เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 97 เจียงเฉิงพร้อมยืนเคียงข้างเฉียวเหลียนเฉิงเพื่อจัดการน้องตัวเอง
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 97 เจียงเฉิงพร้อมยืนเคียงข้างเฉียวเหลียนเฉิงเพื่อจัดการน้องตัวเอง
บทที่ 97 เจียงเฉิงพร้อมยืนเคียงข้างเฉียวเหลียนเฉิงเพื่อจัดการน้องตัวเอง
เฉียวเหลียนเฉิงโกรธจัด จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านก็ยังไม่คลายความขุ่นเคือง
ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาด้านใน ผิงอันจ้องมองเขา
“น้าอ้วนจะรอดไหมครับ?” เด็กชายถามอย่างอยากรู้
เฉียวเหลียนเฉิงลังเลที่จะพูด ทว่าเมื่อเห็นแววตาคาดหวังของผิงอัน เขาก็ส่ายศีรษะอย่างหมดหนทาง
ผิงอันจึงเงียบไป
ในตอนเย็น เจียงเฉิงกับเฉียวเหลียนเฉิงไปพบเหล่าหลัวด้วยกัน
“นี่คือหลักฐานที่พวกเรามีทั้งหมดตอนนี้ครับ” เฉียวเหลียนเฉิงอธิบายถึงหลักฐานที่มี ก่อนจะบอกสิ่งที่เขาเพิ่งรู้มา
เหล่าหลัวถอนหายใจ “เอาล่ะผมขอสรุปเลยก็แล้วกัน”
“ตอนนี้ร่องรอยในที่เกิดเหตุถูกทำลายไปแล้ว โดยปกติหากเจียงหว่านเป็นผู้ก่อเหตุจริง และเธอไม่ได้เคลื่อนไหวหลังจากเกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุย่อมไม่ถูกทำลาย และเราก็จะสามารถบอกได้ว่าหลี่ซิ่วหลันถูกผลักตก หรือว่าเธอพลัดตกลงมาเอง”
“และบังเอิญว่าตอนเกิดเหตุ คนจากหน่วยลาดตระเวนอยู่บริเวณใกล้เคียงพอดี เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงตะโกนบอกว่าเจียงหว่านฆ่าคน พวกเขาก็เข้าควบคุมตัวเธอไว้ทันที”
“หลังจากเข้าควบคุมตัวเจียงหว่านแล้ว ด้วยพื้นที่บริเวณนั้นคับแคบมาก บวกกับมีหลายคนเข้าไปพร้อมกัน สถานที่จึงถูกทำลายไป”
เฉียวเหลียนเฉิงกับเจียงเฉิงมองหน้ากัน
ทั้งคู่เผยความหดหู่ในแววตา
ส่วนเหล่าหลัวกล่าวต่อว่า “ตอนนี้เบาะแสที่ผิงอันให้มาสำคัญมาก และเราก็พบใบเลื่อยที่เป็นหลักฐานสำคัญแล้ว แม้จะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นของเจียงเสวี่ยจริง ๆ ก็ตาม”
“แต่เจียงเสวี่ยไม่มีทางยอมรับ!”
เฉียวเหลียนเฉิงจึงเอ่ยว่า “ผิงอันเป็นพยานได้!”
เหล่าหลัวกล่าวต่อ “แต่ผิงอันเป็นเด็ก คำให้การของเด็กไม่กี่ขวบไม่สามารถใช้ได้ ไม่มีใครรู้ว่าผิงอันเป็นคนไปเลื่อยราวบันไดเอง แล้วมาใส่ร้ายเจียงเสวี่ยหรือเปล่า”
“เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้!” เฉียวเหลียนเฉิงค้านทันที
เหล่าหลัวพยักหน้า “ใช่ นายคงคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ทางกฎหมายมันเป็นเรื่องของหลักฐาน”
“ตอนนี้ใบเลื่อยถูกส่งไปตรวจสอบแล้ว ถ้าสามารถดึงลายนิ้วมือเจียงเสวี่ยออกมาได้ ก็จะยืนยันได้ว่ามันเป็นของเธอจริง และถ้าฝุ่นเหล็กจากใบเลื่อยตรงกับของราวบันได มันก็จะพิสูจน์ทุกอย่างได้”
“แต่ต้องใช้เวลาอีกหนึ่งสัปดาห์กว่าผลการตรวจสอบจะออกมา”
“ทำไมถึงนานขนาดนั้นล่ะ?” เฉียวเหลียนเฉิงสงสัย
เหล่าหลัวตอบกลับว่า “เราเป็นแค่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของกองทัพ ไม่มีอุปกรณ์ทดสอบเอง หลักฐานทั้งหมดจึงต้องส่งไปตรวจสอบที่กองบัญชาการเท่านั้น”
“การคาดเดาของพวกเราน่าจะถูกต้อง แต่ถ้าไม่มีลายนิ้วมือของเจียงเสวี่ย ทุกอย่างก็ไม่มีประโยชน์!”
เฉียวเหลียนเฉิงไม่พูดอะไรต่ออีก
เหล่าหลัวกล่าวต่อ “สำหรับหลี่ซิ่วหลัน มันไม่มีประโยชน์เลยที่เธอบอกความจริงกับนายแบบนั้น นายต้องขอให้เธอมาเป็นพยาน เพราะไม่มีใครได้ยินสิ่งที่เธอพูดนอกจากนายคนเดียว”
เฉียวเหลียนเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดว่า “แล้วจะทำให้มันเป็นหลักฐานที่มีประโยชน์ได้ยังไง”
เพราะเฉียวเหลียนเฉิงไม่เข้าใจกฎหมายมากนัก ตอนนี้เขาจึงยิ่งสับสน
อยู่ ๆ เขาก็นึกถึงนิยายที่เจียงหว่านแต่งขึ้นมา โครงเรื่องในนิยายเหล่านั้นคล้ายคลึงกับเรื่องนี้มาก
แม้สถานการณ์จะแตกต่างกัน แต่ความอยุติธรรมและความสับสนกลับเหมือนกันทุกประการ
นิยายของเจียงหว่านถูกเขียนขึ้นอย่างดี โครงเรื่องเต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้น
ถ้าเธออยู่ที่นี่ เธอน่าจะรู้ว่าควรทำยังไงต่อ!
แต่ตอนนี้เฉียวเหลียนเฉิงรู้สึกจนปัญญาจริง ๆ
นอกจากต่อสู้กับฆ่าคนแล้ว เขาก็ทำอะไรไม่เป็นเลย
เหล่าหลัวเงียบคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากขึ้นว่า
“ในการหาพยานหลักฐานที่สามารถต่อสู้คดีได้ตามกฎหมาย จำเป็นต้องมีพยานมากกว่าสองคน”
“ตอนนี้เราต้องใจเย็นกับหลี่ซิ่วหลันให้มาก ถ้าเธอยอมพูดความจริงได้ ทุกอย่างจะง่ายขึ้น”
เจียงเฉิงอดไม่ได้ที่จะกังวล
เขากล่าวขึ้นว่า “เหล่าหลัว สถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว น้องสาวของผมยังออกไปจากที่นี่ไม่ได้ใช่ไหมครับ”
เหล่าหลัวพยักหน้ารับ “ใช่ เธอไม่ใช่พยาน แต่ก็ยังเป็นผู้ต้องสงสัย เธอจึงถูกห้ามไม่ให้ออกไปไหนเด็ดขาด”
เจียงเฉิงไม่โต้แย้งใด ๆ
เฉียวเหลียนเฉิงถามอีกครั้ง “ผมขอพบเจียงหว่านได้ไหม?”
เหล่าหลัวส่ายศีรษะ
เฉียวเหลียนเฉิงเห็นอย่างนั้นก็สิ้นหวังมาก
เหล่าหลัวที่เห็นสภาพของชายหนุ่มลังเลเล็กน้อย ก่อนจะบอกว่า “ถ้าหาคนรับรองได้ ฉันจะยอมให้นายเข้าพบเธอ”
เฉียวเหลียนเฉิงเงยหน้ามองเจียงเฉิงอย่างมีความหวัง
แต่เจียงเฉิงกลับยิ้มขมขื่น “แต่น้องสาวของฉันเป็นผู้ต้องสงสัยนะ”
เฉียวเหลียนเฉิงยิ้มแล้วพูดต่อว่า “เหตุผลนี้น่าจะทำให้ฐานะของนายมีน้ำหนักมากขึ้นนะ”
เจียงเฉิงพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจนัก
กล่าวตามตรง เขาควรจะเข้าข้างน้องสาวตัวเอง แต่หากมองด้วยเหตุและผล เจียงเสวี่ยก็ทำผิดจริง และเขาที่เป็นพี่ก็ควรจะต้องแก้ไขทุกอย่างให้ถูกต้องโดยเร็วที่สุด
ไม่อย่างนั้นเจียงเสวี่ยที่มีจิตใจชั่วร้ายก็อาจจะก่อเรื่องร้ายแรงขึ้นอีกในอนาคต และเมื่อถึงวันนั้น ต่อให้เป็นเขาและตระกูลเจียงก็คงไม่อาจช่วยเธอได้อีกแล้ว
เฉียวเหลียนเฉิงเขียนหนังสือขอเข้าพบเจียงหว่าน โดยมีเจียงเฉิงช่วยรับรอง
เจียงหว่านถูกพาตัวออกมา เดิมทีเธอคิดว่ากำลังจะถูกสอบปากคำ และไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะกลายเป็นการมาพบเฉียวเหลียนเฉิงกับเจียงเฉิง
“ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?” เจียงหว่านถามอย่างประหลาดใจ
เฉียวเหลียนเฉิงตื่นเต้นมากที่ได้พบกับเจียงหว่านอีกครั้ง เธอผอมลงและดูซีดเซียวไปมาก
ภาพตรงหน้าทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกอย่างบอกไม่ถูก
“กับข้าวในนี้ไม่อร่อยเหรอ? คุณได้กินข้าวครบทุกมื้อหรือเปล่า? คุณหนาวไหม?”
“ผมอยากเอาเสื้อผ้ามาให้ แต่ผมหาชุดกันหนาวของคุณไม่เจอ ผมเลยเอาเสื้อผ้าของผมมาให้แทน เอาไว้ห่มตอนหนาวนะ”
“อ้อ ผมเอาอาหารมาด้วย ผมขอให้พ่อครัวทำขนมอบให้ ไม่ต้องห่วง ผมจ่ายเงินแล้ว คุณกินได้เลย”
เฉียวเหลียนเฉิงเลื่อนเสื้อผ้ากับขนมไปให้เจียงหว่าน
โต๊ะที่กั้นกลางระหว่างทั้งสอง ทำให้พวกเขาดูห่างเหิน
เจียงหว่านเหลือบมองของเหล่านั้นก่อนจะถามว่า “คดีเป็นยังไงบ้าง ทำไมพวกเขาถึงไม่สอบปากคำฉันสักที”
เจียงเฉิงเป็นคนกล่าวขึ้นว่า “เหล่าหลัวเป็นนักสืบที่ยอดเยี่ยม เขาสืบคดีอาชญากรรมเก่งมาก คุณไม่ต้องห่วง”
“ถ้าเขายังไม่สอบปากคำคุณ แสดงว่าเขายังมีหลักฐานไม่เพียงพอ ถ้าเขาจัดการคดีเสร็จหมดแล้ว เขาถึงจะสอบปากคำคุณน่ะ”
เจียงหว่านไม่ได้คิดว่าจะได้ยินเรื่องแบบนี้ และหลังจากครุ่นคิด เธอก็ตระหนักได้ว่าการสืบสวนคดีอาญาในยุคนี้คงต้องลำบากมากแน่
อีกทั้งนี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในค่ายทหารด้วย
หน่วยความมั่นคงของทหารเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ แต่ประสบการณ์ในการทำคดีของพวกเขาเลวร้ายยิ่งกว่าตำรวจเสียอีก
“ตอนนี้การสอบสวนไปถึงไหนแล้ว?”
เธออยากทราบสถานการณ์ด้วยตัวเอง เพราะรู้สึกไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น
ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่เฉียวเหลียนเฉิงมาพบเธอในวันนี้
เขาบอกกับเจียงหว่านถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เขารู้
เจียงหว่านเพียงรับฟังเงียบ ๆ และหันมองเจียงเฉิงเป็นครั้งคราว
เจียงเฉิงเองก็พอจะเข้าใจสายตาของเธอ ใบหน้าของเขาแดงก่ำเพราะละอาย
หลังจากเฉียวเหลียนเฉิงกล่าวจบแล้ว เจียงหว่านยกนิ้วให้กับเจียงเฉิง
“ฉันชื่นชมคุณนะ คุณคือพี่ชายที่รักน้องสาวมาก แต่เลือกที่จะจัดการกับเธอที่กระทำผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องความยุติธรรม ฉันขอชื่นชม!”
เพราะเจียงเฉิงมาที่นี่ด้วย เจียงหว่านจึงเข้าใจถึงความคิดของเขา
เจียงเฉิงกล่าวออกมาอย่างหดหู่ “ผมจะไปสูบบุหรี่สักหน่อย พวกนายคุยกันไปก่อน”
เขาลุกขึ้น และเดินออกไปด้านนอก เพื่อให้สองสามีภรรยาอยู่กันตามลำพัง
“คุณมีความคิดอะไรดี ๆ บ้างไหม? บอกผมมาได้เลยนะ ผมจะไปจัดการให้เอง”
เฉียวเหลียนเฉิงกล่าวเข้าประเด็นทันที เพราะเขารู้ว่าตัวเองไม่เก่งเรื่องแบบนี้จึงต้องขอความช่วยเหลือ
เจียงหว่านครุ่นคิดสักพัก “เราคงไม่สามารถใช้วิธีการปกติได้ ตอนนี้หากเราจะจับกุมคนร้าย เราต้องใช้วิธีการใหม่”
“งั้นเอาอย่างนี้นะ คุณลองทำแบบนี้…”