เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 73 เจียงหว่านตบเจียงเสวี่ยจนหน้าบวมเป็นหมู
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 73 เจียงหว่านตบเจียงเสวี่ยจนหน้าบวมเป็นหมู
บทที่ 73 เจียงหว่านตบเจียงเสวี่ยจนหน้าบวมเป็นหมู
เวลานี้เยี่ยนจื่อรู้สึกหงุดหงิดพอสมควร เพราะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับถันหลง จึงทำให้เธอกังวลว่าตำรวจจะบุกมาหาตนหรือไม่
ทันทีที่มีข่าวเกี่ยวกับถันหลงแพร่ออกมา เธอก็หลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านของป้าในหมู่บ้านใกล้เคียง
หลังจากซ่อนอยู่นานหลายวัน และเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอก็เริ่มวางใจ และมีความกล้าที่จะกลับบ้าน
โดยไม่คาดคิดว่าตนจะพบเฉียวเหลียนเฉิงทันทีที่กลับมาถึง
“คุณจะบอกความจริงเอง หรือจะให้ผมส่งคุณไปสถานีตำรวจ!” เฉียวเหลียนเฉิงกล่าวออกมาอย่างไม่อ้อมค้อมใด ๆ
เยี่ยนจื่อสั่นสะท้าน เฉียวเหลียนเฉิงเคยสังหารผู้คนมากมาย เขาคงสามารถฆ่าเธอได้สบาย ๆ เชียวล่ะ
เวลาเฉียวเหลียนเฉิงโกรธ แรงกดดันที่ชายหนุ่มปลดปล่อยออกมาสามารถทำให้ผู้คนรอบข้างตกตะลึงและหวาดกลัว จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขา เหล่าศัตรูที่แข็งแกร่งยังสั่นสะท้าน แล้วนับประสาอะไรกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอกัน?
เฉียวเหลียนเฉิงไม่ต้องพูดพล่ามอะไรมากมาย เยี่ยนจื่อก็สารภาพทุกสิ่งอย่างออกมาอย่างง่ายดาย
จากคำสารภาพของเยี่ยนจื่อ ถันหลงมีปัญหากับเจียงหว่าน เพราะเจียงหว่านเป็นหนี้เขา แน่นอนว่ามันคือหนี้เก่า
เจียงหว่านจึงเจรจาขอผ่อนจ่ายคืน ซึ่งถันหลงก็ยินยอม
แต่เมื่อถึงเวลาที่เจียงหว่านต้องจ่ายเงินหลายสิบหยวนที่เหลือ เจียงเสวี่ยคาดเดาไว้ว่าเจียงหว่านจะไปยืมเงินเฉียวเหลียนเฉิงแน่นอน เลยบอกให้เยี่ยนจื่อบอกกับเขาว่า ‘เจียงหว่านกับถันหลงรวมหัวกันเพื่อหลอกเอาเงินคุณ’ จนเฉียวเหลียนเฉิงไม่ให้เจียงหว่านยืมเงิน
ต่อมา เยี่ยนจื่อขอให้ถันหลงช่วยเหลือ เธอขอให้เขาหลอกล่อเจียงหว่านมาที่โรงพนัน
และนี่เป็นเหตุการณ์ที่เฉียวเหลียวเฉิงมาพบเธอเข้า
จากนั้นเยี่ยนจื่อก็กล่าวต่อว่า “ฉันแค่ทำตามคำสั่งของเจียงเสวี่ย เธอบอกว่าจะให้เงินกับฉัน 100 หยวน และถันหลงจะได้รับ 200 หยวนหลังเรื่องราวจบลง แต่ว่าหลังจบเรื่อง เธอก็หายหัว ไม่ให้ฉันเข้าไปหาด้วยซ้ำ”
“ฉัน… ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริง ๆ นะ!”
พอได้ยินคำพูดทั้งหมดของเยี่ยนจื่อ เฉียวเหลียนเฉิงก็ขบฟันแน่นด้วยความโกรธ หน้าของเขาดำคล้ำคร่ำเครียด
“เรื่องทั้งหมดนี้เป็นความจริงใช่ไหม?”
เยี่ยนจื่อกลัวจนตัวสั่น คุกเข่าลงตรงหน้าเขา “หัวหน้ากองพันเฉียว ทุกอย่างที่ฉันพูดคือความจริงค่ะ ไม่มีคำไหนเลยที่โกหก คุณต้องเชื่อฉันนะ! โปรดเชื่อฉันเถอะ!”
“ฉันไม่ได้อยากจะมีปัญหากับภรรยาของคุณ แต่ฉันถูกว่าจ้าง และฉันไม่มีความแค้นอะไรกับภรรยาของคุณเลย ทำไมฉันจะต้องหาเรื่องหล่อนด้วยตัวเองล่ะ?!”
“ทั้งหมดเป็นเพราะเจียงเสวี่ย เธอบอกว่าเธอเกลียดนังอ้วนนั่น และบอกว่าหล่อนชั่วช้ามากแค่ไหน เธอขอให้ฉันอยู่ห่าง ๆ จากหล่อนไว้ แล้วแอบยุยงคุณ”
“ฉันก็ไม่กล้าขัดคำขอของเธอ เพราะเธอบอกไว้ว่าหากทำให้เธอพอใจได้ เธอจะแนะนำผู้ชายในกองทัพให้กับฉัน”
“เมื่อถึงเวลานั้นฉันจะเป็นภรรยาทหารได้ ฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะได้แต่งงานกับคนแบบคุณหรอกนะ ฉันแค่คิดว่าฉันน่าจะได้แต่งงานกับผู้หมวด หรือผู้บังคับกองร้อยได้ เพียงเท่านี้บรรพบุรุษของฉันคงตายตาหลับ”
“ฉันก็เลยหลงใหลไปกับคำหว่านล้อมพวกนั้น!”
เยี่ยนจื่อร้องไห้ออกมาขณะบอกเล่าทุกสิ่งที่เธอเตรียมเอาไว้
ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องจริงไม่มีสิ่งอื่นเจือปน
สำหรับหญิงสาวในหมู่บ้านเล็ก ๆ นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้วที่ได้แต่งงานกับผู้หมวด และมันคงเป็นโชคหล่นทับแน่ หากเธอได้แต่งงานกับผู้บังคับกองร้อย
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอจึงตกหลุมพรางของเจียงเสวี่ยได้อย่างง่ายดาย!
เฉียวเหลียนเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเหลือบมองเยี่ยนจื่อด้วยแววตาเย็นชา
“เขียนทุกอย่างที่คุณพูดเมื่อกี้ให้หมด แล้วลงชื่อไว้ด้วย”
“ถ้าในอนาคตคุณกล้าสร้างปัญหาให้กับเจียงหว่านอีก ผมจะเอาทุกอย่างที่คุณเขียนไปให้กับตำรวจ”
เยี่ยนจื่อหวาดกลัวจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ความจริงที่เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ แม้มันไม่ใช่อาญชากรรมร้ายแรง แต่มันก็น่ารังเกียจ
เฉียวเหลียนเฉิงไม่สามารถทุบตีเธอเพื่อระบายความโกรธได้ เขาจึงทำได้เพียงขอให้เธอเขียนคำสารภาพแทน
เขาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองไม่ได้ง่าย ๆ แต่เขาเองก็ไม่สามารถพูดแทนได้ว่า ภรรยาของเขาจะไม่ดำเนินคดีกับผู้หญิงคนนี้…
และถ้าหากเจียงหว่านต้องการจัดการกับเยี่ยนจื่อ เขาก็จะไม่ห้ามเธอด้วย
ทั้งจะช่วยเหลือสนับสนุนเธออยู่ด้านหลังอย่างเต็มที่
เฉียวเหลียนเฉิงหยิบกระดาษที่เยี่ยนจื่อเขียนคำสารภาพเสร็จแล้วขึ้นมาเก็บไว้ แล้วจากมา
ขณะที่เฉียวเหลียนเฉิงเดินกลับมาที่ค่ายทหาร ดูเหมือนว่าจะมีคนเถียงกันอยู่แถวนี้
หลังจากเจียงหว่านตำหนิผิงอันด้วยความขุ่นเคือง เธอก็คิดจะออกไปทันที แต่กลับได้พบกับสะใภ้เฉินที่ประตูทางเข้าพอดี
“ฉันกำลังจะไปหาพี่อยู่เลย แต่ไหน ๆ ก็พบกันแล้ว ฉันอยากจะบอกว่าฉันไม่ลืมหรอกนะว่าเป็นหนี้ไก่พี่อยู่สองตัว พี่ช่วยรอก่อนนะอีกไม่กี่วันฉันจะเอามันมาคืนแน่นอน ตอนนี้มันกำลังฟักอยู่ค่ะ” เธอคว้ามือของสะใภ้เฉินเอาไว้และกล่าวอย่างจริงใจ
แต่สะใภ้เฉินโบกมืออย่างไม่ใส่ใจนัก “ไม่เป็นไรหรอก แค่วันสองวัน อย่าคิดมากเลย”
“แล้วนี่ เธอกำลังจะไปไหนเหรอ?”
เจียงหว่านกอดถุงในมือก่อนจะพูดขึ้นว่า “ฉันกำลังจะย้ายออกน่ะ ฉันกับเฉียวเหลียงเฉินหย่ากันแล้ว เลยจะย้ายกลับไปอยู่ที่เมือง ไม่ต้องห่วงนะฉันจะชดใช้หนี้ที่ติดค้างเอาไว้แน่นอน ไม่หนีเด็ดขาด!”
สะใภ้เฉินกล่าวด้วยความขุ่นเคือง “พูดเรื่องอะไรเนี่ย ฉันให้เธอเพราะเราเป็นเพื่อนกัน ต่อให้เธอไม่คืน ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก ก็แค่ถือว่ามอบเนื้อตุ๋นให้เธอไปชามเดียวเอง!”
หลังจากตำหนิอีกฝ่าย สะใภ้เฉินก็ดึงเสื้อเจียงหว่านให้มาพูดคุยกันอีกสักหน่อย “อย่าหลงเชื่อคำพูดของเจียงเสวี่ยและไปเล่นการพนันอีกล่ะ เดี๋ยวเฉียวเหลียนเฉิงจะจับได้”
“ฉันได้ยินมาว่าเหตุผลที่เฉียวเหลียนเฉิงฟ้องหย่าก็เพราะเธอติดพนัน ไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาพยายามตักเตือนเธอหลายทีแล้วหนิ”
“ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้ามีคนมารู้เรื่องนี้เข้า หัวหน้าจะต้องแจ้งตำรวจจับเธอแน่ ช่วงนี้เธอควรไปซ่อนตัวก่อนดีกว่า”
เจียงหว่านขมวดคิ้วสงสัย “พี่สะใภ้ พี่รู้เรื่องนี้ได้ยังไงคะ?”
ตอนนี้เองที่เธอตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
สะใภ้เฉินตอบกลับ “ก็เจียงเสวี่ยกับผิงอันพูดแบบนั้นนี่ ลูกของฉันเลยกลับมาบอก”
หน้าของเจียงหว่านบิดเบี้ยวน่าเกลียด “เฉียวเหลียนเฉิงเขียนอะไรในใบหย่า? แล้วเจียงเสวี่ยรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”
สะใภ้เฉินส่ายศีรษะอย่างสับสน “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ได้ยินว่าเรื่องนี้เพิ่งได้รับการอนุมัติ และเพิ่งอนุมัติเมื่อเช้านี้เองด้วย”
เจียงหว่านเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที
แม้จะไม่ค่อยชัดเจน แต่เธอก็ไม่สามารถอดกลั้นความโกรธไว้ได้อีกแล้ว
เธอพยักหน้ารับ “พี่สะใภ้ ขอบคุณที่เตือนนะคะ”
“ตอนนี้ฉันยังไปไหนไม่ได้ ฉันต้องจัดการสะสางหนี้แค้นก่อน!”
เจียงหว่านไม่คิดพูดคุยกับสะใภ้เฉินอีกต่อไป เธอหันหลังกลับ และเดินขึ้นชั้นบนทันที
ที่ชั้นบน เจียงเสวี่ยกำลังมองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับถือหนังสือเล่มเล็กอยู่ในมือ
ส่วนซิ่วเฟินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กำลังเก็บข้าวของ แต่สายตาเหลือบมองเจียงเสวี่ยอย่างเหยียดหยาม
ทันใดนั้น ประตูพลันเปิดออก
เจียงเสวี่ยตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว จนหนังสือเล่มเล็กร่วงหล่น
พอเห็นว่าเป็นเจียงหว่านที่เดินเข้ามา ความกังวลก่อนหน้ากลับกลายเป็นความโกรธแทน เจียงเสวี่ยทำหน้าเย้ยหยันแล้วเอ่ยปากไปว่า
“อ้อ ก็นึกว่าใครมา ภรรยาของพี่เฉียวนี่เอง!”
ก่อนจะพูดจบ เจียงหว่านก็วิ่งเข้าไปหาก่อนจะคว้าเส้นผมของเธอไว้มั่น แล้วเงื้อมมือตบหน้าเธอไปสองฉาด
“กรี๊ดดด! แกกล้าตบฉันเหรอ?” เจียงเสวียตะโกนลั่น
เจียงหว่านแค่นเสียงตอบ “ใช่ ฉันมาที่นี่เพื่อตบเธอโดยเฉพาะ”
“ฉันน่ะ อยากจะตบหน้าหนา ๆ นี่มานานแล้ว แต่เพราะฉันเห็นแก่เฉียวเหลียนเฉิงและพี่ชายของเธอหรอกนะ ฉันเลยทุบแค่ลำตัว ไม่ได้ตบหน้า!”
“แต่ตอนนี้ฉันหย่ากับเขาแล้ว เธอคิดว่าฉันสนใจเรื่องพวกนั้นอีกไหมล่ะ?”
ขณะพูด เธอก็ตบปากอีกฝ่ายไม่หยุดมือ!
เจียงเสวี่ยพยายามใช้มือและเข่าเพื่อปัดป้อง ก่อนจะร้องเรียกซิ่วเฟินให้ช่วยเหลือ
ซิ่วเฟินที่กำลังตกใจกับภาพตรงหน้าพลันรู้สึกตัวขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ได้เข้าไปช่วย
ทำได้เพียงถอยหลังไปสามก้าวก่อนจะพูดขึ้นว่า “ฉันมาดูแลคุณ ไม่ใช่ให้มาปกป้องคุณสักหน่อย… พี่ชายของคุณไม่ได้ให้เงินฉันสำหรับหน้าที่นี้นะ!”
เจียงเสวี่ยได้ยินแบบนั้นก็โกรธจัดจนแทบจะกระอักเลือด หน้าของเธอร้อนผ่าวเพราะถูกตบจนบวมเป่ง