cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

เคล็ดมารสยบภพ - ตอนที่ 9 งูธารา

  1. Home
  2. All Mangas
  3. เคล็ดมารสยบภพ
  4. ตอนที่ 9 งูธารา
Prev
Next

เมื่อกลับไปถึงตำหนักมารอีกครั้ง เฉินเสวี่ยก็ดึงร่างของสัตว์อสูรเพศหญิงที่บาดเจ็บออกมาจากแหวนมิติของตน รีบใช้ปลอกคอและปลอกข้อมือข้อเท้าที่ทำจากโลหะสำหรับสะกดพลังยุทธ์ของสัตว์อสูรที่ตนเตรียมไว้ล่ามนางเอาไว้กับเตียงอีกเตียงที่ตนยกมาวางไว้ในห้องอาบน้ำ แล้วเร่งทำการรักษาบาดแผลให้นางโดยไว เขาพบว่าสัตว์อสูรตนนี้เป็นสัตว์อสูรงูธาราระดับ 10 ร่างมนุษย์ของนางดูคล้ายหญิงสาวอายุประมาณ 18 ปี ใบหน้าสวยหวาน ผิวขาวผุดผ่อง เส้นผมเป็นสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ ผิวหนังบริเวณแขนและขาบางส่วนยังคงมีลายเกล็ดงูสีฟ้าน้ำทะเลแต่เกล็ดงูเหล่านั้นไม่อาจบั่นทอนความงามโดยรวมของนางลงได้แม้แต่น้อย เทียบกับมนุษย์ในวัยเดียวกันนางจัดว่ามีความสูงระดับปานกลาง รูปร่างของนางอวบอัดกลมกลึงไปทุกส่วนแต่ดูไม่อ้วน ตรงช่องท้องและต้นขาของนางถูกคมเขี้ยวของสัตว์อสูรตะขาบยักษ์กัดขาดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เลือดสีแดงเข้มไหลทะลักออกมาจากบาดแผลเหล่านั้นตลอดเวลา บัดนี้นางจึงนอนหายใจรวยรินพร้อมที่จะตายได้ทุกเมื่อ เฉินเสวี่ยยังไม่มีเวลาศึกษาตำราเกี่ยวกับการแพทย์ที่เก็บอยู่ในห้องหนังสืออย่างละเอียด ได้แต่เข้าไปค้นในห้องเก็บยาของตำหนักมาร หยิบเอายาห้ามเลือดมาโรยบนบาดแผลให้นาง และยัดยาลูกกลอนสำหรับผู้บาดเจ็บหนักให้นางกลืนลงไปเม็ดหนึ่ง พอพบว่าเลือดของนางหยุดไหลแล้ว เขาก็จัดการทำความสะอาดบาดแผลและพันผ้าพันแผลให้นางอย่างเก้ๆ กังๆ ตัวเขาเองก็ไม่เคยรักษาบาดแผลแบบนี้ให้ใครมาก่อน แถมนางก็ตัวสูงกว่าเขาด้วย กว่าจะพันผ้าพันแผลได้แต่ละรอบเขาจึงต้องสิ้นเปลืองแรกกายไปไม่น้อย เมื่อทำแผลเสร็จเขาก็พบว่านางได้หลับไปแล้วเพราะฤทธิ์ยา

เฉินเสวี่ยปาดเหงื่อแล้วนั่งพักครู่ใหญ่ จ้องมองดูร่างที่นอนสงบอยู่บนเตียง ได้แต่หวังว่าสัตว์อสูรที่บาดเจ็บหนักตนนี้จะรอดชีวิต หากเป็นมนุษย์ปกติ ลองได้บาดเจ็บหนักขนาดนี้คงจะตายไปนานแล้ว ดีที่นางเป็นสัตว์อสูรประเภทงูที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรสายพันธุ์อื่นๆ จึงอดทนมีชีวิตต่อมาได้นานจนเขากลับมาเจอ

เฉินเสวี่ยถอนหายใจคราหนึ่ง แล้วเดินลงไปแช่ตัวในสระเพื่อเริ่มดูดซับพลังปราณธรรมชาติอีกครั้ง มาถึงตอนนี้ เขาใช้เวลาดูดซับพลังปราณธรรมชาติเพียงเจ็ดวันเขาก็สามารถจะเลื่อนขั้นได้ดาวหนึ่งแล้ว แต่จิ้งจอกมายาบรรพกาลกลับจำเป็นต้องใช้เวลาถึงสิบแปดวันในการฟื้นตัวหลังจากรับกากพลังปราณของเขาไป เฉินเสวี่ยรู้สึกหงุดหงิดและขัดใจมากที่ตนไม่อาจทำอันใดได้นอกจากรอ เขาจึงใช้เวลาในการรอให้เป็นประโยชน์ด้วยการฝึกทักษะยุทธ์ชั้นฟ้าเคล็ดหนึ่งที่ชื่อว่าเคล็ดพายุเข็มน้ำแข็งสลับกับการศึกษาตำราแพทย์เพื่อนำไปใช้รักษาอาการบาดเจ็บให้สัตว์อสูรงูธารา

หลายวันผ่านไปสัตว์อสูรงูธาราก็ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เฉินเสวี่ยพบว่าดวงตาของนางเป็นสีน้ำเงินสดและใสแจ๋วเหมือนแก้วผลึก ทำให้เขารู้สึกชอบดวงตาคู่นี้ขึ้นมาในทันที นางกะพริบดวงตาที่ล้อมกรอบด้วยแพขนตายาวงอนมองเขาด้วยสีหน้างุนงง คงจะจำไม่ได้แล้วว่าตนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

“เจ้าเป็นใคร ที่นี่คือที่ไหน” นางกวาดตามองไปรอบๆ ตัวแล้วถามออกมาด้วยเสียงแหบแห้งไร้เรี่ยวแรง

“ข้าพบเจ้าบาดเจ็บอยู่ในกับดักจึงพาเจ้ามารักษาที่บ้านของข้า” เฉินเสวี่ยตอบนางตามความจริง แต่เป็นความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น

ดวงตากลมโตฉ่ำน้ำของนางกะพริบตาปริบๆ เหมือนจะพยายามเรียกความทรงจำที่หายไปบางส่วนกลับคืนมา ศีรษะของนางก็พลันปวดหนึบจนต้องยกมือขึ้นมาหมายจะนวดขมับ แต่แล้วนางก็พบว่าข้อมือข้อเท้าของตนถูกโซ่ล่ามเอาไว้ ใบหน้าสวยหวานตื่นตระหนกขึ้นมาทันที นางหันขวับมาจ้องมองเฉินเสวี่ยด้วยสายตาหวาดระแวง

“เจ้าเด็กบัดซบ! เจ้าทำอะไรกับร่างของข้า ทำไมข้าจึงรู้สึกไร้พลังยุทธ์เช่นนี้ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ” นางถลึงตาจ้องหน้าเฉินเสวี่ยอย่างเอาเรื่อง

เฉินเสวี่ยเพียงส่งยิ้มน้อยๆ ให้กับนางและตบแก้มของนางเบาๆ

“คงจะไม่ได้หรอก หากปล่อยเจ้าไปง่ายๆ แล้วข้าจะต้องเสียเวลาวางกับดักเพื่อจับเจ้ามาทำไมกันเล่า ฮะๆ ๆ เอาล่ะ ในเมื่อเจ้ารู้สึกตัวแล้ว ก็กินยานี่เข้าไปอีกสักเม็ดด้วยตนเองเถอะ จะได้หายจากการบาดเจ็บโดยเร็ว ข้าขี้เกียจจะเสียเวลาเอามันมาบดผสมน้ำแล้วจับกรอกปากเจ้าแบบที่ผ่านๆ มาแล้ว” เฉินเสวี่ยกล่าวเสร็จก็ยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าไปในปากนาง พอเห็นว่านางทำท่าจะพ่นมันออกมา เขาก็ก้มหน้าลงไปประกบจูบแล้วแทรกลิ้นของตนเข้าไปในปากของนาง บังคับให้นางกลืนยาเม็ดนั้นลงไปได้ในที่สุด เขาหรี่ตาเมื่อลิ้นของตนถูกนางใช้ฟันคมๆ กัดจนได้เลือด พอถอนลิ้นกลับคืนมาก็เลยลงโทษด้วยการกัดริมฝีปากอิ่มเต็มของนางจนเลือกออกคืนบ้าง

นางเจ็บจนน้ำตาคลอ สบถด่าในภาษางูของนางยาวเหยียด แต่เฉินเสวี่ยไม่ได้สนใจ เขาผละจากนางแล้วเดินไปดูสภาพร่างกายของจิ้งจอกมายาบรรพกาลที่นอนอยู่บนเตียงข้างๆ กัน กะเวลาคร่าวๆ ว่าอีกไม่เกินสองวัน จิ้งจอกตนนี้ก็น่าจะมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์พร้อมจะรองรับกากพลังปราณของเขาได้แล้ว เขาจึงกลับไปทำการดูดซับพลังปราณในสระต่ออีกครั้ง อย่างน้อยก่อนที่ตนจะกลับออกไปยังโลกภายนอกครั้งหน้า ตนก็ควรจะได้บรรลุระดับรวบรวมลมปราณ 6 ดาวเสียก่อน

สามวันหลังจากนั้น เฉินเสวี่ยก็บรรลุถึงระดับขั้นรวบรวมลมปราณ 6 ดาวได้ตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ หลังจากนั้นสองสามวันที่เหลือก่อนจะกลายร่างเป็นหญิง เฉินเสวี่ยก็ใช้เวลาไปกับการดูแลรักษาบาดแผลของงูธาราและการศึกษาตำราแพทย์

เมื่อกลับออกมายังโลกภายนอกอีกครั้ง เฉินเสวี่ยเปิดประตูห้องออกไปทักทายสาวใช้ของตนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หรูอี้เห็นเจ้านายของตนเปิดประตูออกมาก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

“อ๊ะ คุณหนู ในที่สุดท่านก็ออกจากการกักตัวฝึกวิชาเสียที เอ๋ ดูเหมือนว่าท่านจะตัวสูงขึ้นเร็วมากเลยนะเจ้าคะ เห็นทีเสื้อผ้าที่ข้าตัดเอาไว้ให้ท่านคงจะสั้นจนใส่ไม่พอดีตัวเสียแล้ว” หรูอี้ทำหน้าม่อย ไม่คิดว่าเพียงแค่ครึ่งเดือน เจ้านายของตนจะสูงขึ้นมาได้มากขนาดนี้ คราวหน้านางคงจะต้องตัดชุดเผื่อโตให้คุณหนูมากกว่านี้สักหน่อย

“ไม่เป็นไร เจ้ามีเวลาก็ค่อยๆ แก้ขนาดชุดเหล่านั้นให้ข้าก็แล้วกัน วันนี้พวกเราออกไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ในตลาดใส่กันก่อนก็ได้ ไปกันเถอะ” หลังจากเฉินเสวี่ยกลายร่างมาเป็นผู้หญิงหลายๆ ครั้งเข้า นางก็เริ่มจะคุ้นเคยกับร่างผู้หญิงของตนมากขึ้น ตอนนี้จึงแทบจะไม่ตะขิดตะขวงใจยามอยู่ในร่างนี้สักเท่าไหร่แล้ว หลังจากฝึกวิชามาได้เดือนหนึ่งในแหวน นางก็รู้สึกอยากจะออกไปเดินเล่นในตลาดเพื่อสืบข่าวเกี่ยวกับศัตรูของตนอีกครั้ง

จำได้ว่า ในวันนั้นฮ่องเต้เค้นถามบิดาของนางถึงชิ้นส่วนแผนที่สมบัติจักรพรรดิอะไรสักอย่าง แต่บิดานางปฏิเสธว่าไม่มีและไม่รู้จักแผนที่อะไรที่ว่านั่น ครอบครัวของนางจึงได้ถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหด นางอยากรู้นักว่าจู่ๆ ทำไมฮ่องเต้จึงเกิดจะถามหาสิ่งของที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเช่นนี้ และใครเป็นคนปล่อยข่าวลือจอมปลอมว่าของชิ้นนี้อยู่ในมือของบิดานางกันแน่

เฉินเสวี่ยเดินเลือกเสื้อผ้าในร้านขายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงไปพลางครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ไปพลาง จึงไม่ทันสังเกตเห็นผู้ที่เดินเข้ามาใกล้ตน จู่ๆ ร่างเล็กของนางก็ถูกวงแขนแข็งแกร่งคู่หนึ่งสวมกอดจากด้านหลังแล้วอุ้มขึ้นจนตัวลอยสูงจากพื้น นางตกใจจนสะดุ้งโหยง

“ฮะๆ ๆ ในที่สุด ข้าก็จับเจ้าได้เสียที เยว่เอ๋อร์…” เสียงนุ่มทุ้มอารมณ์ดีกล่าวทักทายมาจากเจ้าของอ้อมแขนที่เบื้องหลัง เฉินเสวี่ยไม่ต้องหันไปมองก็พอจะเดาได้ว่าผู้ที่อุ้มตนขึ้นมาเป็นใคร เพราะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้จักนางในชื่อเฮยเยว่ นางยังไม่ทันจะได้โวยวายเรื่องที่ตนถูกอุ้มขึ้นมา สาวใช้ของนางก็ตวาดเสียงเขียวขึ้นมาก่อน

“ท่านเป็นใคร ปล่อยคุณหนูของข้าลงเดี๋ยวนี้นะ” หรูอี้ตกใจมากที่อยู่ๆ ก็มีชายหนุ่มแปลกหน้ามาอุ้มคุณหนูของนางขึ้นไปกอดทั้งๆ ที่พวกตนยังอยู่ในร้านที่มีคนพลุกพล่านแบบนี้ ถึงคุณหนูของนางจะยังไม่ถึงวัยปักปิ่นแต่ก็มิใช่เด็กน้อยแล้ว หากถูกชายหนุ่มล่วงเกินต่อหน้าผู้อื่นชื่อเสียงคงจะป่นปี้เป็นแน่แท้ นางจึงตะคอกใส่บุรุษแปลกหน้าด้วยความโมโห

เฉินเสวี่ยหันหน้าไปถลึงตาใส่ผู้ที่อุ้มตนอย่างไม่สบอารมณ์ เขาคือคุณชายที่พบกันโดยบังเอิญในป่าที่คิดจะจับตัวนางกลับไปทวีปมัชฌิมดังคาด

“ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้นะ” นางขู่เสียงเย็น แสดงความไม่พอใจโดยไม่ปิดบัง

“โอ้ ช่างดุร้ายไม่น่ารักเอาเสียเลย อ๊ะ แค่เดือนเดียว เจ้าถึงกับเลื่อนระดับขึ้นมาถึงสี่ดาวได้เชียวหรือนี่ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย จุ๊ๆ พรสวรรค์ระดับนี้ช่างน่าตกใจเสียจริง” เสวียนจิ้งไม่สนใจท่าทีต่อต้านของนาง เขาพลิกตัวนางให้กลับมาให้หันหน้าเข้าหาตน กวาดตามองดูนางด้วยความตื่นตะลึง ขนาดอัจฉริยะของตระกูลเสวียนเช่นตนยังไม่อาจยกระดับพลังฝีมือได้รวดเร็วขนาดนี้เลย แม่นางน้อยคนนี้คงจะมีความเป็นมาไม่ธรรมดาเสียแล้ว อยากรู้นักว่านางใช้วิธีการใดในการฝึกยุทธ์ นางจะต้องกุมความลับอันยิ่งใหญ่เอาไว้เป็นแน่ ยิ่งรู้แบบนี้เขายิ่งไม่คิดที่จะปล่อยนางให้หลุดมือไปเด็ดขาด วันนี้เขาต้องพานางกลับตระกูลของตนให้ได้ ว่าแล้วเขาก็อุ้มนางเดินดุ่มๆ ออกไปจากร้านขายเสื้อผ้าทั้งแบบนั้น

“คุณหนู!” หรูอี้ตกตะลึงรีบวิ่งตามเจ้านายตนออกไป แต่แล้วก็ถูกกู่เช่อที่ติดตามมากับเสวียนจิ้งขัดขาจนล้มหน้าทิ่มไม่เป็นท่า เมื่อลุกขึ้นมาได้อีกครั้งทั้งชายแปลกหน้าสองคนนั้นและคุณหนูของนางก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว นางจึงได้แต่ร้องไห้และรีบวิ่งออกไปตามหาด้วยความร้อนใจ

เฉินเสวี่ยถูกเสวียนจิ้งอุ้มแนบอกแล้วใช้วิชาตัวเบาพานางกระโดดไม่กี่ทีก็ออกมาถึงนอกกำแพงเมืองได้ในพริบตา ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก กว่านางจะตั้งสติคิดได้ว่าตนต้องรีบหนีก่อนที่จะถูกเขาบังคับพาตัวไปที่ทวีปมัชฌิม นางก็ถูกเขาจับให้มานั่งอยู่บนหลังของเจ้านกยักษ์สีน้ำตาลดำของเขาเรียบร้อยแล้ว

เฉินเสวี่ยรีบหลับตาปี๋แล้วหายตัวกลับเข้าไปในแหวนมิติทันทีที่เจ้านกยักษ์ทำท่าจะทะยานตัวบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ภาวนาในใจว่ายามที่ตนกลับออกไปจากแหวนมิติครั้งหน้าขออย่าได้ตกจากกลางอากาศลงไปคอหักตายเสียก่อน เพราะเจ้านกยักษ์นี่ตอนหมอบอยู่กับพื้นยังสูงตั้งห้าเมตรแน่ะ

เสวียนจิ้งสบถออกมาด้วยความหัวเสียเมื่ออยู่ๆ ร่างเล็กในอ้อมกอดตนก็หายวับไปกับตาเป็นครั้งที่สอง เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครที่ร่ำรวยขนาดนำของวิเศษสำหรับเคลื่อนย้ายระยะไกลซึ่งมีราคาแพงมากมาให้เด็กสาวเช่นนางถลุงใช้เป็นว่าเล่นได้เช่นนี้ ขนาดเขาซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกสายตรงของตระกูลบรรพกาลยังไม่อาจถลุงใช้ของวิเศษได้แบบนางเลย นางเป็นใครกันแน่!?

“โอ๊ะ ท่านทำนางหลุดมือไปอีกแล้วหรือขอรับนายน้อย ฮะๆ ๆ” กู่เช่อที่นั่งอยู่ด้านหลังของนกยักษ์อุทานออกมาแล้วหัวเราะร่วน นานๆ เขาจะเห็นผู้เป็นนายโมโหโกรธาขนาดนี้

“เห็นทีคราวหน้าท่านคงต้องพกยันต์ผนึกร่าง เอาไว้ใช้กันไม่ให้คุณหนูน้อยหายตัวหนีไปเป็นครั้งที่สามซะกระมัง” กู่เช่อออกความเห็นยิ้มๆ

“เฮอะ! ข้าไม่เชื่อหรอกว่านางจะมีของวิเศษสำหรับเคลื่อนย้ายระยะไกลแบบใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เจอกันคราวหน้านางไม่รอดมือข้าแน่” เสวียนจิ้งกล่าวด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

“แต่พวกเราเหลือเวลาอีกไม่มากนักแล้วนะขอรับ” กู่เช่อกล่าวเตือน

“เอาเถอะ ข้าคิดว่านางคงจะยังวนเวียนอยู่ในเมืองนี้อีกสักพักแหละ หากตามจับตัวนางไม่ทันจริงๆ ข้าจะกลับตระกูลไปคนเดียวก่อน ส่วนเจ้าก็อยู่เฝ้านางที่นี่ซะ ถ้าเสร็จเรื่องทางนั้นแล้วข้าจะรีบกลับมา”

“โธ่ ใจคอนายน้อยจะทิ้งข้าให้คอยตามจับตัวนางคนเดียวได้ลงคอหรือขอรับ นางปราดเปรียวซะขนาดนั้น ข้าคงจับตัวนางไม่ได้หรอก” ขนาดท่านยังจับนางไม่ได้เลย แล้วข้าจะไปจับนางได้อย่างไร กู่เช่อแอบบ่นในใจ

“ข้าไม่ได้บอกให้เจ้าจับนางสักหน่อย แค่สืบหาที่อยู่ของนางให้เจอและคอยเฝ้าดูเอาไว้อย่าให้คลาดสายตา รอข้ากลับมาคราวหน้า ข้าจะจับนางด้วยตัวเอง” เสวียนจิ้งสั่งด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“อ้อ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาขอรับ”

สองวันหลังจากนั้นเฉินเสวี่ยก็โผล่หน้าออกไปดูโลกภายนอกอีกครั้ง นางตกจากกลางอากาศลงไปนั่งก้นกระแทกกับพื้นแต่ไม่เจ็บมากนัก เพราะก่อนจะออกมาได้เอาผ้าพันก้นและแขนขาของตนเพื่อลดแรงกระแทกไว้ก่อนแล้ว เมื่อเห็นว่าบริเวณโดยรอบดูปลอดภัยไร้กังวล นางก็รีบวิ่งกลับบ้านของตนทันที

หรูอี้ที่นั่งร้องไห้เพราะความเป็นห่วงเจ้านายมาตลอดสองวัน เมื่อเห็นว่าเจ้านายของตนกลับมาอย่างรอดปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนก็ดีใจยกใหญ่ รีบลากตัวเฉินเสวี่ยเข้าบ้านและปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนาจนเฉินเสวี่ยอดขำไม่ได้

“ไม่ตลกนะเจ้าคะ บ่าวเป็นห่วงคุณหนูจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ คุณหนูกลับเอาแต่หัวเราะขำบ่าวแบบนี้ได้อย่างไร” หรูอี้เดินหน้าคว่ำขณะยกสำรับอาหารเย็นเข้ามาให้เฉินเสวี่ยกินในห้อง ปากก็พร่ำบ่นด้วยความน้อยใจไม่หยุด

“เอาล่ะๆ ไม่หัวเราะแล้วก็ได้ ถ้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนขี้บ่นขนาดนี้ ตอนนั้นข้าน่าจะเลือกซื้อสาวใช้คนอื่นแทนเจ้าเสียก็ดี” เฉินเสวี่ยคีบอาหารเข้าปากพลางพูดหยอกล้อสาวใช้ไปพลาง

หรูอี้ได้ยินดังนั้นก็หุบปากไม่พูดอะไร แต่กลับก้มหน้าน้ำตาหยดแหมะๆ อีกครั้ง ทำเอาเฉินเสวี่ยต้องถอนหายใจด้วยความปวดศีรษะอีกรอบ ทำไมพวกสตรีช่างน่ารำคาญกันขนาดนี้นะ เอะอะก็ชอบร้องไห้กันเสียจริง

“หยุดร้องไห้ได้แล้วน่า ข้าแค่พูดเล่นเฉยๆ เจ้าก็อย่าคิดเป็นจริงเป็นจังนักเลย เจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะ วันนี้ไม่จำเป็นต้องมาอยู่คอยปรนนิบัติข้าตอนกินข้าวก็ได้” เฉินเสวี่ยโบกมือไล่ด้วยความรำคาญ

“เจ้าค่ะ” หรูอี้รับคำแล้วก้มหน้าเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ

เฉินเสวี่ยส่ายหน้าด้วยความระอาใจ

เมื่อได้อยู่ตามลำพังอีกครั้ง เฉินเสวี่ยก็มานั่งคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น เห็นทีเจ้านายน้อยอะไรผู้นั้นจะไม่ยอมตัดใจจากนางง่ายๆ เป็นแน่ ตอนแรกนางคิดว่าหลังจากผ่านไปเดือนหนึ่ง เขาคงจะเลิกตามหานางและกลับทวีปมัชฌิมไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเจ้านั่นจะชอบเกาะหนึบทำตัวเป็นกอเอี๊ยะหนังสุนัขที่ไม่ว่านางจะสลัดอย่างไรก็ไม่หลุด นางคงจะต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะถูกจับตัวได้อีกรอบ

ฝีมือนางกับเขายังห่างชั้นกันเกินกว่าที่จะประมือกันตรงๆ ดังนั้นคงจะต้องใช้วิธีหลีกเลี่ยงไม่เผชิญหน้ากันไปก่อน

คืนนั้นเฉินเสวี่ยกลับเข้าไปในแหวนมิติและรื้อค้นตำราแปลงโฉมบนชั้นหนังสือมานั่งอ่านอย่างจริงจัง เช้าวันรุ่งขึ้นนางก็เรียกหรูอี้ให้มาช่วยตนทดลองแปลงโฉมครั้งแรก การแปลงโฉมมีหลายระดับ แต่นางไม่ได้คิดจะเอาดีทางด้านนี้จึงเลือกแบบที่ง่ายที่สุดคือ เปลี่ยนให้ตนเองดูอ้วนขึ้น ผิวคล้ำลง จากนั้นก็เติมรอยกระและติดไฝปลอมเม็ดใหญ่เอาไว้ที่ข้างแก้ม เพียงเท่านี้หากผู้อื่นมองเพียงผิวเผินก็ไม่น่าจะจำนางได้แล้ว

และเพื่อความไม่ประมาท นางจึงแปลงโฉมหรูอี้ให้กลายเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ยามจะออกไปข้างนอกก็ให้หรูอี้สวมหมวกที่มีผ้าโปร่งปิดคลุมลงมาครึ่งหน้า ส่วนตัวนางเองรับบทเป็นสาวใช้ เพียงเท่านี้ทั้งสองก็ออกไปนั่งดื่มกินตามร้านน้ำชาทุกวันได้อีกครั้งอย่างสบายใจ

หลังจากนั้น เฉินเสวี่ยก็ยังเห็นว่าเจ้าคุณชายอะไรนั่นกับผู้ติดตามของเขาที่ชื่อกู่เช่อยังคงวนเวียนอยู่ในเมืองหลวงอยู่อีกหลายวัน แต่ทันทีที่นางเห็นพวกเขาแต่ไกลนางก็จะรีบเผ่นหนีไปให้ไกลทุกครั้งจึงยังไม่เคยโดนจับได้อีกเลย

ในช่วงระยะสองสามวันนี้ เฉินเสวี่ยนำข้อมูลที่ตนสืบได้จากโรงน้ำชามาประกอบกับข้อมูลที่ขอทานน้อยนำมารายงานให้นางทราบ ก็สรุปได้ว่า ก่อนที่ครอบครัวของนางจะถูกพวกของฮ่องเต้ลวงไปฆ่าในวันนั้น มีอาคันตุกะจากทวีปมัชฌิมกลุ่มหนึ่งเดินทางเข้าไปเป็นแขกในวัง และหลังจากนั้นเพียงสองวันก็เป็นวันเกิดนางที่ท่านลุงมาแจ้งข่าวว่าฮ่องเต้ทรงบัญชาให้ท่านพ่อพานางและเฉินปิงไปสำรวจซากโบราณสถาน จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาคันตุกะกลุ่มนั้นอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่อยู่ๆ ฮ่องเต้ก็คิดจะกำจัดครอบครัวนาง

จะว่าไป… เจ้านายน้อยอะไรผู้นั้นก็มาจากทวีปมัชฌิมเหมือนกันนี่ หรือว่าเขาจะเป็นอาคันตุกะของฮ่องเต้กลุ่มนั้น… เรื่องนี้ยังคงต้องสืบข่าวเพิ่มอีกเพื่อความแน่ใจ

หลังจากที่ท่านลุงใหญ่ได้ขึ้นเป็นประมุขตระกูลเฉิน ขอทานน้อยก็บอกว่าเขาเคยสั่งให้ทำการรื้อค้นทุกซอกทุกมุมของจวนตระกูลเฉินหลายต่อหลายครั้งเพื่อค้นหาของบางอย่าง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังหาของที่ว่าไม่เจอ

เฉินเสวี่ยเดาว่าเขาคงกำลังหาชิ้นส่วนของแผนที่ขุมทรัพย์จักรพรรดิที่ฮ่องเต้คิดว่าอยู่ในครอบครองของตระกูลเฉิน แต่เรื่องนี้นางก็ยังไม่อาจยืนยันแน่ชัดได้เช่นกัน

ถึงจะมีข้อสงสัยมากมาย แต่เฉินเสวี่ยก็จำเป็นต้องพยายามสงบใจเอาไว้ก่อน เพราะตนในตอนนี้ยังไม่มีกำลังมากพอจะไปพิสูจน์ข้อสงสัยเหล่านั้นด้วยตนเอง สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้ก็คือต้องเร่งยกระดับพลังฝีมือของตนให้สูงขึ้นให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะไปสมัครเข้ารับคัดเลือกเพื่อเป็นศิษย์ของตำหนักบุปผา

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 9 งูธารา"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved