เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2382 ท่านทำอะไรข้าไม่ได้หรอก
ในขณะที่พูดถึงตรงนี้ มวลอากาศพลันปั่นป่วนอีกครั้ง
แล้วคลื่นพลังที่รายล้อมอยู่รอบกายของหวังจงก็ยิ่งหนาแน่นขึ้น หากบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้สายเลือดปีศาจสามารถหยิบยืมพลังจากผู้ใช ้ สายเลือดเดียวกันมาเป็ นของตนเองได้ฉันใด หวังจงก็สามารถหยิบ ยืมพลังมาจากคนตายได้ฉันนั้น
ยิ่งมีคนตายในการสู้รบมากเท่าไหร่ ชายชราก็ยิ่งมีความ แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
“ไปถล่มกรมสืบสวนซะ”
องค์ชายเจี้ยนอวี่ออกคาสั่ง
“ข้าน้อยรับค ำบัญชา”
เสียงของบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้เงาตอบกลับมา
เงาด ำในอากาศก ำลังหลอมรวมเข้าด้วยกัน
หวังจงรู ้ดีว่านี่คือช่วงวิกฤตแล้ว
“ดูเหมือนวันนี้ข้าคงต้องใช ้วิชาที่ตนเองไม่อยากใช ้แล้วสินะ!”
ชายชราระเบิดเสียงค ำรามอันแข็งกร ้าว
ทันใดนั้น มนุษย์ยักษ์ที่เป็ นการรวมตัวของมวลพลังสีดาขนาด ใหญ่ซึ่งอยู่ทางด้านหลังของหวังจง ก็เปลี่ยนรูปร่างเป็ นอีกร่างหนึ่ง ของชราชายขึ้นมา แล้วร่างนั้นก็ลืมตาขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้าง เปล่งแสงสว่างเรืองรองอันไม่มีที่สิ้นสุด และมนุษย์ยักษ์ตนนั้นก็โค้ง คานับให้แก่องค์ชายเจี้ยนอวี่
“ราชายมโลกค ำนับ!”
เสียงค ำรามดังสะเทือนฟ้ ำสะท้านดิน
ในเวลาเดียวกัน เงาดานับไม่ถ้วนก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ ำเหนือนคร ศักดิ์สิทธิ์
เงาดาเหล่านั้นคือยอดฝีมือของเผ่ามนุษย์ทะเลทรายที่ตกตายไป ก่อนหน้านี้ พวกเขาถูกควบคุมด้วยกฎแห่งยมโลก กลายเป็ นหุ่นเชิด ให้หวังจงชักใยในการบุกไปโจมตีบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้เงา
การควบคุมวิญญาณเป็ นวิชาต้องห้ามแขนงหนึ่ง
หวังจงแทบไม่เคยใช ้วิชานี้เลย
แต่ในตอนนี้ เขาจะไม่ใช ้มันไม่ได้แล้ว
ในบรรดาวิญญาณเหล่านั้น มีคนจานวนไม่น้อยที่อยู่ในขอบเขต จอมเทพอนันต์ และคนอีกจานวนมากก็อยู่ในชนชั้นจอมเทพบรรพ บุรุษ หุ่นเชิดทั้งหมดต่างพุ่งเข้าไปหาบรรพบุรุษผู้ใช ้เงาด้วย จุดมุ่งหมายเดียวเท่านั้นคือ…
พวกเขาต้องหยุดยั้งบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้เงาให้ได้!
พวกเขาไม่ต่างจากแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ
แม้ว่าดวงวิญญาณของพวกเขาจะต้องระเบิดกระจายหายไปใน พริบตาเป็ นจานวนมาก แต่ดวงวิญญาณที่ถูกชักใยก็ยังพุ่งตรงเข้า ไปอย่างไร ้ความหวาดกลัว
แน่นอนว่าคนที่ตายไปแล้วย่อมไม่กลัวความตาย
ในขณะเดียวกันนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับการคานับจากมนุษย์ยักษ์ ของหวังจง องค์ชายเจี้ยนอวี่ก็สะบัดกระจกในมือของตนเองอีกครั้ง
เปรี๊ยะ!
เกิดรอยแตกร ้าวขึ้นบนกระจกอย่างไร ้ระเบียบ
ร่างขององค์ชายหนุ่มซวนเซ เส้นเลือดปูดขึ้นมาบนผิวหน้าของ เขา
แต่ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น กระจกทั้งบานก็สมานตัวกลับมา ราบเรียบดังเดิม
“เหอะ รู ้สึกเป็ นอย่างนี้เองสินะ”
องค์ชายเจี้ยนอวี่ระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความสะใจ “คนขุดสุสาน ท่านทาอะไรข้าไม่ได้หรอก หากท่านยังมีวิชาลับอื่น ๆ อยู่อีก ก็ได้ โปรดใช ้ออกมาให้หมด ข้าชื่นชมท่านเป็ นการส่วนตัวมานานแล้ว ข้าจะให้โอกาสท่านได้แสดงฝีมือให้เต็มที่”
หวังจงมีสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะถอยหลังกลับ และร่างกายเริ่ม เลือนราง
“ข้าคงปล่อยให้ท่านหนีไปไหนไม่ได้”
องค์ชายเจี้ยนอวี่ระเบิดเสียงหัวเราะ กระจกในมือสาดแสงเจิดจ้า ออกมาอีกครั้ง
ร่างกายที่พร่าเลือนของหวังจงพลันต้องหยุดชะงัก ส่วนดวง วิญญาณที่ถูกเขาชักใยก็โดนบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้เงาสังหารเกือบ หมดสิ้น
“ราชายมโลกค ำนับ”
ชายชรารีบโคจรพลัง โครงร่างของมนุษย์ยักษ์ที่ยืนอยู่ทางด้าน หลังมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ดวงตาของมนุษย์ยักษ์สาดแสงสว่างไม่ ต่างจากดวงตะวันบนท้องฟ้ ำ แล้วร่างกายขนาดใหญ่โตมโหฬารก็ท ำ การคานับองค์ชายเจี้ยนอวี่อีกครั้ง
กระจกเงินในมือขององค์ชายเจี้ยนอวี่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
แต่ทันใดนั้นเอง กระจกบานน้อยก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้ ำ ก่อนที่ กระจกจะขยายใหญ่จนมีขนาดเท่ากับตึกหลายสิบชั้นลอยตัวอยู่ เหนือศีรษะของผู้คน
แสงสีเงินส่องสว่าง
ตู้ม!
คลื่นพลังมหาศาลปะทะกันกลางอากาศ
เป็ นเสียงการปะทะกันระหว่างพลังของกระจกยักษ์กับพลังของ มนุษย์ยักษ์
หวังจงร ้องครางในลาคอ ก่อนเงาของมนุษย์ยักษ์ที่ยืนอยู่ ทางด้านหลังจะถูกระเบิดหายไปในพริบตา
แต่ถึงกระนั้น ชายชราก็ยังก้าวออกมาด้านหน้า หวังจงรวบรวม พลังอีกครั้ง ร่างมนุษย์ยักษ์ก็พลันกลับมารวมตัวกันดังเดิมอยู่ทาง ด้านหลังเขา แต่ครั้งนี้ เงาร่างของมนุษย์ยักษ์มีความหนาแน่นมาก ขึ้น อีกทั้งมันยังสวมใส่ชุดเกราะที่กาลังลุกเป็ นไฟอีกด้วย
องค์ชายเจี้ยนอวี่กล่าวออกมาด้วยความเคารพว่า “สมแล้วที่ ท่านมีต ำแหน่งเป็ นถึงบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้สายเลือดจอมเวทและเป็ น ราชายมโลกผู้ควบคุมความตาย”
หลังจากนั้น องค์ชายเจี้ยนอวี่ก็กล่าวต่อไปว่า “ครั้งหนึ่งองค์ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เคยกล่าวว่า วาสนาของท่านนั้นช่างอาภัพยิ่งนัก เป็ นถึงราชาแห่งยมโลก แต่กลับไม่ยอมใช ้ความสามารถของตนเอง ออกมาอย่างเต็มที่ หมายความว่าท่านได้ทาลายเส้นทางอันยิ่งใหญ่ ด้วยน้ามือของตนเอง ตอนนี้ ท่านไม่สามารถสู้ข้าได้อีกแล้ว คนขุด สุสาน หากท่านก้าวเดินออกมาข้างหน้าอีกก้าวเดียว นอกจากท่าน จะฆ่าข้าไม่ได้ ท่านยังจะท ำให้ตนเองต้องถึงแก่ความตายอย่างไร ้ แผ่นดินกลบฝังอีกด้วย”
หวังจงโค้งตัวลงอย่างไม่สะทกสะท้าน “ราชายมโลกค ำนับ!”
แล้วคลื่นพลังมหาศาลก็พุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ ำย
พรึ่บ!
ร่างขององค์ชายองค์ชายเจี้ยนอวี่ระเบิดแหลกในบัดดล
ม่านหมอกเลือดสาดกระจายไปทั่วท้องนภา
กระดูกกระเด็นไปรอบทิศทาง
หวังจงหมุนตัวกลับ หมายจะรีบไปขัดขวางบรรพบุรุษแห่งผู้ใช ้เงา
แต่พลังของกระจกยักษ์ยังคงอยู่ มันท ำให้ชายชราถูกตรึงอยู่กับ ที่
บนพื้นผิวของกระจกเป็ นประกายระยิบระยับ
องค์ชายหนุ่มเดินออกมาจากกระจกพร ้อมกับกล่าวว่า “ประเสริฐ การคานับของท่านเมื่อครบสามครั้งแล้ว ก็ท ำให้ร่างแยกของข้า ระเบิดได้จริง ๆ…นับเป็ นพลังทาลายล้างที่น่าเกรงขามยิ่งนัก ไม่ทราบ ว่าท่านยังสามารถคานับครั้งที่สี่ได้อีกหรือไม่?”
สีหน้าของหวังจงเคร่งเครียดเป็ นที่สุด
“บัดซบ…” ชายชราสบถออกมา
องค์ชายเจี้ยนอวี่ยืนตกตะลึงและหัวเราะในลาคอ “ท่านเอาชนะ ข้าไม่ได้ มีปัญญาเพียงสบถออกมาเท่านั้น ไม่ทราบว่าท่านน่าสม เพชรถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด…”
เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
“เขาไม่ได้สบถใส่เจ้าหรอก”
เสียงของสตรีนางหนึ่งดังขึ้นข้างหูขององค์ชายเจี้ยนอวี่
ชายหนุ่มชะงักกึก
เขาไม่ทันสังเกตเลยว่ามีผู้คนเข้ามาประชิดตัวตั้งแต่เมื่อใด
เมื่อหันกลับไปมอง
เขาก็ได้เห็นสตรีนางหนึ่งที่มีคลื่นพลังสีม่วงเข้มแผ่ออกมาจาก ร่างกาย ค่อย ๆ เดินออกมาจากความว่างเปล่า
นางมีเส้นผมยาวสีดาขลับ สวมใส่กระโปรงสั้นสีขาว คาดด้วย เกราะส่วนหน้าอก รองเท้าหนังหุ้มครึ่งแข้ง
โฉมสะคราญตรงหน้างามงดจนยากจะหาผู้ใดทัดเทียม
“เป็ นเจ้าเองหรือ?”
องค์ชายเจี้ยนอวี่หยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏขึ้น บนใบหน้า “ข้าควรรู ้ตั้งนานแล้วว่าเจ้าต้องปรากฏตัวออกมาอย่าง แน่นอน เจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิง เจ้ามาที่นี่เพื่อแก้แค้นองค์จักรพรรดิหรือจะ มาเป็ นศัตรูกับข้ากันแน่?”
“ฮ่า ๆๆๆ!”
เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงแค่นเสียงเย็น ก่อนจะกล่าวด้วยน้าเสียง เหยียดหยามว่า “แล้วมันต่างกันด้วยหรือ?