เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1985 การประลองคู่ที่สาม
ตอนที่ 1,985 การประลองคู่ที่สาม
ในที่สุด การประลองคู่ที่สามก็เริ่มต้นขึ้น
หลังจากที่การประลองสองคู่แรกจบลงอย่างรวดเร็ว บรรดาผู้ชมจึงคาดหวังว่าการประลองคู่ที่สามจะเป็นการประลองที่ดุเดือดเสียที
การประลองคู่นี้คงไม่จบลงอย่างรวดเร็วเหมือนสองคู่แรกใช่หรือไม่?
ยิ่งไปกว่านั้น การประลองคู่ที่สามยังเป็นการประลองที่สำคัญที่สุดในวันนี้ เพราะกองทัพเป่ยเฉินสามารถเอาชนะในการประลองสองคู่แรกได้สำเร็จ หากพวกเขาสามารถเอาชนะในการประลองคู่ที่สามได้อีกครั้ง กองทัพเป่ยเฉินก็จะเป็นฝ่ายประกาศชัยชนะโดยสมบูรณ์
นี่จึงสมควรเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเลือดพล่านยิ่งนัก
บัดนี้ สายตาของผู้คนจำนวนมากจับจ้องไปยังสตรีหน้ากากเงินด้วยความสงสัยใคร่รู้
นางเป็นใครกันแน่?
บนสังเวียนประลอง
ป่าเต๋อมีร่างกายที่ห่อหุ้มด้วยคลื่นพลังสีทอง แล้วในทันใดนั้น ขวานทองคำด้ามหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือของมัน ขวานทองคำระเบิดคลื่นพลังกดดันรุนแรงราวกับสามารถผ่าดาวเคราะห์ได้ทั้งใบในกระบวนท่าเดียว
“ขวานโลหิตพิโรธ!”
ป่าเต๋อจามขวานในมือโจมตีออกไปโดยไม่ลังเล
นี่คือขวานที่เคยทำลายดาวเคราะห์ใหญ่มาแล้ว
นี่คือขวานที่เคยสังหารจอมเทพอนันต์มาแล้ว
นี่คือขวานที่เคยดื่มเลือดของบรรดายอดฝีมือมานับไม่ถ้วน
ในฐานะผู้บัญชาการแห่งกองทัพอสูรโลหิต ป่าเต๋อจึงมีฉายาในสนามรบว่าจอมอสูรขวานทองคำและได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักรบอสูรที่มีความเก่งกาจมากที่สุดเท่าที่เผ่าพันธุ์อสูรโลหิตเคยมีมา
อีกทั้งมันยังเป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
ในเวลาเดียวกันนี้
จอมเทพอนันต์หญิงผู้สวมใส่หน้ากากเงินก็ระเบิดคลื่นพลังสีขาวนวลออกมาจากร่างกาย
ปีกกระบี่กางออก
นางไม่ต้องระเบิดเสียงคำรามชื่อกระบวนท่าของตนเองด้วยซ้ำ
นางเพียงแสดงฝีมือออกมาด้วยความเยือกเย็น
แล้วปีกกระบี่ก็ปลดปล่อยขนนกที่เป็นใบมีดออกมาข้างหน้าจำนวนมาก พวกมันรวมตัวกันเป็นรูปทรงกากบาทเข้ารับการโจมตีจากขวานทองคำด้วยความมั่นคงแข็งแรง
เคร้ง!
เสียงโลหะปะทะกันดังขึ้น
ขวานทองคำลอยกลับเข้าไปอยู่ในมือของป่าเต๋อ
มันไม่พูดไม่จา จากนั้นก็โจมตีกระบวนท่าที่สองออกมาโดยเร็ว
หลังจากนั้น ขวานทองคำในมือของป่าเต๋อก็พุ่งออกไปเป็นลำแสง ก่อนที่ขวานเพียงหนึ่งด้ามจะแยกตัวออกเป็นสองด้าม สามด้าม สี่ด้ามและเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง…
สุดท้าย บนท้องฟ้าเหนือสังเวียนประลองก็เต็มไปด้วยขวานทองคำเป็นประกายระยิบระยับที่กำลังแผ่พลังกดดันใส่จอมเทพอนันต์หญิง
นี่คือวิชาหมื่นขวานทองคำพิโรธ
เป็นท่าไม้ตายประจำตัวของป่าเต๋อ
และเป็นกระบวนท่าการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของมัน
เมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาถึงตอนนี้ บรรดาผู้รับชมการประลองก็รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก
มหัศจรรย์
นี่คือภาพที่มหัศจรรย์จริง ๆ
การต่อสู้ระหว่างจอมเทพอนันต์สมควรเป็นเช่นนี้เอง
เหมาะสมแล้วที่ป่าเต๋อจะได้ชื่อว่าเป็นยอดนักรบแห่งเผ่าอสูรโลหิต มันลงมือโจมตีด้วยความดุดันเกรี้ยวกราด ไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่คู่ต่อสู้แม้แต่น้อย
ในเวลาเดียวกันนี้
จอมเทพอนันต์หญิงหน้ากากเงินก็ยังคงรักษาความสงบเยือกเย็นเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง
นางกระพือปีกกระบี่บนแผ่นหลัง
ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ!
ขนนกที่เป็นใบมีดถูกปลดปล่อยออกไปบนท้องฟ้า พวกมันส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับไม่ต่างไปจากมหาสมุทรดวงดาว
แสงสว่างจากใบมีดเหล่านั้นทำให้ท้องฟ้าสว่างไสวในพริบตา
แล้วใบมีดของจอมเทพอนันต์หญิงก็ปะทะเข้ากับขวานทองคำของป่าเต๋อ
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
การระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทุก ๆ การปะทะกันจะทำให้มวลอากาศสั่นไหว
ไม่ทราบเลยว่าการปะทะกันครั้งนี้ทำให้ใบมีดและขวานทองคำต้องระเบิดกระจายไปเป็นจำนวนเท่าไหร่แล้ว
ในท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ภาพการระเบิดเหล่านั้นไม่ต่างจากการระเบิดของดวงดาว พวกมันสาดแสงเป็นประกายอย่างบ้าคลั่ง ดูสวยงามไม่ต่างกับมีผู้คนยิงดอกไม้ไฟในงานเทศกาล
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือภาพที่งดงามที่สุดนับตั้งแต่ที่การประลองในวันนี้เปิดฉากขึ้น
ผู้ชมต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริด
สังเวียนประลองในขณะนี้ปกคลุมด้วยพลังกดดันของจอมเทพอนันต์ทั้งสองคน
คมขวานและใบมีดยังคงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง การระเบิดยังคงเป็นดอกไม้ไฟบนท้องฟ้า นี่กลายเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก แม้แต่หลินเป่ยเฉินก็ยังไม่เคยพบเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน
นี่คือการต่อสู้ของจอมเทพอนันต์ที่แท้จริง
‘ถ้าเอาฉากนี้ไปทำเป็นการ์ตูนอนิเมชัน สงสัยคงต้องใช้งบในการสร้างสเปเชียล เอฟเฟกต์เยอะแน่ ๆ’
หลินเป่ยเฉินคิดอยู่ในใจ
ฮันปู้ฟู่กระซิบขึ้นมาว่า “ข้าเคยเห็นภาพเหล่านี้มาก่อน”
“ข้าไม่แปลกใจเลย ศิษย์พี่คงผ่านประสบการณ์มาไม่น้อยเลยนะขอรับ”
หลินเป่ยเฉินกล่าว
ฮันปู้ฟู่ตอบว่า “ไม่ใช่ ข้าหมายความว่ารูปแบบการต่อสู้ของจอมเทพอนันต์หญิงผู้นี้ ข้าเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน”
“อ้อ กระบวนท่าของนางเหมือนเทพีกระบี่ใช่ไหมขอรับ?”
หลินเป่ยเฉินถาม
ดวงตาของฮันปู้ฟู่เป็นประกายแวววาวขึ้นมาทันที “จริงด้วย เจ้าพูดถูก… แล้วสรุปนางมีตัวตนที่แท้จริงเป็นใครกันหรือ?”
หลินเป่ยเฉินเสียใจที่ตนเองหลุดปากพูดออกไป จึงได้แต่ตอบว่า “เอ่อ… เอาไว้ให้นางบอกท่านเองดีกว่าขอรับ”
ฮันซางเซียงจ้องมองฉากการต่อสู้อันงดงามตระการตา แล้วก็นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ไม่มีผู้ใดรู้เลยว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ ในดวงตาของนางเพียงสะท้อนการระเบิดของขวานทองคำและใบมีดสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนเท่านั้น…
ณ อีกฟากฝั่งหนึ่ง
ราชาหยกขาวที่อยู่บนเรือเหาะลำใหญ่ของเผ่าอสูรโลหิตกำลังยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
ป่าเต๋อไม่ทำให้เขาผิดหวังจริง ๆ
สมแล้วที่เป็นยอดนักรบของเผ่าอสูรโลหิต!
ตู้ม! ตู้ม!
การระเบิดของดอกไม้ไฟบนท้องฟ้ายังดำเนินไปสามสิบลมหายใจเต็ม ๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะยุติลง
ขวานทองคำลอยกลับไปอยู่ในมือของป่าเต๋อ
ใบมีดจำนวนมากก็ลอยกลับไปอยู่ในปีกกระบี่บนแผ่นหลังของจอมเทพอนันต์หญิงหน้ากากเงินอีกครั้ง
เมื่อสักครู่นี้ ทั้งสองฝ่ายต่างก็ระเบิดพลังออกมาอย่างเต็มอัตรา
บัดนี้ เขาและนางยืนหอบหายใจอยู่บนสังเวียน
สมแล้วที่เป็นการต่อสู้ของจอมเทพอนันต์
บรรดาผู้รับชมรู้สึกเลือดลมร้อนระอุและแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้ลุกขึ้นระเบิดเสียงคำราม
นี่คือการประลองที่แท้จริง
นี่คือการประลองที่ผู้คนรอคอย
แม้การประลองคู่นี้เพิ่งจะผ่านไปเพียงสองกระบวนท่า แต่ผู้ชมทุกคนก็รู้สึกคุ้มค่าตั๋วแล้ว