เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 75 เฉียวเหลียนเฉิงขอโทษ
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 75 เฉียวเหลียนเฉิงขอโทษ
บทที่ 75 เฉียวเหลียนเฉิงขอโทษ
“ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าเธอก็แค่สาวน้อยคนหนึ่ง แม้จะสร้างปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือนินทาว่าร้ายสักหน่อย ฉันก็ยอมปล่อยผ่านได้”
“แต่วันนี้หลังจากฉันตรวจสอบทุกอย่าง ฉันก็ได้รู้ว่าเธอทำเรื่องเลวร้ายไปมากแค่ไหน!”
หลังพูดอย่างนั้นแล้ว เขาหยิบคำสารภาพที่เขียนโดยเยี่ยนจื่อออกมาแล้วส่งมันให้เจียงเฉิง “ฉันได้เจอกับเยี่ยนจื่อแล้ว นายลองอ่านมันดูเถอะ!”
เจียงเฉิงรับมันแล้วเริ่มอ่าน ทันทีที่เขาอ่านมัน สีหน้าของเขาก็บิดเบี้ยว จนกลายเป็นมืดมน จากนั้นก็ขาวซีดราวกับกระดาษ
ส่วนเจียงเสวี่ยที่เคยคร่ำครวญเรียกร้องความสนใจ แต่เมื่อเห็นเฉียวเหลียนเฉิงไม่สนใจแล้ว เธอจึงกลายเป็นร้อนรนแทน
เจียงเสวี่ยร้องเรียก “พี่เฉียว!”
เฉียวเหลียนเฉิงยังคงไม่สนใจเธอ
และเมื่อเจียงเฉิงอ่านจบ เจียงเสวี่ยอยากจะพูดบางอย่าง แต่เจียงเฉิงกลับเงื้อมมือตบเธอ
เจียงเสวี่ยถึงกับตกตะลึง “พี่คะ… พี่ พี่ตบฉัน!”
เจียงเฉิงกล่าวออกมาด้วยความโกรธ “ใช่ ฉันตบเธอ เพราะฉันอยากจะปลุกให้เธอตื่นสักที เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องติดคุก และหยุดสร้างเรื่องเสื่อมเสียให้ตระกูลได้แล้ว”
เจียงเสวี่ยโต้กลับ “พี่ใจร้ายเกินไปแล้ว ฉันเป็นน้องสาวของพี่นะ แล้วก็เป็นญาติในสายเลือดของพี่ด้วย พี่กล้าตบฉันได้ยังไง?”
เจียงเฉิงโกรธจนระเบิดหัวเราะออกมา “ใช่ เธอเป็นญาติคนเดียวของฉัน เพราะถ้าไม่ใช่ ฉันคงจะส่งเธอไปให้ตำรวจเดี๋ยวนี้เลย! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีน้องสาวเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับพวกโรงพนันใส่ร้ายคนอื่นแบบนี้!”
“ตระกูลของเราคือตระกูลทหาร และมันกำลังเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะเธอ!”
เจียงเสวี่ยพูดไม่ออก
เวลานี้เธอจึงได้เข้าใจว่าเรื่องที่เธอสมรู้ร่วมคิดกับถันหลงถูกจับได้แล้ว
แม้จะตื่นตระหนก แต่เธอก็ยังปฏิเสธที่จะยอมรับ
“ฉัน… ฉันไม่รู้ว่าพี่พูดเรื่องอะไร พี่คะ พี่ต้องเชื่อฉันสิ!”
เจียงเฉิงส่ายศีรษะอีกครั้ง เดิมทีเขาคิดว่าเหล่าเฉียวได้แต่งงานกับภรรยาที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เขาจึงไม่คิดโต้แย้งอะไรก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจจริง ๆ
สาเหตุที่สองคนนั้นทะเลาะกันไม่จบสิ้นเป็นเพราะน้องสาวที่ไม่รู้จักยางอายของเขา
ตอนนี้เขาอับอายจนอยากจะแทรกรอยแตกบนพื้นหนีไปพ้น ๆ ซะ
เจียงหว่านหันมองเฉียวเหลียนเฉิง ก่อนจะหันมองเจียงเฉิง และนึกสงสัยว่ามีอะไรเขียนอยู่บนกระดาษแผ่นนั้นกันแน่
เฉียวเหลียนเฉิงคล้ายกับอ่านใจเธอออก และเข้าใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขาเดินเข้าไปหา ก่อนจะเอากระดาษที่เยี่ยนจื่อสารภาพผิดยื่นให้เจียงหว่าน
เจียงหว่านรับมันไว้ก่อนจะอ่านมัน
เธอหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า ฉันบอกนายก่อนหน้านี้แล้ว คิดอยู่แล้วเชียวว่าทำไมถันหลงต้องเซ้าซี้ให้ฉันไปเล่นพนัน เอาล่ะ ถือว่าปัญหาอันยาวนานนี่ถูกคลี่คลายสักที”
หลังพูดจบ เธอเดาะลิ้นเบา ๆ ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ดูสิ… ลูกสาวคนโตผู้สง่างามของตระกูลเจียง ขาโยกเยกแต่กลับเดินเตร็ดเตร่ทั่วเหยียนจิง เปิดหูเปิดตาของฉันซะจริง ๆ นี่ยังไปหลอกเด็กสาวในหมู่บ้าน แล้วหนุนหลังเจ้าของโรงพนันอีก”
เจียงเฉิงขมวดคิ้วสงสัย “หยุดพูดไร้สาระ เดินเตร็ดเตร่ในเหยียนจิงคืออะไร?”
เจียงหว่านเหลือบมองเขาก่อนจะกล่าวอย่างใจเย็น “นี่ไม่ใช่คำที่ฉันพูด แต่มันคือสิ่งที่เจียงเสวี่ยพูดกับถันหลงต่างหาก!”
“ฉันถามถันหลงแล้ว และเขาบอกว่าเจียงเสวี่ยเป็นคนพูดอย่างนั้น และตกลงกันไว้ว่าหลังเรื่องนี้จบลง เจียงเสวี่ยจะพาเขาเข้าเหยียนจิง”
“และเมื่อถึงเวลานั้น เจียงเสวี่ยจะลงทุนให้ถันหลงเปิดโรงพนันอีกแปดหรือสิบแห่งในเหยียนจิงด้วย!”
เจียงหว่านกล่าวเสริมไปในประโยคสุดท้าย เพราะยังไงก็ไม่มีทางที่ทั้งสามคนจะได้พบเจอกันอีกแน่นอน ตอนนี้เธอจึงจงใจใส่ความเจียงเสวี่ย
เจียงเฉิงหน้าดำคร่ำเครียดเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“ไร้สาระ!”
เจียงเสวี่ยดิ้นรนอย่างหนัก “แกพูดเรื่องไร้สาระอะไร ฉันไม่ได้พูดอะไรแบบนั้น”
“ฉันแค่บอกว่าตระกูลเจียงของเรามีอิทธิพลในเหยียนจิง ไม่ได้บอกว่าจะเปิดโรงพนันให้เขา”
เจียงเฉิงจ้องมองน้องสาวด้วยความโกรธ ทำให้เจียงเสวี่ยถึงกับพูดไม่ออก
ส่วนเจียงหว่านยกยิ้มสดใสเมื่อเห็นว่าเจียงเฉิงโกรธจัดจนแทบระเบิด
“เอาล่ะ เรื่องของตระกูลเจียงก็ไปจัดการกันเองแล้วกัน ฉันจะไปแล้ว”
เจียงหว่านพูดจบก็คว้าถุงผ้าแล้วหันกลับเตรียมออกจากประตู
เฉียวเหลียนเฉิงเองก็ไม่อยากจะอยู่ต่อเช่นกัน หลังรับคำสารภาพของเยี่ยนจื่อคืนมาแล้ว เขาหันมาพูดกับเจียงเสวี่ย
“พี่ชายของเธออยู่ที่นี่แล้ว และฉันจะบอกเธอไว้เลยว่า ฉันจะไม่มีวันหย่ากับเจียงหว่าน!”
เจียงเสวี่ยนิ่งอึ้ง
ส่วนเจียงเฉิงกับเจียงหว่านหันมองเขาด้วยความประหลาดใจ
คนหนึ่งตกตะลึง แต่อีกคนหนึ่งโกรธจัด
เฉียวเหลียนเฉิงกล่าวต่อว่า “ฉันจะไปหาหัวหน้า แล้วอธิบายว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงการความเข้าใจผิด”
“ฉันไม่มีวันหย่า ทั้งวันนี้ และในอนาคตก็ด้วย”
“และต่อให้ฉันกับเจียงหว่านจะหย่ากันจริง ๆ ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเธออยู่ดี เจียงเสวี่ย”
เจียงเสวี่ยหน้าซีดเผือด ดวงตางดงามของเธอจ้องมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ
ซึ่งเฉียวเหลียนเฉิงไม่คิดสนใจ ก่อนจะยกหลักฐานในมือขึ้นมาแล้วพูดว่า
“นี่เป็นหลักฐานที่เธอกับเยี่ยนจื่อสมรู้ร่วมคิดกัน ฉันจะเก็บมันไว้ ถ้าวันไหนเธอคิดทำร้ายหว่านหว่านอีก ฉันจะแจ้งความและส่งเธอเข้าคุกด้วยตัวเอง!”
หลังพูดจบ เขาคว้ามือของเจียงหว่าน แล้วเปิดประตูออกไป
เมื่อประตูปิดลง เจียงเสวี่ยก็สั่นสะท้าน น้ำตาไหลอาบแก้มสองข้างอย่างไม่อาจอดกลั้น
“พี่คะ…” เธอเม้มปากกล่าวเสียงสั่นสะอื้น
เจียงเฉิงพยายามใจแข็ง “ฉันมีสองหนทางให้เธอเลือก ทางแรกยอมรับความผิดและเข้าคุกไปซะ อีกทางคือกลับเหยียนจิงไป… เลือกให้ดีล่ะ”
หลังพูดจบ เจียงเฉิงเปิดประตูเดินออกไปทันที
เจียงเสวี่ยหมดหนทางแล้ว ตอนนี้เธอเพิ่งตระหนักได้ว่าตนไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไปแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่อยากจากที่นี่ไป
เจียงหว่านกับเฉียวเหลียงเฉิงกลับมาที่ห้องของตัวเอง พอมาถึงเจียงหว่านสะบัดมืออีกฝ่ายออกอย่างแรง
จากนั้น เธอก็หยิบถุงผ้าขึ้นมาอีกครั้ง และจะเดินออกไป
ทันทีที่เปิดประตู เฉียวเหลียนเฉิงกลับเดินเข้าตบประตูให้ปิดลงอีกครั้ง ก่อนจะการแทรกตัวเข้ามาขวางกั้นไว้
ปัง!
เสียงปิดประตูดังก้องอยู่ในหูของเจียงหว่าน
ร่างกายของเธอถึงกับสั่นสะท้านเพราะตื่นตระหนก
แต่ความรู้สึกพวกนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธอย่างรวดเร็ว เธอหันไปมองเฉียวเหลียงเฉิง
“คิดจะทำอะไร?”
เฉียวเหลียนเฉิงจับประตูแน่น จากนั้นเขาโน้มตัวลงมาบังประตูไว้อย่างมิดชิด ใช้ร่างกายอันใหญ่ใตของเขาปิดกั้นทาง จนเจียงหว่านขยับไปไหนไม่ได้
“อย่าไปเลยนะ”
เจียงหว่านหันไปมองท้องฟ้านอกหน้าต่าง ที่ตอนนี้มืดสนิทแล้ว และบนถนนก็ไม่มีแสงไฟสักดวง
ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สามารถออกไปได้แม้ว่าจะมืดค่ำ แต่เฉียวเหลียนเฉิงต่างหากที่ไม่ปล่อยเธอไป
เธอถอยห่างจากเขาหนึ่งก้าว ก่อนจะพูดอย่างเย็นชา
“อยากจะพูดอะไรก็พูดมา”
เฉียวเหลียนเฉิงขมวดคิ้วไม่พอใจเมื่อเห็นว่าเธอยังไม่ยอมวางถุงผ้าลง
หลังจากนั้นเขากล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ผมผิดเองที่ต่อว่าคุณ ผมขอโทษ”
เจียงหว่านเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะยิ้มเหยียด “งั้นเหรอ”
เฉียวเหลียนเฉิงเปิดปาก เขามีเรื่องมากมายที่อยากจะพูด แต่เมื่อเห็นสายตาเย็นชาของหญิงสาวตรงหน้า คำอธิบายทุกอย่างที่นึกคิดไว้ก็หายไปในอากาศทันที
เขาเงียบไปสักพักก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้า “คุณจะไปไหน?”
เจียงหว่านกอดอกก่อนจะกล่าวอย่างหงุดหงิด “ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน เราหย่ากันแล้ว”
เฉียวเหลียงเฉิงส่ายศีรษะ “ไม่ ผมไม่หย่า ผมยังไม่ได้ส่งมันไปเลย และผมก็บอกกับหัวหน้าแล้วว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด”
เจียงหว่านเย้ยหยัน “เข้าใจผิดงั้นเหรอ?”
“แล้วใบหย่าพวกนั้น ไม่ใช่นายเหรอที่เป็นคนเขียน? นายกล้าพูดไหมล่ะว่าไม่ได้คิดจะหย่ากับฉันตอนที่เขียนมันขึ้นมา?”
“ฉันติดการพนันและไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แม้จะถูกเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นคือสิ่งที่นายเขียนเองไม่ใช่เหรอ? บอกมาสิว่าฉันเข้าใจอะไรผิด?!”
เฉียวเหลียนเฉิงส่ายศีรษะอีกครั้งก่อนจะกล่าวอย่างรู้สึกผิด “ผม… ผมไม่ได้… ผมไม่ได้”
เฉียวเหลียนเฉิงพูดไม่เก่ง โดยเฉพาะการอธิบายยืดยาวแบบนี้
ในความคิดของเขา การกระทำสำคัญกว่าคำพูด
แต่ตอนนี้เขาควรจะทำยังไง?
ยิ่งเจียงหว่านเย็นชาเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งกังวลมากเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พูดอะไรสักที เจียงหว่านก็วิ่งไปด้วยความโกรธ พร้อมสะบัดแขนของเขาออก
“หลีกไป! อย่ามาขวางทางฉัน!”
เธอกำลังพยายามอย่างบ้าคลั่งเพื่อจะออกไป นั่นทำให้เฉียวเหลียนเฉิงยิ่งกังวลใจ หลังจากลังเลอยู่นาน ชายหนุ่มจึงตัดสินใจกระทำบางอย่าง
เขายื่นมือออกโอบกอดร่างของเจียงหว่านไว้แน่น!