เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 1946 ตอบแทนบุญคุณ
ตอนที่ 1,946 ตอบแทนบุญคุณ
การฆ่าฟัน
การต่อสู้
ความตาย
การนองเลือด
คนรู้จักที่เสียชีวิตในการต่อสู้
ศัตรูที่แข็งแกร่งล้มลงตายท่ามกลางกองเลือด
หอกไร้พ่ายโบกสะบัด ศัตรูผู้ร้ายกาจหลบหนีไปได้
วังวนที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
ฮันซางเซียงไม่เคยรู้สึกเหนื่อยล้ามากเท่านี้มาก่อน นางควงหอกคู่กายฆ่าฟันศัตรูอย่างต่อเนื่อง
นางติดตามร่างของท่านผู้นั้นและพยายามบุกทะลวงฝ่าความมืดมิดของเส้นทางดาราจักรเพื่อสร้างอนาคตที่สดใส
เพียงเท่านั้นเอง…
ฮันซางเซียงไม่ทราบเลยว่าผ่านมานานเพียงใดแล้ว
“ย้ากกก... ฆ่ามัน!”
ฮันซางเซียงพลันร้องตะโกนพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง
หอบหายใจ เหงื่อไหลหยดลงมาจากหน้าผาก...
นางต้องใช้เวลาตั้งสติครู่ใหญ่ทีเดียวกว่าจะรู้ว่าตนเองกำลังสวมชุดนอนนั่งอยู่บนเตียงนอนที่ไม่รู้จักและร่างกายของนางนั้นก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและสะดวกสบาย
ที่นี่คือที่ไหน?
ฮันซางเซียงมองรอบกายด้วยความมึนงง
ดวงตาพร่าเลือน
มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงภาพเลือนรางเท่านั้น
“ฝันร้ายหรือ?”
เสียงที่ไม่คุ้นหูดังขึ้น
เป็นเสียงของบุรุษ
เหตุใดจึงมีบุรุษอยู่ข้างเตียงนาง?
ฮันซางเซียงตื่นตกใจ ขนลุกไปทั้งร่างกาย
“เจ้าเป็นใคร?”
นางหมุนตัวกระโดดลงจากเตียง มวลอากาศปั่นป่วน ตั้งท่าเตรียมพร้อมต่อสู้
บัดนี้ นางเห็นเพียงองครักษ์หญิงที่นางเชื่อใจมากที่สุดสองคนคอยเฝ้าอยู่ข้างเตียง
และเสียงของคนแปลกหน้าก็ดังมาจากข้างหน้าต่าง
เป็นเด็กหนุ่มผู้นั้นเอง
“เจ้าเข้ามาอยู่ในห้องของข้าได้อย่างไร? ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้”
แม้ว่าฮันซางเซียงจะเป็นแม่ทัพที่ควบคุมทหารทั้งชายและหญิงจำนวนมาก แต่นางไม่เคยพบประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน บัดนี้ นางกำลังสวมชุดนอนบางเบา และเมื่อเห็นสายตาของเด็กหนุ่มที่จ้องมองมา สัญชาตญาณความเป็นสตรีของฮันซางเซียงก็แสดงออกถึงความตื่นตระหนก นั่นจึงทำให้นางส่งเสียงตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ดูเหมือนจะฟื้นตัวดีแล้วสินะ”
หลินเป่ยเฉินหันกลับมาด้วยใบหน้าซีดขาวที่มีเม็ดเหงื่อเกาะพราว ลมหายใจแผ่วเบา ยิ้มฝืดฝืนเมื่อได้ยินคำพูดของฮันซางเซียง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปในที่สุด
ห้องพักตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
ความตึงเครียดของฮันซางเซียงสลายหายไป
ทันใดนั้น นางก็พบว่าอาการบาดเจ็บของตนเองที่เกิดขึ้นจากกระบวนท่าฝ่ามือแยกนภาของสวีหลิงซูนั้นหายดีแล้ว… ไม่เพียงแต่หายดี แต่ฮันซางเซียงกลับรู้สึกแข็งแกร่งมากขึ้นด้วยซ้ำ เลือดลมและพลังปราณในร่างกายไหลเวียนอย่างสะดวกและมีสัญญาณที่บอกชัดว่านางกำลังจะเลื่อนขั้นพลังเป็นจอมเทพจักราระดับ 6 ได้สำเร็จ
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ข้าสลบไปนานเพียงใด?”
ฮันซางเซียงใส่เสื้อคลุมสีดำและนำชุดเกราะออกมาสวมทับอีกชั้น ทำให้นางรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
นางนึกเป็นห่วงสถานการณ์การรบของอาณาจักรเหนียนเซียงขึ้นมาทันที
“กราบเรียนท่านแม่ทัพ ท่านสลบไปเพียงชั่วเวลาหนึ่งก้านธูปเท่านั้นเจ้าค่ะ”
องครักษ์หญิงไป๋หลิวซูรีบรายงานอย่างรวดเร็ว
สลบไปเพียงหนึ่งก้านธูปเท่านั้นหรือ?
ฮันซางเซียงรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ชั่วเวลาเพียงก้านธูปเดียว นางก็หายจากอาการบาดเจ็บสาหัสแล้ว?
เป็นไปได้อย่างไร?
ต่อให้เป็นสมุนไพรวิเศษที่มีสรรพคุณในการรักษาอาการบาดเจ็บยอดเยี่ยมที่สุดก็ยังไม่สามารถรักษานางได้หายเร็วถึงเพียงนี้
หรือว่า…
มีอีกหนึ่งความเป็นไปได้ปรากฏขึ้นในห้วงคิดของฮันซางเซียง
“ผู้ใดเป็นคนรักษาข้า? เขาอยู่ที่ใดแล้ว?”
ฮันซางเซียงรีบถาม
“กราบเรียนท่านแม่ทัพ ที่นี่คือห้องนอนของผู้บัญชาการเรือเหาะเซียนกระบี่อมตะเจ้าค่ะ” หลิวหรู่เยว่หนึ่งในสององค์รักษ์หญิงกล่าวตอบ “และผู้ที่รักษาอาการบาดเจ็บของท่าน… ก็คือคุณชายอวี้เหวินเจ้าค่ะ เขาให้ท่านรับประทานโอสถวิเศษและใช้พลังปราณรักษาอาการบาดเจ็บให้แก่ท่านด้วยตนเอง ท่านแม่ทัพจึงสามารถฟื้นตัวเร็วเช่นนี้เอง”
“เขารักษาอาการบาดเจ็บให้ข้าอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อฮันซางเซียงนึกถึงเสื้อผ้าของตนเองที่ถูกผลัดเปลี่ยน เสียงของนางก็สั่นเครือขึ้นมาเล็กน้อย
องครักษ์หญิงไป๋หลิวซูพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงรีบอธิบายว่า “กราบเรียนท่านแม่ทัพ การรักษาเกิดขึ้นผ่านฉากกั้น… ส่วนเสื้อผ้าของท่านนั้น เป็นพวกเราสองคนช่วยกันผลัดเปลี่ยนเจ้าค่ะ”
“ในเมื่อรักษาผ่านฉากกั้น แล้วจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทำไม?”
ฮันซางเซียงไม่ใช่ผู้ที่จะสามารถหลอกลวงได้ง่าย ๆ นางจึงพบความพิรุธอย่างรวดเร็ว
“คือว่า… คุณชายอวี้เหวินซิวเซียนบอกว่ายิ่งใช้เสื้อผ้าที่สะอาดมากเท่าไหร่ อาการบาดเจ็บก็ยิ่งฟื้นตัวเร็วมากเท่านั้นเจ้าค่ะ”
องครักษ์หญิงไป๋หลิวซูก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิดและกล่าวว่า “ตอนนั้นอาการของท่านแม่ทัพหนักมาก แม้แต่หมอยาของพวกเราก็ไม่สามารถรักษาได้ หรือถึงจะช่วยชีวิตท่านแม่ทัพได้ แต่ท่านแม่ทัพก็จะได้รับผลข้างเคียงอย่างหนักในอนาคต ยากที่จะฟื้นคืนกลับมาเป็นเช่นเดิมได้อีก... ดังนั้น พวกเราจึงตัดสินใจให้คุณชายอวี้เหวินช่วยรักษาท่านแม่ทัพแทน… ท่านแม่ทัพได้โปรดลงโทษข้าน้อยสองคนเถอะเจ้าค่ะ”
องครักษ์หญิงทั้งสองคนรีบคุกเข่าลงบนพื้นทันที
ฮันซางเซียงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “ลุกขึ้นเถอะ ข้าไม่โทษพวกเจ้าหรอก”
องครักษ์หญิงทั้งสองนางนั้นถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
ไม่มีทาง?!
ผู้ใดบ้างจะสามารถปฏิเสธข้อเสนอของบุรุษที่หล่อเหลาเช่นนั้นได้?
อีกอย่าง นี่เป็นการตัดสินใจเพื่อช่วยชีวิตท่านแม่ทัพเองนี่นา
ฮันซางเซียงเดินตรงไปที่หน้าต่างช้า ๆ ห้องพักพลันตกอยู่ในความเงียบ แต่นางก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าตนเองเป็นหนี้บุญคุณเด็กหนุ่มผู้นั้นอีกแล้ว
ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยาม นางเป็นหนี้บุญคุณคุณชายอวี้เหวินซิวเซียนถึงสองครั้งสองครา
แล้วนางจะตอบแทนบุญคุณเขาอย่างไร?
หรือว่าจะต้องใช้เรือนร่างตอบแทนบุญคุณจริง ๆ?
เมื่อนึกถึงใบหน้าอันหล่อเหลาที่ซีดขาวของอวี้เหวินซิวเซียนซึ่งบ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าระหว่างที่ออกไปจากห้องพัก ฮันซางเซียงก็ตระหนักอย่างชัดเจนว่าอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการโจมตีของจอมเทพอนันต์นั้นคงไม่สามารถรักษาได้ง่าย ๆ โดยเด็ดขาด
นางรู้สึกเสียใจ
เขาอุตส่าห์พยายามช่วยชีวิตนาง แต่ว่านาง…
ไม่ทราบเลยว่าคุณชายอวี้เหวินซิวเซียนจะเสียใจเพียงใด?
นางสมควรไปขอโทษเขาดีหรือไม่?
ฮันซางเซียงเคยตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ในสนามรบได้อย่างเด็ดขาดและฉับไว แต่บัดนี้ นางกลับเกิดความลังเลใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
…
ในเวลาเดียวกันนี้
ในห้องพักอีกห้องหนึ่งของเรือเหาะเซียนกระบี่อมตะ
หลินเป่ยเฉินเช็ดเหงื่อบนใบหน้าออกไป ไหนเลยจะมีท่าทางเหนื่อยล้าอ่อนแรงให้เห็นอีก?
การรักษาที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าให้ฮันซางเซียงรับประทานยาบำรุงกำลัง
นั่นเป็นยาบำรุงกำลังชนิดเดียวกับที่เขาให้กงซานอิ๋งเฉวี่ยนรับประทาน และมันก็สามารถรักษาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการโจมตีของผู้ที่อยู่ในขั้นจอมเทพอนันต์ได้จริง ๆ!