เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 80 เธอยิ้มสดใส แต่ไม่ใช่รอยยิ้มสำหรับเขา
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 80 เธอยิ้มสดใส แต่ไม่ใช่รอยยิ้มสำหรับเขา
บทที่ 80 เธอยิ้มสดใส แต่ไม่ใช่รอยยิ้มสำหรับเขา
“นี่!” หลี่ซิ่วจือโกรธจัด
เธอตบโต๊ะเสียงดัง “ไร้สาระ! เธอเป็นผู้หญิงนะ พูดจาแบบนี้ได้ยังไง?”
“พูดออกมาได้ยังไงว่าอยากจะแต่งงานกับเฉียวเหลียนเฉิง ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายคนนั้นกับภรรยาก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ เธอคิดจะเป็นน้อยหรือยังไง?”
“ต่อให้เธอจะอยากแต่งงานกับเขา ฉันก็ไม่ยอมเด็ดขาด ฉันทนไม่ได้หรอกนะที่เธอจะมาสร้างความอับอายให้ครอบครัวเรา”
“ตระกูลหลี่จะต้องไม่มีลูกสาวที่มั่วผู้ชายแบบนั้น!”
“ฉันจองตั๋วไว้ให้เธอแล้ว เตรียมตัวกลับบ้านในอีกสามวันข้างหน้าได้เลย!”
หลี่ซิ่วจือเป็นพี่สาวที่มีนิสัยอ่อนโยนตั้งแต่เด็ก และสองคนพี่น้องแทบไม่เคยทะเลาะกันเลย
แต่เมื่อพี่สาวคนนี้ได้ยินน้องสาวพูดจาหยาบคาย เธอก็ถึงกับสติหลุด กล่าวออกมาด้วยความโกรธ จนซิ่วหลันไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้
เธอจ้องมองหลี่ซิ่วจือด้วยสายตาเกรี้ยวกราด กระทืบเท้า ก่อนจะปิดประตูกระแทกเสียงดังแล้วจากไป
ในตัวตำบล
เจียงหว่านออกมาจากบ้านของคนขายเนื้อ เมื่อกลับมาถึงบ้านเธอก็เริ่มก่อไฟ เตรียมหัวหมูกับเนื้อต่าง ๆ มาไว้ใกล้ ๆ
ขณะที่กำลังเก็บข้าวของ เธอได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านนอก
เจียงหว่านหันศีรษะไปมองด้วยความสงสัย ก่อนจะเห็นว่าเป็นเฉียวเหลียนเฉิง
“นายมาที่นี่ทำไม?” เธอมองเฉียวเหลียนเฉิงด้วยความขัดใจปนหงุดหงิด
เฉียวเหลียนเฉิงวางกระสอบในมือลง
“ผมเห็นว่าบ้านของคุณไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เลยอยากจะซ่อมมันสักหน่อย คุณทำธุระของตัวเองไปเถอะ ผมจะไม่รบกวน”
เจียงหว่านตวาดลั่น “หัวหน้าเฉียว นายมีงานมากมายต้องทำตลอดทั้งวัน ไม่ควรเอาเวลามาทิ้งแบบนี้ บ้านหลังนี้เพิ่งซ่อมเมื่อบ่ายวานนี้ มันแค่ดูโทรมนิดหน่อยก็เท่านั้น”
เฉียวเหลียนเฉิงไม่สนใจจะฟัง “ถ้าเป็นคนธรรมดามาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ก็คงจะไม่จำเป็นต้องปรับปรุงอะไรหรอก แต่อย่าลืมว่าคุณคือเจียงหว่านน้ำหนักกว่าร้อยกิโลกรัม แน่ใจเหรอว่าบ้านหลังนี้จะรับคุณไหวจริง ๆ?”
เจียงหว่านกัดฟันแน่นจนเจ็บกราม “นายหมายความว่ายังไง!”
“น้ำหนักร้อยกิโลกรัมของฉันมันยังไง? ฉันไม่ได้นอนบนหลังคาสักหน่อย แล้วบ้านมันจะพังได้ยังไง?”
เฉียวเหลียนเฉิงดูจะอาการหนักเสียแล้ว
เจียงหว่านกลอกตาอย่างไม่พอใจ
เมื่อเห็นเฉียวเหลียนเฉิงยุ่งอยู่กับสิ่งที่เขาต้องการจะทำ เธอจึงไม่คิดสนใจอีก
เธอกลับด้านหัวหมูบนเตา และเริ่มจัดการทำหมูตุ๋น
ตอนนี้เธอกำลังปรุงหัวหมู และใส่เนื้อสำหรับตุ๋นลงในหม้อเรียบร้อย เหลือแค่รอเวลา ทว่าขณะนั้นเองก็มีแขกมาเยี่ยมที่หน้าประตู
“สหายเจียงหว่านอยู่บ้านไหม?”
อู่หยางมาในชุดเครื่องแบบเต็มยศ
อู่หยางเตี้ยกว่าเฉียวเหลียนเฉิงครึ่งศีรษะ แต่เขาก็ยังสง่างามและหล่อเหลาไม่แพ้กัน
โดยเฉพาะเวลาที่สวมชุดตำรวจ และใส่หมวกแก๊ปนั่น บอกได้เลย… หล่อมาก!
เจียงหว่านได้ยินเสียงของอู่หยางจึงเดินออกมาจากลานบ้าน ส่วนอู่หยางยืนอยู่ใต้ต้นพุทราตรงข้ามกับเจียงหว่าน
“เมื่อวานนี้ผู้กำกับไปประชุมในเมืองมา และผู้บัญชาการต่างชื่นชมความสำเร็จของพวกเราที่สามารถปราบปรามโรงพนันได้”
“ผู้กำกับเขาดีใจจนพูดไม่ถูกเลยล่ะครับ”
“ผู้เขาบอกว่าคุณทำงานหนักมาสักพักแล้ว เลยจะให้คุณหยุดสักสองสามวัน ไม่ต้องไปบรรยายในช่วงบ่ายสองสามวันนี้นะครับ แต่สามารถไปทานมื้อกลางวันได้ตามปกติ”
เจียงหว่านเข้าใจ พวกเขายังต้อนรับเธอให้ไปทานอาหารที่โรงอาหารของสถานีตำรวจเสมอ
ในเวลานี้เฉียวเหลียนเฉิงที่อยู่ในบ้านได้ยินทุกอย่าง แม้เขาจะไม่ได้เคลื่อนไหว แต่ก็หยุดฟังเสียงการสนทนาด้านนอกอย่างตั้งใจ!
จากนั้นอู่หยางเปิดกระเป๋าแล้วหยิบเงินออกมาทั้งหมดแปดหยวน
“ผู้กำกับบอกว่าพวกเรามีงบน้อย ถ้าคุณบรรยายหนึ่งชั้นเรียน เราจะจ่ายคุณหนึ่งหยวนครึ่ง นี่คือค่าตอบแทนสำหรับห้าวันที่ผ่านมา อย่ารังเกียจเลยนะครับ”
เขาส่งเงินให้เจียงหว่าน
ซึ่งเจียงหว่านรับเงินมาอย่างรวดเร็วก่อนจะถามขึ้นว่า “แค่ห้าวัน? ทำไมถึงให้ฉันแปดหยวนล่ะ? นี่มันเพิ่มมาตั้งครึ่งหยวนเชียวนะ!”
อู่หยางยิ้มและพูดว่า “ผู้กำกับเพิ่มเงินให้กับคุณเป็นการส่วนตัวด้วยเงินของเขาเองน่ะ เขารู้ว่าเงินที่คุณได้มันน้อยเกินไป เลยรู้สึกผิดอยู่บ้าง”
เจียงหว่านถึงกับหัวเราะเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ผู้กำกับดีจังเลย ฉันจะขอให้เขาเอาเงินให้ฉันเป็นการส่วนตัวอีกดีกว่า อิอิ”
“คุณทำได้แน่” อู่หยางหัวเราะออกมา
เสียงหัวเราะของชายหนุ่มและหญิงสาวทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดใส แต่มันกลับไม่เสนาะหูของเฉียวเหลียนเฉิงเลยแม้แต่น้อย!
ทำไมเขาถึงไม่เห็นเคยได้ยินเธอหัวเราะมาก่อนเลยล่ะ?
ชายหนุ่มลุกขึ้นก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นทั้งสองคนยืนอยู่ใต้ต้นไม้อาศัยใต้ร่มเงา คนหนึ่งสูง คนหนึ่งเตี้ย คนหนึ่งอ้วน คนหนึ่งผอม พวกเขาดูเข้ากันอย่างมาก
โดยเฉพาะเจียงหว่านในตอนนี้ สายลมโบกพัดเส้นผมของเธอปลิวว่อน ขับไปกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่เขารู้สึกว่ามันสวยมากจนยากจะละสายตา
เธอชอบทำตัวบ้าคลั่งและฉุนเฉียวเสมอเวลาอยู่ต่อหน้าเขา และไม่เคยยกยิ้มหวานสดใสให้เขาแบบนี้มาก่อน
เจียงหว่านดูเปล่งประกาย แม้ว่ารูปร่างของเธอจะอ้วนท้วม แต่ก็ไม่สามารถบดบังเสน่ห์ของหญิงสาวได้ ซึ่งมันดึงดูดสายตาของเฉียวเหลียนเฉิงเอาไว้โดยสมบูรณ์
ร่างกายของชายหนุ่มแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว
ขณะที่เขาคิดเรื่องนี้ เท้าของเขาก็ก้าวออกไปด้านนอกโดยไม่รู้ตัว
“หว่านหว่าน!”
เสียงของเฉียวเหลียนเฉิงทำลายบรรยากาศงดงามของทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว จนพวกเขาหยุดหัวเราะและพูดคุย
เจียงหว่านหันกลับมามองเฉียวเหลียนเฉิง แต่ว่าไม่คิดสนใจ หันกลับมาหาอู่หยางแล้วพูดต่อว่า
“วันหยุดสามวันที่ว่าคือตั้งแต่วันนี้เลยเหรอ?”
อู่หยางพยักหน้าทักทายเฉียวเหลียนเฉิง ก่อนจะหันมองเจียงหว่านแล้วพยักหน้ารับ
“ใช่ แล้วถ้าคุณไม่ขัดข้องอะไร ค่าการบรรยายจะเป็นราคาหนึ่งหยวนครึ่งนะ”
เจียงหว่านพยักหน้า “อื้ม ถึงหนึ่งหยวนครึ่งจะน้อยไปหน่อย แต่ถ้าได้ช่วยเหลือประชาชน มันก็ดีอยู่นะ”
อู่หยางยกยิ้มมุมปาก พร้อมกล่าวคำชื่นชม “พี่สาวอ้วนของผมนี่เก่งจริง ๆ เลย”
หลังพูดจบแล้ว อู่หยางสัมผัสได้ถึงรังสีประหลาดที่พุ่งเข้าใส่ร่างกายเขา
ทันทีที่เงยหน้าขึ้น เขามองเห็นดวงตาลุ่มลึกและเย็นชาของเฉียวเหลียนเฉิง
อู่หยางยกยิ้มอย่างรู้ทัน “พี่สาวอ้วน อย่างนั้นผมไม่รบกวนแล้วนะครับ ไว้เจอกันตอนเที่ยงนะ” เจียงหว่านพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปส่งอีกฝ่ายที่ประตู
ทว่าที่ด้านหลังเธอ เฉียวเหลียนเฉิงยังคงยืนอยู่ มองแผ่นหลังของทั้งสองที่เดินเคียงข้างกันด้วยความสับสนในใจ พร้อมรู้สึกอึดอัดอย่างอธิบายไม่ถูก!
ชายหนุ่มทุบหมัดลงบนผนังข้างกายอย่างแรง และสาปแช่งอีกฝ่ายอยู่ในใจ
‘จะคุยอะไรกันนักหนา รีบกลับไปได้แล้ว!’
หลังจากเจียงหว่านไปส่งอู่หยางแล้ว เธอก็หันกลับมา และพบว่าเฉียวเหลียนเฉิงเข้าบ้านไปแล้ว
ขณะนี้เนื้อที่ตั้งอยู่บนเตาด้านนอกก็ได้ที่พอดี เจียงหว่านเริ่มใส่เครื่องปรุงรสต่าง ๆ เติมฟืน จากนั้นเดินเข้าไปดื่มน้ำด้านใน
เมื่อเดินเข้าประตูมา เธอเห็นว่าเฉียวเหลียนเฉิงกำลังนั่งยอง ๆ อยู่ที่มุมห้องพร้อมกับฉาบปูนอยู่
แต่การเคลื่อนไหวของเขาค่อนข้างรุนแรงไปสักหน่อย
เจียงหว่านเดินเข้าไปหาด้วยความสงสัย และเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังใช้มีดฉาบในมือทุบผนังอย่างแรง
เขาเจาะรูขนาดใหญ่ในกำแพงที่ค่อนข้างจะอ่อนแออยู่แล้ว
เจียงหว่านหันหลังจากไปอย่างเบื่อหน่าย ระหว่างที่เดินออกไปสองสามก้าว ก็เธอหันกลับมา
“เฉียวเหลียนเฉิง นี่นายโกรธอะไรหรือเปล่า? ถ้านายเอาแต่ทุบผนังบ้านฉัน มันจะพังนะ แล้วอย่างนี้ใครจะรับผิดชอบ!”
เฉียวเหลียนเฉิงตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “ผมไงรับผิดชอบ อย่างเลวร้ายที่สุดผมก็จะสร้างบ้านหลังใหม่ให้คุณเลย”
เจียงหว่านแค่นหัวเราะ “ฉันไม่สนใจหรอก ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับไปที่กองทัพซะ จะมาอยู่กับฉันที่นี่ทำไม?”
“อะไร? ผมก็จะอยู่ขัดขวางความสุขคุณยังไงล่ะ!” เฉียวเหลียนเฉิงโต้กลับโดยไม่ใช้ความคิด
แต่พอพูดมันออกไปอย่างนั้น เขารู้สึกเสียใจ
เขาลุกขึ้นและคิดจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดมันออกมา เฉียวเหลียนเฉิงสูดลมหายใจลึก ก่อนจะย่อตัวลงเพื่อผสมปูนต่อ
แต่ตอนนี้เขากลับยิ่งผสมปูนหนักมือมากขึ้น
รอบกายของเขาเต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึม หากคนแปลกหน้าเข้าไปใกล้ คงไม่เหมาะเท่าไหร่