เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 58 เจียงหว่านแสดงความรู้
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 58 เจียงหว่านแสดงความรู้
บทที่ 58 เจียงหว่านแสดงความรู้
เจียงหว่านรีบปลอบเธอ “พี่สะใภ้ อย่ากังวลเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง”
สะใภ้เฉินพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก
เจียงหว่านมองไปที่ผิงอัน และพูดอย่างจริงจัง “ถ้าเธอไม่บอกฉันว่าเธอคิดยังไง ฉันก็จะให้พ่อของเธอมาคุยแทน”
“ถึงเวลานั้น เธออาจจะถูกทุบตีหรือถูกลงโทษให้ยืนเข้ามุม เธอเลือกเอาเองได้เลย”
ผิงอันเงียบไป คิดว่าถ้าพ่อของเขารู้เรื่องนี้ เขาคงถูกตีแน่นอน
ในที่สุดเขาก็พูดอย่างไม่เต็มใจ “เขาว่ากันว่าหมามันเลิกกินอึไม่ได้ ฉันเลยไม่เข้าใจว่าทำไมหมาถึงชอบกินอึ”
“อีกอย่าง ดอกไม้ทุกดอก พืชผลทุกต้น ล้วนต้องอาศัยปุ๋ยคอก ของพวกนี้มีกลิ่นเหม็นและน่ารังเกียจ ทำไมเมื่อนำมาใช้เป็นปุ๋ยมันจึงปลูกอาหารได้ล่ะ?”
“ตงเซิงบอกว่าในสมัยโบราณ เสินหนงได้ลิ้มรสสมุนไพรหลายร้อยชนิด หลังจากชิมแล้วเท่านั้นจึงจะรู้ได้ว่าสมุนไพรชนิดใดที่กินได้ และสามารถรักษาโรคใดให้หายขาดได้”
“สุนัขสีเหลืองตัวใหญ่ตรงโรงอาหารคลอดลูกมาห้าตัว แล้ววันนั้นฉันก็เห็นลูกหมากินอึกัน”
“ยังมีลูกหมาอีกตั้งหลายตัวที่แย่งชิงกันกินด้วยนะ”
“ฉันก็เลยอยากลองดูว่าอึจะอร่อยมั้ย”
เจียงหว่านตกตะลึงไปกับกระบวนการทำงานในสมองของเด็กคนนี้ แต่เธอไม่สามารถพูดได้ว่าเขาผิด!
เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกลวงผู้อื่น เขาเพียงแค่อยากทดลอง
เจียงหว่านจึงหันไปถามสะใภ้เฉิน “เขาได้กินหรือยัง?”
สะใภ้เฉินส่ายหัว “ยัง พอฉันกลับถึงบ้านลูกชายของฉันก็ถามว่า ทำยังไงให้อึสดที่เพิ่งออกมาไม่เหม็น”
“ตอนนั้นฉันสับสนมาก ฉันถามเขาว่าเขาจะทำอะไร และเขาก็บอกว่าเขากับเฉียวผิงอันคุยกัน และกินอึด้วยกันพรุ่งนี้”
“ฉันแทบจะระเบิด”
เจียงหว่านเงียบ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายโกรธมาก เธอกลับอยากจะหัวเราะออกมาอย่างไม่มีเหตุผล แต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้
เจียงหว่านหันมองเฉียวผิงอันแล้วพูดต่อ “เธออยากรู้ว่าทำไมสุนัขถึงชอบกินอึใช่ไหม? ฉันสามารถบอกคำตอบให้เธอได้”
ผิงอันเงยหน้าขึ้นมองทันที “เธอเคยกินแล้วเหรอ?”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็พยักหน้าด้วยสายตาที่มั่นใจ “จริงด้วย เธอคงกินไปแล้ว ไม่อย่างงั้นเธอคงไม่กินเยอะอย่างนี้หรอก”
เจียงหว่านใกล้จะบ้า แต่สะใภ้เฉินมองไปที่เจียงหว่านด้วยท่าที ‘ที่แท้เป็นอย่างนั้นเอง’ ด้วยความตกใจ
นั่นทำให้เจียงหว่านหัวเราะออกมาด้วยความโกรธ “เธอกำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไร ที่บอกว่าสุนัขไม่สามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยกินอึได้มันใช้เพื่อเปรียบเทียบ”
“ที่สุนัขกินอึก็เพราะมันขาดวิตามิน ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือคนต่างมีสัญชาตญาณตามธรรมชาติ เมื่อร่างกายขาดสิ่งใดเป็นจำนวนมาก มันจะมองหาอาหารเสริมโดยสัญชาตญาณไงล่ะ”
เจียงหว่านพูดมันอย่างละเอียด แม้แต่สะใภ้เฉินก็ยังตกใจ
”อา! ถ้าเป็นตามที่เธอพูด ทั้งขี้หนูกับขี้ไก่ก็ล้วนเป็นยาจีนโบราณ”
“หลังจากนี้ถ้าฉันจะป่วย ฉันไปหามันมากินเองได้ไหม?”
เจียงหว่านส่ายหัว “ไม่ได้ มันต้องผ่านกระบวนการ เช่น การนึ่งและการอบแห้ง เพื่อกำจัดสารพิษที่อยู่ภายในก่อน”
สะใภ้เฉินพลันตระหนักก่อนจะพูดอย่างจริงใจ “หว่านหว่าน ฉันมักคิดว่าเธอพิเศษมาก แต่ฉันไม่ได้คิดเลยว่าเธอจะมีความรู้ขนาดนี้”
“ถ้าวันหลังลูกชายของฉันมีปัญหาเกี่ยวกับการบ้าน ฉันให้เขามาหาเธอได้ไหม?”
เจียงหว่านพยักหน้า “แน่นอนค่ะ ตราบใดที่ฉันว่าง ฉันก็ยินดีต้อนรับ”
เธอพูดต่อ “เด็ก ๆ มีความอยากรู้อยากเห็น ยังมีสิ่งต่าง ๆ ในโลกที่พวกเขายังไม่เข้าใจอีกมาก และความอยากรู้อยากเห็นนี้ก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาออกสำรวจในอนาคตอีกด้วย”
”ดังนั้น แค่แนะนำพวกเขาให้ถูกต้อง และอย่าทำลายความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาก็พอ”
สะใภ้เฉินพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “ดูสิ ดูสิ สมกับเป็นคนมีการศึกษา เธอโน้มน้าวผู้คนได้เก่งมาก ตอนนี้ฉันรู้สึกสบายใจโดยไม่มีเหตุผลเลยล่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เจียงหว่านก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนชื่นชมเธอต่อหน้าขนาดนี้
ส่วนผิงอันที่อยู่อีกด้านมองเธออย่างสงสัย ทำไมเขาถึงไม่รู้มาก่อนว่าอีกฝ่ายมีความรู้มากมายขนาดนี้
ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ได้ไร้ประโยชน์ไปสะทีเดียว!
……
สะใภ้เฉินกำลังจะออกไป เธอจึงเปิดประตูให้ และเห็นเฉียวเหลียนเฉิงยืนถือกล่องอาหารอยู่ด้านนอก
เจียงหว่านเห็นว่าเขาดูเขินอาย จึงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเช้า
หลังจากที่สะใภ้เฉินออกไปแล้ว เฉียวเหลียนเฉิงก็ยื่นกล่องอาหารให้กับผิงอัน
ผิงอันรับมันมาแล้วหยิบซาลาเปาขึ้นมากิน
ก่อนเขาจะผลักกล่องอาหารไปทางเจียงหว่าน
เจียงหว่านไม่มัวเกรงใจ และลงมือกินอาหารไปพร้อมกับเขา
ส่วนเฉียวเหลียนเฉิงนั่งเงียบ ๆ บนเตียงของผิงอัน สายตาจ้องมองแผ่นหลังของเจียงหว่านไม่กระพริบ
ในใจของเขากำลังสับสนและผันผวน
เดิมทีเขาวางแผนที่จะหย่าร้างทันที ไม่คิดจะปกป้องเจียงหว่านอีกต่อไป แม้ว่าเรื่องเหตุผลการหย่าจะถูกส่งต่อไปให้เจ้าหน้าที่สอบสวน และเจียงหว่านจะต้องถูกจำคุก นั่นก็เป็นเรื่องของเธอ
มันเป็นความผิดของเธอเอง และเขาก็ไม่ต้องการยุ่งด้วยอีกต่อไป!
ทว่าเมื่อเขากลับมา เขาบังเอิญเห็นสะใภ้เฉินมาเพื่อสั่งสอนผิงอันด้วยความโกรธ
เขาไม่ได้เข้าไปในทันที ยืนรออยู่ที่ประตูคอยฟังว่าเจียงหว่านจะจัดการกับมันยังไง
การจัดการกับสิ่งต่าง ๆ และความรอบรู้ของเธอทำให้เฉียวเหลียนเฉิงประหลาดใจ
ทำให้คราวนี้เขากำลังลังเลอีกครั้ง
ด้านเจียงหว่านกินอาหารเสร็จ เธอก็หยิบกล่องอาหาร แล้วออกไปล้าง
เฉียวเหลียนเฉิงถามผิงอันว่า “ลูกยังเกลียดเธออยู่หรือเปล่า?”
ผิงอันเม้มริมฝีปาก หันหน้าไปทางอื่นด้วยความเขินอาย ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
”ก็… พอไหว!”
หลังจากพูดจบ เขาก็กล่าวเสริมว่า “เธอก็ใช้ได้ ถ้าไม่เล่นการพนัน”
เฉียวเหลียนเฉิงนิ่งเงียบ
ใช่ เธอดี ถ้าไม่เล่นการพนัน! นี่มันเสียงภายในใจของเขาไม่ใช่เหรอ?
หลังจากนั้นไม่นาน เฉินตงเซิงก็มาเล่นกับผิงอัน
ตอนที่สะใภ้เฉินกลับถึงบ้าน เธอก็ไม่ได้ทุบตีลูกชายตนอีก เขาเลยอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ จึงขอให้ผิงอันออกมาเพื่อถามเรื่องนี้
หลังจากผิงอันออกไป ก็เหลือเพียงเจียงหว่านกับเฉียวเหลียนเฉิงเท่านั้นที่อยู่ในห้อง
ข้างนอกมืดสนิท หลอดไฟเหนือศีรษะให้แสงสลัว ๆ เนื่องจากใช้มาเป็นเวลานาน ไส้หลอดทังสเตน และปากหลอดจึงค่อนข้างมัว เมื่อแสงส่องผ่าน รอยดำจึงถูกฉายลงบนผนังสีขาวราวกับหิมะ
เจียงหว่านเริ่มพูดขึ้นด้วยท่าทีนิ่ง ๆ “ฉันขอโทษเรื่องเมื่อเช้านี้ ฉันอยากจะไม่ไปกับนาย แต่เพราะว่า…”
เธอกำลังจะอธิบายว่าเธอกับสถานีตำรวจกำลังทำงานร่วมกัน
แต่ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไร เฉียวเหลียนเฉิงก็ขัดจังหวะ “คุณไม่จำเป็นต้องพูด ผมไม่อยากได้ยิน”
เจียงหว่านตกตะลึง และเมื่อเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นความเยือกเย็นและความต่อต้านอย่างรุนแรงบนใบหน้าของเฉียวเหลียนเฉิง
เจียงหว่านขมวดคิ้วมุ่น “นักโทษประหารยังได้รับโอกาสอธิบาย แล้วนี่นายจะไม่ให้โอกาสฉันอธิบายเลยงั้นเหรอ?”
เฉียวเหลียนเฉิงมองดูเธออย่างเย็นชา ในดวงตาของเขาฉายความผิดหวังอย่างสุดซึ้ง
“อธิบาย? ตอนที่ผมไปหาคุณตอนเช้า ผมให้โอกาสคุณแล้ว”
“และผมก็บอกว่าตราบใดคุณมากับผม ผมจะจัดการปัญหาที่ตามมาเอง”
“แต่คุณไม่รับ และคุณก็ไม่มีคำอธิบายเลย คุณแค่ไล่ผมออกมาเท่านั้น”
เจียงหว่านเงียบ
เฉียวเหลียนเฉิงกล่าวต่อ “ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรตอนนี้แล้วแหละ”
เจียงหว่านยังคงนิ่งเงียบ
เฉียวเหลียนเฉิงหยุดพูดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อว่า “คุณสอนผิงอันเก่งมาก งั้นเอาอย่างนี้ดีกว่า ผมจะจ่ายค่าเล่าเรียนให้ตรงเวลา”
“ผิงอันยังคงต้องการการดูแลจากคุณอีกหลายเดือน เมื่อถึงเวลาที่ตกลงไว้ ผมจะให้เงินค่าชดเชยกับคุณอีกครั้ง”
“หลังจากนั้น พวกเราแยกย้ายกันเถอะ”
ทันทีที่พูดจบ เฉียวเหลียนเฉิงเปิดประตูออกไปพร้อมกะละมังและผ้าเช็ดตัว เดินลงไปชั้นล่างเพื่ออาบน้ำล้างตัว
เมื่อประตูปิดลง เจียงหว่านยังยืนตัวแข็งอยู่กับที่
เธอเงยหน้าขึ้น มองวงกลมของหลอดไฟที่มีรอยดำ
เธออดไม่ได้ที่จะคิดว่าความสัมพันธ์ของผู้คนก็เหมือนกับหลอดไฟดวงนี้ เมื่อมันเปลี่ยนเป็นสีดำแล้วก็ไม่สามารถลบออกได้อีก
เว้นแต่จะทิ้งหลอดไฟที่จะชำรุดเสียหาย แล้วเปลี่ยนเป็นหลอดใหม่!
เช่นเดียวกับการแต่งงานของพวกเรา บางทีหลังจากการหย่าร้างแล้ว การหาผู้ชายคนใหม่ จึงจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่แท้จริง