เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 51 ความผิดหวังในแววตาของเฉียวเหลียนเฉิง!
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 51 ความผิดหวังในแววตาของเฉียวเหลียนเฉิง!
บทที่ 51 ความผิดหวังในแววตาของเฉียวเหลียนเฉิง!
เจียงหว่านรีบตอบ “ก็ดี เนื้อขายหมดแล้ว”
เฉียวเหลียนเฉิงหรี่ตาลง และอดจะคิดถึงสิ่งที่เยี่ยนจื่อพูดในวันนี้ไม่ได้
‘ถันหลงและเธอได้คุยกันถึงเรื่องนี้ด้วย ถ้าขายได้ก็จะขาย ถ้าขายไม่ได้ก็จะเอาเนื้อไปกินเองเพื่อสร้างภาพ!’
เฉียวเหลียนเฉิงเองรู้ค่าครองชีพของผู้คนที่นั่น และเนื้อเหล่านี้ก็ไม่ได้ราคาถูกเลย
เขาเข้าใจได้ถ้าบอกว่ามีคนซื้อหนึ่งหรือสองคน แต่เนื้อจำนวนหลายสิบชั่งจะขายหมดได้ยังไง? ทั้งยังขายหมดเร็วขนาดนี้อีก?
เขาระงับความสงสัยในใจเอาไว้ แล้วหันกลับไปหยิบกล่องอาหารกลางวันมาให้
”กินข้าวเย็นกันเถอะ”
เจียงหว่านตกลง ก่อนรับกล่องอาหารกลางวันขึ้นมากินอย่างหิวโหย
สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ช่วงกลางคืนก่อนเจียงหว่านจะครบกำหนดชำระหนี้ให้ถันหลง
เจียงหว่านคำนวณอีกครั้ง และพบว่าเงินของเธอมีเพียงเจ็ดสิบหยวนเท่านั้น
นอกจากนี้ยังนับรวมเงินทุนในมือไปแล้วด้วย
เธอต้องเก็บเงินสิบหยวนไว้เป็นทุน อย่างนั้นจึงเหลือให้ถันหลงได้เพียงหกสิบหยวน
ถันหลงจะต้องไม่ตกลงอย่างแน่นอน
เจียงหว่านเกาหัวอย่างหงุดหงิด พลางสงสัยว่าเธอควรยืมเงินจากเฉียวเหลียนเฉิงดีไหม
คืนนี้เฉียวเหลียนเฉิงกลับมาช้าเล็กน้อย และเมื่อเขากลับมาก็เป็นเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว
เมื่อเห็นว่าเจียงหว่านรออยู่ เขาก็ชี้ไปที่กล่องอาหารบนโต๊ะ
“กินข้าวหรือยัง? เจียงเฉิงเรียกผมไปคุย เลยกลับมาช้าน่ะ”
เจียงหว่านพยักหน้า “ฉันกินแล้ว”
เฉียวเหลียนเฉิงเข้ามาหยิบกะละมัง แล้วออกไปล้างตัว
เมื่อเขากลับมาหลังจากล้างตัว เจียงหว่านก็ตัดสินใจว่าจะลองพูดไปดู แม้ว่าเธอจะไม่มีความหวังก็ตาม
แต่ตอนนี้เขาเป็นความหวังเดียวของเธอ
พอเฉียวเหลียนเฉิงวางกะละมังและเริ่มปูผ้าปูลงบนพื้น เจียงหว่านก็ขึ้นพูดว่า
“เฉียวเหลียนเฉิง นายให้ฉันยืมสักสี่สิบหยวนได้ไหม!”
มือที่กำลังเคลื่อนไหวของเฉียวเหลียนเฉิงหยุดกะทันหัน ร่างกายของเขาแข็งทื่อไป ก่อนจะเอ่ยเสียงอู้อี้ขึ้น
“คุณจะยืมเท่าไหร่?”
เจียงหว่านสังเกตเห็นว่าท่าทีเขาดูแปลก ๆ เธอรู้ว่าความน่าเชื่อถือของเธอไม่ดี แต่เฉียวเหลียนเฉิงก็ไม่ควรที่จะรังเกียจกันขนาดนี้สักหน่อย
ในความทรงจำของเธอ วันแรกที่เธอมา เจ้าของร่างเดิมขอเงินสิบหยวนจากเฉียวเหลียนเฉิงเพื่อซื้อของใช้
ซึ่งเธอซื้อผ้าเช็ดตัวมา แต่นั่นคือผ้าเช็ดตัวสีเทาที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการซัก และราคาไม่กี่หยวนเท่านั้น
หลังจากนั้นสามวัน เธอขอเงินอีกสิบหยวนโดยอ้างว่าทำเงินหาย เลยไม่มีซื้อของใช้
เฉียวเหลียนเฉิงก็มอบให้ ทั้งยังให้อย่างไม่อิดออด
จากนั้นก็สิบหยวน สามหยวน ห้าหยวน และอีกเรื่อย ๆ มา!
ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน เจียงหว่านใช้ไปเกือบห้าสิบหยวน
แม้ว่าเฉียวเหลียนเฉิงจะไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
ทว่า เมื่อเจ้าของร่างเดิมขอเงินอีกครั้ง เฉียวเหลียนเฉิงกลับบอกว่าในตอนนี้เขาไม่มีเงินแล้ว และต้องรออีกสักสองสามวัน
ด้วยเหตุนี้ เจียงหว่านจึงรบกวนเพื่อนบ้าน
นี่เป็นสาเหตุที่เฉียวเหลียนเฉิงปฏิเสธจะให้เงินแก่เธออีก
ทำให้ทุกวันนี้ การที่เธอจะยืมเงินเขา มันจึงเป็นเรื่องยากมาก
ทว่า การนัดชำระหนี้ของเธอจะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้อยู่แล้ว!
เจียงหว่านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เปิดปาก พูดตอบไปว่า “สี่สิบ!”
เฉียวเหลียนเฉิงวางผ้าปูลง หันกลับมาจ้องมองเธออย่างจริงจังแล้วถามว่า
“คุณอยากได้เงินมากขนาดนั้นไปเพื่ออะไร?”
“เมื่อก่อนคุณบอกว่าอยากทำธุรกิจ แต่ตอนนี้คุณก็ได้เริ่มต้นธุรกิจแล้ว และกำลังทำกำไรได้ดี เงินสี่สิบหยวนคุณก็สามารถหาได้เองภายในสี่วัน ทำไมคุณต้องยืมเงินจากผมด้วย”
เจียงหว่านส่ายหัว “ไม่ มันช้าเกินไป”
“ฉันจะบอกความจริงกับนาย มันเป็นหนี้เก่า ฉันเป็นหนี้โรงพนันหนึ่งร้อยหยวน และฉันก็ตกลงจะจ่ายมันในวันพรุ่งนี้ แต่ฉันยังขาดเงินอีกสี่สิบหยวน!”
เฉียวเหลียนเฉิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และคิดถึงสิ่งที่เยี่ยนจื่อพูดอีกครั้ง
‘พวกเขาทำข้อตกลงกันว่าจะขอเงินคุณโดยอ้างว่าเป็นหนี้โรงพนัน แบบนี้คุณจะคิดว่าเธอดีขึ้นแล้ว แต่เธอยังติดหนี้เก่า เธอเลยต้องยืมเงินจากคุณ’
……
‘แล้วคุณก็จะให้เงินเธอแน่นอน!’
เมื่อคิดถึงคำพูดนั้น เฉียวเหลียนเฉิงก็หัวเราะเยาะ “เจียงหว่าน ถ้าคุณเป็นผม คุณจะให้ยืมไหม?”
เมื่อเห็นสายตาที่เย็นชาของคนตรงหน้า และความดูถูกเหยียดหยามในดวงตาของชายหนุ่ม เธอก็รู้สึกผิดหวัง
เจียงหว่านตระหนักได้ สิ่งที่เธอพูดมันไร้ประโยชน์
เธอลอบถอนหายใจ
คนอื่นมีนิ้วทองเมื่อต้องทะลุมิติมาแบบนี้ แต่เธอไม่มีกระทั่งลมตดด้วยซ้ำ ทั้งยังต้องแบกรับชื่อเสียอย่างนักพนันอีก
เธอไม่มีวันลบความผิดนี้ได้ตลอดชีวิต
หญิงสาวพยักหน้า แบบไม่ผิดหวังมากนัก เพราะเป็นสิ่งที่เธอคาดเดาไว้บ้างแล้ว
เธอไม่ได้ตำหนิเฉียวเหลียนเฉิงเช่นกัน เจ้าของร่างเดิมทำผิดมามากเกินไป แล้วจะให้คนอื่นเชื่อใจเธอได้ยังไงอีก?
เธอค่อย ๆ ลดสายตาลง และพูดอย่างเรียบเฉย “เอาล่ะ แกล้งทำเป็นว่าฉันไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน”
หลังจากพูดแล้ว เธอก็หมุนตัวกลับไปที่เตียง
เมื่อเห็นท่าทางโดดเดี่ยวและเสียงพูดเศร้าสร้อยของเธอ เฉียวเหลียนเฉิงก็รู้สึกแย่ในหัวใจ
ทันใดนั้นเขาก็พูดว่า “เจียงหว่าน”
เจียงหว่านหันไปมองเขา “นายไปนอนเถอะ ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว”
เฉียวเหลียนเฉิงมองดูเธอแล้วพูดว่า “ถ้าคุณยืมเงินจากโรงพนัน คุณก็ต้องจ่ายคืน แต่คุณมีสัญญากู้ยืมรึเปล่า?”
“ส่งสัญญากู้ยืมมาให้ผมสิ แล้วผมจะใช้หนี้ของคุณเอง”
สิ่งที่เฉียวเหลียนเฉิงคิดในใจคือ ‘ถ้าเธอยืมเงินจากโรงพนันจริง ๆ จะต้องมีสัญญากู้ยืม ถ้ามีสัญญากู้ยืม ฉันจะเชื่อเธอเป็นครั้งสุดท้าย และช่วยเธอจ่ายหนี้!’
คำพูดของเยี่ยนจื่อมีผลกระทบต่อเขา แต่เขาก็ไม่ได้เชื่อไปทั้งหมดอย่างเต็มที่
เจียงหว่านผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะประหลาดใจที่เฉียวเหลียนเฉิงเต็มใจจะช่วยเธอชำระหนี้
ในขณะนี้ เมื่อเห็นความจริงจังของเฉียวเหลียนเฉิง เธอก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา
ตอนนี้เธออยากจะร้องไห้ออกมา!
อย่างไรก็ตาม เธอยังคงให้คำตอบที่น่าตกใจ
”ไม่มี”
เฉียวเหลียนเฉิงเลิกคิ้ว และน้ำเสียงของเขาก็เย็นชาเล็กน้อย “ไม่มีสัญญากู้ยืมเงินเหรอ?”
เจียงหว่านส่ายหัว “จริง ๆ ก็มี แต่ฉันฉีกมันทิ้งไปแล้ว”
เธอไม่ได้ปิดบัง เล่าเรื่องราวที่เธอกับถันหลงต่อสู้กันอย่างมีไหวพริบ และใช้ความกล้าหาญเพื่อเจรจาข้อตกลง จนสุดท้ายหนี้ก็ลดเหลือเพียงหนึ่งร้อยหยวน
เธอเล่าไปตามความจริง และไม่ได้แต่งเติมเรื่องอะไรลงไปทั้งนั้น!
ทว่า แสงในดวงตาของเฉียวเหลียนเฉิงกลับมืดหม่นลงเรื่อย ๆ
เขาเคยได้ยินมาบ้างว่าคนในโรงพนันล้วนแต่เป็นคนโลภ
ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่คิดจะทบดอกเบี้ย หนี้ก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นเพื่อหลอกลวงผู้คน และเขาไม่เคยได้ยินว่ามีการลดหนี้ให้มาก่อน
นี่มันไร้สาระชัด ๆ!
เฉียวเหลียนเฉิงไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงแต่งเรื่องได้อย่างเป็นธรรมชาติได้ขนาดนี้
อ้อ! เกือบลืมไปเสียสนิทว่าเธอเขียนนิยายเก่ง
คนที่เขียนนวนิยายอันยอดเยี่ยมออกมาได้ การสร้างข้อแก้ตัวหรือแต่งเรื่องคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
เมื่อเฉียวเหลียนเฉิงคิดถึงเรื่องนี้ ความหวังสุดท้ายในใจของเขาก็พังทลายลง
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วปฏิเสธอย่างเย็นชา “ไม่!”
เจียงหว่านตกตะลึง “นายหมายความว่ายังไง”
เฉียวเหลียนเฉิงนอนลงแล้วพูดว่า “ผมบอกว่าไม่ ผมไม่มีเงิน”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็หลับตาลง และไม่พูดอะไรอีกเลย
ไม่นานก็มีกรนของเขาดังขึ้นมา
เจียงหว่านรู้สึกสับสนมาก ถ้าไม่ให้ยืม แล้วจะมาขอสัญญากู้ยืมไปทำไม!
ประสาท!
เธอกัดฟันแน่น
แต่พรุ่งนี้เธอจะจัดการเรื่องถันหลงยังไงดี?
คืนนั้นเธอคิดมากอยู่นานจนหลับไป ก่อนจะตื่นขึ้นมาเพราะฝันร้าย
ในความฝัน ถันหลงมาที่กองทัพเพราะเธอไม่มีเงินจ่าย และยังเขียนบางอย่างไว้บนผนังอีกด้วย
หัวหน้ากองทัพรู้เรื่องนี้จึงจับเธอเข้าคุก นอกจากนี้ เขายังบอกด้วยว่าเธอทำให้เหล่าภรรยาทหารต้องแปดเปื้อน และถือเป็นเรื่องน่าละอายสำหรับบรรดาภรรยาทหาร
ในเรือนจำไม่เพียงมีแมลงสาบขนาดเท่ากำปั้นเท่านั้น แต่ยังมีหนูตัวขนาดเท่าลูกหมาลูกแมวอีกด้วย