เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 46 เฉียวเหลียนเฉิงเริ่มชื่นชมเจียงหว่าน
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 46 เฉียวเหลียนเฉิงเริ่มชื่นชมเจียงหว่าน
บทที่ 46 เฉียวเหลียนเฉิงเริ่มชื่นชมเจียงหว่าน
เจียงเฉิงเหลือบมองเพื่อนด้วยความประหลาดใจ แถมยังทันเห็นรอยยิ้มที่มุมริมฝีปาก และรอยยิ้มในดวงตาของอีกฝ่ายด้วย
เจียงเฉิงกระตุกมุมปาก สองคนนี้ ไม่คล้ายคนที่รังเกียจกันเลยสักนิด
บางทีหลังครบหนึ่งปี พวกเขาอาจไม่มีใครอยากหย่ากันแล้วก็ได้!
ถึงตรงนี้ เจียงเฉิงเองก็อยากรู้ว่าเจียงหว่านจะทำอะไรต่อไป
ดังนั้นเขาจึงยืนดูเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ เพื่อน
เวลานี้ เจียงหว่านเห็นว่าทุกคนสามารถเป็นพยานให้ได้ จึงหันไปมองคนที่อยู่ที่นี่
“ไก่ไข่ราคาเท่าไหร่เหรอคะ?”
สะใภ้เฉินคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วบอกว่า “ประมาณสองถึงสามหยวน”
จริง ๆ มันประเมินค่าไม่ได้ เพราะโดยทั่วไปจะไม่มีใครขายแม่ไก่ที่กำลังวางไข่
นอกจากแม่ไก่แก่จนออกไข่ไม่ได้เท่านั้นแหละจึงจะขายได้
ตอนนั้นไก่จะมีราคาถูก ตกตัวละประมาณห้าสิบเหมา
ยิ่งตัวผู้จะมีราคาถูกกว่า และสามารถขายได้ในราคาค่อนข้างต่ำ
แน่นอนว่าพวกมันส่วนใหญ่ พอซื้อกลับไป ก็มักจะเลี้ยงไม่รอด
ยิ่งไปกว่านั้น ปัจจุบันยังต้องฟักไก่กันเอง ยังไม่มีโรงฟักไข่ขนาดใหญ่ในชุมชน
สิ่งที่สะใภ้เฉินพูดนั้นคือ ขอบเขตราคาที่เหมาะสม ในกรณีที่มีคนยอมขายมัน
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
เจียงหว่านกล่าวว่า “เอาล่ะ ฉันจะรับมันไปเดี๋ยวนี้ ถ้าไก่ตัวไหนของพวกคุณวางไข่มานานกว่าห้าปี ฉันจะรับซื้อมันในราคาสามหยวน”
ทุกคนตกตะลึง ทางหลี่ซิ่วหลันก็ตกตะลึงเช่นกัน
เจียงหว่านพูดต่อ “อ้อ ใช่ ฉันต้องการแค่สองตัวนะ”
เหอหยวนหยวนถามอย่างสงสัย “ทำไมถึงต้องเกินห้าปีล่ะ?”
ทุกคนรู้ดีว่าอายุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับไก่จะวางไข่คือ 5 ปี หลังจากผ่านไป 5 ปี ไก่ก็จะแก่ และจะไม่สามารถวางไข่ได้!
การเลี้ยงไก่ในบางสถานที่ และบางสายพันธุ์จะมีช่วงวางไข่สูงสุดเพียง 3 ปีเท่านั้น ทั้งยังออกไข่ไม่มากนัก
เจียงหว่านเหลือบมองหลี่ซิ่วหลันอย่างไม่แยแส และพูดว่า “เพราะไก่ในบ้านของเธอเป็นไก่ที่วางไข่มาสี่ปีแล้ว ฉันคิดว่ามันไม่มากเกินไปที่จะจ่ายให้พวกเขาเป็นตัวที่อายุพอ ๆ กัน!”
ใบหน้าของหลี่ซิ่วหลันซีดลงทันที “เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระ ไก่ของครอบครัวเราเพิ่งถูกจับมาเมื่อปีที่แล้ว!”
เจียงหว่านหัวเราะเยาะ “ใช่ เมื่อปีที่แล้วเธอเพิ่งจับมาได้สองตัว แต่สองตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่ เธอไม่ได้ฆ่าสองตัวนี้เพราะพวกมันตกใจกลัว แต่เพราะพวกมันแก่แล้ว และวางไข่ไม่ได้อีกต่อไปต่างหาก!”
ครั้งนี้ หลี่ซิ่วหลันตะลึงงันไปโดยสมบูรณ์!
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็พูดด้วยใบหน้าซีดเซียว “เธอรู้ได้ยังไง!”
เจียงหว่านไม่ตอบ แต่หันไปมองทุกคน “ที่บ้านพวกคุณมีไก่ตัวไหนที่อยากขายไหม?”
สะใภ้เฉินพูดว่า “เธอจะซื้อเหรอ? ไก่ของฉันอายุสามปีกว่านิดหน่อย ฉันจะให้เธอหนึ่งตัว ถ้าไก่ของเธอมีลูก เธอค่อยให้ฉันหนึ่งตัว”
เหอหยวนหยวนพยักหน้าเช่นกัน “ฉันก็มีตัวนึงอายุสามปีเหมือนกัน ฉันจับมันมากับสะใภ้เฉิน ถ้าเธอต้องการก็รับไปเถอะ ฉันมีอีกสองสามตัวที่กำลังวางไข่ ฉันไม่ต้องการตัวนั้นแล้ว!”
เจียงหว่านพยักหน้าตกลง
สะใภ้เฉินกับเหอหยวนหยวนจึงไปจับไก่ ทางหลัวหมิ่นก็พูดว่า
“เธอยังขาดอยู่ตัวหนึ่ง แต่ครอบครัวของฉันเพิ่งจับมันมาได้เมื่อสองปีที่แล้วเอง งั้นพวกมันไม่ตรงตามข้อกำหนดน่ะสิ”
เจียงหว่านยิ้ม “ไม่ขาดหรอก ครอบครัวของฉันเองก็มีแม่ไก่แก่”
เธอเน้นคำว่า ‘แก่’ จากนั้นเงยหน้าขึ้น และมองไปที่ทางเดินบนชั้นสอง
“ผิงอัน ไปจับไก่ของเรากันเถอะ!”
ผิงอันกำลังเฝ้าดูจากชั้นบน และมันไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่เจียงเสวี่ยก็อยู่ที่นั่นด้วย!
เมื่อเห็นเจียงหว่านพูดคุยกับเขา ผิงอันก็เริ่มไม่พอใจทันที
“ฉันไม่อยากทำ เธอทับไก่ตาย เธอก็จ่ายไปสิ ทำไมมาเอาไก่ของฉันไป!”
เจียงหว่านเหลือบมองเด็กน้อยด้วยสีหน้าจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม “ไก่ตัวนั้นสามวันออกไข่ได้แค่หนึ่งฟอง ถ้าเธอยอมให้ไก่ของเราเป็นค่าชดเชย ฉันจะให้ไข่ดี ๆ กับเธอวันละหนึ่งฟอง”
เธอมองไปที่เจียงเสวี่ยแล้วพูดว่า “ทำอย่างนี้พ่อของเธอก็จะไม่รู้ว่าเธอขโมยไข่ไปให้เจียงเสวี่ยไง”
……
ใบหน้าของผิงอันเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ เขาพูดติดอ่าง “เธอ… เธอรู้อยู่แล้ว!”
เจียงหว่านเลิกคิ้ว “เธอยังไม่ไปอีกเหรอ?”
ผิงอันตอบตกลงอย่างมีความสุข หมุนตัวไปจับไก่ทันควัน
ส่วนหลี่ซิ่วหลันที่ใกล้จะคลั่ง มองเจียงหว่านด้วยความโกรธ แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้
เจียงหว่านหันศีรษะของเธอไปมองไก่ทั้งสามตัวในอ่าง แล้วพูดว่า
“คืนนี้ฉันจะต้มไก่ แล้วจะแบ่งให้ทุกคนก็ด้วย ฉันขอโทษถ้าก่อนหน้านี้ฉันทำให้พวกคุณขุ่นเคืองเพราะความไม่รู้”
“วันนี้ฉัน เจียงหว่าน ขอเลี้ยงทุกคนเพื่อเป็นการขอโทษ!”
ทุกคนในที่นั้นอดที่จะโห่ร้องยินดีไม่ได้
ที่ใต้ร่มไม้ตรงประตู เจียงเฉิงถอนหายใจเบา ๆ
“นายคิดว่ามันแปลกไหม? นับตั้งแต่เจียงหว่านเอาหัวโขกกำแพง เธอก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน”
“ฉันว่านะ ถ้าเธอเป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรก นายคงไม่ขอหย่าหรอก ดูเธอจะเป็นคู่หูที่ดีเลยล่ะ”
หัวใจของเฉียวเหลียนเฉิงสั่นไหวอย่างรุนแรง เขาเม้มริมฝีปากแน่น และยังคงเงียบ
สะใภ้เฉินกับเหอหยวนหยวนนำไก่มาแล้ว ทางผิงอันเองก็มาพร้อมกับไก่แก่ของเขาด้วย
ไก่ทั้งสามตัวถูกวางไว้ตรงหน้าหลี่ซิ่วหลัน
ตอนนี้หลี่ซิ่วหลันยังคงจู้จี้จุกจิก “ฉันจะยอมรับไก่ของครอบครัวสะใภ้เฉินกับเหอหยวนหยวน แต่ของเธอเป็นแม่ไก่แก่ มันไม่วางไข่ ฉันจะเอาไปทำไม?”
เจียงหว่านยิ้มและพูดว่า “เธอรู้ได้ยังไงว่ามันไม่วางไข่? เธอนั่งเฝ้าอยู่หน้าเล้าไก่ของฉันทุกวันเหรอ?”
หลี่ซิ่วหลันกล่าวว่า “มันไม่วางไข่ก็หมายความว่าไม่วาง เธอยังต้องการให้ฉันตรวจสอบอะไรอีก? เธอสิมีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ว่ามันวางไข่ได้”
เจียงหว่านพยักหน้า และยกนิ้วโป้งให้อีกฝ่าย “ได้ พูดอย่างนั้นก็มีเหตุผล แต่ฉันน่ะมีพยาน”
ขณะที่พูด เธอก็หันไปมองเจียงเสวี่ยที่กำลังนั่งอยู่ตรงทางเดินบนชั้นสอง
“เจียงเสวี่ย เธอบอกสิว่าไก่ของฉันวางไข่รึเปล่า?”
เจียงเสวี่ยจ้อง “อย่ามาถามฉัน ฉันไม่รู้!”
เจียงหว่านยิ้มอย่างคลุมเครือ “โอ้? เธอไม่รู้เหรอ?”
จากนั้นเธอก็มองไปที่ผิงอัน “อั้ยหยา ผิงอัน เราควรทำยังไงดี? เธอให้ไข่ไปมากมายโดยเปล่าประโยชน์ซะแล้ว”
“ผิงอันบอกหน่อยสิ ฉันเห็นเธอหยิบไข่จากในเล้าไก่ไป แต่เจียงเสวี่ยไม่ยอมรับว่าได้รับไข่จากเธอ แล้วอย่างนี้เธอจะอธิบายให้พ่อของเธอฟังยังไงล่ะ?”
“เธอต้องโดนตีก้นแน่”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผิงอันก็มองดูเจียงเสวี่ยอย่างไม่อยากเชื่อ
หากแต่ใบหน้าของเจียงเสวี่ยซีดเผือดลง ก่อนเธอจะมองเจียงหว่านด้วยความโกรธ เมื่อเธอเห็นสีหน้าเยาะเย้ยของคนอื่น ๆ เธอจึงพยักหน้าอย่างจนใจ
“ใช่ ผิงอันเอาไข่มาให้ฉันจริง แต่มันมีมากกว่าหนึ่งฟองนะ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าไข่พวกนั้นมาจากไก่ของเธอ”
เจียงหว่านยกมุมปากขึ้น “ในที่สุดเธอก็รู้แล้วเหรอ ไข่พวกนี้ต้องมาจากไก่ของเราแน่ ไม่งั้นเธอคิดว่าผิงอันวางไข่เองหรือไง?”
“เอ๊ะ! หรือเธอจะบอกว่าผิงอันขโมยมาจากบ้านคนอื่นล่ะ?”
ใบหน้าของผิงอันก็ซีดลง เขารีบเถียง “ฉันเปล่า ฉันแค่เก็บมันมาจากเล้าไก่ของฉันเอง ฉันไม่ได้ขโมยนะ!”
แต่เจียงหว่านพูดอย่างเสียใจ “โถ ผิงอันตัวน้อย มันไม่สำคัญว่าพวกเราจะพูดอะไร เพราะจะไม่มีใครเชื่อ ต้องให้คนที่กินไข่ของเธอเป็นพยานให้เธอสิจ๊ะ”
ผิงอันมองเจียงเสวี่ยด้วยท่าทางน่าสงสาร
เจียงเสวี่ยกัดฟันและอธิบายอย่างจำใจ “ใช่ ผิงอันหยิบไข่ของเขามาให้ฉันเอง พอใจรึยัง!”
หลังจากที่พูดจบ เจียงเสวี่ยก็ตะโกนด้วยความโกรธ “ซิ่วเฟิน เธอหายหัวไปไหนน่ะ?”
ซิ่วเฟิน เป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ของเจียงเสวี่ยที่เจียงเฉิงหามาให้
พอเจียงเสวี่ยตะโกน ซิ่วเฟินก็รีบออกมาจากห้อง “ฉันอยู่นี่ ทำไมคุณถึงส่งเสียงดังขนาดนี้ ฉันไม่ได้หูหนวกนะ”
ใบหน้าของเจียงเสวี่ยเปลี่ยนเป็นขุ่นเคือง “เธอทำอะไรของเธอ ทิ้งฉันไว้ที่นี่ได้ยังไง! พาฉันเข้าไปในบ้านสิ”
ซิ่วเฟินยังคงเถียงปกป้องตัวเอง “ฉันไม่ได้ทิ้ง คุณมาอยู่ที่นี่เพราะอยากดูความสนุกสนานไม่ใช่เหรอ? พอได้ยินว่ามีการทะเลาะกันข้างนอก คุณเลยขอออกมาเอง”
“อีกอย่าง ฉันกำลังซักผ้าอ้อมของคุณอยู่ วันนี้คุณฉี่มากเกินไปจนผ้าอ้อมไม่พอใช้แล้วด้วยซ้ำ!”