เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 43 เจียงหว่านถล่มกำแพงทับไก่ตาย
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 43 เจียงหว่านถล่มกำแพงทับไก่ตาย
บทที่ 43 เจียงหว่านถล่มกำแพงทับไก่ตาย
“ดึกแล้ว ห้องต้มน้ำปิดอยู่ ผมคิดว่าน้ำคงไม่ร้อนนัก แต่ก็คงไม่ถึงกับเย็น ยังไงคุณก็ไปอาบน้ำก่อนเถอะ”
เจียงหว่านเองก็คิดอย่างนั้น พลางถามอย่างเขินอายว่า “การซ่อมแซมกำแพงคงต้องใช้เงินมากใช่ไหม?”
เฉียวเหลียนเฉิงมองเธอด้วยรอยยิ้มเจื่อน ๆ แล้วถามกลับว่า “คุณซ่อมกำแพงได้ไหม?”
เจียงหว่านส่ายหัวแล้วบอกว่าไม่
เฉียวเหลียนเฉิงจึงกล่าวว่า “เดือนนี้คุณมีเงินเยอะมาก คงไม่ต้องหักจากเดือนหน้า”
เจียงหว่านอ้าปากของเธอ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยคำ
“ก็ได้ เงินเดือนเดือนนี้มีพอแล้ว นายไม่ต้องหักของเดือนหน้าก็ได้”
เฉียวเหลียนเฉิงส่งเสียงตอบรับ ส่วนฝ่ายเจียงหว่านทอดถอนใจ
เฉียวเหลียนเฉิงพลันเห็นว่าในหม้อใบเล็กว่างเปล่า เขาลังเลก่อนจะถามว่า
“นี่ขายหมดแล้วเหรอ?”
เจียงหว่านตอบอย่างหดหู่เล็กน้อย “ใช่ แต่ถ้าพูดตรง ๆ คือขายไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นการโฆษณา”
เฉียวเหลียนเฉิงได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ เขาคิดว่าจะไม่มีใครซื้อมันซะอีก
ตอนนี้เจียงหว่านเหนื่อยมาก หลังอาบน้ำแล้ว เลยเข้านอนโดยไม่พูดอะไร
ก่อนเข้านอน เธอคิดทบทวน เหลือเวลาอีกแค่ห้าวัน กับตอนนี้เธอมีเงินอยู่ในมือเพียงยี่สิบหยวน แล้วเธอจะหาเงินอีกแปดสิบหยวนให้ครบในห้าวันได้ยังไงกัน
ยากเกินไปแล้ว
หลังจากคิดเรื่องนี้ซ้ำ ๆ เธอก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
เช้าวันรุ่งขึ้น เจียงหว่านได้ยินเสียงโทรศัพท์ปลุกเบา ๆ เธอจึงกลิ้งตัวลุกขึ้นนั่งพลางขยี้ตา
เฉียวเหลียนเฉิงกำลังจะออกไปข้างนอก เมื่อเห็นเธอลุกขึ้นมาก็ถามอย่างสงสัย “ทำไมคุณตื่นเช้าจัง?”
เจียงหว่านหาวหวอด “ฉันจะไปตุนของ คนขายหมูมักจะฆ่าหมูในตอนเช้า เขาบอกว่าเขาจะฆ่าหมูตอนตีห้า ฉันต้องไปเร็วหน่อย ไม่งั้นของจะไม่ถึงฉันน่ะสิ”
ขณะพูดก็เอาผ้าจุ่มน้ำเช็ดหน้าเช็ดตัว ก่อนจะแขวนผ้าเช็ดตัวไว้บนเชือก โดยไม่ได้ซัก แล้วเปิดประตูออกไป
เฉียวเหลียนเฉิงยืนอยู่ที่ประตู ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นหันหลังกลับเข้ามา หยิบผ้าเช็ดตัวนั้นมาซักแล้วแขวนกลับไปที่เดิม
ช่วยไม่ได้ จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนมีนิสัยค่อนข้างประหลาด เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ
เมื่อก่อนเขาไม่ได้สนใจว่าผ้าเช็ดตัวของเจียงหว่านจะดำขนาดไหน เพราะในเวลานั้นเขาเกลียดเจียงหว่านจากก้นบึ้งของหัวใจ
แต่ตอนนี้ เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเริ่มคลี่คลายลง เฉียวเหลียนเฉิงก็รู้สึกรังเกียจเธอน้อยลง
ดังนั้น พอได้เห็นความยุ่งเหยิงของเจียงหว่านในเวลานี้ เขาจึงค่อนข้างจะทนไม่ไหว
เจียงหว่านขี่จักรยานไปที่เมืองเพื่อรับสินค้า
เธอทำอะไรได้เร็วมากขึ้น เพราะมีจักรยาน ทำให้ไปถึงบ้านคนขายเนื้อภายในสิบห้านาที
และเพราะว่าวันนี้มาเร็ว จึงมีหัวหมูตัวใหญ่ ชุดเครื่องในทั้งชุด และมีข้อสองอันสำหรับเธอ
เนื่องจากไม่มีใครอยากได้ชุดเครื่องในหมู มีเพียงเจียงหว่านเท่านั้นที่ซื้อ คนขายเนื้อจึงมีความสุขมาก คิดราคาทั้งชุดแค่เก้าหยวน
ในความคิดของเจียงหว่าน นี่มันคุ้มเกินไปแล้ว
เธอจึงได้เจรจากับคนขายเนื้อว่า ต่อจากนี้ไปเธอต้องการสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
และในทุกวันคนขายเนื้อจะต้องรอเธอ แต่รอจนถึงแค่เจ็ดโมงเช้าเท่านั้น ถ้าเธอไม่มาก่อนเจ็ดโมงเช้า ก็ให้อีกฝ่ายเอาของไปให้คนอื่นได้เลย
หลังจากนั้น เจียงหว่านก็จากไปอย่างพึงพอใจ
เมื่อกลับมาที่กองทัพ เฉียวเหลียนเฉิงนำอาหารเช้ากลับมาพอดี เจียงหว่านจึงเริ่มทำความสะอาดหัวหมู หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ
หลังจากโยนไปมาอยู่สองชั่วโมง เธอก็ทำการตุ๋นหัวหมูในหม้อ ก่อนจะกลับห้อง โดยลากผิงอันที่กำลังเล่นกับเฉินตงเซิงกลับมาเรียนหนังสือด้วย
ในช่วงไม่กี่วันมานี้ผิงอันให้ความร่วมมือเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ยินเฉินตงเซิงพูดเกี่ยวกับเรื่องสนุก ๆ ในโรงเรียน เขาเองก็เริ่มโหยหาโรงเรียนเช่นกัน
ตอนเวลา 11.30 น. เจียงหว่านเห็นว่าใกล้ได้เวลาแล้ว เนื้อก็ถูกเคี่ยวมาเป็นเวลาสองชั่วโมงแล้ว ยังร้อน ๆ อยู่เลย
เธอนำเนื้อทั้งหมดออกมาใส่ในหม้อใบเล็ก แล้วปั่นจักรยานไปขายในเมือง
วันนี้ดูจะขายได้ดีขึ้น เนื่องจากเนื้อยังร้อน ๆ ทันทีที่เปิดฝาออก กลิ่นหอมของเนื้อตุ๋นก็โชยออกมา ไม่ต้องพูดถึงว่ากลิ่นหอมโชยไปไกลแค่ไหน
ผู้คนจำนวนมากถูกกลิ่นหอมหวนเย้ายวนดึงดูดมารวมตัวกัน เจียงหว่านขายเนื้อหมดไปหลายชั่งอย่างรวดเร็ว
หลังเที่ยง เจียงหว่านมองดูเนื้อ พบว่าตัวเองขายเนื้อไปได้แค่หนึ่งในสาม และยังเหลือเนื้ออีกตั้งมาก
แต่ในช่วงบ่ายไม่มีใครเดินบนถนนเลย เจียงหว่านไม่คิดจะรออยู่ที่นี่ เธอขี้จักรยานกลับไปที่บ้าน
……
โชคดีที่มีจักรยาน การไปไหนมาไหนจึงค่อนข้างสะดวก
เมื่อเธอกลับมาถึง ผิงอันกำลังจะหลบออกไปเล่นกับเพื่อน จึงถูกเจียงหว่านลากกลับเข้าไปในห้องซะอย่างงั้น
ประมาณบ่ายสามโมง เจียงหว่านก็ได้ยินเสียงดังโวยวายดังขึ้น
“ใครเป็นคนทำ ทำไมกำแพงดี ๆ ถึงพังได้?”
อากาศร้อน เธอเลยเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ และเพราะมันอยู่ไม่ไกลจากกำแพงมากนัก เธอจึงได้ยินเสียงที่ว่านั่น
เจียงหว่านหันศีรษะมองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะเห็นทหารนอกเครื่องแบบหลายคน พวกเขาสวมเพียงเสื้อกั๊กทหารสีเขียวและถือเครื่องมือ กำลังเตรียมซ่อมแซมกำแพง
เจียงหว่านพลันรู้สึกผิดขึ้นมา
“เธอพังมันสินะ!” ผิงอันถามขึ้นอย่างใจเย็น
เจียงหว่านหันไปมอง “หุบปากแล้วตั้งใจเรียนไป!”
ผิงอันแค่นเสียงเย็น “เธอพังมันแท้ ๆ ยังไม่ให้คนอื่นพูดอีก!”
เจียงหว่านรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ก็ยังถามอย่างไม่สบอารมณ์ “เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันทำมันพัง?”
ผิงอันหัวเราะเยาะ “ทั้งลาน อ่า ไม่ใช่สิ ในกองทัพทั้งหมด เธอเป็นคนที่อ้วนที่สุด ไม่รู้เหรอว่าตัวเองหนักเท่าไหร่?”
“จะมีใครพังกำแพงได้อีกนอกจากเธอ!”
ใบหน้าของเจียงหว่านเปลี่ยนเป็นสีดำ เธอมองไปที่สมุดของผิงอัน “เธอเข้าใจคำถามนั้นแล้วหรือยัง?”
ผิงอันขมวดคิ้ว ลดศีรษะลง และเขียนคำตอบต่ออย่างหดหู่
ก่อนเขาจะตอบคำถามเสร็จ ก็มีเสียงทุบประตูดังขึ้น
“เปิดประตูสินังอ้วน เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
เสียงนี้เป็นของหลี่ซิ่วหลัน
เจียงหว่านขมวดคิ้ว บอกผิงอันให้ทำงานต่อไป ก่อนจะยืนขึ้น แล้วเดินไปที่ประตู
พอประตูเปิดออก ทางหลี่ซิ่วหลันก็รีบแทรกตัวเข้ามาพร้อมกับโวยวาย
“นังอ้วน นังชั่ว เธอเป็นคนพังกำแพงเหรอ!”
หลี่ซิ่วหลันโกรธมากราวกับว่าจะกลืนเจียงหว่านเข้าไปทั้งเป็น
เจียงหว่านขมวดคิ้ว “ฉันทำมันพังโดยไม่ได้ตั้งใจ มีอะไรเหรอ?”
หลี่ซิ่วหลันคำราม “มีอะไรงั้นเหรอ? ก็เศษกำแพงมันทับไก่ของฉันจนตายไง ฉันอุตส่าห์เลี้ยงมันให้ออกไข่อย่างดี แต่มันกลับถูกกำแพงพังลงมาทับจนตายไป บอกฉันสิว่าเธอจะชดใช้ยังไง!”
เจียงหว่านรู้สึกกระดากอาย ใต้กำแพงบังเอิญมีเล้าไก่อยู่ ตอนกำแพงพังลง ดูเหมือนเธอจะได้ยินไก่ร้องอยู่เหมือนกัน
คงจะทับไก่ตายจริง ๆ ด้วย
เธอเงียบ ก่อนจะพูดอย่างตรงไปตรงมา “ตกลง ฉันจะรับผิดชอบเอง”
เธอไม่ใช่คนไร้เหตุผล สำหรับภรรยาทหาร ไก่เป็นโอกาสเดียวที่จะทำให้ครอบครัวกินอิ่ม
แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตั้งใจ แต่เธอก็เป็นคนผิดจริง ๆ
และเมื่อทำผิดก็ต้องยอมรับ!
เห็นว่าเจียงหว่านตกลงจะรับผิอบ หลี่ซิ่วหลันถึงกับรู้สึกประหลาดใจ
เธอถามอย่างสงสัย “เธอจริงจังเหรอ? เธอจะจ่ายค่าไก่ให้ฉันจริงเหรอ?”
เจียงหว่านพยักหน้า “ใช่ ฉันจะจ่าย แล้วมีกี่ตัวล่ะที่ถูกทับตาย?”
หลี่ซิ่วหลันยืดคอแล้วตะโกนว่า “สามตัว!”
หลี่ซิ่วหลันเลี้ยงไก่ไว้หลายตัว รวมทั้งหมดก็ห้าตัว และพวกมันก็กำลังออกไข่
ในความเป็นจริง ไก่เธอถูบทับตายเพียงตัวเดียว เธอแค่พูดจำนวนนั้นไปเล่น ๆ
โดยไม่คิดว่าเจียงหว่านตอบตกลงทันที “เอาล่ะ ฉันจะชดเชยให้เธอ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเงินเลย แต่ฉันจะชดเชยให้เธอตอนฉียวเหลียนเฉิงเงินเดือนออก ตกลงไหม?”
เงินของเธอยังคงต้องเอาไปใช้คืน ทั้งยังต้องซื้อสินค้า ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถจ่ายเงินให้หลี่ซิ่วหลันในตอนนี้ได้
ทุกคนในบริเวณนั้นรู้ว่าเจียงหว่านไม่มีเงิน ทางเฉียวเหลียนเฉิงเองก็ไม่ได้ให้เงินเธอเลย
ดังนั้น หลี่ซิ่วหลันจึงไม่สงสัยคำพูดของเจียงหว่าน
เพราะได้รับคำตอบที่น่าพอใจ เธอจึงจากไปอย่างมีความสุข
เจียงหว่านกลับมาสานหนังสือให้ผิงอันอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้ว เธอก็ลุกขึ้น เดินออกไป และเตรียมตัวเข้าเมืองเพื่อขายเนื้อต่อ
รถจอดอยู่ที่ลานบ้าน ส่วนหม้อใส่เนื้อถูกเอาเข้ามาในบ้าน
เธอจะเข็นจักรยานไปจอดชั้นล่างก่อน แล้วค่อยกลับมาขนหม้อ
ขณะผ่านห้องน้ำไป เธอก็เห็นไก่ตายสามตัวอยู่ในหม้อใบใหญ่
สถาพของไก่ทั้งสามตัวทำให้เจียงหว่านหยุดเท้าอย่างไม่ตั้งใจ
เธอหันไปมองไก่ด้วยความสงสัย