เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 89 มีคนกล้าสร้างปัญหาให้กับเจียงหว่าน
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 89 มีคนกล้าสร้างปัญหาให้กับเจียงหว่าน
บทที่ 89 มีคนกล้าสร้างปัญหาให้กับเจียงหว่าน
เจียงหว่านยิ้มก่อนจะโอบไหล่ของผิงอัน “ลูกชายของฉันเอง”
ผิงอันตกตะลึงไปเล็กน้อย ไม่คิดมาก่อนว่าเจียงหว่านจะยอมรับตนเป็นลูกชาย ทั้งน้ำเสียงของเธอยังดูภูมิใจมากด้วย
เขาเงยหน้ามองเธอด้วยความประหลาดใจ
แต่เธอไม่ได้มองเขาสักนิด และกำลังถือกล่องข้าวรอรับอาหาร
ผิงอันนึกย้อนไปถึงคำพูดของป้าเฉินอีกครั้ง
ทันใดเขาก็รู้สึกได้ว่าน้าอ้วนตรงหน้านี้ก็เป็นแม่ที่ดีเหมือนกัน
วันนี้เขากินข้าวกับผัดผักเป็นอาหารกลางวัน
ผิงอันกินจนท้องนูนออกมา เพราะยิ่งพ่อครัวได้ยินว่าเด็กคนนี้คือลูกชายของเจียงหว่าน ก็ยิ่งตักผักเพิ่มให้
หลังจากกินเสร็จแล้ว เด็กชายเรอออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“น้าอ้วน ทำไมอาหารที่นี่ถึงอร่อยขนาดนี้ล่ะ?”
เจียงหว่านตอบกลับอย่างเฉยชา “ที่สถานีตำรวจ พวกเขาได้เงินอุดหนุนค่อนข้างมาก ฉันก็มีรายได้จากที่นี่ด้วยเหมือนกัน การที่อาหารอร่อยถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”
เฉียวผิงอันลดสายตาลง เขาคิดในใจว่าในอนาคตเขาก็อยากจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้าง
ประมานห้าโมงเย็น เจียงหว่านขายเนื้อได้อีกสองสามกิโลกรัม และเมื่อเห็นว่าเหลือเนื้อไม่มากแล้ว เธอจึงปิดแผง ก่อนจะเตรียมกลับบ้าน
แต่ทันใดนั้น กลับมีเสียงเด็กชายคนหนึ่งดังขึ้น
“แม่ครับ ผมอยากกินเนื้อ”
แม่ของเด็กชายหันไปมอง “เนื้ออะไรกัน ไม่อร่อยหรอกจ้ะ แพงจะตาย เรากลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวแม่ทำอย่างอื่นให้กิน”
เด็กชายปฏิเสธก่อนจะจับรถเข็นของเจียงหว่าน แล้วตะโกนลั่น
“ไม่ ไม่กลับ ผมอยากกินเนื้อ!”
“มันอร่อยมากเลยนะ วันนั้นที่ลุงมาหาพวกเราก็ซื้อมาฝาก อร่อยกว่าที่แม่ทำซะอีก”
ผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางเลือกนอกจากยอมซื้อเนื้อกลับไปครึ่งกิโลกรัม ซึ่งเจียงหว่านก็เพิ่มเนื้อให้อีกนิดหน่อยเพราะเอ็นดูเด็กชาย
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับนึกสาปแช่ง คว้าถุงกระดาษสีน้ำตาล แล้วเดินออกไปทันที
ผิงอันตะโกนลั่น “คุณยังไม่ได้จ่ายเงินให้ผมเลย”
ผู้หญิงคนนั้นอาจจะลืมหรือตั้งใจ แต่เมื่อผิงอันพูดอย่างนั้นแล้ว เธอก็หยิบกระเป๋าเงินออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
“เด็กอะไรเนี่ยมองหาแต่เงิน ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่จ่าย ฉันแค่ลืมเท่านั้นแหละ!”
ผู้หญิงคนนั้นนับเงินก่อนจะโยนให้ผิงอัน
ผิงอันเก็บเงินมาแล้วนับอีกครั้ง ก่อนจะมองหน้าหล่อน “ไม่ครบ มันขาดไปหนึ่งเหมา”
ปกติแล้วเนื้อราคาสองหยวน แต่เธอกลับให้มาแค่หนึ่งหยวนเก้าเหมาเท่านั้น
ผู้หญิงคนนั้นสบถด้วยน้ำเสียงเย็นชา “มีแค่นั้นแหละ จะเอาหรือไม่เอา”
ผิงอันจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความขุ่นเคือง “พวกเราตั้งราคาไว้ที่สองหยวน แล้วคุณจะให้เงินผมไม่ครบได้ยังไง”
ผู้หญิงหัวเราะเย้ยหยัน “เจ้าเด็กเหลือขอคนนี้ปากคอเราะร้ายซะจริง ๆ จะมาทวงอะไรนักหนา ขาดนิดขาดหน่อยจะเป็นไรไป”
ผิงอันตะโกนลั่น “ไม่ แม้แต่เหมาเดียวก็ไม่ได้! ของซื้อของขายทำไมต้องยอมให้ด้วย”
ผู้หญิงคนนั้นโกรธจัด “ไอ้เด็กเหลือขอ กล้าดียังไงถึงพูดกับฉันอย่างนี้ฮะ เอาเนื้อของแกคืนไปเลย ฉันไม่เอาแล้ว”
เธอใช้มือหยิบเนื้อออกจากถุงกระดาษสีน้ำตาล แล้วโยนใส่หม้อ
ทั้งที่มือของเธอสกปรกมาก เล็บเต็มไปด้วยคราบสีดำ แต่ตอนนี้เธอกำลังใช้มันหยิบเนื้อที่ปรุงสุกแล้ว แถมยังโยนกลับเข้ามาในหม้ออีก ทำให้ยิ่งดูน่าขยะแขยงอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากโยนเนื้อทิ้ง เธอตวาดผิงอันลั่น “เอาเงินของฉันคืนมา ฉันไม่ซื้อแล้ว!”
ผิงอันโกรธจัด และคิดโต้เถียงกับเธอต่อ
แต่เจียงหว่านกลับคว้าแขนของเขาเอาไว้
“คุณจะห้ามผมทำไม เห็นไหมว่าเธอหาเรื่องชัด ๆ!” ผิงอันตวาดเจียงหว่าน
แต่เจียงหว่านมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้นว่า “เนื้อพวกนี้มีไว้กิน ถ้าไม่อยากกินก็อย่าซื้อตั้งแต่แรก พอซื้อไปแล้วกลับต้องการเอามาคืน แล้วเนื้อที่ถูกหยิบจับไปแล้ว ใครจะกินต่อ?”
ผู้หญิงคนนั้นเย้ยหยัน “ฉันก็แค่ไม่ต้องการมันแล้ว ช่างปะไร เอาเงินคืนมาเร็วเข้า”
เจียงหว่านตอบกลับไม่ไว้หน้า “อาหารที่ปรุงสุกแล้ว คืนไม่ได้”
ผู้หญิงคนนั้นเม้มปากแน่น ก่อนจะคว้าเนื้อในหม้อแล้วโยนมันลงพื้น ทั้งยังกระทืบมันซ้ำอย่างแรง
“เธอจะบอกว่าฉันไม่มีปัญญาจ่ายงั้นเหรอ? งั้นฉันไม่กินแล้ว คืนเงินมาซะ ไม่อย่างนั้นอย่าฝันว่าจะได้เปิดแผงขายของที่นี่อีก!”
เจียงหว่านพยายามระงับความโกรธ ก่อนจะกล่าวด้วยใบหน้าแดงจัด “คุณโยนเนื้อลงพื้นแล้วยังเหยียบซ้ำ แบบนี้คนอื่นจะกินได้ยังไง?”
ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะเยาะเย้ย “หึ จะเป็นอะไรไป ฉันไม่ได้กินแล้วอ้วกออกมาสักหน่อยนี่ แค่เหยียบเบา ๆ เอาไปล้างก็ใช้ได้แล้ว”
“เอาล่ะ เอาเงินของฉันคืนมาได้แล้ว!”
ผิงอันโกรธจัด สีหน้าของเขาคล้ายกับสิงโตตัวน้อยที่คิดจะพุ่งเข้าหาเหยื่อ แล้วฉีกทึ้งร่างของอีกฝ่ายให้เป็นชิ้น ๆ
แต่ทว่าเจียงหว่านรีบคว้าแขนเขาเอาไว้
“จะทำอะไร?” ผิงอันหันไปตวาดเจียงหว่านอีกครั้ง
เจียงหว่านกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หลบไปก่อน ผู้ใหญ่ทะเลาะกัน ไม่ใช่เรื่องของเด็ก”
เจียงหว่านไม่รอให้ผิงอันตอบโต้ เธอเดินเข้าหาผู้หญิงคนนั้นพร้อมคว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายไว้แน่น
“นี่หล่อนคิดจะทำอะไรฮะ!?” ผู้หญิงคนนั้นโวยวายออกมาเสียงดัง
เจียงหว่านยกยิ้มเย็นชา “คุณนั่นแหละทำอะไร? เหยียบเนื้อของฉันแล้วยังไม่คิดจะจ่ายเงิน ถ้าฉันไม่ตบจนหน้าคุณจนบี้แบนคงไม่สาแก่ใจ คงไม่รู้สินะว่าเลือดมันสีอะไร!”
หลังพูดจบ เธอคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายไว้มั่นก่อนจะลงมือตบหล่อนไม่ยั้ง
ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีของการโดนตบ ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นบวมเป่งทันที
“กรี๊ด แกกล้าตบฉันเหรอ ช่วยด้วย ๆ ยัยบ้านี้มันตบฉัน!” ผู้หญิงคนนั้นร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
เจียงหว่านไม่พูดตอบโต้อะไร แต่ยังคงตบอีกฝ่ายต่อไปไม่ยั้ง
ดวงตาเจียงหว่านวาวโรจน์ เธอคิดเยาะเย้ยอยู่ในใจ …ชอบโวยวายงั้นเหรอ? งั้นฉันจะเลาะฟันเธอออกให้หมด ดูซิว่าจะกรี๊ดได้อีกไหม!
ขณะที่ผู้หญิงคนนั้นตะโกนลั่น ผู้คนก็เริ่มหันมามุงดูมากขึ้น จนลูกชายของผู้หญิงคนนั้นพุ่งตัวเข้ามาหาเจียงหว่าน
“อย่าตีแม่ของผมนะ!”
ถึงแม้เจียงหว่านจะไม่ขยับเขยื้อนสักนิด แต่เฉียวผิงอันจะนั่งเฉยได้ยังไง? เขาวิ่งเข้าไปหาเด็กชายคนนั้นก่อนจะลงมือทุบตีอีกฝ่ายอย่างหนัก
“ผู้ใหญ่กำลังทะเลาะกัน เด็กอย่างนายอย่าเข้าไปยุ่ง! คู่ต่อสู้ของนายคือฉัน!”
ผิงอันวิ่งเข้ามาด้วยความเดือดพล่าน จับแขนข้างหนึ่งของอีกฝ่ายแล้วทุบลงที่หัวไหล่อย่างหนัก
เขาเคยเรียนทักษะการต่อสู้จากเฉียวเหลียนเฉิง และเคยตีกับเด็ก ๆ นอกค่ายทหารร่วมกับเพื่อนในค่ายด้วย
แน่นอนว่าเขาค่อนข้างมีประสบการณ์
ผิงอันไม่ต้องใช้เรี่ยวแรงอะไรมากมายนัก เด็กชายคนนั้นก็ล้มลงและร้องไห้อยู่บนพื้นแล้ว
เห็นอย่างนั้น ผิงอันยิ้มด้วยความภาคภูมิใจก่อนจะหันมองเจียงหว่าน
ไม่รู้เลยว่าเธอเหยียบผู้หญิงคนนั้นไว้ใต้ฝ่าเท้าตั้งแต่เมื่อไหร่ มือของเธอกระชับไม้หน้าสามก่อนจะทุบบั้นท้ายของผู้หญิงคนนั้น แล้วใช้เท้าเหยียบหลังส่วนล่างของอีกฝ่ายเอาไว้
ผิงอันที่เห็นรู้สึกเสียดายเล็กน้อย เขาสนใจเพียงการต่อสู้ เลยลืมคิดว่าต้องใช้อาวุธ
ตอนนี้เลยต้องมาเจ็บมือเพราะชกต่อย!
เจียงหว่านกล่าวตำหนิผู้หญิงตรงหน้าด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว
“นี่แค่บทเรียนเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับเนื้อหนึ่งชิ้นที่คุณเหยียบไป ถ้าไม่มีปัญญาซื้อก็อย่าซื้อ ควรสำเหนียกตัวเองว่าไม่มีเงิน หรือถ้าร้องขอกันดี ๆ ฉันอาจจะยอมให้ก็ได้”
“แต่ดูที่คุณทำสิ นอกจากจะไม่จ่ายเงินแล้ว ยังเหยียบเนื้อของฉันอีก”
“เพราะที่นี่มีคนแล้วยังมีเด็กอยู่ด้วย ตอนแรกฉันเลยพยายามทำเป็นไม่สนใจ แต่คุณก็ยังทำตัวไร้ยางอาย!”
“เอาล่ะ ไหนบอกมาสิว่าฉันควรจะทำยังไงกับคุณดี?”
น้ำเสียงของผู้หญิงคนนั้นแหบแห้ง แต่ก็พยายามพูดตอบ “ฉัน… ฉันเหยียบมัน ฉันจะชดเชยให้”