เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 88 เด็กน้อยผู้น่าสงสาร
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 88 เด็กน้อยผู้น่าสงสาร
บทที่ 88 เด็กน้อยผู้น่าสงสาร
“ตอนนั้นป้าเฉินเงียบ แล้วพูดว่า บอกฉันหน่อยสิว่าเจียงเสวี่ยน่ะมีอะไรดี เด็กผิงอันนั่นจริง ๆ แล้วเป็นเด็กดีมาก ถ้าเจียงเสวี่ยไม่เข้ามาวุ่นวาย ครอบครัวของพวกเขาคงมีความสุขไปแล้ว!”
“ต่อไปให้ตงเซิงชวนเขาไปเล่นตามประสาเด็ก ๆ อย่าให้เขาไปวุ่นวายกับความรู้สึกของพ่อแม่จะดีกว่า”
ส่วนหลังจากนี้พวกเขาพูดอะไรอีก ผิงอันไม่รู้แล้ว
เพราะเขาเดินออกมาด้วยความผิดหวัง
หลังได้ยินสิ่งที่ผิงอันบอกเล่า เจียงหว่านอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าไปด้วย
ผิงอันกล่าวต่อว่า “ผมยังชอบน้าเจียงเสวี่ยเหมือนเดิม แต่หลังจากนั้นผมก็ค่อย ๆ คิดได้ เพราะพ่องานยุ่งมาก จะกลับมาแค่ช่วงกลางคืน หรือบางครั้งพ่อก็ไม่ได้กลับมาด้วยซ้ำ”
“น้าเจียงเสวี่ยเป็นคนที่อยู่กับผมตลอดเวลา เธอเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ผมฟังมากมาย ซื้ออาหารมาให้ แล้วยังเย็บเสื้อผ้าให้ด้วย”
“น้าเจียงเสวี่ยเหมือนกับแม่ของผม เด็กทุกคนที่นั่นมีแม่ ผมคิดว่าถ้าผมจะมีแม่ก็ควรจะเป็นแบบน้าเจียงเสวี่ย”
“ผมไม่ชอบคุณ เพราะคุณเล่นการพนัน และมีแต่เรื่องเสียเงิน”
“หลังจากได้ยินป้าเฉินพูดอย่างนั้น ผมก็เข้าใจว่าทำไมคุณถึงอยากจะขายผมในตอนนั้น”
“เพราะว่าผมไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพ่อ และเป็นเพราะผมทำให้ชีวิตคุณต้องลำบาก”
“หลังจากวันนี้ผมจะไม่โทษคุณอีกแล้ว”
เจียงหว่านมองเด็กผู้ชายที่หดหู่ตรงหน้า ดวงตาของเขามั่นคงและชัดเจน
แต่เธอกลับไม่สบายใจขึ้นเลย
“ผมเกลียดคุณเหมือนเดิม แต่ถ้าพ่ออยากจะดูแล และเต็มใจที่จะอยู่กับคุณ ผมก็จะไม่คัดค้านอีกแล้ว”
“ตราบใดที่คุณดูแลพ่อได้ ผมก็ยินดีเหมือนกัน”
ขณะพูดอย่างนั้น เขาหันศีรษะไปมองฝูงชนตรงหน้า ดวงตาน้อย ๆ เริ่มแดงก่ำ
เด็กชายลอบเช็ดน้ำตาเป็นครั้งคราว เพราะกลัวว่าเจียงหว่านจะเห็นตนร้องไห้
เจียงหว่านเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว “ความจริงแล้วเธอน่ะมันเป็นปีศาจตัวน้อย”
“ฉันไม่ต้องการการอนุญาติจากเธอหรอกนะ”
“นอกจากนี้ฟังฉันพูดให้ดี ฉันไม่สนใจพ่อของเธอสักนิด”
ผิงอันหันมองเธออย่างประหลาดใจ
เจียงหว่านกล่าวต่อ “เราจะหย่ากัน”
“ไม่ช้าก็เร็วเราก็จะหย่ากัน เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก แล้วก็ตั้งตารอให้น้าเจียงเสวี่ยเป็นแม่คนต่อไปของเธอได้เลย”
“แต่ผมได้ยินว่าคุณเป็นคนที่ใช้วิธีไร้ยางอายเพื่อแต่งงานกับพ่อนะ!”
“พอพ่อผมอยากจะหย่า คุณก็ยอมตายมากกว่าการหย่าอีกไม่ใช่เหรอ?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคุณรักพ่อมาก ผมก็คงไม่มีวันยกพ่อให้คุณหรอก!”
เจียงหว่านตอบกลับอย่างเย็นชา “หึ นั่นมันเมื่อก่อน ก่อนหน้านี้ฉันตาบอดหูหนวก ตกหลุมรักพ่อของเธอเพราะคิดว่าเขาทั้งหล่อและมีความสามารถ”
“แต่ตอนนี้ฉันตื่นแล้ว ฉันไม่รักเขาและไม่ต้องการเขาอีกแล้ว”
ผิงอันลุกขึ้นด้วยความโกรธ “ไม่ได้ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้!”
เจียงหว่านไม่เกรงใจเช่นกัน “อะไร? ถ้าฉันไม่รักซะอย่าง จะบังคับให้ฉันรักได้ยังไง? ถ้าฉันพูดว่าไม่ต้องการ นั่นหมายความว่าไม่ต้องการจริง ๆ เธอจะมาบังคับฉันได้ยังไง”
ผิงอันกัดฟันจ้องมองเธอด้วยความโกรธ และเมื่อเขาไม่สามารถอดกลั้นความโกรธนี้ไว้ได้ เขาก็พุ่งตัวชนเจียงหว่านราวกับลูกวัวน้อย
เจียงหว่านที่ไม่ทันได้ระวังตัว ถูกกระแทกอย่างแรง ก็ล้มลงกับพื้น
ผิงอันตะโกนลั่น “ผมมองคุณผิดไปจริง ๆ คุณไม่คู่ควรกับพ่อสักนิด!”
หลังพูดจบ เขาหันหลังวิ่งหนีไป
เจียงหว่านกลอกตาไปมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะลุกขึ้นจากพื้นแล้วลูบก้นป้อย
เธอไม่ได้โกรธ!
แต่ตอนนี้ผิงอันวิ่งหายไปในฝูงชน เธอกังวลว่าเขาจะหลงทางเอาได้
สุดท้ายเจียงหว่านเองก็ต้องยอมรับว่าท่าทีที่น่าสงสารของเด็กชายทำให้เธอใจอ่อนไม่น้อย เขายอมเสียสละเพื่อให้พ่อมีความสุข มันทำให้เธอทุกข์ใจอย่างช่วยไม่ได้
ถึงอย่างนั้น เธออยากจะเห็นเด็กนั่นดื้อและก้าวร้าวเหมือนเดิมมากกว่า
ทำไมถึงก็กลายเป็นเด็กดีขึ้นมาซะอย่างนั้น เห็นอกเห็นใจคนอื่นเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่?
เจียงหว่านคิดว่าเฉียวเหลียนเฉิงจะพาลูกของเขากลับไปหลังจากหมดวันหยุดแล้ว
และเจียงหว่านไม่คิดฝันมาก่อนว่าเจียงเฉิงจะมาที่บ้านของเธอในคืนวันที่สาม
“โชคดีที่เหล่าเฉียววาดแผนที่เข้าใจง่าย ผมเลยหาบ้านของคุณเจอ” เจียงเฉิงยิ้ม
ทว่าเจียงหว่านรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก
“ทำไมหัวหน้าเจียงถึงมาที่นี่คะ?”
เจียงเฉิงอุ้มไก่แก่ตัวหนึ่งมาด้วย เป็นแม่ไก่ที่อายุไม่มาก และยังออกไข่ได้
“ผมได้ยินว่าคุณย้ายที่อยู่ใหม่ เลยเอาของขวัญมาฝากน่ะ”
“ก่อนหน้านี้ผมได้ยินจากเหล่าเฉียวว่าคุณอยากได้แม่ไก่ ผมเลยซื้อมาตอนเข้าตำบล”
เจียงหว่านถึงกับพูดไม่ออก
เธออยากจะปฏิเสธ แต่เมื่อมองไก่ตรงหน้าก็ตระหนักได้ว่ามันคือแม่ไก่จริง ๆ
คำถามคือ… ทำไมเธอต้องอยากเลี้ยงแม่ไก่ด้วย? เพื่อเตรียมให้นมบุตรงั้นเหรอ?
คนยุคนี้นิยมใช้ไก่แก่ตุ๋นซุปไก่ให้ผู้หญิงหลังคลอดเพื่อบำรุงการผลิตน้ำนม
คนจำนวนมากจึงพยายามมองหาแม่ไก่จากทุกหนแห่งเพื่อนำมาบำรุงน้ำนมให้กับภรรยาของตน
เจียงเฉิงหันมองเฉียวเหลียนเฉิง “เหล่าเฉียว ออกไปคุยกันเถอะ”
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้า และออกไปพูดคุยกันพักหนึ่ง
หลังจากกลับเข้ามาแล้ว เฉียวเหลียนเฉิงก็กล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด “ผมต้องกลับแล้ว กองทัพมีภารกิจใหม่ ผมคงไม่อยู่สักสองสามวัน”
“ให้ผิงอันอยู่กับคุณสักพักนะ ยังไงซะคุณก็เป็นผู้หญิง การนอนที่นี่คนเดียวมันไม่ดีหรอก ให้ผิงอันอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน”
เจียงหว่านกำลังจะปฏิเสธ
แต่เฉียวเหลียนเฉิงกลับไม่ให้โอกาสเธอ “ผมขอร้องล่ะ แค่สองสามวัน เดี๋ยวผมก็กลับมาแล้ว ช่วยดูแลเขาแทนผมหน่อยเถอะนะ”
“หลังจากผมกลับมาแล้ว ผมจะมารับเขากลับทันทีเลย”
จากนั้น เขายื่นเงินให้เจียงหว่านยี่สิบหยวน
“นี่คือเงินค่าอาหารของคุณกับผิงอัน ผมไปก่อนนะ”
เจียงหว่านต้องการพูดบางอย่าง แต่เฉียวเหลียนเฉิงก็ไม่ให้โอกาสเธอ เขาออกไปพร้อมกับเจียงเฉิงโดยไม่รอฟังอะไรเลยด้วยซ้ำ
เจียงหว่านถือเงินยี่สิบหยวนเอาไว้ในมือท่ามกลางสายลมหนาว
วันรุ่งขึ้น เธอตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อออกไปซื้อเนื้อ
หลังจากใคร่ครวญสักพัก เธอก็นึกได้ว่าเฉียวเหลียนเฉิงอยากให้ลูกของเขาเรียนรู้การค้าขาย
เธอไม่ปล่อยให้เด็กคนนี้นั่งเฉยอีกต่อไป
ลากผิงอันที่หลับอยู่ให้ตื่นขึ้น แล้วออกไปซื้อเนื้อด้วยกัน
“พาผมมาที่นี่ทำไม” ผิงอันที่เดินตามหลังมาส่งเสียงประท้วง
ทว่าเจียงหว่านไม่ได้หันกลับไปมองด้วยซ้ำ “พ่อของเธอบอกให้เธอออกกำลังกายบ้าง และถ้าเธอไม่ได้รู้ซึ้งถึงการทำงานหนัก เธอจะเรียนรู้ได้ยังไง!”
ผิงอันถึงกับพูดไม่ออก
หลังจากเลือกเนื้อแล้ว คนขายเนื้อมองหญิงสาวอย่างประหลาดใจ “ทำไมวันนี้มาเองล่ะ น้องเขยฉันไปไหนแล้ว”
เจียงหว่านหน้าแดงทันที “เรียกเขาว่าเหล่าเฉียวเถอะค่ะ ตอนนี้เขาออกไปทำภารกิจให้กองทัพ ฉันก็เลยมารับเนื้อเอง”
คนขายเนื้อหัวเราะเบา ๆ ทำให้เจียงหว่านรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อเธอจะจ่ายเงิน คนขายเนื้อกลับบอกว่า “เหล่าเฉียวจ่ายเงินไว้แล้วล่ะ เขาฝากเงินไว้ยี่สิบหยวน เพราะฉะนั้นเธอซื้อได้ตามสบายเลย”
เจียงหว่านหันมองผิงอันอย่างตกตะลึง “ทำไมพ่อของคุณใจดีจังเลยล่ะ”
“แล้วครั้งนี้ เขายังให้เงินฉันถึงยี่สิบหยวนในคราวเดียวอีกแน่ะ”
ค่าอาหารที่ได้รับเมื่อวันก่อนยังไม่ถูกนำมาใช้เลยด้วยซ้ำ!
ผิงอันถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย และเพิกเฉยต่อหญิงสาว
จากนั้น เจียงหว่านก็กลับมาจัดการกับเนื้อ และเริ่มมอบหมายงานให้กับผิงอัน
ร่างเล็ก ๆ ของผิงอันกำลังพยายามจัดการเนื้อชิ้นใหญ่อย่างแข็งขัน
ไม่นาน ทั้งศีรษะและใบหน้าของเขาก็เปรอะเปื้อนไปด้วยขี้เถ้า
โชคดีที่เด็กน้อยคนนี้สนุกสนานกับมันมาก
หลังจากออกไปขายของ เจียงหว่านมีหน้าที่ตักและบรรจุห่อเนื้อ ส่วนผิงอันมีหน้าที่คิดเงินและเก็บเงิน
ช่วงแรกเขายังทำอย่างติดขัดสักหน่อย แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เชี่ยวชาญ ซึ่งน่าประทับใจมาก
หลังจากขายเนื้อในช่วงเที่ยงเสร็จแล้ว เจียงหว่านก็พาเขาไปทานอาหารที่สถานีตำรวจ
ทันทีที่เดินเข้าประตู อู่หยางกล่าวทักทายทันที “สวัสดีครับพี่สาวอ้วน นี่ลูกใครเนี่ย น่ารักจังเลย”