เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 95 พบหลักฐาน
บทที่ 95 พบหลักฐาน
เฉียวเหลียนเฉิงหยุดพูดไปสักครู่ก่อนจะเริ่มอธิบายต่อ “ผิงอัน คนเราน่ะมีความชอบหลายประเภท เธอชอบพูดจาแย่ ๆ ใส่ลูก แต่เธอก็ให้เนื้อที่อร่อยที่สุดกับลูก และดูแลความปลอดภัยของลูกอย่างถึงที่สุด นี่ก็นับเป็นการแสดงความชอบอย่างหนึ่งเหมือนกัน”
ผิงอันนิ่งไป เขากำลังทบทวนสิ่งที่ได้รับฟัง จนเข้าใจสิ่งที่เฉียวเหลียนเฉิงกล่าวในที่สุด
เฉียวเหลียนเฉิงที่เห็นผิงอันเงียบไป ก็ดันกล่องอาหารกลางวันไปให้ ก่อนจะพูดว่า “กินข้าวสิ มันไม่อร่อยเท่าของน้าอ้วนหรอกนะ”
“แต่ก็กินหน่อยเถอะ”
ผิงอันมองซุปผักตรงหน้า ก่อนจะเงยหน้ามองเฉียวเหลียนเฉิง
“พ่อครับ ผมรู้ว่าใครเป็นคนเลื่อยราวบันได”
เฉียวเหลียนเฉิงตกตะลึง
อีกด้าน เวลานี้เหล่าหลัวก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับคดีนี้เช่นกัน
เรื่องนี้ซับซ้อนมาก ทั้งการสืบสวนและเบาะแสที่พบเต็มไปด้วยความยากลำบาก
แต่เมื่อเฉียวเหลียนเฉิงพาผิงอันเข้ามา และบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องใบเลื่อยให้ฟัง เหล่าหลัวผ่อนคลายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่เขาก็ยังกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “นี่เป็นเบาะแสสำคัญจริง ๆ อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าเจียงหว่านไม่ได้เลื่อยราวบันได จึงไม่มีเจตนาฆ่า”
“แล้วผิงอันรู้ไหมว่าใบเลื่อยพวกนั้นอยู่ที่ไหน?”
ผิงอันส่ายศีรษะ “พอผมให้มันกับเธอไป ก็ไม่รู้อะไรต่อเลยครับ”
เหล่าหลัวหันมองเฉียวเหลียนเฉิง “ถ้าเราเข้าไปตรวจค้นตอนนี้และไม่พบใบเลื่อย มันอาจจะกลายเป็นว่าเราใส่ความเจียงเสวี่ยได้”
“เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนร้ายไหวตัวทัน ทางที่ดีที่สุดคือหาใบเลื่อยให้พบก่อน แล้วเข้าจับกุมทันที”
เฉียวเหลียนเฉิงคิดหนัก เจียงเสวี่ยไม่มีทางเอามันออกมาแน่ และใบเลื่อยพวกนั้นคงจะไม่ได้อยู่ในบ้านเธอแล้วด้วย
ทำยังไงดี?
ผิงอันเองก็คิดอยู่ครู่ ก่อนจะเอ่ยปากขึ้น “เธอน่าจะโยนมันทิ้งไปแล้วหรืออาจจะซ่อนมันไว้ แต่เธอขาหักจะเอาไปซ่อนที่ไหนได้กันนะ?”
ในใจของเฉียวเหลียนเฉิงผุดความคิดบางอย่างขึ้นทันที
“ใช่ มันน่าจะถูกโยนทิ้งไปแล้ว และน่าจะอยู่ในที่ที่เธอสามารถไปถึงได้ เอาล่ะ พ่อจะไปหามัน!”
ผิงอันกับเหล่าหลัวรีบตามไปด้วย
มันคือหลักฐานชั้นดี แต่เหล่าหลัวกังวลว่าหากเฉียวเหลียนเฉิงประทับรอยนิ้วมือของตัวเองลงไป มันคงจะลำบากมากขึ้นแน่
คนทั้งสามมาถึงลานบ้านของกองทัพ เหล่าหลัวเห็นเฉียวเหลียนเฉิงตรงไปที่สวนหลังบ้าน
เขารีบตามไปทันที แน่นอนว่าขณะนั้นเฉียวเหลียนเฉิงพบใบเลื่อยในสวนหลังบ้านแล้ว
เหล่าหลัวร้อนรน กำลังจะตะโกนบอกว่า ‘อย่าใช้มือสัมผัสมัน’ เขาก็เห็นว่าเฉียวเหลียนเฉิงหยิบผ้าเช็ดออกมา และใช้ผ้าเช็ดหน้าหยิบใบเลื่อยด้วยความระมัดระวัง
เหล่าหลัวถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ตอนนี้พวกเขาพบใบเลื่อยสี่ใบตามที่ผิงอันบอกเอาไว้ก่อนหน้าจริง ๆ
ชัดเจนแล้วว่าราวบันไดถูกตัดไว้ก่อนหน้าด้วยใบเลื่อยพวกนี้
“ฉันจะส่งหลักฐานนี้ไปตรวจลายนิ้วมือ แต่อย่าไปยุ่งกับเจียงเสวี่ยจนกว่าผลจะออกมาดีกว่านะ” เหล่าหลัวกล่าวเตือน
เฉียวเหลียนเฉิงจึงรีบตอบรับทันที เวลานี้ในใจของเขาเต้นระรัวด้วยความหวัง
ตราบใดที่มีสิ่งนี้ก็สามารถช่วยเจียงหว่านจากคดีฆาตกรรมได้ หรืออย่างน้อยเธอก็จะไม่ถูกประหาร!
ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรจากค่ายทหาร ภายในโรงพยาบาล
หลี่ซิ่วหลันตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงร้องไห้ เธอปรับสายตาให้ชินกับแสง และก็เห็นว่าหลี่ซิ่วจือกำลังร้องไห้อยู่
“พี่คะ ร้องไห้ทำไม”
เธอกวาดสายตาไปรอบ ๆ และได้รู้ว่าที่นี่คือโรงพยาบาล
“พี่คะ ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?”
ซิ่วจือเช็ดน้ำตา แล้วรีบตอบ “เธอพลัดตกราวบันได เลยมารักษาตัวในโรงพยาบาล”
หลี่ซิ่วหลันตื่นตระหนกทันที “เป็นไปได้ยังไง ทำไมฉันถึงร่วงลงมา!”
หลี่ซิ่วหลันพูดจบก็โกรธจนตัวสั่น “นังอ้วนนั่น เพราะนังอ้วนคนนั้น ถ้านังนั่นไม่ผลักฉัน ฉันจะร่วงจากบันไดได้ยังไง”
เป็นเพราะเจียงหว่านอ้วนเกิน เธอเลยไม่สามารถผลักหล่อนให้ตกลงไปได้
ครั้งสุดท้าย เธอจึงทุ่มแรงจนสุดตัว แต่นังอ้วนนั่นกลับหลบได้ทัน ถ้านังนั่นไม่ได้อ้วนและไม่หลบ ตัวเธอคงจะไม่ร่วงจากราวบันไดแน่นอน
ดังนั้นทุกอย่างเป็นความผิดของเจียงหว่าน
หลี่ซิ่วจือที่ไม่รู้ว่าน้องสาวของตนกำลังคิดอะไรอยู่ จึงคิดไปว่าเจียงหว่านเป็นคนทำร้ายน้องสาวของตนจริง ๆ
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดต่อ “ซิ่วหลันไม่ต้องกลัวนะ คนจากฝ่ายรักษาความปลอดภัยเข้ามาดูแลและเร่มสอบสวนเรื่องนี้แล้ว พวกเขาจะคืนความยุติธรรมให้เธอแน่นอน”
“แล้วก็ไม่ต้องกังวล ฉันจะทวงความยุติธรรมให้กับเธอเอง ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม!”
หลี่ซิ่วหลันพยักหน้ารับพร้อมสงบสติอารมณ์ลง
แต่ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านนอก และแม่ของพวกเธออย่างหลานฮวาก็เดินเข้ามา
“ลูกสาวแม่ในที่สุดลูกก็ตื่นแล้ว ไหนให้แม่ดูหน่อยซิว่าเป็นยังไงบ้าง”
หลี่ซิ่วหลันอึดอัดใจเมื่อเห็นแม่ เพราะเธอรู้ดีถึงจุดประสงค์การมาเยือนของแม่ในคราวนี้
“แม่คะ หนูไม่อยากแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น”
หลานฮวาพยักหน้าอย่างร้อนรน “ไม่ ไม่แล้วจ้ะ ไม่ต้องห่วงนะ แม่ได้ยินว่าขาของลูกบาดเจ็บ ไม่สามารถเดินได้อีก พวกเขาจึงยกเลิกงานหมั้นทันที จะไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้นอีกแล้วจ้ะ!”
หลี่ซิ่วหลันถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ทันใดเธอก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“แม่ แม่พูดว่าอะไรนะคะ? หนู หนูเดินไม่ได้อีกเหรอ?”
เธอมองแม่และพี่สาวด้วยความสับสน ยิ่งเมื่อสังเกตเห็นว่าอีกทั้งสองมีดวงตาบวมแดง และมีใบหน้าโศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ก็ทำให้เธอยิ่งกังวลใจ
เมื่อได้รับรู้ข่าวร้ายเธอก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่หัวหน้าหลัวมาหาเธอพอดี
เสียงกรีดร้องดังไปทั่วโรงพยาบาล จนผู้คนในระแวกนั้นได้ยินอย่างชัดเจน
ส่วนหลี่ซิ่วจือที่เห็นว่าตำรวจมาหา เธอก็รีบกล่าวปลอบน้องสาว
ทว่าหลี่ซิ่วหลันไม่รอให้หัวหน้าหลัวถามอะไร เธอกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง “นังอ้วนนั่นผลักฉัน มันต้องการจะฆ่าฉัน!”
“มันเป็นคนทำร้ายฉัน!”
“ขา! ขาของฉัน ฉันไม่สามารถยืนได้อีกแล้วตลอดชีวิตนี้!”
หลี่ซิ่วหลันแทบจะกลายเป็นคนเสียสติ ไม่ว่าหัวหน้าหลัวจะพูดอะไร เธอก็จะพูดวนไปวนมาเพียงเท่านี้
หัวหน้าหลัวจึงต้องยอมแพ้ เขาถอยออกมาเพื่อปล่อยให้เธอได้พักผ่อนไปก่อนสักระยะ แล้วคิดว่าค่อยกลับมาใหม่อีกครั้ง
ด้านเฉียวเหลียนเฉิงรู้ว่าเหล่าหลัวจะไปพบหลี่ซิ่วหลัน เขาจึงตามมาด้วย แต่เขาไม่ได้เข้าไป เขาทำเพียงเฝ้ารออยู่ด้านนอก
ทันทีที่เห็นเหล่าหลัวเดินออกมา เฉียวเหลียนเฉิงก็รีบถามสถานการณ์
ขณะกำลังจะพูด เหล่าหลัวก็ชี้ไปที่ประตู
“นายคงจะได้ยินหมดแล้ว”
เฉียวเหลียนเฉิงเงียบ
“นี่คือหลักฐานที่ดีที่สุดล่ะนะ ถ้าอยากจะช่วยเหลือภรรยา นายก็ต้องไปหาหลักฐานมาเพิ่มซะ”
เฉียวเหลียนเฉิงพูดไม่ออก หลังเหล่าหลัวจากไป เขาก็เคาะประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปด้านใน
หลี่ซิ่วจือไม่คิดว่าเฉียวเหลียนเฉิงจะมาถึงที่นี่ เธอลุกขึ้น แล้วไปต้อนรับด้วยสีหน้าลำบากใจ
“หัวหน้ากองพันเฉียว ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้คะ”
เฉียวเหลียนเฉิงหันไปมองหลี่ซิ่วหลัน “ผมมีเรื่องจะคุยกับเธอ”
หลี่ซิ่วจือขมวดคิ้วก่อนจะหันมองน้องสาว และเห็นว่าใบหน้าของน้องสาวแดงก่ำขึ้นมาเมื่อได้เห็นเฉียวเหลียนเฉิง
หลี่ซิ่วหลันจ้องมองเฉียวเหลียนเฉิงนิ่ง ในตอนนี้ไม่มีใครที่จะสามารถดึงความสนใจของเธอได้อีก
หลี่ซิ่วจือไม่รู้ว่าน้องสาวกำลังคิดอะไรอยู่ จึงทำได้เพียงพยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้
“หัวหน้ากองพันเฉียวนั่งก่อนเถอะค่ะ ฉันจะไปเอาน้ำมาให้”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ แต่ยังไม่ขยับ
หลังจากหลี่ซิ่วจือออกไปแล้ว หลี่ซิ่วหลันก็ถามขึ้นแผ่วเบา “พี่เฉียวกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
เธอรู้ว่ากองพันที่หนึ่งต้องออกไปปฏิบัติภารกิจ จึงเฝ้ารออยู่เสมอว่าเมื่อไหร่เฉียวเหลียนเฉิงจะกลับมา
เธอไม่คิดว่าจะได้พบเขา ก่อนที่ตัวเองจะต้องจากไป ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้พบกับเขาในวันนี้
เฉียวเหลียนเฉิงไม่ต้องการพูดเรื่องอื่น เขากล่าวถามเข้าประเด็นทันที “ใครเป็นคนสั่งให้เธอทำแบบนั้น?”
หลี่ซิ่วหลันมองเฉียวเหลียนเฉิงอย่างตื่นตระหนก
“พี่… พี่พูดเรื่องอะไร!”