cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

เคล็ดมารสยบภพ - ตอนที่ 2 แผนการร้าย

  1. Home
  2. All Mangas
  3. เคล็ดมารสยบภพ
  4. ตอนที่ 2 แผนการร้าย
Prev
Next

เมื่อมาถึงซากโบราณสถาน พวกเขาก็เห็นว่าตรงปากทางเข้ามีคนสองกลุ่มยืนรออยู่ก่อนแล้ว กลุ่มแรกเป็นถึงกลุ่มของฮ่องเต้ของแคว้นเทียนซาน พระองค์มากับเหล่าองครักษ์ซึ่งนำโดยผู้เฒ่าจูสวี ส่วนอีกกลุ่มเป็นถึงกลุ่มของเจ้าตำหนักบุปผาฮวาไหนไหน่กับผู้อาวุโสของตำหนักบุปผาอีกสามคน

เฉินเสวี่ยไม่เคยเห็นการรวมตัวของยอดฝีมือสูงสุดทั้งสามคนของแคว้นเทียนซานเช่นนี้มาก่อน เขาถึงกับแทบจะสะกดกลั้นอาการตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่ ไม่คิดเลยว่าฮ่องเต้จะให้ความสำคัญกับการสำรวจซากโบราณสถานแห่งนี้เป็นอย่างมากจนถึงขนาดยอมเสด็จมาด้วยพระองค์เอง แถมยังเชิญเจ้าตำหนักบุปผาผู้ซึ่งมีฝีมีสูงเป็นอันดับสามของแคว้นเทียนซานรองลงมาจากท่านพ่อของเขากับผู้เฒ่าจูสวีมาร่วมการสำรวจครั้งนี้ด้วยอีกคน คนของตำหนักบุปผาล้วนเป็นหญิงงาม ต่อให้อายุมากแค่ไหนพวกนางก็ยังคงแลดูอ่อนเยาว์ราวกับหญิงสาวอายุสิบหกสิบเจ็ดปีเหมือนกันหมด ว่ากันว่าเป็นเพราะเคล็ดวิชาที่พวกนางฝึกจึงทำให้พวกนางคงความอ่อนเยาว์เช่นนี้เอาไว้ได้ตลอดชั่วอายุขัย และนี่เป็นครั้งแรกที่เฉินเสวี่ยได้มีโอกาสเห็นโฉมหน้าของเจ้าตำหนักบุปผาผู้ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นสาวงามอันดับสองของแคว้นเทียนซาน รองลงมาจากมารดาของเขา แม้นางและผู้ติดตามทั้งสามคนจะมีผ้าผืนบางปิดคลุมใบหน้าครึ่งล่างเอาไว้ เขาก็ยังสามารถมองเห็นความงามและความเยาว์วัยที่ซ่อนอยู่หลังผ้าคลุมหน้าของพวกนางได้เป็นอย่างดี เด็กชายถึงกับเผลอจ้องมองจนเคลิบเคลิ้มลืมตัว แต่แล้วเขาก็ถูกสายตาคมกริบของเจ้าตำหนักบุปผาปรายมามองด้วยความเย็นชาจึงต้องรีบเก็บสายตาไร้มารยาทของตนเองและก้มหน้าลงด้วยความเขินอายที่ถูกอีกฝ่ายจับได้

ฮ่องเต้ของแคว้นเทียนซานยังคงดูหนุ่มแน่น พระองค์มีอายุน้อยกว่าเฉินปาทั่งหลายปี ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในฮ่องเต้ผู้ปรีชาสามารถองค์หนึ่งแห่งทวีปอุดร เมื่อเห็นคนตระกูลเฉินมาถึงเป็นที่เรียบร้อยก็พยักหน้ารับการคุกเข่าถวายคำนับของคนตระกูลเฉินด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเป็นกันเอง

“พวกเจ้าลุกขึ้นเถอะ เราขอบใจประมุขตระกูลเฉินมากที่ให้เกียรติพาบุตรธิดามาร่วมการสำรวจครั้งนี้ตามคำขอของเรา” ฮ่องเต้กล่าวกับเฉินปาทั่งด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดวงตาเป็นประกาย

“พวกกระหม่อมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ฝ่าบาท” เฉินปาทั่งกล่าวอย่างนอบน้อม

“เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนมากันครบแล้ว พวกเราก็เข้าไปด้านในกันเถอะ” ฮ่องเต้กล่าวเสร็จก็โบกมือให้เหล่าองครักษ์บางส่วนของพระองค์ออกเดินนำเข้าไปในซากโบราณสถาน ทุกคนจึงเดินตามเข้าไป

ซากโบราณสถานแห่งนี้ถูกแกะสลักขึ้นมาจากภูเขาหินสีดำสนิททั้งลูก ทางเข้าเป็นบันไดศิลาเวียนขึ้นไปตามผาหินสูงชัน ตรงผาหินด้านหน้าทางเข้าถูกสลักเอาไว้เป็นอักษรตัวใหญ่มหึมาว่า สุสานเทพยุทธ์มารจันทราวารี เฉินเสวี่ยและเฉินปิงถึงกับต้องแหงนคอตั้งบ่าจึงจะสามารถอ่านตัวอักษรที่ใหญ่โตยิ่งกว่าบ้านทั้งหลังเหล่านั้นได้ทั้งหมด ช่างเป็นตัวอักษรที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังยิ่งนัก เด็กทั้งสองสามารถสัมผัสได้ถึงพลังกดดันอันหนักหน่วงขุมหนึ่งเมื่อยืนอยู่เบื้องหน้าตัวอักษรที่ถูกสลักขึ้นโดยผู้ที่เป็นถึงเทพยุทธ์ในยุคบรรพกาล ด้วยตลอดระยะเวลาเกือบหมื่นปีมานี้ไม่เคยมีผู้ฝึกยุทธ์คนใดก้าวขึ้นไปถึงระดับเทพยุทธ์ในตำนานได้อีกเลย อย่าว่าแต่ระดับเทพยุทธ์ ขนาดแค่ระดับจักรพรรดิยุทธ์ยังไม่เคยปรากฏมาหลายพันปีแล้ว ทำให้ผู้คนในปัจจุบันแทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าความแข็งแกร่งระดับนั้นมันเป็นเช่นไร

ตอนแรกที่ผู้คนค้นพบอักษรที่สลักว่านี่คือสุสานของเทพยุทธ์จึงพากันแตกตื่นดีใจกันไปทั่ว แต่หลังจากที่เข้าไปภายในแล้วพบว่ามีเพียงกับดักชั้นเลวกับภาพมายากระจอกๆ หาได้มีสมบัติอันมีค่าอันใดแม้แต่ชิ้นเดียว หลายคนก็เริ่มจะสงสัยว่าสถานที่แห่งนี้อาจจะเป็นสุสานปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกคนโง่บางคนเท่านั้น แต่ในเมื่อมันกำลังจะจมกลับลงไปในดิน เข้าไปสำรวจอีกสักครั้งจะเป็นอะไรไป

เนื่องจากถูกปกคลุมด้วยหิมะที่ทับถมกันมากว่าหนึ่งปีทำให้การเดินไต่ขึ้นไปตามบันไดศิลาค่อนข้างจะลำบากพอสมควรสำหรับคนธรรมดาที่ไร้วรยุทธ์อย่างฮูหยินเฉิน เฉินปาทั่งผู้เป็นสามีจึงได้อุ้มนางเอาไว้แล้วเดินขึ้นบันไดไปโดยไม่สนใจสายตาหมั่นไส้แกมอิจฉาของใครหลายคน ท่านประมุขตระกูลเฉินท่านนี้เป็นคนที่มีชื่อเสียงเรื่องรักและหลงฮูหยินของตนจนออกนอกหน้า เขาเป็นคนที่ซื่อตรงและค่อนข้างหยาบกระด้าง ไม่เคยสนใจสายตาคนอื่น ยามจะแสดงความรักต่อฮูหยินคนงามของตนก็แสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติในทุกที่ทุกเวลา ฝ่ายหวังยู่อันเองนั้น ช่วงแรกๆ ที่แต่งงานกับเฉินปาทั่งก็ค่อนข้างเขินอายยามถูกเขาเอาอกเอาใจต่อหน้าบุคคลอื่น แต่หลังจากแต่งงานกันมาสิบกว่าปีนางก็ชินชากับการกระทำเหล่านี้ของสามีตนไปแล้ว วันนี้นางจึงเอนร่างอรชรอ้อนแอ้นของตนซบเข้ากับอกกว้างของสามีและปล่อยให้เขาอุ้มเดินขึ้นบันไดศิลาเข้าไปในซากโบราณสถานได้โดยหน้าไม่แดงลมหายใจไม่ติดขัด

เดินกันมากว่าหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดทั้งหมดก็บรรลุถึงลานหินขนาดเล็กหน้าประตูศิลาสูงใหญ่ที่มีร่องรอยถูกคนเปิดแง้มเอาไว้ เฉินปาทั่งปล่อยฮูหยินของตนลงยืนที่หน้าประตูบานนั้น ทุกคนในที่นี้ต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าด้านหลังประตูบานนี้เป็นทางเดินที่เต็มไปด้วยกับดักและภาพมายาอันน่ากลัว แม้พวกมันไม่อาจทำอันตรายผู้ฝึกยุทธ์ที่มีระดับสูงตั้งแต่ขั้นนักยุทธ์ 3 ดาวขึ้นไปได้ แต่สำหรับคนธรรมดานั้นยังค่อนข้างจะอันตรายพอสมควร ดังนั้นเฉินปาทั่งจึงไม่คิดจะพาภรรยาผู้ไร้วรยุทธ์ของตนเข้าไปเสี่ยงอันตรายที่ด้านใน ฮ่องเต้เองก็ตัดสินใจว่าจะปักหลักรอที่ลานหินเบื้องหน้าประตูบานนี้เช่นกัน เฉินปาทั่งฝากฝังให้ผู้อาวุโสในตระกูลท่านหนึ่งกับพี่ใหญ่ของตนอยู่คอยดูแลฮ่องเต้และภรรยาตนหน้าประตูนี้ ส่วนตนเองพาเฉินเสวี่ยและเฉินปิงเดินตามหลังผู้เฒ่าจูสวีและกลุ่มของเจ้าตำหนักบุปผาเข้าไปด้านในพร้อมผู้อาวุโสตระกูลเฉินที่ติดตามพวกเขามาด้วยอีกสองคน

เมื่อมีปรมาจารย์ยุทธ์ถึงสามคนเป็นผู้เบิกทางในการเดินเข้ามายังด้านในของซากโบราณสถาน การเดินทางสำรวจครั้งนี้จึงสะดวกง่ายดายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกับดักหรือภาพมายาอันใดก็ไม่อาจทำร้ายพวกเขาได้เลย พื้นที่ด้านในนี้แบ่งเป็นห้องศิลาน้อยใหญ่มากมายหลายร้อยห้อง แต่ทุกห้องล้วนว่างเปล่าวังเวงและอับชื้น เดินสำรวจกันเกือบสองชั่วโมงในที่สุดทั้งหมดก็เดินมาจนถึงห้องด้านในที่อยู่ลึกสุดของสุสานแห่งนี้ ตรงกลางห้องห้องนี้มีกับแอ่งน้ำเล็กๆ รูปวงกลมที่มีน้ำใสแจ๋ว แอ่งน้ำนี้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณสามเมตรแต่ตื้นเพียงคืบเดียว ตรงพื้นศิลาก้นแอ่งน้ำนั้นมีอักษรสลักเอาไว้ว่า

‘เคล็ดวิชาจันทราวารี-ทักษะยุทธ์ชั้นจักรวาลของเราจอมมาร จะสืบทอดให้เฉพาะแก่ผู้ที่มีจิตมารและกายามารเช่นเดียวกับเราจอมมารเท่านั้น นอกเหนือจากบุคคลดังกล่าว คนที่เหลือมาจากทางไหนก็จงไสหัวกลับไปทางนั้น อย่าหวังจะได้สิ่งมีค่าใดๆ จากสุสานของเราจอมมารแม้แต่ประการเดียว’

เฉินเสวี่ยอ่านข้อความเหล่านี้จบก็แอบนิ่วหน้าคิดในใจว่า ทักษะยุทธ์ชั้นจักรวาลเชียวรึ จอมมารอะไรนี่ช่างคุยโวโอ้อวดเสียจริง ปกติจะหาทักษะยุทธ์ชั้นดินธรรมดาๆ ยังหาได้ยาก ค่ายพรรคต่างๆ ที่มีทักษะยุทธ์ชั้นดินเอาไว้ในครอบครองได้สักทักษะหนึ่งก็สามารถผงาดขึ้นมาเป็นกลุ่มอิทธิพลชั้นแนวหน้าของทวีปได้แล้ว ส่วนทักษะยุทธ์ชั้นฟ้านั้น ทั่วทั้งโลกคงจะมีเพียงเฉพาะตระกูลบรรพกาลทั้งสามเท่านั้นที่สามารถถือครองมันได้ เกิดมาเขาเพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรกว่าถึงกับผู้กล่าวอ้างว่าตนได้ครอบครองทักษะยุทธ์ชั้นจักรวาลอันเป็นชั้นสูงสุดที่เคยมีบันทึกไว้แต่ในตำนานเป็นครั้งแรก มิน่าเล่า ฮ่องเต้ถึงไม่อาจตัดใจ จำต้องเชิญพวกตนมาลองสำรวจดูอีกสักครั้งก่อนที่ซากโบราณสถานแห่งนี้จะจมลงไป

ว่าแต่ใครมันจะรู้ได้เล่าว่าผู้ใดคือผู้ที่มีจิตมารกับกายามารอะไรนั่น ที่แน่ๆ คนที่มีจิตมารดูเหมือนว่าน่าจะต้องเป็นคนที่ชั่วช้าสุดๆ รึเปล่านะ คนธรรมดาอย่างพวกตนจึงไม่น่าจะใช่ผู้สืบทอดของจอมมารอะไรนี่หรอก

“เสวี่ยเอ๋อร์ ปิงเอ๋อร์ พวกเจ้าลองค้นหาดูซิว่ามีสิ่งใดผิดปกติในห้องห้องนี้บ้างหรือไม่” เฉินปาทั่งกล่าวกับลูกๆ ของตน ในขณะที่ตัวเขาเองก็ออกเดินดูไปรอบๆ ห้องที่ว่างเปล่าห้องนี้ เรื่องข้อความที่สลักอยู่ที่ก้นแอ่งน้ำนี้เขาได้รู้มานานแล้ว และไม่เคยคิดสักนิดว่าบุตรธิดาของตนจะเป็นผู้สืบทอดของจอมมารอะไรนั่น แต่ในเมื่อฮ่องเต้ทรงขอร้องให้พวกเด็กๆ มาทดสอบ เขาก็ไม่อยากจะขัดใจพระองค์ในเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้

ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาเหยียบบริเวณซากโบราณสถานแห่งนี้ เขาก็คอยจับสังเกตสิ่งผิดปกติมาโดยตลอด แต่กลับไม่พบอะไรน่าสงสัยแม้แต่อย่างเดียว จะมีก็เพียงแค่เรื่องที่พี่ใหญ่ของตนบอกว่าท่านผู้เฒ่าจูสวีจับสัมผัสได้ว่าสถานที่แห่งนี้กำลังจมกลับลงไปในดินอย่างรวดเร็ว เขากลับไม่รู้สึกสักนิดว่ามันกำลังจมลงอย่างที่ว่า

ทุกคนในห้องกระจายตัวกันออกไปเดินค้นหากลไกหรือเบาะแสอะไรอย่างอื่นที่อาจจะแอบซ่อนอยู่ในห้องโถงเล็กๆ แห่งนี้ เฉินเสวี่ยกับเฉินปิงเองก็เช่นเดียวกัน เฉินเสวี่ยถึงกับลองก้มหน้าลงไปสูดกลิ่นน้ำในแอ่งและวักมันขึ้นมาชิมดู แต่ก็พบว่ามันเป็นเพียงน้ำเปล่าธรรมดาที่เย็นจัดก็เท่านั้น ไม่มีอะไรแปลกพิสดาร ขณะที่เฉินเสวี่ยกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะลองเดินลงไปคลำดูที่พื้นศิลาตรงก้นแอ่งน้ำนี้ดีหรือไม่ เขาก็ได้ยินเสียดังตูมดังสนั่น และเห็นบิดาของตนถูกผู้เฒ่าจูสวีกับเจ้าตำหนักบุปผาร่วมมือกันซัดฝ่ามือเข้าใส่จนร่างสูงใหญ่ของบิดาลอยข้ามหัวเขาไปกระแทกกับกำแพงด้านในของห้องศิลาจนกระอักโลหิตออกมากองโต จากนั้นผู้อาวุโสในตระกูลเฉินอีกสองคนที่ติดตามพวกเขาเข้ามาก็ถูกจูสวีกับเหล่าหญิงสาวจากตำหนักบุปผาแยกย้ายกันไปทำการปลิดชีพลงอย่างรวบรัดจนไม่มีเวลาแม้แต่จะได้ส่งเสียงร้องออกมาสักคำ เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เด็กน้อยทั้งสองคนได้แต่ยืนตะลึงจนตัวแข็งทื่อ พอตั้งสติได้เฉินเสวี่ยและเฉินปิงพากันกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนกร้องเรียกบิดาเสียงหลง

“ท่านพ่อ!” ทั้งสองรีบวิ่งเข้าไปหาบิดาที่กำลังนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น

แต่เด็กทั้งสองยังไปไม่ทันถึงร่างที่กำลังหายใจรวยรินของบิดาตนก็ถูกหิ้วคอขึ้นมาเสียก่อน เฉินเสวี่ยพยายามดิ้นรนและซัดฝ่ามือเข้าใส่ผู้ที่จับพวกตนเอาไว้ แต่ก็พบว่ามันช่างไร้ประโยชน์ยิ่งนัก เพราะอีกฝ่ายคือผู้เฒ่าจูสวีที่เป็นถึงปรมาจารย์ยุทธ์สี่ดาว จอมยุทธ์อันดับสองแห่งแคว้นเทียนซานเช่นจูสวีหาใช่คนที่จะเห็นพลังของนักยุทธ์ 6 ดาวอย่างเฉินเสวี่ยอยู่ในสายตา

ระหว่างที่เด็กน้อยทั้งสองยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของฮ่องเต้ดังเข้ามาจากตรงทางเดิน เฉินเสวี่ยหันขวับไปมองตามเสียงนั้นแล้วก็ต้องเบิกดวงตาแทบถลนเมื่อเห็นว่าที่ด้านหลังของฮ่องเต้มีมารดาของตนถูกท่านลุงใหญ่ของพวกตนจับมัดมือมัดเท้าแบกเข้ามาในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน ทั่วทั้งตัวของนางเต็มไปด้วยรอยห้อเลือดเขียวช้ำ โดยเฉพาะบริเวณต้นขาด้านในยังเต็มไปด้วยคราบของเหลวสีขาวขุ่นปนคราบเลือดที่ส่งกลิ่นคาวไหลเปรอะเปื้อนเป็นทาง แม้เฉินเสวี่ยจะยังไม่มีเคยมีประสบการณ์เรื่องเพศกับเด็กสาวคนใดมาก่อนแต่เขาก็โตพอที่จะรู้แล้วว่ามันเกิดเรื่องบัดซบอันใดขึ้นกับมารดาของตน

เฉินปาทั่งคำรามด้วยความโกรธจัดเมื่อได้เห็นสภาพฮูหยินรักของตน นัยน์ตาแดงก่ำไปด้วยเส้นโลหิต เขากระเสือกกระสนพยายามจะลุกขึ้นมาแต่ก็โดนเจ้าตำหนักบุปผาผู้เป็นถึงปรมาจารย์ยุทธ์ 4 ดาวเช่นเดียวกับเขาเตะเข้าใส่บริเวณชายโครงจนกระดูกซี่โครงของเขาหักดับกร๊อบ จากนั้นนางก็โคจรพลังยุทธ์ในกายวาดขาด้วยท่วงท่าสง่างามราวกระเรียนเหินกระทืบซ้ำเข้าไปที่ขาและแขนทั้งสองข้างของเขาจนกระดูกแทบทั้งตัวแหลกละเอียด ไม่อาจจะเคลื่อนไหวร่างกายได้อีก

เจ้าตำหนักบุปผาปัดรอยเลือดของเฉินปาทั่งที่กระเด็นมาโดนชายกระโปรงของตนออกไปอย่างรังเกียจแล้วหันไปกล่าวกับฮ่องเต้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบเย็นชา

“งานในส่วนของพวกข้าที่เราตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกข้าขอตัวกลับไปรอที่เมืองหลวงก่อนก็แล้วกัน ฝ่าบาทอย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับตำหนักบุปผาของพวกข้าเล่า”

“เราไม่ลืมอย่างแน่นอน เชิญท่านเจ้าตำหนักกลับไปรอได้อย่างสบายใจที่ยอดเขาหมื่นผกาเถิด เมื่อเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยข้าจะให้คนนำของไปส่งให้ท่านถึงที่” ฮ่องเต้กล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับการถวายคำนับลาของเหล่าสาวงามจากตำหนักบุปผา

เมื่อเหล่าหญิงสาวกลุ่มนั้นสะบัดหน้าจากไปจนหมดแล้วฮ่องเต้ก็เดินเข้าไปเอาเท้าเขี่ยร่างโชกเลือดของเฉินปาทั่งให้เงยหน้าขึ้นมา “เป็นอย่างไรบ้างเล่าประมุขเฉิน รสชาติฝ่าเท้าของสาวงามอันดับสองสู้ของฮูหยินคนงามของท่านได้หรือไม่”

“…ทำ…ไม” ประมุขตระกูลเฉินผู้เคยองอาจสง่างามบัดนี้หมอบอยู่แทบเท้าฮ่องเต้แห่งแคว้นเทียนซานราวกับสุนัขบาดเจ็บตัวหนึ่งถามออกมาด้วยความคั่งแค้นแสนสาหัส เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนเหล่านี้จึงร่วมมือกันกระทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้กับพวกตน

“อืมจะว่าอย่างไรดีล่ะ เอาเป็นว่าท่านประมุขเฉินมิได้ทำอะไรผิด แต่ผิดที่ครอบครองหยกก็แล้วกัน ฮ่าๆ ๆ ๆ พอดีว่ามีคนขอร้องมาว่าให้เราช่วยนำชิ้นส่วนของแผนที่ขุมทรัพย์จักรพรรดิที่อยู่ในครอบครองของท่านประมุขเฉินไปส่งมอบให้พวกเขาเพื่อแลกกับของบางอย่าง หากประมุขเฉินมอบชิ้นส่วนแผนที่ออกมาให้เราแต่โดยดี เราสัญญาว่าจะให้ท่านและครอบครัวได้ตายอย่างไม่ต้องทุกข์ทรมานมากนัก” ฮ่องเต้ทรงพระสรวลและกล่าวออกมาอย่างมีเมตตาปรานี

“ข้าไม่มีชิ้นส่วนแผนที่อะไรที่ท่านว่า หากท่านปล่อยพวกเราไปในตอนนี้ ข้ารับรองว่าจะไม่เอาเรื่องพวกท่านทุกคน” เฉินปาทั่งกัดฟันกรอด ถลึงตาจ้องมองฮ่องเต้และทุกคนในห้องด้วยความโกรธแค้นสุดขีด

ฮ่องเต้หัวเราะเสียงดังราวกับกำลังฟังเรื่องชวนขบขัน “เศษสวะอย่างท่านมีปัญญาจะมาเอาเรื่องเราด้วยรึ หึๆ ๆ ทันทีที่เราตัดสินใจลงมือ เราก็ไม่เคยคิดที่จะปล่อยตัวพวกท่านทั้งครอบครัวไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่พูดก็พูดเถอะ ฮูหยินคนงามของท่านช่างมีรสชาติดีเยี่ยมจริงๆ ขนาดเราลิ้มลองไปตั้งสองครั้งแล้วยังแทบจะตัดใจส่งต่อให้ขุนนางรักของเราไม่ลง หากต้องฆ่าทิ้งไปเฉยๆ คงจะรู้สึกเสียดายไม่หยอก เอาเป็นว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ เราจะให้คนของเราดูแลฮูหยินคนงามกับธิดาตัวน้อยของท่านเป็นอย่างดีเลย รับรองว่าแม้พวกนางอยากตายก็ยังไม่ได้ตายง่ายๆ ฮ่าๆ ๆ ๆ” ว่าแล้วพระองค์ก็โบกมือให้จูสวีทำลายวรยุทธ์ของเฉินปิงแล้วโยนนางให้แก่เหล่าองครักษ์ เด็กน้อยกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดเมื่อจุดตันเถียนถูกระเบิดทำลายด้วยการสะบัดนิ้วเพียงคราเดียวของผู้เฒ่าจูสวี หลังจากวรยุทธ์โดนทำลายนางก็มีสภาพประหนึ่งศพ ไม่เหลือเรี่ยวแรงกระทั่งจะกรีดร้องหรือดิ้นรนขัดขืนยามที่ถูกองครักษ์ชายกว่าสิบคนช่วยกันฉีกกระชากเสื้อผ้าออกจากร่าง ได้แต่นอนเบิกตาโพลงน้ำตาไหลรินเป็นทางปล่อยให้พวกมันขึ้นคร่อมและขืนใจต่อหน้าต่อตาคนในครอบครัว

“ปิงเอ๋อร์!” เฉินเสวี่ยและเฉินปาทั่งคำรามออกมาพร้อมกันด้วยความคั่งแค้นสุดขีด แต่ทั้งสองไม่อาจทำอะไรได้เลย ทั้งสองเพียงทำได้แค่เบิ่งตามองดูหวังยู่อันกับเฉินปิงถูกองครักษ์ทั้งกลุ่มย่ำยีไปต่อหน้าต่อตาเท่านั้น

“ปล่อยท่านแม่กับน้องสาวของข้าเดี๋ยวนี้! ข้าจะฆ่าพวกเจ้า!” เฉินเสวี่ยคำรามลั่น ดวงตาแดงก่ำไม่แพ้บิดา เด็กชายพยายามดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อที่จะไปช่วยมารดาและน้องสาวของตน

“ฮิฮะ เจ้าเด็กน้อยนี่แรงดีไม่หยอก ข้าชักจะอยากชิมแท่งหยกพันปีของเจ้าซะแล้วว่าจะมีรสชาติอร่อยลิ้นสักเพียงใด” ผู้เฒ่าจูสวีกล่าวด้วยเสียงแหลมเล็ก มือหนึ่งจับต้นคอของเฉินเสวี่ยยกขึ้นสูง อีกมือกระชากกางเกงด้านหน้าของเขาจนขาดดังแคว่ก

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 2 แผนการร้าย"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved