เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1058 ถอดกางเกงของเจ้าออก
บทที่ 1058 ถอดกางเกงของเจ้าออก
………………….
บทที่ 1058 ถอดกางเกงของเจ้าออก
อันที่จริงซูอันเองก็ไม่ได้ต้องการกอดเซี่ยซิวเช่นกัน ทั้งคู่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยและแยกจากกันอย่างรวดเร็ว เขาแสดงความคิดเห็นว่า “พี่เซี่ยยอดเยี่ยมยิ่งนัก ท่านสามารถเข้าสู่สถาบันหลวงได้จริง ๆ!”
แม้ว่าเซี่ยซิวจะไม่เลว แต่ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร เขาไม่ใช่นักศึกษาชั้นนำของสถาบันจันทร์กระจ่าง ในขณะเดียวกัน แม้ว่าเซี่ยเต๋าอวิ๋นจะไม่เก่งเรื่องการบ่มเพาะ แต่นางก็ยอดเยี่ยมในด้านอื่น ๆ มือของเซี่ยซิวมีไว้แค่เกี้ยวพาผู้หญิงไม่ใช่เหรอ? ไม่มีทางที่จะเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่สถาบันหลวงต้องการใช่ไหม?
“พี่ใหญ่ผ่านเข้ามาได้ด้วยตัวเอง ส่วนข้าทำได้แค่ผ่านสายสัมพันธ์ของพ่อเท่านั้น ฮ่า ๆ” เซี่ยซิวอธิบายโดยไม่ลังเลอะไร
“ความแข็งแกร่งของครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งของตัวท่านเองด้วย ไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวเช่นนี้” ซูอันหันไปมองหญิงสาวด้านข้างด้วยความประหลาดใจ “เแม่นางเซี่ยซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเองไว้มาตลอดจริง ๆ เหรอ?”
เซี่ยเต๋าอวิ๋นหน้าแดง “ข้าแค่สมัครเป็นปรมาจารย์ด้านอักขระ ข้าไม่ได้เข้ามาด้วยวิธีการบ่มเพาะแบบดั้งเดิม”
ซูอันยกย่องนาง “แต่ปรมาจารย์ด้านอักขระนั้นแข็งแกร่งมาก! ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ การป้องกันอาคาร หรือค่ายกลของกองทัพล้วนแล้วแต่ถูกคิดค้นโดยปรมาจารย์ด้านอักขระ พวกเขามีประโยชน์มากกว่าผู้บ่มเพาะเพียงคนเดียว ในอนาคต ถ้ามีโอกาสข้าจะต้องศึกษาจากแม่นางเซี่ยให้ได้”
เซี่ยเต๋าอวิ๋นเหลือบมองฉู่ชูเหยียนและพูดเสียงเบาว่า “คงจะดีที่สุดถ้าเราทุกคนสามารถเรียนรู้จากกันและกันได้”
ในที่สุดเจียงลั่วฝูก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป นางยืนอยู่ระหว่างพวกเขาสองคน “เจ้าหมายความว่าอะไร ‘ศึกษานาง’? แม้แต่ข้าฟังแล้วยังอายแทน เซี่ยซิว ทำไมเจ้าถึงเป็นแบบนี้ตลอดเลย? ผู้หญิงคนนั้นคือคุณหนูของตระกูลมู่หรง! นางไม่ใช่คนที่เจ้าควรจะยุ่งด้วยเข้าใจไหม!”
ปรากฏว่าในเวลานี้ เซี่ยซิวไปอยู่ที่ด้านข้างของมู่หรงชิงเหอเรียบร้อยและกำลังเริ่มต้นสนทนาตามแบบที่เขาถนัดที่สุด ในขณะที่ฉู่โหยวเจาที่โกรธเกรี้ยวทำท่าจะปกป้องเพื่อนของนาง
ซูอันหัวเราะ น้องภรรยาของเขายังเป็นเด็กผู้หญิง แต่นางก็ทำท่าหวงแหนมู่หรงชิงเหอ อย่าบอกนะว่าเจ้าพัฒนาความรู้สึกไปถึงขั้นนั้นจริง ๆ? เอ๊ะ แม้ว่าข้าจะไม่รังเกียจหญิงรักหญิง แต่นั่นไม่ใช่ความสัมพันธ์ต้องห้ามในโลกนี้เหรอ?
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่คลุมเครือของฉู่ชูเหยียน เซี่ยเต๋าอวิ๋นก็ตื่นตระหนกทันที นางรีบเดินหนีซูอันและตีน้องชายเพื่อขจัดความอับอาย นางดึงหูของเซี่ยซิวลากออกไปด้านข้างโดยพูดว่า “ที่นี่คือเมืองหลวงไม่ใช่เมืองจันทร์กระจ่าง! หยุดทำตัวเจ้าชู้เรี่ยราดได้แล้ว!”
บิดาของพวกเขาคือเจ้าเมืองจันทร์กระจ่าง ดังนั้นจึงไม่มีใครอาจหาญหรือสนใจจะเอาเรื่องกับเซี่ยซิวมากนักไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับเด็กสาวในเมือง อย่างไรก็ตาม เมืองหลวงมีความแตกต่างกัน บิดาของหญิงสาวคนไหนก็อาจมีตำแหน่งสูงกว่าบิดาของพวกเขา! หากมีอะไรเกิดขึ้นคงไม่อาจจัดการให้เรียบร้อยเหมือนในเมืองจันทร์กระจ่างได้
“โอ๊ย! ท่านพี่ ปล่อย! ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด!” เซี่ยซิวกรีดร้อง ใครบ้างจะไม่อายที่ถูกดึงหูในที่สาธารณะ?
ซูอันกำลังจะหัวเราะเยาะเซี่ยซิว แต่ฉู่ชูเหยียนขยับมาด้านข้างของเขาอย่างเงียบ ๆ และหยิกเอวของเขาโดยไม่มีใครสังเกตเห็น
ซูอันร้องซี้ด ในอดีตเมื่อฉู่ชูเหยียนไม่ค่อยแสดงความหึงหวง เขาเคยรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เขารู้สึกว่าบางทีนางอาจไม่สนใจเขามากนัก แต่ตอนนี้นางแสดงอาการหึงหวงอย่างรุนแรงทุกครั้ง เขากลับรูสึกว่าก่อนหน้านี้นางน่ารักกว่านี้ เฮ้อ… ตกลงข้าไม่ใช่คนไม่สำคัญใช่ไหม…?
ทั้งกลุ่มพูดคุยกันครู่หนึ่งก่อนจะมุ่งหน้าไปยังบ้านของซูอัน เซี่ยซิวและเซี่ยเต๋าอวิ๋นมองไปรอบ ๆ บ้านของเขาด้วยความอยากรู้ เจียงลั่วฝูเองก็เช่นกัน
“ฮ่า ๆ ดูเหมือนว่าเรามีฐานทัพอยู่ในเมืองหลวงแล้ว ว่างเมื่อไรเราค่อยมากินดื่มกันให้สนุกสนาน!” เซี่ยซิวกล่าวพร้อมกับหัวเราะ
บิดาของพวกเขาจงใจเลือกที่จะไม่ซื้อทรัพย์สินใด ๆ ที่นี่ ให้พวกเขาอาศัยอยู่ในหอพักของสถาบันเพื่อให้ตั้งใจเล่าเรียน แต่ถึงแม้หอพักของสถาบันจะไม่เลวร้ายนัก แต่จะเปรียบเทียบกับที่พักแห่งนี้ของซูอันได้อย่างไร?
ซูอันกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ยินดีต้อนรับทุกเมื่อ” และมองไปที่เซี่ยเต๋าอวิ๋นขณะที่พูด
เซี่ยเต๋าอวิ๋นใจเต้นแรง ทำไมข้าถึงเป็นแบบนี้ อย่าบอกนะว่าเขาจงใจพูดกับข้าเป็นพิเศษ? ชายผู้นี้เจ้าสำราญจริง ๆ! นางไม่แสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยวใด ๆ แต่พวงแก้มทั้งสองกลับแดงก่ำ ทำให้นางดูมีเสน่ห์มากกว่าปกติ
ฉู่ชูเหยียนได้สั่งให้คนรับใช้ตั้งกระทะไฟที่ทางเข้าและไม่ได้สังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น “ทุกคน โปรดข้ามกระทะไฟนี้เพื่อเผาความโชคร้ายออกไป” นางเร่งเร้าทุกคน
ซูอันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขาไม่คิดว่าโลกที่แตกต่างนี้จะมีประเพณีมากมายเช่นกัน เขาข้ามกระทะไฟ แต่เมื่อกำลังจะเข้าไปในห้อง ฉู่ชูเหยียนก็หยุดเขาไว้
ฉู่ชูเหยียนกล่าวว่า “ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของเจ้าเผาในกระทะไฟ อย่านำโชคร้ายจากคุกหลวงกลับบ้าน”
ซูอันขมวดคิ้ว “เราไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้หรอกมั้ง?”
“ไม่ได้ เจ้าต้องทำ!” ฉู่ชูเหยียนดื้อรั้นมากในเรื่องนี้
เจียงลั่วฝูยิ้มและกล่าวว่า “แม้สิ่งที่เรียกว่าโชคจะมีความหมายคลุมเครือแต่ก็มีอยู่จริง ระวังตัวให้มากก็ไม่เสียหาย”
ซูอันทำได้เพียงถอดเสื้อผ้าโยนลงในกระทะไฟ
“อา!” มู่หรงชิงเหอหน้าแดง นางรีบเอามือปิดตา อย่างไรก็ตามมีช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างนิ้วของนาง
ฉู่โหยวเจาบอกตัวเองว่าตอนนี้นางเป็นผู้ชาย ไม่สามารถทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ต่อหน้าทุกคนได้ อย่างไรก็ตาม หากมีใครมองจากด้านหลัง พวกเขาจะสังเกตเห็นปื้นสีแดงบริเวณต้นคอขาวผ่องของนาง
เจียงลั่วฝูเป็นคนที่ทำตัวเป็นธรรมชาติที่สุด ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เห็นได้ชัดว่านางจะไม่ขี้อายเหมือนสาวน้อยเหล่านี้ นางมองร่างของซูอันด้วยสายตาที่ชื่นชม
เซี่ยเต๋าอวิ๋นเป็นสตรีเรียบร้อยมารยาทงาม นางหันหลังกลับทันที อย่างไรก็ตาม ภาพร่างกายสมชายของซูอันได้ประทับอยู่ในใจของนางแล้ว
เซี่ยซิวมองกล้ามเนื้อของซูอันอย่างอิจฉาและกล่าวว่า “พี่ซู ท่านมีวิธีฝึกร่างกายอย่างไร? ไม่คิดว่าท่านจะตัวใหญ่ขนาดนี้!”
กล้ามเนื้อของซูอันไม่เพียงแต่แข็งแกร่งเท่านั้น เส้นร่างกายของเขาเรียงตัวสมส่วนไม่นูนพองเหมือนคนอื่น แต่ทั้งกลุ่มก็รู้สึกได้ถึงพลังที่รุนแรงราวกับจะระเบิดออกมา
ในฐานะชายหน้าสวย แม้ว่าเซี่ยซิวเชื่อว่าหน้าตาของตัวเองไม่ด้อยไปกว่าซูอัน แต่เขารู้สึกว่ารูปร่างของอีกฝ่ายเหนือกว่า นายน้อยเซี่ยรู้สึกว่าหน้าท้องของตัวเองกระชับดีแล้ว แม้ว่าปกติเขาจะรู้สึกเหนือกว่าผู้ชายที่มีหุ่นก้ามปูเหมือนอันธพาล แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมคนอย่างซูอันที่สมบูรณ์พร้อมไปทั้งรูปลักษณ์และความแข็งแกร่ง
ซูอันกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ไม่ใช่สิ่งที่ท่านสามารถเรียนรู้ได้ เชื้อพ่อของข้าดี!” เขาไม่สามารถพูดได้ว่ากล้ามเนื้อเหล่านี้ได้มาจากการถูกทุบตีใช่ไหม? มันคงน่าอายเกินไป…
ฉู่ชูเหยียนกล่าวว่า “ถอดกางเกงของเจ้าออกด้วย” ซูอันพูดไม่ออก
………………….