เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 70 สถานีตำรวจมามอบธงให้เจียงหว่าน
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 70 สถานีตำรวจมามอบธงให้เจียงหว่าน
บทที่ 70 สถานีตำรวจมามอบธงให้เจียงหว่าน
เจียงหว่านพูดอย่างเศร้าสร้อย “หรือไม่อย่างนั้น พี่ช่วยหาไก่ที่สามารถวางไข่ได้ให้ฉันได้ไหม ฉันจะจ่ายเพิ่มให้”
เมื่อได้ยินแบบนี้ คนขายเนื้อก็หัวเราะจนแทบหงายหลัง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่ามีคนนอนทับไข่จนแตกด้วย
คนขายเนื้อพยักหน้า “ตกลง ฉันจะถามให้เธอเอง”
ที่สำนักงานในค่ายทหาร เฉียวเหลียนเฉิงกำลังเหม่อลอยอีกครั้ง
คราวนี้ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคือใบหย่าที่เขียนโดยเจียงหว่าน
เขาลังเลว่าจะส่งมอบตอนนี้เลยดีไหม หรือจะรอไปก่อนอีกสักหน่อย
ซึ่งเขากำลังรออะไรอยู่นั้น เขาก็ไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจน แต่สัญชาตญาณมันบอกเขาว่าถ้าส่งใบหย่าร้างนี้ไป ครั้งนี้เขากับเจียงหว่านก็จะจบกันจริง ๆ แล้ว
ปกติแล้วเฉียวเหลียนเฉิงไม่ใช่คนโลเล แต่ครั้งนี้เขาก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไม มันเหมือนกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างในใจกำลังต่อต้านอยู่
ในขณะที่สับสนไม่รู้จะทำอะไรยังไงอยู่นั้นเอง
เจียงเฉิงก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา
“เหล่าเฉียว ฉันเพิ่งไปพบหัวหน้ามา”
เจียงเฉิงเดินเข้ามาใกล้พลางมองเฉียวเหลียนเฉิงที่มีท่าทางแปลก ๆ
เฉียวเหลียนเฉิงเอาหนังสือมาทับปิดใบหย่า แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา “มีเอกสารหรือคำสั่งอะไรรึเปล่า?”
เจียงเฉิงส่งเสียงรับ แล้วหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมายื่นให้เฉียวเหลียนเฉิง พลางถามว่า
“นายเอาเจ้านี่ไปให้หัวหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ? ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องเลย?”
“นายตัดสินใจหย่าแล้วเหรอ? ไม่รอแล้วรึไง?”
เฉียวเหลียนเฉิงนิ่งงันไปครู่หนึ่ง เขารับเอกสารจากมือของเจียงเฉิงแล้วมองดูอย่างละเอียด ทันใดนั้นก็รู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งร่าง
นี่เป็น…ใบหย่าที่เขาเขียนขึ้นเอง
กระดาษแผ่นนั้นมีคำว่า ‘อนุมัติ’ สีแดงสด และลายเซ็นของหัวหน้าอยู่บนนั้น
เฉียวเหลียนเฉิงเงยหน้าขึ้นมองเจียงเฉิงแข็งทื่อ
”นี่คือ…?”
เจียงเฉิงพูดอย่างไม่พอใจ “ก็ใบหย่าน่ะสิ มันเป็นของนายไม่ใช่หรือไง? ตอนนี้มันได้รับการอนุมัติจากหัวหน้าแล้ว!”
“ยังไงก็เถอะ หัวหน้าถามเกี่ยวกับเจียงหว่าน ฉันเลยกลัวว่าเรื่องนี้จะไม่สวยนัก เพราะทางหัวหน้าได้แจ้งตำรวจไปแล้วด้วย”
เฉียวเหลียนเฉิงตะลึงงันทำอะไรไม่ถูก ร่องรอยของความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในหัวใจของเขา ชายหนุ่มเม้มริมฝีปาก ใบหน้าหม่นหมอง แล้วพูดว่า
“แจ้งตำรวจทำไม? เธอไม่ได้เล่นพนันอีกแล้วนะ เธอแค่ไปที่นั่น แล้วในวันนั้นอาจจะ… อาจแค่…”
เจียงเฉิงถอนหายใจเบา ๆ “เหล่าเฉียว รัฐบาลกำลังปราบปรามการพนัน นายไม่รู้หรอว่าตำรวจปราบปรามเรื่องนี้หนักแค่ไหน”
“เธอเป็นภรรยาทหาร แต่ยังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองแม้จะถูกตักเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า หัวหน้าจะทนเรื่องนี้ได้ยังไง?”
“นายควรรู้ผลที่จะตามมา ตั้งแต่ตอนที่นายยื่นคำร้องขอหย่าไปแล้วสิ”
เฉียวเหลียนเฉิงส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง “ไม่นะ ฉัน… ฉันไม่ได้ยื่น”
“วันนั้นฉัน…”
เขาอยากจะอธิบายแต่ก็ทำไม่ได้
ในวันนั้นเขาโกรธและผิดหวังมากจนเขียนใบหย่านี่ขึ้นมา
แต่เขารู้ดีว่าตนจะเสียใจภายหลัง!
หลังจากนั้นเขาก็ยอมจำนน
แม้จะหาข้อแก้ตัวมาหลายอย่าง แต่ประเด็นสำคัญคือเฉียวเหลียนเฉิงไม่อยากหย่ากับเจียงหว่าน
ลึกลงไปแล้ว ทั้งพรสวรรค์และอารมณ์ที่รุนแรงของเจียงหว่านทำให้ปราการหัวใจของเขาเกิดรอยแยก
เขาไม่ได้บอกใครว่าเขาได้อ่านนิยายที่เจียงหว่านส่งไปเกือบทุกฉบับ
และอ่านมันทุกตัวอักษร
เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าเจียงหว่านจะสามารถเขียนเรื่องราวที่ดีแบบนี้ได้
เธอไม่เคยเรียนหนังสือแม้แต่วันเดียว แต่กลับฉลาดและมีความสามารถ นิสัยที่เอาจริงเอาจังในการทำสิ่งต่าง ๆ ไม่ยอมเสียเปรียบง่าย ๆ ล้วนแต่ทำให้เฉียวเหลียนเฉิงเริ่มสนใจ
มันจึงไม่แปลกที่เขาโกรธมากขนาดนั้น แต่ก็ยังอดทนไม่หย่าร้างแบบนี้
เขาถึงกับใช้ผิงอันเป็นข้อแก้ตัวครั้งแล้วครั้งเล่า
ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้ว เรื่องการเรียนของผิงอันมันง่ายราวกับปลอกกล้วย ไม่ต้องมีเจียงหว่านเขาก็หาหนทางอื่นได้
ทว่า ณ ขณะนี้ เมื่อเขาเห็นคำว่า ‘อนุมัติ’ ตัวใหญ่ในใบหย่า ชายหนุ่มก็ตระหนักได้ว่าจริง ๆ แล้วลึก ๆ ในใจ เขาไม่เต็มใจเลย
แม้ว่าจะผิดหวังกับเจียงหว่าน แต่เฉียวเหลียนเฉิงก็ยังไม่อยากยอมแพ้
ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้น หยิบใบหย่าแล้วรีบเดินออกไป
เฉียวเหลียนเฉิงรีบไปที่ประตูลานบ้าน ก่อนเห็นผิงอันเดินออกมา
ถัดจากเด็กชายคือเฉินตงเซิงเด็กอีกคน
เมื่อเห็นเฉียวเหลียนเฉิง ผิงอันก็กระโดดเข้ามาหาด้วยรอยยิ้ม
“พ่อครับ ผมมีเรื่องจะบอก น้าอ้วนคนนั้นตลกมาก เธอน่ะบอกว่าอยากฟักลูกเจี๊ยบใช่ไหม แต่กลับทับไข่ในกล่องแตกหมดเลย ทำเอาผมขำจนจะตายอยู่แล้ว”
ทว่าเฉียวเหลียนเฉิงกลับไม่มีอารมณ์มาขำขัน กลับถามออกไปอย่างร้อนรน “เธออยู่ที่ไหน? อยู่บ้านหรือเปล่า?”
ผิงอันส่ายหัว “ออกไปนานแล้วครับ ตอนออกไปยังถือกล่องไปด้วย สีหน้าของน้าอ้วนดูเศร้าจนเหมือนญาติเสีย แถมจะตีผมด้วยแต่ผมวิ่งเร็วกว่า เธอเลยตีไม่โดน”
จากนั้นเฉียวเหลียนเฉิงหันหลังกลับ และจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“พ่อครับ พ่อจะไปไหนน่ะ?”
ผิงอันตะโกนตามหลัง
เฉียวเหลียนเฉิงไม่สนใจเด็กชายอีก ในขณะนี้ เขามีความคิดเดียวเท่านั้น ‘ต้องตามหาเจียงหว่าน’
หัวใจของเฉียวเหลียนเฉิงมุ่งมั่นอย่างมาก และเขาได้ตัดสินใจแล้ว ‘เขาจะไม่หย่าเด็ดขาด!’
เขาต้องตามหาเจียงหว่าน และพาเธอไปมอบตัว
ในใจคิดไปว่าเจียงหว่านก็แค่ออกไปเที่ยวเล่น แม้ว่าเธอจะถูกจับได้ แต่ถ้าไปมอบตัว อย่างมากที่สุดเธอก็คงจะถูกควบคุมตัวเพียงไม่กี่วัน และต้องเข้ารับการอบรมเท่านั้น
มันคงไม่เลวร้ายเกินไป… ใช่ไหม?
คราวนี้เขาจะมัดเจียงหว่านไว้ข้างตัว และจะบังคับให้เธอเลิกเล่นการพนันให้ได้
ตราบใดที่เธอหยุดเล่นการพนัน พวกเราก็คงมีชีวิตที่ดีได้
เขารู้ว่าเจียงหว่านไปที่เมืองแล้ว
เฉียวเหลียนเฉิงจึงตามไปที่เมือง หากเป็นเจียงหว่าน เธอต้องเดินเป็นเวลาเกือบชั่วโมง แต่เฉียวเหลียนเฉิงกลับสามารถไปถึงได้ภายในเวลาเพียงสิบห้านาทีเท่านั้น
สมกับที่เป็นชายผู้แข็งแกร่งที่สุดในกองทัพ
เมื่อเขามาถึง ดวงตาของชายหนุ่มก็มืดมนลง เขาจะไปหาเจียงหว่านได้จากที่ไหน?
ความคิดแรกของเขาคือโรงพนัน เขาอาศัยความทรงจำเดิมเดินไปยังโรงพนันที่เคยไปครั้งก่อน แต่กลับพบว่าบ้านทั้งหลังกลับว่างเปล่า
ลานเล็ก ๆ ถูกปิดกั้นและยังปิดป้ายไว้ด้วย
เฉียวเหลียนเฉิงหมุนตัวกลับไปค้นหาทั่วเมือง แต่ก็ไม่พบเธอเลย
เขากลับมาที่ค่ายทหารตอนดวงอาทิตย์ใกล้จะลาลับฟ้าไป
ทันทีที่กลับมา ก็มีคนมาตามหาเขาอยู่
“หัวหน้ากองพันเฉียว คนจากสำนักงานความมั่นคงสาธารณะมาหาคุณครับ บอกว่ามาที่นี่เพราะเรื่องของภรรยาคุณ”
หัวใจของเฉียวเหลียนเฉิงเต้นระรัว รีบไปที่ห้องรับแขก ก่อนจะเห็นชายคนสองคนในชุดตำรวจรออยู่
“สหายตำรวจ ผมเป็นสามีของเจียงหว่านครับ”
เฉียวเหลียนเฉิงลากเท้าไปจนถึงประตูสำนักงาน คิดหาวิธีแก้ปัญหาดี ๆ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก คงได้แต่จัดการไปทีละขั้นเท่านั้น
เมื่อเห็นเฉียวเหลียนเฉิงเข้ามา สหายตำรวจทั้งสองก็รีบยืนขึ้น และทำความเคารพ
ชายคนหนึ่งพูดว่า
“สวัสดีครับ หัวหน้ากองพันเฉียว ผมชื่อเฉินเซวียน และนี่คือเพื่อนร่วมงานของผม อู่หยาง!”
“เรามาที่นี่เพื่อเชิดชูเกียรติภรรยาของคุณครับ”
เฉียวเหลียนเฉิงกำลังจะอธิบายว่าอาจมีความเข้าใจผิด และอยากจะสอบถามว่าหากเป็นในสถานการณ์นี้เจียงหว่านจะถูกลงโทษยังไงบ้าง
แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร ชายหนุ่มก็ต้องตกตะลึงงันไปกับคำพูดของเฉินเซวียน
“เชิดชูเกียรติ?” เฉียวเหลียนเฉิงถามทวนอย่างสับสน
ในเวลานี้อู่หยางกล่าวว่า “ใช่แล้วครับ ประการแรกก็เพื่อเชิดชูเกียรติเธอ ส่วนประการที่สองเพื่อมามอบธง”
“นี่คือธงที่เราต้องการมอบให้กับสหายเจียงหว่าน จริง ๆ มันควรจะมาถึงตั้งนานแล้ว แต่ธงนั้นจำเป็นต้องส่งมอบมาจากในเมือง ทั้งการอนุมัติก็ต้องผ่านกระบวนการ”
”เพราะอย่างนั้นมันถึงได้ล่าช้ามาจนถึงตอนนี้ครับ”
ขณะที่พูด อู่หยางก็หยิบธงออกมาแล้วคลี่ออก!