เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1952 ความรู้สึกผิด
ตอนที่ 1,952 ความรู้สึกผิด
ครึ่งชั่วยามต่อมา
“ฮื่อ นายท่าน ข้าไม่ไหวแล้ว ท่านกลับไปหาเฉียนเจินเถอะ”
เฉียนเหมยพูดด้วยความเหนื่อยล้าอ่อนแรง
หายใจแทบไม่ทัน
“นับจากนี้เป็นต้นไป เจ้าต้องคอยดูแลเฉียนเจินให้ดี”
หลินเป่ยเฉินจ้องมองใบหน้าที่เป็นสีแดงระเรื่อของเฉียนเหมยและปัดปอยผมออกไปจากข้างขมับของนาง
“แต่ข้าก็ดูแลเฉียนเจินมาตลอดอยู่แล้วนะ”
เฉียนเหมยยกมือเช็ดริมฝีปาก หอบหายใจ พึมพำตอบกลับไปว่า “เป็นท่านนั่นแหละที่คอยข่มเหงรังแกเฉียนเจินมากกว่า”
หลินเป่ยเฉินหันไปมองที่เฉียนเจินและหันกลับมากล่าวต่อเฉียนเหมยอีกครั้ง “ข้าจะบอกความลับให้เจ้าฟัง”
“ความลับอันใดหรือเจ้าคะ?”
เฉียนเหมยถามด้วยดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ
เพราะนางไม่เคยได้รับรู้ความลับของหลินเป่ยเฉินมาก่อน
“เฉียนเจินมีสิ่งนั้นแล้ว”
“มีสิ่งนั้น? มีสิ่งใดหรือ?”
“เจ้าลองเดาดูสิ?”
“มีทรัพย์สินเงินทอง?”
“เฮ้อ… นางมีลูกต่างหาก”
“หืม? เฉียนเจินรับเด็กมาเลี้ยงตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ?”
“ไม่ใช่ นางมีด้วยตนเอง”
“นางไปเก็บเด็กมาจากข้างทางด้วยตนเองหรือเจ้าคะ?”
เพียะ!
หลินเป่ยเฉินทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงตบศีรษะสาวรับใช้จอมห้าวไปหนึ่งที “ลูกของนางเอง เฉียนเจินกำลังตั้งครรภ์”
“หา ตั้งครรภ์? ตั้งครรภ์กับผู้ใด?”
เฉียนเหมยยังคงสับสนและไม่เข้าใจ
หลินเป่ยเฉินรู้สึกอยากจะไล่นางออกไปจากห้องพักขึ้นมาทันที
แต่หลังจากนั้น เฉียนเหมยก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เฉียนเหมยเบิกตาโตด้วยความตะลึงงัน ก่อนจะร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น “หมายความว่านายท่านมีลูกกับเฉียนเจินหรือเจ้าคะ? ฮ่า ๆๆ นี่เป็นความจริงใช่หรือไม่? ข้ากำลังจะได้เป็นป้าคนแล้วอย่างนั้นหรือ? ฮ่า ๆๆ…”
เฉียนเหมยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจและเตะผ้าห่มออกจากตัว
บรรยากาศสดใส
เฉียนเจินที่นั่งอยู่ด้านข้างยิ้มออกมาด้วยความอ่อนโยน
เฉียนเหมยรีบวิ่งเข้าไปหานางและแนบหูลงกับหน้าท้องของเฉียนเจินพร้อมกับกล่าวว่า “ขอข้าฟังหน่อยสิ ข้าจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นหรือไม่?”
“จะได้ยินได้อย่างไร? ตอนนี้ทารกในครรภ์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลยด้วยซ้ำ”
หลินเป่ยเฉินอาศัยความรู้ขั้นพื้นฐานจากชีวิตในชาติภพที่แล้วกล่าวออกไป “ต้องใช้เวลาอีกประมาณสี่เดือนนั่นแหละกว่าเจ้าจะได้ยินเสียงหัวใจทารกเต้น…”
เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
“ได้ยินแล้ว ข้าได้ยินแล้ว มีเสียงหัวใจเต้นจริง ๆ ด้วย”
เฉียนเหมยตะโกนเสียงดัง “ข้าน้อยได้ยินเสียงหัวใจทารกเต้น”
สีหน้าของหลินเป่ยเฉินแปรเปลี่ยนไปทันที
ไม่มีทาง
เขารีบนำหูไปแนบลงกับหน้าท้องของเฉียนเจินและตั้งใจรับฟัง
ตึกตัก!
ตึกตัก!
ตึกตัก!
มีเสียงหัวใจเต้นจริงด้วย!
จังหวะการเต้นของหัวใจเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ
เรื่องนี้…
ทำไมถึงโตเร็วขนาดนี้?
หลินเป่ยเฉินเบิกตาโตด้วยความตกใจ
เพราะนี่มันไม่น่าเป็นไปได้
เขาลองโคจรพลังปราณเพื่อสำรวจดูภาพจำลองในร่างกายของเฉียนเจินอีกครั้ง เมื่อเทียบกับภาพจำลองที่ตรวจดูเมื่อสองชั่วยามก่อน หลินเป่ยเฉินก็พบว่าก้อนพลังงานนั้นมีขนาดใหญ่มากกว่าเดิมถึงสามเท่า
โตเร็วขนาดนี้เชียวหรือ?
หลินเป่ยเฉินถึงกับชะงักกึกด้วยความเหลือเชื่อ
สิ่งที่อยู่ในท้องเฉียนเจินคงไม่ใช่สัตว์ประหลาดหรอกใช่ไหม?
นี่มันเติบโตเร็วเกินไปแล้ว
จะมีอะไรผิดปกติหรือเปล่านะ?
เมื่อเห็นสีหน้าของหลินเป่ยเฉิน เฉียนเจินก็รีบถามด้วยความเป็นกังวลว่า “มีอะไรหรือเจ้าคะ?”
“ไม่มีอะไรหรอก ลูกของเราแข็งแรงมากเกินไป ข้ากลัวว่าเจ้าจะลำบากเอาน่ะ”
หลินเป่ยเฉินจูบหน้าผากเฉียนเจินอีกครั้ง
“ฮื่อ ข้ากำลังจะได้เป็นป้าคนแล้ว…”
เฉียนเหมยตื่นเต้นยิ่งกว่าผู้ใด ทันใดนั้น นางก็กระโจนเข้ามาหาหลินเป่ยเฉินและกดเขาลงไปบนเตียงจากนั้นจึงกล่าวว่า “นายท่าน พวกเรามาสู้กันต่อเถอะ… ข้าเองก็อยากจะเป็นแม่คนเหมือนกัน ข้าอยากจะมีลูกพร้อมกับเฉียนเจิน ข้าอิจฉานางแล้ว…”
เฉียนเหมยตกอยู่ในอาการหื่นกระหายขึ้นมาในพริบตา
…
“คุณชายอวี้เหวินยังไม่ออกมาอีกหรือ?”
ฮันซางเซียงกลับมาที่หน้าห้องเก็บตัวของอวี้เหวินซิวเซียนอีกครั้งด้วยสีหน้าเป็นกังวลและแววตาที่รู้สึกผิดมากกว่าเดิม
ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา กองทัพของนางร่วมมือกับเซียวปิง อากวง สุยหลิวกวงและคนอื่น ๆ ออกลาดตระเวนทั่วเขตแดนตะวันตกเฉียงใต้ของอาณาจักรเหนียนเซียงและจัดการปราบปรามกลุ่มกองกำลังอสูรโลหิตให้สิ้นซากเพื่อทำให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของฝ่ายตนเองอย่างแน่นอน
นี่เรียกว่าพวกเขาได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ
ฮันซางเซียงทำภารกิจที่ตนเองได้รับมอบหมายมาก่อนหน้านี้สำเร็จแล้ว
โดยมีบรรดายอดฝีมือจากเรือเหาะเซียนกระบี่อมตะเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ
โดยเฉพาะการลงมือของอวี้เหวินซิวเอ๋อ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงอย่างง่ายดาย
แม้ว่าน้องชายของอวี้เหวินซิวเซียนจะไม่พูดไม่คุยกับผู้ใดเลย แต่เขาก็ระเบิดพลังที่ทำให้ผู้คนต้องยอมสยบอย่างง่ายดาย แม้แต่หอกไร้พ่ายในมือของฮันซางเซียงก็ดูเหมือนจะกลายเป็นเพียงอาวุธธรรมดาสามัญเท่านั้น
เรื่องราวลงเอยเช่นนี้ได้อย่างไร?
คำตอบนั้นมีเพียงอย่างเดียว
ทุกอย่างเป็นเพราะ ‘อวี้เหวินซิวเซียน’
อวี้เหวินซิวเซียนถ่ายทอดคำสั่งให้ผู้ติดตามของตนเองร่วมมือกับกองทัพของฮันซางเซียงแต่โดยดี ก่อนที่เขาจะเข้าไปเก็บตัวรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ในห้อง
ฮันซางเซียงไม่เคยคิดฝันเลยว่าตนเองจะได้บังคับบัญชากองกำลังที่มีจอมเทพอนันต์เป็นสมาชิก
ชัยชนะในการสู้รบอย่างสวยงามที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้นางรู้สึกผิดต่ออวี้เหวินซิวเซียนมากกว่าเดิมหลายเท่า
ฮันซางเซียงจำได้ดีถึงตอนที่ตนเองฟื้นตื่นขึ้นมา และพบเห็นอวี้เหวินซิวเซียนยืนอยู่ข้างหน้าต่างด้วยท่าทางเหนื่อยล้า เขายังคงส่งยิ้มให้นางแม้จะถูกนางขับไล่อย่างดุร้าย…
นั่นคือภาพที่คอยตอกย้ำอยู่ในจิตใจของฮันซางเซียงตลอดเวลา
เป็นภาพที่มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ดังนั้น นางจึงแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้พบกับเขา
แต่นี่นับเป็นครั้งที่สิบแล้วที่ฮันซางเซียงกลับมายังห้องเก็บตัวของอวี้เหวินซิวเซียน และได้รับคำตอบว่าเขายังคงรักษาอาการบาดเจ็บไม่เสร็จสิ้น
เป็นกังวล สับสน ละอายใจ…
นั่นคือความรู้สึกทั้งมวลในหัวใจของฮันซางเซียงขณะนี้ หัวใจที่เคยด้านชาของท่านแม่ทัพหญิงได้หลอมละลายลงแล้วโดยไม่รู้ตัว
หวังเฟิงหลิวยืนอยู่หน้าประตูห้องเก็บตัวของหลินเป่ยเฉิน เขาจึงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้า และอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ในแผนการอันฉลาดล้ำของนายท่าน เพียงระยะเวลาไม่กี่วันเท่านั้น นายท่านก็สามารถคว้าหัวใจแม่ทัพหญิงคนสำคัญของกองทัพเป่ยเฉินได้สำเร็จ โดยที่หวังเฟิงหลิวไม่ทราบด้วยซ้ำว่านายท่านสามารถทำได้อย่างไร
มิหนำซ้ำ นายท่านยังมีน้องชายที่อยู่ในขั้นจอมเทพอนันต์คอยรับใช้อยู่อีกด้วย
เรื่องราวเช่นนี้ยังจะมีผู้อื่นสามารถกระทำได้อีกหรือ?
“ขออภัยด้วยขอรับท่านแม่ทัพฮัน ครั้งนี้นายท่านของข้าได้รับบาดเจ็บรุนแรง เกรงว่าคงต้องใช้เวลาพักฟื้นไม่น้อย”
หวังเฟิงหลิวลอบถอนหายใจและกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเยือกเย็น