใจด้วยความโล่งอก “นั่นก็ไม่ยากเกินไป มีสี่ประตูในพระราชวัง ประตูจูเฉวียด้านใต้เป็นประตูที่เปิดเฉพาะเมื่อมีพิธีสำคัญเท่านั้น ประตูหยุนหลงทางตะวันตกเป็นประตูสำหรับเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหารใช้ ประตูเหวินฮัวทางตะวันออกมีไว้สำหรับเสนาบดีทั้งเก้าคนและราชเลขาขององค์จักรพรรดิ ปกติแล้วนางกำนัลและขันทีในวังสามารถผ่านได้ทางประตูเซวียนอู๋ทิศเหนือเท่านั้น ดังนั้นเราจึงต้องตรวจสอบเฉพาะประตูเซวียนอู๋เพียงประตูเดียว”
ซูอันลังเล “แล้วถ้าพวกนางออกไปทางประตูอื่นล่ะ”
โกวซือส่ายหัว “เป็นไปไม่ได้แน่นอน มีหูตามากมายอยู่รอบประตูวัง ไม่มีทางที่นางกำนัลในวังจะออกไปทางประตูอื่นได้”
ซูอันรู้สึกโล่งใจ “ถ้าอย่างนั้นข้าขอรบกวนแม่ทัพโกวด้วย”
“ท่านสิบเอ็ดเกรงใจเกินไปแล้ว” โกวซือเดินนำซูอันไปที่ประตูเซวียนอู๋ด้านเหนือ
………………….