เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 63 ทานอาหารกลางวันฟรี
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 63 ทานอาหารกลางวันฟรี
บทที่ 63 ทานอาหารกลางวันฟรี
เจียงหว่านขายหมูตุ๋นมาได้ห้าหรือหกวันแล้ว เนื้อที่เธอทำนั้นมีรสชาติอร่อยจริง ๆ
คนสมัยนี้กินเครื่องปรุงรสน้อยมาก อย่างดีที่สุดก็เติมเกลือลงไป ไม่ต้องพูดถึงยี่หร่าและโป๊ยกั้กเลย
ดังนั้นอาหารที่ปรุงโดยเจียงหว่านจึงไม่มันเยิ้มเกินไป
แม้ว่าราคาจะแพง แต่ทำเลที่เธอขายก็ใกล้กับที่ว่าการตำบลและสถานีตำรวจ
คนที่ต้องการกินมันคู่กับเหล้าล้วนไม่ตระหนี่กับเงินเล็กน้อยแบบนี้
ซึ่งทำให้เธอขายดี
ในตอนเที่ยง เจียงหว่านขายได้ประมาณสิบชั่ง
แล้วในช่วงเย็น พอมีคลื่นคนมาอีกสองสามคลื่น เธอก็ขายหมดพอดี
เธอไม่ได้ตั้งใจจะกลับไปที่ฐานในช่วงบ่าย และตอนนี้เธอกับเฉียวเหลียนเฉิงแตกหักกันอย่างสมบูรณ์แล้ว เธอจะกลับไปนอนตอนกลางคืนเท่านั้น
หลังจากเก็บทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็ไปหาอู่หยาง
“ฉันไม่มีที่วางรถเข็นกับหม้อ ฉันขอวางไว้ที่นี่ก่อนได้ไหม?”
เจียงหว่านถาม
อู่หยางพยักหน้า “ได้ ผมจะช่วยคุณยกมันไปวางไว้ในครัวของเรานะ”
“ไม่ต้องรีบไปลงบันทึกหรอก คุณไปกินอาหารก่อน ต่อไปคุณมากินอาหารเที่ยงที่โรงอาหารสถานีเราได้ ผมยื่นขอกับผู้กำกับแล้ว”
”แต่ไม่มีของอร่อยอะไรมากหรอก มีแค่อาหารบ้าน ๆ”
จู่ ๆ เจียงหว่านก็รู้สึกเขินอาย “ไอหยา นี่มันน่าอายจริง ๆ”
อู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณสัญญาว่าจะเป็นที่ปรึกษาของเราในการเตือนภันจากพนัน คุณก็ถือเป็นเพื่อนร่วมงานของเรา แค่มาทานอาหารในโรงอาหารไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร”
“จะเช้าหรือเย็น หรือมื้อเที่ยงก็ได้นะ”
”ถ้าคุณรู้สึกอาย แค่สอนเกี่ยวกับการหลอกลวงของพวกโรงพนันให้คนอื่น ๆ มากขึ้นก็พอ ฮ่า ๆ”
หลังจากพูดจบ เขาก็เพิ่มประโยคในใจ ‘จะดีกว่านี้ถ้าไม่คิดเงินด้วย’
เจียงหว่านคิดว่ามันไม่เลวเลย “ต้องทำแบบนั้นอยู่แล้ว ฉันหวังว่าทุกคนจะเข้าใจกลโกงของโรงพนัน ชีวิตจะได้ไม่ต้องเดินทางผิดอีก”
อู่หยางหัวเราะลั่น “ดี เยี่ยมมาก งั้นพี่สาวอ้วนกินไปก่อนแล้วกันนะ ไว้ค่อยเรียกผมหลังจากกินเสร็จก็ได้”
เจียงหว่านรู้ดีว่าการเสแสร้งกับเพื่อนตำรวจเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ บางครั้ง การผูกมิตรกับพวกเขาก็ถือเป็นวิธีการทางการทูตเช่นกัน
ช่วงเวลาอาหารกลางวันของสถานีตำรวจผ่านไปนานแล้ว อาหารที่เหลือให้เจียงหว่านจึงถูกจัดเตรียมโดยอู่หยาง
สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือมันเป็นซาลาเปากับผัดผัก
แม้ว่าจะไม่มีเนื้อสัตว์ แต่ก็ดูน่ากินกว่าในค่ายมาก
เจียงหว่านไม่กล้ากินมากเกินไป แม้ว่าเธอจะหิว แต่เธอก็พยายามควบคุมตัวเอง และกินซาลาเปาเพียงลูกเดียวเท่านั้น
เมื่ออู่หยางเห็นซาลาเปาที่เหลืออยู่ เขาจึงพูดว่า “เอานี่ไป ไว้กินเป็นของว่างก็ได้”
เจียงหว่านรู้สึกเขินอาย “อ้า อย่างนี้ไม่ค่อยดีนะ”
อู่หยางมองเธอขึ้น ๆ ลง ๆ แล้วพูดว่า “คุณกินซาลาเปาหนึ่งลูกพอหรือไง? รับไป ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราแต่ละคนได้ซาลาเปาลูกใหญ่คนละสามลูกทั้งนั้น”
“ข้างในไม่ได้มีไส้มากอะไรด้วย”
เจียงหว่านเกาหัวด้วยความเขินอาย แต่ก็หยิบซาลาเปามาห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลแล้วใช้แขนของเธอหนีบมันไว้
ในก้นบึ้งของหัวใจเธอรู้สึกอบอุ่นแปลก ๆ ขึ้นมา
เนื่องจากเธอไม่เห็นความดูถูกหรือการเยาะเย้ยในสายตาของอู่หยางเลย เขามองเธออย่างเท่าเทียมจริง ๆ
เธอเป็นคนธรรมดาเหมือนอย่างพวกเขา
นี่สินะ คือตำรวจที่ดี ผู้ให้บริการประชาชน!
ในช่วงบ่าย เจียงหว่านก็ลงบันทึกให้ หลังจากลงบันทึกเสร็จแล้ว เธอก็ถามอู่หยาง
“ฉันขอพบถันหลงได้ไหม?”
อู่หยางที่ได้ยินก็สับสน “คุณอยากเจอเขาเหรอ? ตอนนี้เขาเกลียดคุณเข้าไส้ไปแล้วมั้ง เขาคงอยากกินเนื้อดื่มเลือดของคุณทั้งเป็น คุณกล้าไปพบเขาได้ยังไง”
เจียงหว่านกล่าว “เขาทำผิด เขาก็ต้องชดใช้ ถ้าฉันไม่ทำอย่างนั้น ก็เป็นฉันที่ต้องกินเนื้อดื่มเลือดของเขา”
“ฉันไม่ได้กลัวว่าเขาจะเกลียดฉัน ฉันแค่อยากจะถามอะไรเขาหน่อย”
……
อู่หยางเงียบ ก่อนจะส่ายหัว “ผมเกรงว่าจะไม่ได้หรอก เราจะไม่อนุญาตให้มีการพบกันก่อนที่จะมีการพิจารณาคดีเสร็จ นอกจากนี้ คุณยังมีความสัมพันธ์แบบนั้นกันด้วย”
เจียงหว่านพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอพูดเสียงเบา “ถ้าอย่างนั้น ฉันขอให้คุณช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม? มันเป็นคำขอส่วนตัวจากฉันน่ะ”
อู่หยางคิดอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่กล้ารับปาก “ลองบอกมาสิ ผมจะดูก่อนว่าจะทำได้รึเปล่า”
เจียงหว่านกล่าวว่า “คือว่านะ ตอนที่พวกคุณกำลังเฝ้าระวังอยู่ข้างนอกที่โรงพนัน เห็นทหารนายนึงเข้าไปถูกไหม ชายคนนั้นเป็นสามีของฉันเอง”
”ฉันอยากรู้ว่าทำไมสามีของฉันถึงไปที่นั่นได้จังหวะพอดิบพอดีขนาดนั้น”
อู่หยางรับปาก “ผมจะลองถามเพื่อนร่วมงานดู แล้วขอให้พวกเขาช่วยเค้นถามให้ในระหว่างการสอบสวนแล้วกัน แต่ผมไม่รับประกันผลนะ”
เจียงหว่านขอบคุณ
อันที่จริงเธอมีความคิดบางอย่างอยู่ในใจ
เธอไม่ได้ลืมสิ่งที่เจียงเสวี่ยพูด
ถึงยัยนั่นจะแค่พูดแฝงนัยก็เถอะ
คำถามคือยัยนั่นรู้ได้ยังไงว่าเธอไปเล่นการพนันมา
สิ่งที่เธอคิดไม่ตกก็คือเจียงเสวี่ยที่พิการจนต้องนั่งอยู่บนรถเข็น ไปรู้มาได้ยังไงว่าเธอกลับไปเล่นการพนันอีกครั้ง
ทั้งเวลาที่เธอเข้าเมืองในวันนั้นก็ไม่แน่นอน ทำไมมันถึงบังเอิญได้ขนาดนี้?
สิ่งเหล่านี้คือจุดที่เธออยากจะตรวจสอบ
ในตอนบ่ายเจียงหว่านไม่มีที่ไป ดังนั้นอู่หยางจึงพูดว่า “คุณว่างไหม มาสอนผมหน่อยสิว่าคนพวกนั้นโกงยังไง”
ตามคำบอกเล่าของอู่หยาง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาชีวิตผู้คนดีขึ้นมาก บางครอบครัวถึงขนาดมีอาหารเหลือกินเหลือใช้
ซึ่งมันเกิดขึ้นจากการปฏิรูปและเปิดประเทศ ทำให้ผู้คนมีเวลา และออกไปทำงานในเวลาว่าง
โดยเฉพาะอาชีพก่อสร้าง หรือพวกเกษตรกร ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
หลังจากทำงานหาเงินมาได้ พอกลับมา พวกเขาก็จะรวมตัวกันเพื่อเล่นการพนัน
ดังนั้นการปราบปรามของสถานีตำรวจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจึงเน้นไปที่การพนัน น่าเสียดายที่ไม่ว่าจะรณรงค์ไปยังไงผู้คนก็ยังทำเหมือนเดิม
แม้แต่คนทั่วไปก็ยังปกป้องผู้ที่เปิดโรงพนัน
จุดนี้ทำให้พวกเขาปวดหัวและคิดไม่ตก
“มีแค่ให้ผู้คนเข้าใจถึงอันตรายของการพนันเท่านั้นจึงจะสามารถห้ามการพนันได้”
“การที่คุณเปิดเผยวิธีการโกงของพวกโรงพนันในวันนั้น มันก็ได้เปิดเส้นทางใหม่สำหรับเรา ทั้งยังให้ความหวังกับเราด้วย”
”ดังนั้น ต้องรบกวนคุณด้วย”
อู่หยางพูดอย่างจริงใจ
เจียงหว่านตกลงทันที
เจียงหว่านบอกเล่ากลโกงให้กับคนที่สถานีตำรวจ โดยเริ่มจากเทคนิคการพนันต่าง ๆ เธอใช้เวลาอยู่สองชั่วโมง
และยังมีเรื่องความเป็นไปได้หลายประการสำหรับการโกงด้วย
แต่มีกลบางอย่างที่เธอทำไม่ได้ เพราะหลักการยังไม่ชัดเจนมากนัก
ประมาณสี่โมงเย็น เมื่ออธิบายไปพอสมควรแล้ว ริมฝีปากของเจียงหว่านแห้งผาก
แต่เธอยังคงเดินออกไปที่ประตู และตั้งแผงขายเนื้อต่อ
ในช่วงสุดท้ายของวัน เจียงหว่านรู้สึกเหมือนกับว่าเธอถูกลอกผิวหนังออกทั้งเป็น
เฉียวเหลียนเฉิงกลับมาที่บ้านหลังสองทุ่ม แต่ก่อนหน้านี้เขากลับมาแล้วครั้งนึงช่วงประมาณหกโมงเย็นเพื่อมากินอาหารเย็น และจากไปอีกครั้งเพราะเขามีเรื่องที่ต้องทำ
เมื่อเขากลับมา เขาพบว่ากล่องข้าวส่วนของเจียงหว่านยังเหมือนเดิม เธอยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลยด้วยซ้ำ
“น้าอ้วนของลูกยังไม่กลับมาอีกเหรอ?” เฉียวเหลียนเฉิงถามผิงอัน
ผิงอันส่งเสียงรับพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่!
เฉียวเหลียนเฉิงขมวดคิ้ว รู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย เป็นไปได้ไหมว่าเธอไม่ได้กินข้าวเลยทั้งวัน?
ก่อนจะคิดกลับไปว่าถ้าช่วงบ่ายไม่ได้กลับมา เธอก็คงไปเล่นการพนันอีกแล้วนั่นแหละ
เมื่อนึกถึงว่าเธอเล่นพนันอยู่ ความกังวลของเฉียวเหลียนเฉิงก็หายไปทันที
เจียงหว่านกลับมาเวลา 20:58 น.
ทันเวลายอ่างฉิวเฉียด!
เมื่อเฉียวเหลียนเฉิงเห็นเธอกลับมา เขาก็หันหลังให้ไม่ได้พูดอะไรสักคำ
ขณะที่เธอเดินผ่าน กลิ่นเหงื่อแรง ๆ ก็ลอยมากระทบหน้าเขา แม้ว่าเขาจะหันหลังให้ก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อมันได้
เฉียวเหลียนเฉิงหลับตาลงอย่างเงียบ ๆ เตรียมจะนอน
ทางเจียงหว่านก็เมินเขาไปเช่นกัน และไม่แม้แต่จะมองอาหารบนโต๊ะด้วยซ้ำ