เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 255 ฮวาจือกลายเป็นไก่…
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 255 ฮวาจือกลายเป็นไก่…
บทที่ 255 ฮวาจือกลายเป็นไก่…
เจียงหว่านรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกมาก เพราะตั้งแต่เธอมาแทนเจ้าของร่างเดิม เธอก็ออกกำลังกายตลอด และก่อนหน้านี้น้ำหนักของเธอก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
อย่างน้อยผลลัพธ์ก็เห็นด้วยตาเปล่า แต่ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร หลังออกมาจากในป่าได้ น้ำหนักของเธอก็ไม่ทีการเปลี่ยนแปลงเลย
ไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงสักนิด
เจียงหว่านจึงสงสัยว่ามีวิธีอื่นอีกหรือเปล่า?
ทว่าเวลานี้เอง หางตาเธอก็เหลือบไปเห็นคน ๆ หนึ่งเดินอยู่บนถนน ซึ่งก็คือเฉียวเหลียนเย่
หมอนั่นทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ และเมื่อไม่เห็นใครก็รีบวิ่งไปทางหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว
เห็นอย่างนั้นเจียงหว่านจึงออกมาจากหลังต้นไม้ และพอเห็นทิศที่อีกฝ่ายไปก็เดาได้ไม่ยาก
เจียงหว่านตามเฉียวเหลียนเย่ไปทันที จนกระทั่งมาถึงโรงพนันที่เปิดใหม่
เธอไม่ได้เดินเข้าไป เพียงแค่เดินดูบริเวณรอบ ๆ จากนั้นก็หันกลับ และตรงไปที่ตลาด ซักถามเรื่องราคาน้ำมันพืช
พอเดินอยู่สักพัก เธอก็เห็นว่าท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว จึงเตรียมตัวกลับไปที่ค่ายทหาร แต่ก็ชนกับใครบางคนเข้าเสียก่อน
“ใครหน้าไหนกล้ามาชนฮวาจือ!” เสียงหวีดแหลมดังเสียดหู
ไม่ต้องรอให้เจียงหว่านอารมณ์เสีย ฝ่ายตรงข้ามก็ทำเสียงประหลาดใจเสียก่อน
“เอ๊ะ! คุณ พี่สาวอ้วนไม่ใช่เหรอ?”
“ฮวาจือ?!”
เจียงหว่านยิ้ม เธอจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้ติดหนี้ค่าลูกเจี๊ยบเธออยู่ไม่น้อย!
หญิงสาวหยุดเดิน มองคนตรงหน้าอย่างพินิจ และถึงกับหยุดชะงักไปสักพัก
แต่ก่อนฮวาจือผมหยักศก ชอบแต่งตัวโบกสะบัดพลิ้วไหวอย่างกับไก่ป่า
แต่ดูฮวาจือในตอนนี้สิ สวมใส่เสื้อผ้าเรียบ ๆ ตัดสั้น และทั้งตัวก็เต็มไปด้วยขนไก่
มองผิวเผิน ก็คิดว่าแม่ไก่ตัวโตเท่าคนเดินมา
ฮวาจือมองเจียงหว่านอย่างประหลาดใจ เพราะว่าเจียงหว่านผอมลงเล็กน้อย จนเธอเกือบจำไม่ได้
เพราะงั้นจึงลองถามหยั่งเชิงดู
เมื่อเจียงหว่านตอบกลับ ฮวาจือก็หัวเราะขึ้นมา “ไอ้หยา พี่สาวอ้วนของฉันนี่เอง ฉันหาคุณเจอสักที ฮ่า ๆๆ!”
เจียงหว่านประหลาดใจ คิดในใจคนคนนี้ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ คงเลี้ยงไก่จนตัวเองกลายเป็นไก่แบบนี้!
“เธอหาฉันเหรอ? ลูกเจี๊ยบฟักออกมาแล้วหรือไง”
เจียงหว่านลองถามหยั่งเชิง พลันก็เห็นฮวาจือตื่นเต้นมาก เธอจับแขนเจียงหว่าน และหัวเราะเสียงดังอย่างดีใจ
“ใช่ ๆ ฟักไข่ออกมาแล้ว ลูกเจี๊ยบเยอะมาก น่ารักด้วย”
“ไป ๆ คุณตามฉันไปเอาลูกเจี๊ยบ ฉันเลี้ยงไว้ให้คุณอย่างดี!”
เจียงหว่านคิดว่าก็ดีเหมือนกัน เพราะเธอกำลังจะกลับค่ายทหารพอดี จะได้เอาไปใช้หนี้พี่สะใภ้เฉินด้วย!
บ้านของฮวาจืออยู่ไม่ไกลมาก เดินไม่นานก็มาถึง แค่ถึงลาน ยังไม่ได้เข้าประตู เจียงหว่านก็ได้ยินเสียงไก่ดังมาแต่ไกล
นี่เลี้ยงไก่กี่ตัวกัน?
เมื่อผลักประตูลานบ้าน เจียงหว่านก็เห็นลูกเจี๊ยบตัวเล็กฝูงใหญ่วิ่งวุ่นอยู่เต็มลาน
พวกมันมีเยอะมาก บางตัวอายุไม่กี่เดือน และบางตัวอายุไม่กี่วัน มีทั้งตัวใหญ่ ตัวเล็ก และขนไก่ก็ลอยเต็มไปหมด
เจียงหว่านหยุดอยู่ตรงประตูนิ่ง “เธอคิดจะเลี้ยงไก่จนร่ำรวยเลยใช่ไหม?”
ฮวาจือรีบตีความ และตอบคำถาม พอเจียงหว่านได้ยินคำตอบถึงได้รู้ว่า เพื่อจะฟักไข่ให้กับเจียงหว่านฮวาจือถึงกับไปเรียนรู้กับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ
“อาจารย์ให้ฉันสังเกตชีวิตของแม่ไก่ ฉันเลยลองเปลี่ยนตัวเองเป็นแม่ไก่”
เจียงหว่านเงียบ “…”
เธอกำลังสงสัยว่าอาจารย์ท่านนั้นกำลังหลอกลวงยัยนี่อยู่หรือเปล่า
แน่นอน ตอนแรกฮวาจือโกรธมากเหมือนกันที่เขาให้เธอกินอยู่เหมือนกับไก่ แต่หลังจากนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกว่าไก่ก็น่ารักดี
“ตอนลูกเจี๊ยบฟักออกมาครั้งแรก ฉันดีใจมาก ตอนนั้น ฉันเข้าใจทันทีเลยว่าตัวเองใช้ชีวิตไร้ค่ามาหลายสิบปี”
“ชีวิตของฉัน เทียบไม่ได้กับการชีวิตของไก่หนึ่งตัวด้วยซ้ำ หลังจากนั้นฉันก็หมกมุ่นกับการฟักไข่เรื่อยมา”
ฮวาจือตอบด้วยท่าทางเคลิบเคลิ้ม “ไก่พวกนี้เลือกได้ตามใจคุณเลย ฉันติดหนี้คุณร้อยกว่าตัว เลือกเอาไปได้เลย เอาไปหมดเลยก็ได้”
เจียงหว่านมองลูกเจี๊ยบตัวใหญ่ตัวเล็กกลุ่มนั้นแล้วก็ยกยิ้มมุมปาก
“ตอนนี้ฉันเอาแค่แม่ไก่สิบตัวก็พอ ยังไม่เอาส่วนที่เหลือ”
ฮวาจือประหลาดใจ “อา เอาแค่สิบตัวเหรอ อยากให้ฉันเลี้ยงส่วนที่เหลือของคุณให้ก่อนไหม?”
เจียงหว่านส่ายหัว “ไม่ต้อง เธอแค่ช่วยฉันเรื่องนึงก็พอ”
เห็นฮวาจือสงสัย เจียงหว่านจึงพูดต่อ “เธอมีเพื่อนที่ตำบลนี้เยอะ น่าจะรู้อะไรมาก พอจะรู้เรื่องโรงพนันของถันหลงบ้างไหม?”
ฮวาจือได้ยินก็คิ้วขมวด ลังเลครู่ใหญ่ แต่สุดท้ายก็พูดว่า
“พี่สาวอ้วน ฉันก็ไม่อยากปิดบังคุณนะ ถันหลงถูกตัดสินยิงเป้า เหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะถูกลงโทษแล้ว”
“โรงพนันของเขาตอนนี้ช่ายเปาจือกำลังดูแลอยู่ เจ้าหมอนั่นกับฉันมีความสัมพันธ์ที่ดี ฉะนั้นคุณอย่ารายงานความผิดกับตำรวจได้ไหม!”
“ฉันรู้ว่าพี่สาวอ้วนวางใจได้ โรงพนันนั่นตอนนี้ไม่ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงแล้ว ทุกคนแค่มาเล่นสนุก ๆ ตอนที่ไม่มีอะไรทำเท่านั้น”
เธอพูดอย่างร้อนรน มองตาเจียงหว่านอย่างกลัว ๆ
เจียงหว่านยิ้ม “ฉันไม่รู้จักโรงพนันอะไรนั่น เธอไม่ต้องบอกฉันหรอก”
ฮวาจือเป่าลมปากอย่างโล่งอก
เจียงหว่านพูดต่อ “แต่ว่าฉันอยากซื้อนาฬิกาข้อมือสักเรือน เป็นตราเซี่ยงไฮ้ เรือนเก่า ๆ ผลิตในปี 65”
“ขอแค่เป็นของแท้ ราคาไม่ใช่ปัญหา เธอช่วยฉันหาได้ไหม?”
ฮวาจือพยักหน้าทันที เธอตอบอย่างร่าเริง “ได้ ๆ ฉันช่วยคุณหาได้ ถ้าเจอแล้วจะติดต่อคุณไปให้เร็วที่สุด!”
พอพูดคุยรายละเอียดเรียบร้อย เจียงหว่านก็หิ้วแม่ไก่ตัวน้อยกลับไปที่ค่ายทหาร
เมื่อกลับมาถึงลานบ้าน เธอก็นำไก่ไปแบ่งให้สะใภ้เฉินกับหลัวหมิ่น ตอนแรกตกลงว่าแค่สองตัว แต่คิดดูอีกทีเจียงหว่านก็ให้ไปห้าตัว จนทั้งสองคนอดแปลกใจไม่ได้
เจียงหว่านคุยกับพวกเธอสักพักก็กลับบ้าน
เมื่อมาถึงบ้านก็เห็นเฉียวเหลียนเฉิงนั่งเศร้าอยู่ที่ริมหน้าต่าง
ราวกับเดาอะไรบางอย่างได้ เจียงหว่านจึงเข้าไปถามใกล้ ๆ “เจียงเฉิงไม่สะดวกเหรอ”
เฉียวเหลียนเฉิงส่งเสียง ‘อืม’ แล้วหันหน้ามองเธอ “เจียงเฉิงบอกว่าลุงของจินกังออกไปทำภารกิจแล้วถูกคนแทงตาย น่าจะเกิดเรื่องขึ้นที่มณฑลกานซู่”
“ตอนนั้นไม่มีวิธีนำศพกลับมา ทำได้แค่เผาศพและนำเถ้ากระดูกกลับมาเท่านั่น”
เจียงหว่านตาเป็นประกาย “ใช่แล้ว!”
“หรือว่าถูกหมาป่ากัดตาย แต่ถ้าบอกอย่างนั้นก็กลัวถูกคนนินทา เลยโกหกว่าถูกแทงตาย!”
เฉียวเหลียนเฉิงกลับส่ายหัว “ไม่ ไม่ใช่”
เจียงหว่านสงสัย เขาหยุดไปสักครู่ก่อนพูดต่อ “เจียงเฉิงบอกว่าบ้านตระกูลจินไม่มีเด็กผู้หญิง สามรุ่นก่อนหน้าเป็นเด็กผู้ชายทั้งหมด”
“ตามที่กล่าวมา ตั้งแต่สิบปีก่อนผู้อาวุโสบ้านตระกูลจินก็ปรารถนาอยากมีลูกผู้หญิงมาตลอด เรียกได้ว่ารอใจจดใจจ่อเลยล่ะ!”
เจียงหว่านนิ่งเงียบ ลูกสาวของหลี่หงเหมยเกิดมาก็เป็นเด็กผู้หญิง เพราะงั้นหลี่หงเหมยที่ต้องการลูกชายจึงสลับลูกสาวตัวเองกับเฉียวเหลียนเฉิง
ถ้าหากพวกเขาไม่มีลูกสาว…
เฉียวเหลียนเฉิงสูดลมหายใจเข้าและพูดว่า “เราอาจจะคาดเดาผิดไป”
เจียงหว่านพูดปลอบ “อย่ารีบร้อนเลย รอฉันได้นาฬิกาข้อมือมาก่อน พวกเราคอยตามหาเบาะแสกันนะ”
“นายบอกว่านาฬิกานั่นผลิตปี 65 แล้วยังมีอะไรพิเศษอีกไหม นายลองคิดดูซิ”
เฉียวเหลียนเฉิงคิดทบทวน “ผมจำได้ว่าตอนยังเด็ก พ่อเอานาฬิกาเรือนนั้นออกมา ผมเคยเห็น แต่พ่อไม่ให้ผม ผมเลยไม่มั่นใจ”
“ใช่แล้ว สายของนาฬิกาฝั่งนึงมีข้อใหม่ สีไม่เหมือนกับข้ออื่น ๆ นอกจากนี้ผมก็จำไม่ได้แล้ว”
เจียงหว่านแปลกใจ “ข้อที่เท่าไหร่”
“ข้อที่สามทางฝั่งซ้าย”
หัวใจเจียงหว่านแทบร่วงหล่นพื้น มันก็ดีที่มีอะไรพอสังเกตได้ แบบนั้นพอเห็นก็จะจำได้ง่าย
“วางใจเถอะ ฉันมีวิธีจะเอานาฬิกาข้อมือกลับมา”
เฉียวเหลียนเฉิงไม่ได้ถามซักไซร้ เขาเชื่อใจเจียงหว่าน ขอเพียงเธอบอกว่าได้ ก็คือได้แน่นอน
จากนั้นชายหนุ่มก็ใช้แขนข้างเดียวที่เหลือโอบเจียงหว่าน และดึงเธอเข้ามากอด