เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 64 เฉียวเหลียนเฉิงรู้สึกหดหู่และคับข้องใจ
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 64 เฉียวเหลียนเฉิงรู้สึกหดหู่และคับข้องใจ
บทที่ 64 เฉียวเหลียนเฉิงรู้สึกหดหู่และคับข้องใจ
เจียงหว่านหยิบกะละมังขึ้นมา ก่อนกลับมาพร้อมกับน้ำอุ่น ๆ เธอเปิดม่านออก และเริ่มชำระล้างตัว
เฉียวเหลียนเฉิงอยากนอน แต่เขาจะหลับลงได้ยังไง แค่เขาหลับตาก็ได้ยินเสียงน้ำไหลดังมาเข้าหู
กลิ่นเหงื่อเองก็หายไปแล้วด้วย
หลังจากเช็ดตัวแล้ว เจียงหว่านก็ยัดเสื้อผ้าลงในกะละมัง ขยำสองครั้ง บิดให้แห้งแล้วแขวนไว้
ในบ้านยังมีชุดเสื้อกั๊กกับกางเกงขนาดใหญ่ชุดนึงให้ใส่อยู่
เธอใส่มันแค่ตอนนอนเท่านั้น
เสียดาย ถ้าใส่ชุดนี้ไปขายของได้คงจะดูดีไม่น้อย
หลังจากนั้น เจียงหว่านนอนลงบนเตียง ก่อนจะหลับไปอย่างรวดเร็ว
เฉียวเหลียนเฉิงลืมตาขึ้นมองดูความมืด ทันใดนั้นก็รู้สึกคับข้องใจอย่างอธิบายไม่ได้ เหมือนมีก้อนเนื้อถ่วงหน่วงอยู่ในอก
แต่เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกอึดอัดแบบนี้
ตอนเช้า เฉียวเหลียนเฉิงลุกขึ้น และกำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อเติมเต็มความสดชื่น แต่เจียงหว่านก็ลุกขึ้นมาเช่นกัน
เธอไม่พูดอะไร หยิบแปรงสีฟันแล้วออกไป
เมื่อเฉียวเหลียนเฉิงมาถึงชั้นล่างพร้อมกะละมังกับผ้าเช็ดตัว เจียงหว่านก็ไม่อยู่แล้ว
เจียงหว่านกลับมาเวลา 8.30 น. เพราะวันนี้เธอได้เตรียมตัวไว้แต่เช้า
เธอรีบใส่เนื้อหัวหมูและตุ๋นมันในหม้อ
วันนี้เมื่อมีเวลาว่าง เธอจะสอนผิงอันเขียนและจดจำคำศัพท์
การสอนดำเนินไปจนถึง 11 โมง เจียงหว่านจึงเตรียมไปขายของ เธอใส่เนื้อตุ๋นลงในหม้อใบใหญ่ ปิดฝา มัดด้วยเชือกแล้วลากออกไป
เมื่อเฉียวเหลียนเฉิงกลับมา เจียงหว่านก็จากไปแล้ว โดยที่เธอไม่ได้แตะต้องอาหารของเมื่อวานเลย ทั้งมื้อเช้า กลางวัน กระทั่งอาหารเย็น
ขณะมองดูอาหาร เฉียวเหลียนเฉิงก็เงียบไปชั่วครู่ ในใจรู้สึกหดหู่และคับข้องขึ้นมา
แต่มันเป็นความรู้สึกเล็กน้อยมาก น้อยมากจนเหมือนกับผมเส้นหนึ่งเท่านั้น
และสลายหายไปได้อย่างรวดเร็ว!
สถานการณ์นี้กินเวลานานถึงสามวัน ในช่วงสามวันนี้ เมื่อเจียงหว่านกลับมา เฉียวเหลียนเฉิงก็นอนไปแล้ว หรือก็กำลังจะนอนพอดี
ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นในตอนเช้าเจียงหว่านก็จากไปแล้ว
เจียงหว่านยังไม่กินอาหารที่เขานำกลับมาให้ระหว่างวันเลยด้วย
ยกเว้นการสอนผิงอัน ยังคงสอนตรงเวลาทุกเช้า เจียงหว่านในตอนนี้ดูแทบจะไม่มีตัวตนเลย
ในวันที่สี่ อู่หยางมาหาเธอ “เรื่องที่คุณขอให้ผมช่วย ผมทำให้แล้ว แต่ถันหลงไม่ให้ความร่วมมือ”
เจียงหว่านขมวดคิ้ว “เขายังดื้อด้านอยู่อีกงั้นเหรอ?”
อู่หยางส่ายหัว “เขาไม่ยอมรับว่าโรงพนันเป็นของเขา แม้ว่าคนในโรงพนันจะชี้ตัวเขา แต่เขาก็ยังไม่ยอมรับ”
“และยิ่งไม่ยอมบอกว่าทำไมในวันนั้นนายทหารสามีของคุณไปที่นั่นได้”
“แต่ลูกน้องคนหนึ่งของเขาที่ชื่อจางซานบอกว่า มีคนมาหาเขาเมื่อสองสามวันก่อน เป็นผู้หญิง”
“ผู้หญิงคนนั้นบอกว่ามีคนระดับสูงในกองททัพต้องการให้เขาทำอะไรบางอย่าง พอเสร็จแล้วเธอจะส่งเขาไปเหยียนจิง”
“และถันหลงก็ฝันที่จะไปเหยียนจิงเพื่อเปิดโรงพนันที่นั่น”
เจียงหว่านขมวดคิ้วเคร่งเครียดยิ่งขึ้น มีแสงเย็นวาบในดวงตาของเธอ
อู่หยางกล่าวต่อ “พวกเขาไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้น แต่ในวันนั้นมีใครบางคนพานายทหารไปที่ทางเข้าเมือง โดยจางซานได้รับคำสั่งให้หยุดทหารคนนั้นไว้ และพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องที่คุณอยู่ในโรงพนันเพื่อถ่วงเวลา”
“เขารอจนได้รับสัญญาณ แล้วจึงค่อยพาทหารคนนั้นไปที่โรงพนัน”
หลังจากหยุดพูดไปครู่หนึ่ง อู่หยางก็กล่าวต่อ “หลี่ซือเองก็พูดอะไรบางอย่าง เขาบอกว่าคนมีฐานะสัญญาว่าจะมอบเงินให้ถันหลง 200 หยวน ตราบใดที่เขาสามารถทำให้คุณเข้าไปในโรงพนันเพื่อเล่นการพนันได้ ไม่ว่าคุณจะชนะหรือแพ้พนันก็ตาม”
เมื่ออู่หยางพูดถึงตรงนี้ เขาก็มองดูเธอด้วยความสงสาร
“คุณถูกวางแผนจัดฉาก ดูเหมือนว่าแผนการนี้จะมีจุดประสงค์หลักเพื่อสร้างความขัดแย้งระหว่างคุณกับสามีของคุณนะ”
“ผมสามารถยื่นเรื่องกับผู้กำกับเพื่อส่งธงไปที่กองทัพเพื่อรับรองให้คุณได้นะ”
……
เจียงหว่านยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว “ไม่ต้องลำบากหรอก”
อู่หยางขมวดคิ้ว ก่อนพูดว่า “ไม่ลำบากเลย ๆ คุณช่วยเราไว้มาก ทั้งคุณยังจะมาบรรยายเรื่องภัยการพนันให้เราอีก เราก็ควรที่จะมอบธงให้กับคุณ”
เจียงหว่านยังคงปฏิเสธ “ไม่จำเป็นเลยจริง ๆ”
“เขากับฉัน…”
เธอเงยหน้าขึ้นมองไปที่อู่หยางด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ถ้าเป็นคุณ คุณจะไว้วางใจภรรยาของคุณไหม?”
อู่หยางตะลึงไปครู่หนึ่ง และปลายหูของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง “ผมไม่มีภรรยาสักหน่อย”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็พูดอย่างจริงจัง “แต่ถ้าผมมีภรรยา ผมจะรักเธอมาก และผมจะเชื่อใจเธออย่างแน่นอน”
เจียงหว่านหัวเราะกับตัวเอง “แล้วถ้าภรรยาของคุณเคยติดการพนันมาก่อนล่ะ?”
จู่ ๆ อู่หยางก็ไม่สามารถตอบได้
เขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการจับนักพนันมา 9 ใน 10 คนที่เขาได้พูดคุยต่างบอกว่าจะไม่เล่นการพนันอีกต่อไป แต่ก็ไม่ได้เกินจริงที่จะบอกว่ามีเพียง 1 ใน 10 หรือน้อยกว่า 1 ใน 100 คนด้วยซำ้ ที่สามารถเลิกเล่นการพนันได้จริง ๆ
เมื่อเห็นความเงียบของอีกฝ่าย เจียงหว่านก็รู้คำตอบแล้ว “ฉันไม่โทษเขาหรอก ช่างเถอะ ปล่อยให้เรื่องจบไปแบบนี้แหละ”
อู่หยางเงียบไป ก่อนจะพูดว่า “ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ แค่บอกผมมา สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น ผมจะเป็นพยานให้คุณเอง”
เจียงหว่านรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย
เธอมองไปที่อู่หยาง ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “คุณเพิ่งบอกว่าถันหลงไม่ยอมรับเลยใช่ไหม?”
อู่หยางพยักหน้า
เจียงหว่านพูดต่อ “ทำไมไม่ให้ฉันลองดูสักหน่อยล่ะ”
“เอ๋?” อู่หยางประหลาดใจ
เจียงหว่านกล่าวต่อ “ฉันจะลองดู บางทีฉันอาจจะทำให้เขาสารภาพได้ เพราะฉันรู้บางสิ่งมากกว่าคุณ”
อู่หยางดีใจมาก “ได้ ผมจะไปขอผู้กำกับให้”
ขณะเดียวกัน ณ ค่ายทหาร
วันนี้ท้องของหลี่ซิ่วหลันไม่ได้รู้สึกแย่นัก เธอจึงมองหาโอกาส และขึ้นไปชั้นบนเพื่อพบกับเจียงเสวี่ย
“เจียงเสวี่ย ขาของเธอเป็นยังไงบ้าง? ฉันเอาไข่สองฟองมาให้เธอเลยนะ”
หลี่ซิ่วหลันวางไข่ไว้ตรงหน้าเจียงเสวี่ย
แต่ทว่าเจียงเสวี่ยเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยความรังเกียจ “ก็ไม่ยังไง บาดเจ็บที่กล้ามเนื้อกับกระดูกเลยต้องพักฟื้น”
หลี่ซิ่วหลันไม่พลาดเห็นท่าทีเย่อหยิ่ง และดูแคลนของหญิงสาวตรงหน้า
แม้เธอไม่ได้แสดงความรู้สึกที่แท้จริงบนใบหน้า แต่ในใจเธอก็อดที่จะสาปแช่งด้วยความโกรธไม่ได้ ‘นังจิ้งจอกแพศยา ฉันจะปล่อยให้แกหยิ่งผยองไปก่อน ไว้แกไม่มีประโยชน์แล้ว ฉันจะทำลายแกซะ!’
หลังจากหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดเบา ๆ “เจียงเสวี่ย วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับเธอเป็นพิเศษ”
เจียงเสวี่ยสับสน “ขาของฉันเป็นแบบนี้ จะมาแสดงความยินดีอะไรฉันไม่ทราบ”
หลี่ซิ่วหลันกล่าวต่อ “ฉันได้ยินมาว่าครั้งนี้หัวหน้ากองพันเฉียวตั้งใจที่จะหย่ากับนังอ้วนนั่นจริง ๆ ว่ากันว่าเขาเขียนคำร้องขอหย่าแล้วด้วย”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ดวงตาของเจียงเสวี่ยก็สว่างวาบขึ้น แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่พี่ชายของเธอพูด เธอก็สงบลงอีกครั้ง
“คราวที่แล้วก็บอกว่าจะหย่ากัน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หย่าไม่ใช่เหรอ? อยากจะหย่าก็คงต้องรออีกนั่นแหละ”
เหตุผลหลัก ๆ ก็คือนังอ้วนไม่ยอมปล่อยมือ นั่นทำให้เจียงเสวี่ยยิ่งรู้สึกชิงชัง
แต่หลี่ซิ่วหลันยิ้มบาง ๆ แล้วโน้มตัวเข้ามากระซิบข้างหูเธอ
“ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิมนะ ฉันได้ยินจากพี่เขยว่าหัวหน้ากองพันเฉียวเขียนว่า ‘ติดการพนัน ตักเตือนซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงนิสัย’ ลงในเหตุผลของการขอหย่า”
“เธอเองก็รู้ว่าหากมีความขัดแย้งหรือเหตุผลอื่น เบื้องบนจะเป็นสื่อกลางให้ แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับกฎหมายและหลักการ เบื้องบนจะไม่ไว้หน้า”
“ตราบใดที่หัวหน้ากองพันเฉียวยื่นคำร้องขอหย่า เขาก็จะได้รับอนุมัติใบหย่าในวันเดียวกันเลย”
หัวใจของเจียงเสวี่ยเต้นระรัว
“เขาเขียนแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?” เธอถามขึ้น พลอยตื่นเต้นไปด้วยเล็กน้อย
หลี่ซิ่วหลันรีบพยักหน้า “พี่เขยของฉันพูดเองกับปากเลย ไม่ผิดแน่นอน!”