เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 593 เรื่องโปรด
- Home
- All Mangas
- เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย
- บทที่ 593 เรื่องโปรด
บทที่ 593 เรื่องโปรด
เสี่ยวเกอเอ๋อร์ขยี้ตา ก่อนเอ่ยว่า “ท่านลุงคนหนึ่งที่มีผมสีขาวทั้งหัว แต่หน้าตาดีมาก ๆ ให้มาเจ้าค่ะ”
จี้จือฮวนจึงหยิบขึ้นมาดู ด้านบนสลักคำว่า ‘สำนักหลัวซา’ เอาไว้
เจียงจือหวย…
มาตั้งแต่เมื่อใดกัน?
“เขาพูดอะไรกับเจ้าอีก?”
เสี่ยวเกอเอ๋อร์ทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เขาบอกว่าให้ข้าตั้งใจเรียนหนังสือ โตเร็ว ๆ แล้วเขาจะยกสำนักหลัวซาให้ข้า ข้าถามเขาว่าอะไรคือสำนักหลัวซา เขาบอกว่ารอข้าโตแล้วก็จะรู้เองเจ้าค่ะ”
“ท่านแม่ ข้าไม่ควรรับไว้หรือเจ้าคะ?” เสี่ยวเกอเอ๋อร์คิดอยู่ครู่หนึ่ง หากรับเอาไว้ไม่ได้นางก็จะโยนทิ้งไป!
เยว่พั่วหลัวจึงรีบพูดขึ้นมาทันที “รับ ๆ ๆ นี่เป็นของดีเชียวนะ!”
จี้จือฮวนจึงใช้เชือกยาวร้อยป้ายคำสั่งนั้นให้นาง แล้วแขวนไว้บนคอ “ท่านปู่เจียงมอบให้เจ้า เจ้าก็รับไว้เถอะ”
“เหตุใดถึงเรียกว่าท่านปู่ล่ะเจ้าคะ? ข้าคิดว่าเขาหน้าตาดีจริง ๆ นะเจ้าคะ อิ อิ อิ”
เจ้าลูกคนนี้มองคนที่หน้าตาจริง ๆ!
…
พระอาทิตย์ตกดิน ขบวนรถม้าก็มุ่งหน้าสู่เส้นทางที่พวกเขาไม่รู้จัก
อาชิงนอนเอาหัวชนกันกับหย่งหนิงโดยไม่รู้ตัว มือก็ยังจับกันแน่นไม่ปล่อย
ไป๋จิ่นอุ้มลูกที่กำลังหลับสนิทกลับมาอย่างเงียบ ๆ ซึ่งแยกแยะได้ง่ายเป็นอย่างมาก พี่ชายคนโตจะมีผมหยักศก ส่วนน้องสาวเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ของไม่เป็นคู่ก็จะงอแง โชคดีที่ไป๋จิ่นเตรียมตัวเอาไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว
ส่วนเยว่พั่วหลัวที่อยู่ด้านข้างได้ผล็อยหลับไปนานแล้ว ท่ามกลางเสียงล้อรถม้าบดกับถนน ไป๋จิ่นเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็กทั้งสองคนเสร็จแล้วจึงหันไปประทับจูบลงบนหน้าผากของนางอย่างอ่อนโยน
ในรถม้าอีกคัน ฮวาเซียงเซียงและเซียวเย่เจ๋อถือลูกคิดคนละอัน กำลังจัดการเรื่องสำคัญอยู่ เมื่อเสียงลูกคิดผสานกับเสียงตำยาของเย่จิ่งฝูก็ยิ่งทำให้เสียงนั้นดังขึ้นกว่าเดิม
เซียวเย่เจ๋อมือหนึ่งดีดลูกคิด มือหนึ่งก็ต้องป้อนนมให้ลูกสาวไปด้วย สมองก็เป็นกังวลว่าอาหญิงจะหายไข้แล้วหรือไม่
อาอินกับเซียวเซวียนจิ่นแข่งกันขี่ม้า ภายในรถม้าจึงเงียบลง หมูเหยี่ยวล่าเหยื่อก็พาครอบครัวมุดออกมาจากรังขนาดใหญ่บนหลังคารถม้า บรรดานกตัวเล็ก ๆ พากันชะเง้อหน้าและเผยร่างอ้วนกลมออกมา
อาฉือเก็บจดหมายปึกหนาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็จุ่มพู่กันและเขียนจดหมายถึงเสิ่นเยี่ยนชิว
ตอนที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เผยยวนจึงอุ้มลูกสาวและจับมือของจี้จือฮวนเดินเล่นบนคันนาเป็นเพื่อนไท่ซ่างหวงและองค์หญิงใหญ่
อาทิตย์ยามอัสดงย้อมทุ่งนาบริเวณใกล้เคียงให้กลายเป็นสีเหลืองทอง ผืนดินอันงดงามและสายลมที่พัดผ่านทุ่งนาทำให้คนมีความหวังในชีวิต
ดวงตาของไท่ซ่างหวงตอนนี้ก็เริ่มมองเห็นไม่ชัดแล้ว “ปีนี้การเก็บเกี่ยวให้ผลดี”
องค์หญิงใหญ่ประคองเขาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ก็ใช่น่ะสิ ใต้หล้านี้ท่านยังมีอะไรไม่วางใจอีก”
ไท่ซ่างหวงมองดูภูเขาและแม่น้ำ รวมถึงชาวนาที่กำลังกลับบ้านหลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน
เป็นเช่นนี้ช่างดีมากจริง ๆ
ต่อมาพวกเขาก็เดินจับมือกันผ่านภูเขาและแม่น้ำ ชมทิวทัศน์ของสถานที่ต่าง ๆ และชื่นชมขุนเขาและสายน้ำมากมาย
นี่คือความทรงจำที่แสนนานของพวกเขา
บทส่งท้าย :
ข้าชื่อเซี่ยเจ๋อ ชื่อนี้ท่านปู่ของข้า เทพเจ้าแห่งสงครามของต้าจิ้นเผยยวนเป็นคนตั้งให้ข้า
ได้ยินมาว่าเขากับท่านย่าของข้าเป็นคนยึดหลงซีทั้งแปดเมืองคืนมาได้ ไม่เคยพ่ายแพ้ศัตรูเลยสักครั้ง คือวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในดวงใจของชายชาวต้าจิ้นทุกคน!
ข้าชอบอยู่ที่เรือนของท่านปู่กับท่านย่ามากที่สุด ท่านย่าเป็นคนที่น่าสนใจมาก นางทำสิ่งที่ข้าไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นมาก่อนมากมาย
และนางยังได้สอนข้ามากมาย ซึ่งแตกต่างจากคนในวัง
อ้อ ข้าลืมแนะนำตัวเองไป ข้าเป็นองค์รัชทายาทของต้าจิ้น และข้ายังมีน้องอีกสามคน เสด็จพ่อของข้าชื่อว่าเซี่ยฉือ และเสด็จแม่ชื่อว่าเสิ่นเยี่ยนชิว
ในวังมีเพียงพวกเราครอบครัวเดียว ดังนั้นข้าจึงชอบไปที่หมู่บ้านตระกูลเฉิน
ท่านอาหญิงใหญ่เป็นผิงซีโหว สืบทอดตำแหน่งของท่านปู่ คอยพิทักษ์ชายแดน!
ส่วนท่านอาหญิงน้อยเป็นคนลึกลับ แต่ได้ยินว่านางมีฝีมือลึกล้ำ ข้าพูดถึงนางแค่ประโยคเดียวว่ายังไม่แต่งงาน วันรุ่งขึ้นก็จะได้รับหนังสือมากมายที่นางส่งมา และต้องท่องเนื้อหาทั้งหมดด้วย!
ส่วนท่านอาของข้าน่ะหรือ แค่เขาไม่เอาแมลงชนิดต่าง ๆ มามอบให้ข้าได้ก็ดีมากแล้ว ถึงแม้แมลงเหล่านั้นจะทำให้มือสังหารเสียสติได้ก็ตาม
แต่ท่านอาสะใภ้ของข้าก็เป็นแค่คนธรรมดา ถึงแม้นางจะบอบบาง และมักจะถูกท่านอาของข้าทำให้ตกใจจนร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง แต่นางก็ง้อได้ง่ายมาก
เฮ้อ หวังว่าปีใหม่ ท่านอาสะใภ้จะสามารถทำให้ท่านอาตกใจจนร้องไห้ได้บ้างก็คงดี
ข้าหวังว่าเมื่อข้าโตขึ้นจะเป็นเหมือนท่านย่า ที่สามารถทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้
แต่ตอนนี้นางแก่แล้ว จึงเริ่มมีผมสีขาวแซมให้เห็นมากขึ้น
สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนไปคือ ท่านปู่ยังคงเขียนคิ้วให้นาง และมวยผมให้นางทุกวัน
ในหัวใจของท่านปู่ ท่านย่าคือคนที่สำคัญที่สุดของเขา เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในใจของเขา
บางครั้งพวกเขาก็เถียงกันบ้าง เวลาทะเลาะกันท่านปู่ก็จะโมโหจนร้องไห้ และต้องให้ท่านย่ามาง้อจึงจะยอมหายงอน ข้ารู้สึกว่าช่างน่าขันยิ่งนัก
บางครั้งท่านปู่และท่านย่าคนอื่น ๆ ก็จะมาที่หมู่บ้าน หลาน ๆ ของพวกเขาก็จะมาเล่นกับข้า
และปรากฏว่าท่านปู่กับท่านย่าของพวกเขาก็ทะเลาะกันเหมือนกัน
เห็นเช่นนี้แล้วท่านปู่กับท่านย่าของข้าจึงดูรักกันมากทีเดียว
ยกเว้นตอนที่ท่านปู่ถูกไล่ออกมา และต้องแอบกลับเข้าไปที่ห้องของท่านย่า ซึ่งอาจดูขี้ขลาดไปสักหน่อย
เมื่อข้าบอกกับเสด็จพ่อ เสด็จพ่อก็จะเคาะหน้าผากของข้า บอกข้าว่าการกลัวภรรยาไม่ใช่เรื่องขี้ขลาด แต่มันคือความรักและความเคารพ รอข้าโตขึ้นก็จะรู้เอง
ปกติแล้วข้าและพวกน้อง ๆ ก็จะชอบอยู่กับเสด็จแม่มากที่สุด เพื่อฟังนางเล่าเรื่องในอดีต
ซึ่งเสด็จพ่อเป็นคนเล่าให้นางฟังอีกที
จากน้ำเสียงที่อ่อนโยนของเสด็จแม่ ข้าราวกับมองเห็นภาพของเสด็จพ่อกับพวกท่านอา ที่ไม่ได้กินข้าว ไม่มีเสื้อผ้าอบอุ่นใส่ ตัวสั่นเทาและมีเพียงพวกเขาในกระท่อมที่ทรุดโทรม
รวมถึงความเด็ดเดี่ยวของท่านย่าตอนสาว ๆ
ข้าคิดว่าหากข้าได้มีส่วนร่วมด้วยก็คงดี!
หลังจากเสด็จพ่อตรวจฎีกาเสร็จและกลับมา ก็ได้เอาของว่างที่ท่านย่าส่งมามาให้ข้าด้วย ข้าชอบกินของว่างของท่านย่ามากที่สุด
หลังจากล้างมือจนสะอาดและคลานขึ้นไปบนเตียง ข้าก็ได้ขอให้เสด็จพ่อเล่าเรื่องในอดีตให้ข้าฟัง
“เสด็จพ่อ ตอนนั้นหากท่านย่าไม่ต้องการพวกท่านจะเป็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ?”
เสด็จพ่อเงียบไปนานมาก “เช่นนั้นพ่อก็คงไม่ได้ขึ้นมานั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ ไม่ได้พบเสด็จแม่ของเจ้า และคงไม่มีเจ้าแล้ว”
“เสด็จพ่อ ต่อไปลูกก็จะเป็นเหมือนท่านปู่ ปกป้องราษฎรต้าจิ้นของเรา!”
“อืม…แล้วก็หาภรรยาที่เหมือนกับท่านย่า”
เสด็จพ่อมองข้าเล็กน้อย “ตอนนั้นที่อาเจ้าอายุเท่ากับเจ้า ก็ตะโกนทุกวันว่าจะแต่งงานกับท่านย่าของเจ้า”
“สุดท้ายเล่าพ่ะย่ะค่ะ?”
“สุดท้ายก็ได้แต่งงานกับท่านอาสะใภ้ของเจ้าอย่างไรเล่า
เด็กโง่ คนที่จะได้แต่งกับท่านย่าของเจ้ามีเพียงแค่ท่านปู่เจ้าเท่านั้น เพราะเขาวาสนาดี!” จากนั้นเซี่ยฉือก็ห่มผ้าให้กับลูกชาย “นอนเถอะ ไม่อย่างนั้นจะเป็นเหมือนกับอาของเจ้า อายุปูนนี้แต่งงานแล้ว ก็ยังส่งหนอนพิษเป็นของขวัญให้คนอื่นอยู่เลย”
ข้าจึงหัวเราะออกมา กอดผ้าห่มที่ท่านย่าทำให้ข้าเอาไว้แน่น โดยด้านบนมีการปักภาพพวกเราทั้งครอบครัวเอาไว้ แต่ฝีมือการปักผ้าของท่านย่ายังขี้เหร่อยู่
แต่พวกเราก็ไม่ได้ถือสา เพราะนี่คือผ้าห่มที่สวยที่สุดสำหรับพวกเรา!
คืนนั้นข้าฝัน
ฝันเห็นตอนที่ท่านปู่ยังเป็นหนุ่ม สวมชุดเกราะนั่งอยู่บนหลังม้า มีจิตใจฮึกเหิม เขาจับมือท่านย่า ปกป้องครอบครัวและบ้านเมือง และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยกัน
ข้ามีความสุขมากจริง ๆ
และนี่ก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ข้าชื่นชอบที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา