cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Next

เคล็ดมารสยบภพ - ตอนที่ 1 นายน้อยตระกูลเฉิน

  1. Home
  2. All Mangas
  3. เคล็ดมารสยบภพ
  4. ตอนที่ 1 นายน้อยตระกูลเฉิน
Next

ขั้นของการฝึกยุทธ์ คือสิ่งที่บ่งบอกว่าผู้ฝึกยุทธ์มีพลังปราณในร่างกายปริมาณมากน้อยและหนาแน่นเพียงใด ยิ่งมีพลังปราณมากก็จะยิ่งใช้ออกได้มาก

ระดับของการฝึกยุทธ์เรียงลำดับจากต่ำไปหาสูงได้ดังนี้

รวบรวมปราณ 1-9 ดาว

ก่อปราณ 1-9 ดาว

นักยุทธ์ 1-9 ดาว

ปรมาจารย์ยุทธ์ 1-9 ดาว

ราชันยุทธ์ 1-9 ดาว

จักรพรรดิยุทธ์ 1-9 ดาว

เทพยุทธ์ 1-9 ดาว

เคล็ดวิชาหรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะยุทธ์

คือวิชาที่ช่วยให้ผู้ฝึกยุทธ์ใช้พลังปราณในร่างออกมาเป็นกระบวนท่าต่างๆ เพื่อทำร้ายคู่ต่อสู้ โดยปกติแล้วในผู้ฝึกยุทธ์อยู่ในระดับขั้นของการฝึกยุทธ์ที่เท่ากัน (เรียกง่ายๆ ว่ามีปริมาณลมปราณในร่างเท่ากัน) ผู้ที่มีทักษะยุทธ์ชั้นสูงกว่าจะสามารถปล่อยพลังทำลายล้างที่สูงกว่าผู้ที่มีทักษะยุทธ์ชั้นต่ำกว่าได้

ทักษะยุทธ์ประกอบด้วย ทักษะยุทธ์ 5 ธาตุ ได้แก่ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน และทอง ผู้ที่จะฝึกทักษะยุทธ์แต่ละธาตุได้จะต้องมีพลังธาตุนั้นๆ อยู่ในตัวมาแต่กำเนิด ยิ่งมีพลังธาตุใดในตัวสูง ความสามารถในการใช้ทักษะยุทธ์ธาตุนั้นๆ ก็จะยิ่งได้ผลดี

ทั้งนี้ทักษะยุทธ์จะมีขีดขั้นความแข็งแกร่งทั้งหมด 3 ระดับ จากน้อยไปหามากคือ ชั้นดิน ชั้นฟ้า และชั้นจักรวาล

บทที่ 1

ผู้สืบทอดของจอมมาร

ณ จวนตระกูลเฉิน หนึ่งในสามตระกูลใหญ่แห่งเมืองหลวงแคว้นเทียนซาน คนในตระกูลทั้งหญิงและชายกำลังมาร่วมงานวันเทศกาลขนมบัวลอย –เทศกาลแห่งความสามัคคีรักใคร่กลมเกลียวกันของคนในครอบครัว และงานวันเกิดครบอายุ 14 ปีของคุณชายน้อยเฉินเสวี่ย บุตรชายเพียงคนเดียวของประมุขตระกูลเฉิน ซึ่งจัดขึ้นในวันเดียวกันของทุกปี

เนื่องจากตระกูลเฉินเป็นตระกูลใหญ่ที่ทั้งมั่งคั่งร่ำรวยและมีอำนาจมาก แม้กระทั่งเชื้อพระวงศ์แห่งแคว้นเทียนซานยังต้องให้ความเกรงใจ งานเลี้ยงในครอบครัวของตระกูลเฉินแต่ละครั้งจึงมีสมาชิกครอบครัวทั้งสายหลักและสายรองรวมถึงบุคคลสำคัญในแคว้นมาร่วมงานกว่าสองร้อยคน

ผู้คนในแคว้นเทียนซานล้วนทราบดีเกี่ยวกับกิตติศัพท์เรื่องความรักใคร่ปรองดองกันของคนในตระกูลนี้ พวกเขาไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันรุนแรงหรือเกิดการแย่งชิงอำนาจกันในตระกูลให้คนนอกได้ยินเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งนับเป็นเรื่องที่แปลกและแตกต่างจากตระกูลใหญ่อื่นๆ เป็นอย่างมาก

นายท่านผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่าของตระกูลเฉินได้ลาโลกไปเกือบสามปีแล้วเพราะโรคชรา บัดนี้ตำแหน่งประมุขตระกูลเฉินจึงตกแก่เฉินปาทั่ง บุตรชายสายหลักคนรองซึ่งมีอายุ 52 ปีของอดีตนายท่านผู้เฒ่า เฉินปาทั่งเป็นผู้มีวรยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ยุทธ์ 4 ดาว ซึ่งนับได้ว่ามีฝีมือแก่กล้าที่สุดในตระกูล และยังมีตำแหน่งเป็นถึงยอดฝีมืออันดับสามของแคว้นเทียนซานแห่งนี้ ทั่วทั้งแคว้นเทียนซานนี้มีคนเพียงสองคนเท่านั้นที่มีวรยุทธ์เทียบเท่าเขา หนึ่งคือผู้เฒ่าขันทีจูสวีผู้เป็นองครักษ์ลับของฮ่องเต้ในวัง และอีกคนหนึ่งก็คือฮวาไหนไหน่เจ้าตำหนักบุปผา ผู้ซึ่งไม่ค่อยจะย่างกรายออกมามาจากตำหนักบุปผาซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาหมื่นผกาให้ผู้คนในโลกภายนอกได้ยลโฉมบ่อยนัก

เฉินปาทั่งเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาดุดัน ไว้หนวดเครายาวดูประหนึ่งมหาโจร แต่เขากลับเป็นหนึ่งในผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสัตย์ซื่อถือคุณธรรมและยึดมั่นสัจวาจายิ่งชีวิต อีกทั้งเขายังมีพรสวรรค์ในการฝึกยุทธ์ที่ล้ำเลิศที่สุดคนหนึ่งในแคว้นเทียนซาน ยามเยาว์วัย เฉินปาทั่งเอาแต่เก็บตัวฝึกวรยุทธ์ ไม่มีเวลาได้สนใจเรื่องอื่นใดมากนัก ทำให้กว่าเขาจะแต่งงานมีครอบครัวอายุก็ปาเข้าไปสามสิบปลายๆ แล้ว แต่แม้ว่าเขาจะแต่งงานช้าไปบ้าง เขากลับได้ตบแต่งภรรยาที่เป็นถึงสาวงามอันดับหนึ่งแห่งทวีปอุดร นางมีนามว่าหวังยู่อัน เป็นธิดาคนสุดท้องของท่านมหาเสนาบดีหวังแห่งแคว้นเทียนซาน หลังแต่งงานสองสามีภรรยาห่างวัยรักใคร่ปรองดองกันดี และมีบุตรธิดาด้วยกันสองคน ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง เด็กทั้งสองล้วนได้รับพรสวรรค์การฝึกยุทธ์มาจากบิดาและได้หน้าตาถอดแบบออกมาจากมารดาทั้งสิ้น ทำให้ผู้คนได้แต่ทอดถอนใจ อิจฉาในความโชคดีของท่านผู้นำตระกูลเฉินท่านนี้ยิ่งนัก

เป็นที่รู้กันในแคว้นเทียนซานว่า แท้จริงแล้วในวันเทศกาลขนมบัวลอยซึ่งเป็นวันที่มีกลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี ยังตรงกับวันคล้ายวันเกิดให้กับคุณชายน้อยเฉินเสวี่ยบุตรชายของเฉินปาทั่งอีกด้วย บรรดาญาติๆ ทั้งหลายที่ทำทีเป็นว่ามาร่วมงานเทศกาลขนมบัวลอยจึงไม่ลืมที่จะหอบหิ้วของขวัญวันเกิดติดไม้ติดมือมาประจบนายน้อยแห่งตระกูลเฉินท่านนี้ด้วย ปีนี้เฉินเสวี่ยเพิ่งจะมีอายุได้เพียง 14 ปีแต่กลับบรรลุถึงขั้นนักยุทธ์ 6 ดาวได้แล้ว นับว่ามีพรสวรรค์สูงจนน่ากลัวยิ่งกว่าบิดาของเขาเสียอีก ในอนาคตเด็กน้อยนี้ย่อมต้องได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลเฉินต่อจากบิดาของเขาอย่างแน่นอน

เสียงฝีเท้าเล็กๆ วิ่งตึงตังเข้าผ่านประตูใหญ่ของห้องโถงจัดเลี้ยงของจวนตระกูลเฉินเข้ามายังบริเวณงานเลี้ยง เจ้าของฝีเท้าเป็นเด็กหญิงวัยประมาณ 11-12 ปีหน้าตาจิ้มลิ้มนางหนึ่งในชุดเสื้อขนสัตว์สีเทาอ่อนกับกระโปรงสีชมพูดอกท้อวิ่งนำหน้าบิดามารดาของนางเข้ามาในงานพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญใบหนึ่งส่งให้ถึงเบื้องหน้าของเฉินเสวี่ยแล้วส่งยิ้มหวานหยดมาให้เขา

“ของขวัญวันเกิดของเปี่ยวเกอเจ้าค่ะ”

เฉินเสวี่ยยิ้มกว้างและรับของขวัญในมือนางไปยื่นส่งให้เด็กรับใช้เอาไปเก็บ เขาล้วงผ้าเช็ดหน้าของตนออกมาเช็ดเหงื่อที่ปลายจมูกให้เด็กหญิงผู้เป็นญาติผู้น้องคนโปรดของตนพลางตำหนิด้วยความเอ็นดู

“อากาศหนาวขนาดนี้ เจ้ายังอุตส่าห์วิ่งมาจนเหงื่อออกได้อีก ระวังจะจับไข้เล่า แล้วไหนท่านพ่อท่านแม่เจ้าล่ะ”

“ท่านพ่อท่านแม่มัวแต่ยืนคุยอยู่กับท่านประมุขตระกูลที่ห้องโถงด้านนอก เฟิงเฟิงขี้เกียจรอจึงวิ่งเข้ามาหาเปี่ยวเกอก่อนเจ้าค่ะ”

เฉินเสวี่ยได้ยินดังนั้นก็ลูบศีรษะเฉินเฟิงเฟิงด้วยความเอ็นดู “ขอบใจสำหรับของขวัญ เจ้าไปเล่นกับปิงเอ๋อร์ทางโน้นก่อนก็แล้วกัน ข้ายังต้องอยู่ช่วยท่านพ่อต้อนรับแขกอีกสักพักจึงจะตามไปเล่นกับพวกเจ้าได้” เขาพยักเพยิดไปทางเฉินปิงน้องสาวของตนที่ตอนนี้กำลังจับกลุ่มเล่นอยู่กับญาติๆ วัยเดียวกันทางอีกฟากหนึ่งของห้อง

เฉินเฟิงเฟิงมองตามสายตาของเขาไปแล้วก็ยิ้มร่า รีบวิ่งเข้าไปร่วมวงกับญาติๆ รุ่นเยาว์ทางนั้นทันที

เหล่าญาติพี่น้องที่มาร่วมงานเลี้ยงวันนี้ต่างก็พากันทยอยมากล่าวทักทายและกล่าวคำยกยอประจบประแจงเฉินเสวี่ยมิได้ขาด เด็กหนุ่มเองก็วางตนได้สมกับเป็นนายน้อยของตระกูล ทั้งสุภาพทั้งสง่างาม บนใบหน้าอ่อนเยาว์มีรอยยิ้มน้อยๆ ประดับอยู่เสมอ แม้จะรู้สึกเบื่อหน่ายกับการถูกผู้คนในตระกูลยกยอปอปั้น แต่เขาก็ไม่เคยเสียกิริยาแสดงท่าทีไร้มารยาทออกมาเลยสักครั้ง

เฉินเสวี่ยเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุสิบสี่ แต่เขามีรูปร่างสูงโปร่งกว่าเด็กวัยเดียวกันทำให้ดูโตกว่าอายุ หลายคนคาดการณ์กันว่าเมื่อเขาเติบโตขึ้นน่าจะมีรูปร่างสูงใหญ่ไม่แพ้ผู้เป็นบิดา เขามีผิวขาวจัดราวกับหิมะใบหน้าเรียวยาวคิ้วเข้มตาคมเป็นประกาย นับเป็นเด็กที่ส่อเค้าว่าเมื่อโตขึ้นจะกลายเป็นบุรุษรูปงามชนิดที่ว่า เพียงปรายตามองก็สามารถทำให้หญิงสาวต่างพากันควักหัวใจออกมามอบให้ได้แล้ว ตอนที่ท่านแม่คลอดเขาออกมาเป็นเวลาดึกสงัดในวันเหมายันซึ่งเป็นช่วงกลางฤดูหนาวที่หิมะกำลังตกกระหน่ำพอดี ท่านพ่อจึงตั้งชื่อให้เขาว่าเสวี่ย (เสวี่ยแปลว่าหิมะ) ท่านนักพรตที่ผูกดวงชะตาแปดอักษรให้เขาได้กล่าวว่าเขาเกิดมาในวันน้ำหยิน ยามจื่อ (23.00-1.00น.) เดือนจื่อ (ธันวาคม) และปีจื่อ (ปีชวด) นับได้ว่าเกิดมาในฤกษ์ธาตุน้ำหยินบริสุทธิ์ซึ่งนับเป็นหนึ่งในฤกษ์ที่หาได้ยากมากในรอบหลายร้อยปี และเมื่อมีพลังปราณธาตุน้ำบริสุทธิ์จึงเหมาะแก่การฝึกทักษะยุทธ์ธาตุน้ำเป็นอย่างยิ่ง โชคดีที่ทักษะยุทธ์ประจำตระกูลเฉินเป็นทักษะยุทธ์สายธาตุทองและธาตุน้ำอยู่แล้ว อีกทั้งตระกูลเฉินยังร่ำรวยจึงไม่เคยขาดแคลนยาลูกกลอนที่ช่วยย่นระยะเวลาในการฝึกยุทธ์ เขาจึงมีต้นทุนในการฝึกยุทธ์ที่สูงกว่าคนทั่วไปมาก ตอนที่อายุเพียง 13 ปีก็บรรลุถึงขั้นนักยุทธ์ 6 ดาวได้แล้ว ซึ่งโดยมากแล้วกว่าคนที่มีพรสวรรค์ในระดับปานกลางจะบรรลุได้ถึงเขตขั้นนี้ก็ต้องมีอายุอย่างน้อยสามสิบปีขึ้นไป

เฉินเสวี่ยมองไปทางประตูทางเข้าของห้องโถงจัดงานเลี้ยงก็เห็นบิดามารดาของตนกำลังเดินเคียงคู่มากับท่านลุงใหญ่กับท่านป้าสะใภ้ใหญ่ผู้เป็นบิดามารดาของเฉินเฟิงเฟิงเข้ามาในงานเลี้ยงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ท่านลุงใหญ่ของเขารับราชการเป็นขุนนางในวังมานานปี เป็นหนึ่งในขุนนางคนสนิทของฮ่องเต้แห่งแคว้นเทียนซาน ท่านลุงใหญ่ท่านนี้แม้ว่าจะนับว่าเป็นบุตรชายคนโตของอดีตนายท่านผู้เฒ่าที่เสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน แต่ความจริงเป็นเพียงบุตรบุญธรรมที่อดีตนายท่านผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่ารับมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเยาว์วัยเท่านั้น เขาจึงไม่อาจรับตำแหน่งประมุขตระกูลเฉินได้ ตำแหน่งผู้นำตระกูลเฉินรุ่นนี้จึงได้ตกลงมาแก่บิดาของเฉินเสวี่ยผู้เป็นบุตรชายคนรองของบ้านแทน

“ฝ่าบาทกำหนดวันที่จะไปสำรวจที่นั่นเอาไว้หรือยัง” เสียงเฉินปาทั่งถามเฉินจินหมิงเบาๆ ขณะที่คนทั้งหมดกำลังเดินผ่านเข้ามาใกล้เฉินเสวี่ย

“เห็นว่าจะให้ออกเดินทางเช้าวันพรุ่งนี้เลย” เฉินจินหมิงกล่าว แม้ว่าเขาจะมีอายุมากกว่าเฉินปาทั่งอยู่สองปีแต่กลับยังคงดูอ่อนเยาว์กว่าเฉินปาทั่งมากนัก เขาเป็นบุรุษวัยกลางคนที่มีรูปร่างผอมสูง หน้าตาภูมิฐานตามแบบฉบับของขุนนางฝ่ายบุ๋น ดูเผินๆ จึงเหมือนมีอายุแค่สี่สิบกลางๆ เท่านั้น ปีนี้เขาได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นถึงเจ้ากรมพิธีการ ทำให้ตระกูลเฉินพลอยได้หน้าไปด้วย

“เหตุใดจึงกะทันหันเช่นนี้เล่า” เฉินปาทั่งขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ก่อนหน้าก็เคยส่งคนเข้าไปสำรวจหลายครั้งแล้วมิใช่หรือ ในเมื่อไม่พบเบาะแสอะไรน่าสนใจทำไมอยู่ๆ ฝ่าบาทจึงทรงบัญชาให้พวกเราเข้าไปสำรวจอีกรอบแบบฉุกละหุกอีกครั้งเช่นนี้”

“ก็เพราะอยู่ๆ ท่านผู้เฒ่าจูสวีก็จับสัมผัสขึ้นมาได้ว่าซากโบราณสถานกำลังจมลงไปในดินอย่างรวดเร็วผิดปกติน่ะสิ ฝ่าบาทจึงร้อนใจขึ้นมา แล้วก็อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าบนป้ายศิลาตรงปากทางเข้าซากโบราณสถานแห่งนั้นมีอักษรสลักเอาไว้ว่ามันคือสุสานของเทพยุทธ์มารจันทราวารี การที่ไม่มีผู้ใดเคยค้นพบสิ่งวิเศษใดๆ ที่นั่นอาจจะเป็นเพราะผู้ที่เข้าไปสำรวจไม่มีใครเลยที่มีพลังปราณธาตุน้ำที่แข็งแกร่ง ครั้งนี้ฝ่าบาทจึงอยากให้ท่านพาเฉินเสวี่ยกับเฉินปิงไปทดลองดูอีกสักครั้งก่อนที่ซากโบราณสถานนั่นจะจมลงไปจนหมด” เฉินจิงหมิงกล่าว แม้ว่าเขาจะรับราชการเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น แต่เขาเองก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์เช่นกัน ถึงจะไม่ได้มีพรสวรรค์ล้ำเลิศเฉกเช่นเฉินปาทั่ง แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นถึงหนึ่งในผู้มีวรยุทธ์เขตขั้นนักยุทธ์ 8 ดาวที่มีเพียงไม่ถึงห้าสิบคนในแคว้นเทียนซานแห่งนี้ ยามที่ฮ่องเต้มีเรื่องที่อยากจะปรึกษาหรือไหว้วานอะไรตระกูลเฉินจึงมักจะบอกผ่านเขามาอีกต่อหนึ่ง

เฉินเสวี่ยได้ฟังพวกผู้ใหญ่คุยกันเรื่องจะให้ตนและน้องสาวเข้าไปสำรวจซากโบราณสถาน เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าหลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นในแคว้นเทียนซานเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว บนเทือกเขาหิมะทางด้านเหนือสุดของแคว้นอยู่ๆ ก็มีซากโบราณสถานลึกลับแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นมา

ช่วงสัปดาห์แรกที่ซากโบราณสถานแห่งนี้ปรากฏ เหล่าค่ายพรรคและสำนักยุทธ์น้อยใหญ่รวมถึงทางการต่างก็รีบพากันส่งคนเข้าไปสำรวจด้วยความตื่นเต้น หวังว่าจะพบของมีค่าของเทพยุทธ์เจ้าของสุสานท่านนี้บ้าง แต่กลับไม่มีใครค้นพบสิ่งมีค่าใดๆ ในสถานที่รกร้างแห่งนั้นแม้แต่อย่างเดียว ตระกูลเฉินเองก็เคยส่งผู้อาวุโสระดับปรมาจารย์ยุทธ์ 2 ดาวท่านหนึ่งเข้าไปสำรวจแล้วเช่นกัน ผลปรากฏก็เป็นเหมือนกับข่าวที่ได้ทราบมาคือไม่พบสิ่งมีค่าควรแก่การสนใจใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากนั้นเป็นต้นมาซากโบราณสถานแห่งนั้นก็ไม่เป็นที่สนใจอีก

“แต่เสวี่ยเอ๋อร์กับปิงเอ๋อร์ยังเล็กนัก ข้าไม่วางใจให้พวกเขาออกไปเสี่ยงเช่นนั้นเลย” หวังยู่อัน มารดาของเฉินเสวี่ยท้วงติงพลางมองมาทางบุตรชายที่ยื่นฟังอยู่ใกล้ๆ อย่างเป็นกังวล แม้ว่าตอนนี้นางจะมีอายุ 30 ปีแล้วแต่ก็ยังคงความงามซึ้งตราตรึงจิตใจผู้คนเอาไว้ได้ถึงเก้าส่วน เฉินเสวี่ยยังไม่เคยเห็นหญิงใดที่งามจนทำให้ผู้คนตื่นตะลึงได้มากไปกว่ามารดาของตนเองมากก่อนเลย

“น้องสะใภ้ไม่ต้องกังวลไปหรอก สถานที่แห่งนั้นไม่ได้มีอันตรายอันใดสักเท่าไหร่ เป็นเพียงที่รกร้างที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังก็เท่านั้น หากเจ้าไม่วางใจจะติดตามพวกเราไปด้วยก็ยังได้ ถือซะว่าเป็นการไปเที่ยวพักผ่อนของครอบครัวอย่างไรเล่า” เฉินจินหมิงกล่าวพลางมองสบตามารดาของเฉินเสวี่ยด้วยแววตาลึกซึ้ง ทุกคนต่างก็ทราบว่าเขาก็เป็นหนึ่งในบุรุษที่เคยหมายปองสาวงามอันดับหนึ่งแห่งทวีปอุดรนางนี้ แต่ครานั้นเขาได้ตบแต่งทั้งภรรยาเอกและภรรยารองเรียบร้อยไปหลายปีแล้ว หากจะรับนางเข้ามาอีกคน ก็ทำได้เพียงมอบตำแหน่งอนุลำดับที่สี่ให้แก่นาง ซึ่งนั่นก็เป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านมหาเสนาบดีหวังจะยินยอมให้ธิดาสุดที่รักของตนลดตัวลงไปเป็นเพียงอนุของผู้อื่น สุดท้ายหวังยู่อันจึงได้แต่งงานเป็นฮูหยินของเฉินปาทั่งซึ่งเป็นน้องชายของเขาแทน จนบัดนี้เฉินจินหมิงก็ยังไม่อาจตัดใจจากหญิงงามที่กลายมาเป็นน้องสะใภ้ของตนได้ แม้เฉินปาทั่งจะรู้เรื่องนี้ดีแต่กลับไม่ถือสาหาความสักนิด เขาเชื่อใจภรรยากับพี่ชายบุญธรรมคนนี้ของตนมาก จึงยังคงวางตนสนิทสนมและไว้วางใจพี่ชายบุญธรรมท่านนี้มาโดยตลอด ทั้งสองครอบครัวไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิดจนเป็นเรื่องปกติ

“มีข้าไปด้วย ฮูหยินอย่ากังวลเลย ข้าไม่ปล่อยให้ลูกๆ ของพวกเราเป็นอันตรายอย่างแน่นอน” เฉินปาทั่งเองก็ส่งยิ้มอ่อนโยนให้ภรรยารักของตนและกล่าวให้คำมั่นกับนางด้วยอีกคน หวังซื่อจึงทำได้เพียงพยักหน้าด้วยสีหน้าจนใจและเดินไปสั่งให้บ่าวรับใช้เตรียมจัดของกินของใช้สำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้

เฉินเสวี่ยเห็นพวกผู้ใหญ่สรุปออกมาดังนั้นก็เดินแยกไปบอกเล่าเรื่องที่พวกตนจะได้ไปสำรวจซากโบราณสถานในวันพรุ่งนี้ให้เฉินปิงน้องสาวของตนฟัง ปีนี้เฉินปิงมีอายุ 10 ปี นางเป็นคนที่มีพลังปราณธาตุน้ำและธาตุไม้ผสมกันในตัว แต่ก็ยังจัดว่ามีปราณธาตุน้ำที่ค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปอยู่มาก อายุเพียงเท่านี้จึงสามารถบรรลุถึงเขตขั้นก่อปราณ 8 ดาวได้แล้ว นางจึงถูกจัดให้เป็นยุวชนผู้มีพรสวรรค์ในการฝึกยุทธ์สูงเป็นอันดับสองของตระกูลรองลงมาจากเฉินเสวี่ย

เฉินปิงได้ฟังเฉินเสวี่ยบอกเล่าเรื่องที่จะได้ออกไปสำรวจซากโบราณสถานก็ตื่นเต้นเป็นการใหญ่ ปกติพวกตนเคยได้ออกไปเที่ยวนอกเมืองกันซะที่ไหนกันเล่า หากไม่ใช่ว่าเป็นช่วงที่ต้องไปไหว้สุสานบรรพชนที่นอกเมืองแล้วล่ะก็ นางกับพี่ชายก็มักจะถูกพวกผู้อาวุโสบังคับให้เอาแต่กักตนฝึกวรยุทธ์อันแสนจะแห้งแล้งน่าเบื่อกันตลอดทั้งปีทั้งชาติ ไม่เคยจะได้ย่างกรายออกไปเที่ยวเล่นที่ไหนอย่างที่เด็กวัยเดียวกันคนอื่นๆ เขาทำกัน

ความตื่นเต้นที่จะได้ออกไปเที่ยวทำเอาสองพี่น้องตระกูลเฉินพากันนอนไม่หลับตลอดคืน เมื่อถึงเวลาออกเดินทางในตอนเช้า ทั้งสองจึงมีท่าทีง่วงงุนจนตาแทบปิด วันนี้สองพี่น้องถูกจับแต่งกายด้วยชุดเสื้อกางเกงรัดกุมสีน้ำเงินเข้มเนื้อหนากรุขอบด้วยด้วยขนจิ้งจอกดำ แม้ว่าผู้ฝึกยุทธ์ที่บรรลุถึงระดับก่อปราณแล้วจะมีสภาพร่างกายที่ทนทานต่อความร้อนและความเย็นได้มากกว่าคนทั่วไปมาก แต่มารดาของเด็กทั้งสองก็ยังไม่วางใจจึงบังคับให้เด็กทั้งสองสวมใส่เสื้อผ้าที่หนาเตอะอยู่ดี

วันนี้ทั้งตัวของเฉินเสวี่ยนอกจากเสื้อผ้าที่เรียบง่ายแล้วก็มีเพียงหยกประดับห้อยเอวสีขาวมันแพะชิ้นเดียว เป็นหยกประดับที่บิดาได้มอบให้เป็นของขวัญวันเกิดของเขาเมื่อคืนที่ผ่านมา ตอนที่บิดามอบหยกประดับชิ้นนี้ให้เขานั้น ได้กล่าวกำชับว่าให้เขาเก็บรักษามันเอาไว้ให้ดี อย่าให้หายและอย่ายกให้ใครเป็นอันขาด เพราะหยกประดับชิ้นนี้เป็นมรดกตกทอดประจำตระกูลชิ้นสำคัญที่ตกทอดแก่ผู้ที่จะได้ขึ้นเป็นประมุขของตระกูลคนถัดไปเท่านั้น

เฉินเสวี่ยรับมันมาและพลิกดูด้วยความสนใจ นอกจากที่มันจะสลักขึ้นมาจากหยกมันแพะเนื้อดีและมีลวดลายอักษรทรงพลังเป็นคำว่าเฉินอยู่แล้ว เขาก็ไม่เห็นว่ามันจะมีอันใดพิเศษกว่าหยกประดับชิ้นอื่นๆ ที่เคยเห็นมา หยกมันแพะคุณภาพดีเช่นนี้มีออกจะกลาดเกลื่อนเต็มคลังสมบัติประจำตระกูลไปหมด แต่ในเมื่อบิดากำชับมาเป็นพิเศษเช่นนั้นเขาก็ตัดสินใจว่าจะห้อยมันติดตัวทุกวันนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ประมุขตระกูลเฉินพร้อมด้วยฮูหยินและบุตรธิดาทั้งสองพาเหล่าผู้ติดตามเดินทางไปยังซากโบราณสถานทางตอนเหนือของแคว้นโดยการขี่สัตว์อสูรอินทรีวายุบินไป การเดินทางที่ปกติจะต้องใช้เวลากว่าสองสัปดาห์เพราะมีแนวเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อนขวางกันถูกร่นลงมาจนเหลือเพียงสามวันเพราะการบินไปทางอากาศ อีกทั้งสัตว์อสูรอินทรีวายุยังเป็นนกขนาดใหญ่ที่บินได้เร็วติดอันดับต้นๆ ในบรรดาสัตว์อสูรบินได้ทั้งหมด เสียก็แต่เผ่าพันธุ์ของพวกมันมีจำนวนประชากรเพียงน้อยนิดและมีนิสัยดุร้ายอย่างยิ่ง จึงมีกลุ่มอิทธิพลเพียงไม่กี่กลุ่มที่สามารถจับและฝึกพวกมันเอามาใช้งานเป็นพาหนะได้ ขนาดตระกูลเฉินเองเป็นตระกูลใหญ่ที่มีอิทธิพลมากในแคว้นนี้ก็ยังมีอินทรีวายุเพียงแค่สองตัวเท่านั้น อินทรีวายุตัวหนึ่งสามารถบรรทุกคนได้สี่คน การเดินทางครั้งนี้จึงมีคนในตระกูลร่วมเดินทางมาพร้อมกับครอบครัวของท่านประมุขตระกูลอีกเพียงสี่คนเท่านั้น นั้นก็คือเฉินจินหมิงพี่ชายบุญธรรมของเฉินปาทั่ง และผู้อาวุโสอีกสามท่านของตระกูล

Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 1 นายน้อยตระกูลเฉิน"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved