เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1055 ผู้เบิกเท็จ
บทที่ 1055 ผู้เบิกเท็จ
………………….
บทที่ 1055 ผู้เบิกเท็จ
หลังจากที่ฉู่ชูเหยียนจากไป เจิ้นเสวี่ยอี เจียงป๋อหยาง และมู่หรงถงก็เข้ามาพร้อมกับจูเซี่ยฉือซิน ซูอันสั่นเทาอยู่ข้างใน ดูเหมือนว่าบางสิ่งจะหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ
ผู้คุมนำซูอันไปที่ห้องสอบสวน เจิ้นเสวี่ยอีและคนอื่น ๆ ไม่ได้นั่งเหมือนครั้งก่อน แต่กลับยืนรออย่างเงียบ ๆ ที่ทางเข้า แม้แต่จูเซี่ยฉือซินเองก็ไม่มีท่าทีหยิ่งผยองเหมือนปกติ
หลังจากนั้นไม่นาน คลื่นพลังที่มองไม่เห็นได้ดันทางเข้าเปิดออก ผู้สูงอายุในชุดคลุมสีเขียวเดินเข้ามา ย่างก้าวของเขาดูช้ามาก แต่กลับก้าวเข้าไปในห้องสอบสวนได้เกือบจะในทันทีซึ่งน่าจะเป็นผลจากการบิดเบือนเชิงมิติ
ซูอันมองชายชุดเขียวอย่างพิจารณามากขึ้น สามารถอธิบายได้ว่าชายคนนี้มีรูปลักษณ์ธรรมดาจนถึงจุดที่ไม่มีใครสนใจ หากยืนอยู่ในที่สาธารณะคงจะหายไปได้ง่าย ๆ ท่ามกลางฝูงชน เมื่อเทียบกับเจียงป๋อหยางและคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะโดดเด่นมากกว่า อย่างไรก็ตาม เสนาบดีที่สง่างามเหล่านั้นเป็นได้แค่ตัวประกอบของผู้ชายชุดเขียวคนนี้เท่านั้น
ดวงตาทั้งคู่ของเขาลึกล้ำราวกับธารน้ำที่หมุนวน ราวกับว่าพวกมันผ่านประสบการณ์ร้อนหนาวมามากมายนับไม่ถ้วน ทันใดนั้น ซูอันเกือบลืมไปว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในมโนสำนึกคือดวงตาที่ลึกล้ำคู่นั้น
“เจ้าคือซูอันใช่ไหม?” ผู้เบิกเท็จไม่ได้ทักทายเจียงป๋อหยางและคนอื่น ๆ ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเพราะความรังเกียจหรือเพียงเพราะไม่จำเป็นต้องทำเนื่องจากสถานะอันสูงส่งของเขา
ซูอันทักทายผู้เฒ่า “ผู้น้อยคารวะผู้เบิกเท็จ” การดื้อรั้นและหยิ่งทนงต่อหน้าคนแบบนี้เป็นเรื่องโง่มาก ที่สำคัญคือ ชายผู้นี้เป็นผู้รับผิดชอบชะตากรรมของเขา
ผู้เบิกเท็จยิ้มและกล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องประหม่า เจ้าต้องตอบคำถามเดียวเท่านั้น โปรดตอบอย่างเป็นธรรมชาติและอย่าขัดขืน”
ทันใดนั้น ซูอันก็รู้สึกราวกับว่าเขาถูกอาบด้วยสายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วง เขาตอบว่า “ท่านกรุณาถามมาเถิด!”
ผู้อาวุโสคนนี้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ถ้าเขาบังคับตัวเองให้ใช้ ‘คีย์บอร์ดจงมา’ นั่นอาจส่งผลให้เขาเสียชีวิตได้ สิ่งเดียวที่ซูอันสามารถลองได้ในตอนนี้คือทักษะใหม่ เขาเคยคิดมาก่อนแล้วว่าจะใช้ทักษะขยะนั้นอย่างไร แต่เขายังไม่มีความมั่นใจถึงสิบส่วนว่าจะผ่านการสอบสวนของผู้เบิกเท็จได้
ดวงตาของผู้เบิกเท็จเป็นประกายระยิบระยับขณะที่ถามว่า “เจ้ากับองค์หญิงรัชทายาทเป็นผู้บริสุทธิ์หรือเปล่า?”
“สหายผู้จริงใจ…” ซูอันกำลังจะเริ่มต้นใช้ทักษะ แต่กลับหยุดก่อนเพราะตกใจกับคำถาม… เขาตอบทันทีว่า “ใช่!”
ผู้เบิกเท็จพยักหน้า “มันคือความจริง ดีมาก การสอบสวนของข้าเสร็จสิ้นแล้ว” พูดจบผู้เบิกเท็จจึงหันหลังเดินจากไป
คนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าต่างตกตะลึง “เสร็จแล้ว? แค่นี้เองเหรอ?”
มู่หรงถงรู้สึกประหม่ามากที่สุด เขารีบก้าวออกไปต่อหน้าชายชราและถามว่า “ผู้เบิกเท็จ ท่านสอบปากคำเสร็จแล้วเหรอ?”
ตอนนี้มู่หรงถงตื่นตระหนก “แต่นี่ไม่ประมาทไปหน่อยเหรอ? ท่านควรจะถามให้ละเอียดมากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ?”
ผู้เบิกเท็จทำสีหน้าเฉยเมย “เจ้ากำลังพยายามสอนข้าว่าต้องทำอะไรใช่หรือไม่?”
มู่หรงถงรู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายเย็นยะเยือกจนทำให้หายใจลำบากเล็กน้อย เขาตัวสั่นและขอโทษทันที “ข้าไม่กล้า!”
เจียงป๋อหยางพูดแทนมู่หรงถง “ท่านผู้เบิกเท็จ โปรดอย่าสนใจ เขาค่อนข้างตรงไปตรงมาเกินไป”
ผู้เบิกเท็จพยักหน้าและพูดว่า “ข้าถามทุกอย่างที่ข้าต้องถามแล้ว เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ปล่อยเขาเถอะ” โดยไม่รอให้คนเหล่านี้พูดอะไรอีก ร่างของผู้เฒ่าชุดเขียวค่อย ๆ หายไปในระยะไกล
ซูอันตกใจ เขาไม่ได้ใช้ทักษะสหายผู้จริงใจเพราะคำถามที่อีกฝ่ายถามนั้นแปลกเกินไป
ผู้เบิกเท็จไม่ได้ถามว่าเขาอยู่กับองค์หญิงรัชทายาทในวันนั้นหรือไม่ และไม่ได้ถามว่าพวกเขาถอดเสื้อผ้าออกหรือไม่ แต่ถามคำถามที่คลุมเครือแทน
‘เจ้าและองค์หญิงรัชทายาทเป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่?’
แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่คิดว่าคำถามนี้แปลกนัก แต่ในฐานะผู้เกี่ยวข้องโดยตรง เขาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี ความรู้สึกของทุกคนที่มีต่อคำว่าบริสุทธิ์นั้นแตกต่างกัน
คนอื่นอาจคิดว่าการอยู่กับองค์หญิงรัชทายาทโดยไม่สวมเสื้อผ้า หรือแม้แต่แตะต้องกันเล็กน้อยก็อาจทำให้คน ๆ หนึ่งรู้สึกผิด แต่ในฐานะผู้มาจากโลกก่อนหน้า ซูอันคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายและผู้หญิงจะสัมผัสกัน เฉพาะในกรณีที่พวกเขาร่วมรักกันแล้วเขาถึงจะถือว่าตัวเองมีความผิดจริง ๆ
นี่คือเหตุผลที่เขาไม่ต้องใช้ทักษะใหม่เลยเมื่อต้องเผชิญกับคำถามนี้ นอกจากนี้ อีกฝ่ายไม่ได้ถามอะไรต่อไปอีก
หากเป็นเพียงคนธรรมดาที่ถาม เขาอาจจะสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นมืออาชีพจริง ๆ หรือนี่เป็นเพียงความประมาทเลินเล่อ
อย่างไรก็ตาม นี่คือผู้เบิกเท็จแห่งสถาบันศึกษาหลวง! เขาเป็นผู้บ่มเพาะที่มีอำนาจมากที่สุดเป็นอันดับสามในราชสำนักทั้งหมด สถานะของเขาไม่ธรรมดา ทำไมคนแบบนั้นถึงจะทำเรื่องผิดพลาดง่าย ๆ อย่างนี้?
ผู้เบิกเท็จคนนี้แอบช่วยข้าอยู่! แต่ทำไมเขาถึงช่วยข้า? ซูอันคิดกับตัวเอง เขามั่นใจว่าไม่เคยเห็นบุคคลนี้มาก่อน
ไม่มีเหตุผลใดที่คนเช่นนี้จะช่วยคนอย่างเขาใช่ไหม? เป็นไปได้ไหมที่ข้าคิดมากไป หรือทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ? เขารู้สึกขัดแย้งอยู่ภายในใจ
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น โกวซือวิ่งมาพร้อมกับรอยยิ้มและพูดว่า “ตอนนี้ท่านเหล่านั้นกำลังรายงานต่อจักรพรรดิเกี่ยวกับผลการสอบสวนของผู้เบิกเท็จ ข้าเชื่อว่าน้องซูจะเป็นอิสระในไม่ช้า ขอแสดงความยินดีล่วงหน้า!”
ซูอันยิ้มเช่นกัน “ขอบคุณพี่โกวสำหรับการดูแลในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ไม่อย่างนั้นข้าคงลำบากมากกว่านี้”
โกวซือเป็นคนที่เขินอายแทน “น้องชายของข้า เจ้าพูดเกินไปแล้ว! ที่เจ้าถูกวางยาพิษ… ข้ายังรู้สึกผิดอยู่ดี”
ซูอันกล่าวว่า “มันเป็นสิ่งที่ยากที่จะป้องกัน ว่าแต่ท่านพบคนลงมือหรือไม่?”
โกวซือตอบว่า “ตอนที่ข้าพบ มันก็จบชีวิตของตัวเองไปแล้ว เรายังไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับมันมากนัก ดังนั้นคดีวางยาจึงยังไม่ได้ข้อสรุป”
“อย่างนี้นี่เอง” ซูอันพึมพำ
………………….