เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 249 เธอคนเดียว ทำทั้งหมู่บ้านเสียหาย
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 249 เธอคนเดียว ทำทั้งหมู่บ้านเสียหาย
บทที่ 249 เธอคนเดียว ทำทั้งหมู่บ้านเสียหาย
แค่เห็นหัวก็บอกได้ว่ามันเป็นหัวของงูเจ็ดดอก
นอกจากนี้ยังมีหางแมงป่องอีกหลายสิบตัว
“หัวหน้าหมู่บ้าน ถึงงูเจ็ดดอกจะมีถิ่นที่อยู่อยู่บนภูเขานี้ แต่ฉันขอเดาว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะจับมันได้!”
“เพื่อจะนำงูเจ็ดดอกออกมาจำนวนมากในคราวเดียว ต้องมีคนตั้งใจไปจับพวกมันโดยเฉพาะแน่”
“ในหมู่บ้านของคุณคงมีคนไม่มากที่สามารถจับงูได้ ทั้งยังจับได้มากขนาดนี้ คุณอยากกลับไปถามไหม?”
ท่าทีของหัวหน้าหมู่บ้านเปลี่ยนไป เพราะเจียงหว่านพูดถูกจริง ๆ
งูเจ็ดดอกอาศัยอยู่ริมน้ำตก พวกมันหาตัวจับยากมาก มีไม่กี่คนหรอกที่รู้ว่าจะจับมันได้ที่ไหน
และคนเดียวที่มีความสามารถถึงขนาดนี้ก็คือต้าหลาง
ไม่นานมานี้ หัวหน้าหมู่บ้านบอกกับต้าหลางว่าพวกเขาต้องการงูเจ็ดดอก แม้ว่าต้าหลางจะไม่พอใจเพราะตนโดนทุบตี แต่เขารู้ว่าเถาจื่อต่างหากที่เป็นคนวางยาพิษพวกตน เขาจึงไม่สามารถตำหนิหัวหน้าหมู่บ้านได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้ยินคำสัญญาของหัวหน้าหมู่บ้านว่า จะมอบเงินเจ็ดในสิบส่วนจากการขายพิษงูให้กับพวกเขา ต้าหลางก็ตอบตกลงทันที
ทว่าพอหัวหน้าหมู่บ้านไปหาต้าหลางก่อนจะมาในวันนี้ ต้าหลางกลับบอกว่าเขาไม่สามารถไปส่งงูได้ เพราะกำลังพักฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ
และต้าหลางก็มอบหน้าที่ทั้งหมดให้กับเถาจื่อ
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หัวหน้าหมู่บ้านก็พูดด้วยความโกรธ “บอกฉันมาสิ ต้าหลางให้งูที่เขาจับมากับเธอรึเปล่า?”
เถาจื่อตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่ก็ยังปฏิเสธที่จะยอมรับ
ระหว่างการปฏิเสธ เธอก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองเจียงหว่านอย่างแค้นเคือง
เธอแทบจะรอจัดการนังอ้วนนี่ให้ตายไม่ไหว เธอจะทำให้มันทรมานแสนสาหัสเลย!
เจียงหว่านพอจะคาดเดาอะไรบางอย่างได้อยู่แล้ว เธอกลอกตา และพูดว่า
“หัวหน้าหมู่บ้านคะ ทำไมคุณไม่ถามต้าหลางล่ะว่าเถาจื่อได้เงินเท่าไหร่จากการขายงู”
“อะไรนะ?” หัวหน้าหมู่บ้านมองเจียงหว่านด้วยความตกใจ
เจียงหว่านกล่าวว่า “ไป๋อวี้ซิ่วบอกว่าเธอซื้องูพิษและแมงป่องจากเถาจื่อในราคามากกว่าหกร้อยหยวนเลย!…”
“เหลวไหล!” ก่อนเจียงหว่านจะพูดจบ เถาจื่อก็คำรามด้วยความโกรธ
“ยัยนั่นจะให้เงินฉันมากขนาดนั้นได้ยังไง เธอให้เงินฉันมาแค่ครึ่งหยวนเอง”
เมื่อตะโกนคำเหล่านี้ออกไป เถาจื่อก็เพิ่งรู้ตัวว่า…เธอพลาดแล้ว
ร่างกายของเธอแข็งทื่อ สายตาเหลือบมองคนทั้งสามที่อยู่ตรงหน้า
ซึ่งพวกเขาทั้งสามกำลังจ้องมองเธอด้วยสีหน้าขึงขัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความดูแคลนและโกรธเกรี้ยว
เถาจื่อนิ่งชะงัก ตอนนี้เธอทำได้เพียงยอมรับอย่างจนมุม
“ฉันเป็นคนขายมันเอง มีคนอยากซื้อฉันก็แค่ขาย ใคร ๆ ก็ทำธุรกิจกันทั้งนั้น ทำไมฉันจะขายไม่ได้ล่ะ”
เธอพูดอย่างมั่นใจ “ฉันต้องการสองร้อย แต่ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเธอไม่มีเงินมากขนาดนั้น เธอจึงให้เงินฉันครึ่งหยวน!”
นี่เป็นเรื่องจริง ในตอนแรกเถาจื่อกำลังจะขว้างงูพิษใส่เจียงหว่านเพื่อแก้แค้น แต่กลับมีคนมาขอซื้อพวกมันในราคาครึ่งหยวน เธอเลยยอมขายเพราะคิดว่า อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ได้เงินเลย!
หัวหน้าหมู่บ้านโกรธมากจนตะคอกออกมา “เธอมันเป็นความเสื่อมเสียของหมู่บ้านนายพรานของเราจริง ๆ! เธอไม่ละอายใจบ้างเหรอ?!”
เถาจื่อโกรธขึ้นมา “ทำไมฉันต้องอาย? คุณเองก็ขึ้นไปบนภูเขาบ่อย ๆ เพื่อจับงูพิษ จับแมงป่อง แล้วก็เอามาขายเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?!”
“แล้วทำไมคุณถึงทำได้ แต่ฉันทำไม่ได้ล่ะ!”
ตอนนี้เจียงหว่านเริ่มรู้สึกประหลาดใจมาก “ถ้าเธอบอกว่าแค่ขายงูพิษให้ไป๋อวี้ซิ่ว ถ้าอย่างนั้นขอถามหน่อย ใครเป็นคนเอางูพิษมาปล่อยในบ้านของฉัน?”
เถาจื่อตกตะลึง เธอรีบส่ายหัวอย่างร้อนรน “ฉันไม่รู้ ๆ เรื่องนี้ฉันไม่เกี่ยวนะ”
เจียงหว่านหันมองเสี่ยวซาน “วันนั้นคุณกลับไปกับเธอ เธออยู่กับคุณตลอดเวลาไหม?”
เสี่ยวซานส่ายหัว “ไม่ ตอนนั้นผมยังไม่ได้ไปไกลจากฟาร์มเลย แล้วเธอก็บอกว่าเธอลืมอะไรสักอย่าง และเธอต้องกลับไปเอา”
“ผมไม่ได้สงสัยอะไร เลยออกไปก่อน”
เจียงหว่านมองเถาจื่ออย่างเย็นชา “ตอนนี้ยังจะพูดอะไรอีกไหม”
เถาจื่อส่ายหัวด้วยความกลัว “ไม่ ฉันไม่ได้ปล่อยมันนะ ฉันไม่เกี่ยวอะไรด้วย เธอใส่ร้ายฉัน!”
พูดจบ เธอก็หันหลังกลับ และเดินออกไป
เมื่อเถาจื่อไปถึงประตู จู่ ๆ ประตูก็เปิดกระแทกหน้าเธออย่างแรง
เถาจื่อไม่คาดคิดว่าประตูจะเปิดออกกะทันหัน มันเร็วมากจนเธอไม่ทันได้หลบ และแรงกระแทกนี้ก็ทำให้หัวของเธอส่งเสียงดังหึ่ง ๆ อื้ออึงมึนงง
แต่ไม่มีเวลามาสนใจ เธอรีบลุกขึ้น และเตรียมจะวิ่งออกไปอีกครั้ง
ทว่าคนเปิดประตูเข้ามาคือเฉียวเหลียนเฉิง เขาไม่ได้พูดอะไร พอเห็นเถอจื่อจะวิ่งสวนออกไปอีก เขาก็เพียงแค่เหยียดเท้าออกไป สกัดขาเถาจื่อไว้
เถาจื่อไม่ทันระวังก็ล้มลง และโชคร้ายเธอล้มใส่พื้นตรงที่มีอึหมาอยู่
หลายคนเห็นเหตุการณ์นี้ก็ระเบิดเสียงหัวเราะชอบใจ
เถาจื่อตกตะลึงมาก เธอล้มตัวลงนอนบนพื้น เอามือทุบดิน และร้องไห้โฮ
เจียงหว่านเดินเข้ามาเยาะเย้ย “ร้องไห้เหรอ ร้องไห้แล้วมีประโยชน์อะไร ถ้าเธอไม่บอกฉัน ฉันจะส่งเธอไปสถานีตำรวจ”
“ที่นั่นมีแต่คนเลว ๆ อยู่เต็มไปหมดเลยล่ะ โดยเฉพาะพวกฆาตกร เธอรู้ไหมที่นั่นมันโหดร้ายแค่ไหน?…”
“มันโหดร้ายถึงขนาดที่ต่อให้เธออยากออกมาก็คงต้องยอมลอกหนังตัวเองออกมาเชียวล่ะ!”
เถาจื่อกระทืบเท้าด้วยความโกรธและทุบหน้าอกของตัวเองอย่างอัดอั้น เมื่อเห็นว่าตอนนี้ทำอะไรไม่ได้อีก และทุกอย่างมันจบแล้ว เธอก็ทำได้เพียงยอมรับเท่านั้น
โย่วต้าซานผู้หัวหน้าหมู่บ้านนายนพรานโกรธมากจนหน้าซีด
โย่วต้าซานหยิบรายการสินค้าที่หมู่บ้านต้องการแลกเปลี่ยนกับเจียงหว่านออกมา
เขาใช้หลักการของความเท่าเทียมกัน เพื่อขีดฆ่าจำนวนเงินที่ต้องชดเชย
เจียงหว่านไม่ได้คาดหวังว่าหัวหน้าหมู่บ้านจะใจกว้างขนาดนี้ แม้ว่าฟาร์มจะประสบกับความสูญเสียมากมาย และส่วนใหญ่ก็เป็นหมูที่ตายไปกับกำแพงที่เสียหาย
อย่างมากก็สร้างใหม่ และแค่ต้องอาศัยแรงงานบ้างเท่านั้น
ซึ่งหัวหน้าหมู่บ้านมอบซากหมูป่าให้กับฟาร์มเพื่อใช้ปรุงอาหารอย่างไม่หวง
ส่วนแม่หมูกับลูกหมูที่ตายจะถูกชดใช้แทนด้วยแม่หมูและลูกหมูจากหุบเขา
ฟาร์มจะได้รับประโยชน์จากวิธีนี้ ทำให้เจียงหว่านพอใจมาก
ดังนั้น เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านบอกว่า เขาจะเอาเถาจื่อกลับไปจัดการเอง เจียงหว่านจึงตอบตกลงทันที
หญิงสาวรู้ว่าคัดค้านไปก็ไร้ประโยชน์ หากเธอต้องจัดการกับเถาจื่อจริง ๆ ก็ยังมีโอกาสอีกในอนาคต
แต่เจียงหว่านเชื่อว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ เถาจื่อจะถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านแน่
เรื่องทั้งหมดเกือบจะคลี่คลายแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านพาเถาจื่อและลูกชายกลับ ซึ่งเจียงหว่านก็ไปส่งพวกเขาด้วย
ทว่าตอนนั้นเอง รถยนต์คันหนึ่งก็วิ่งมา
เจียงเฉิงมาแล้ว
“สถานีตำรวจโทรมาบอกว่าพวกเขาจับคนได้สองคน และพวกนั้นอ้างว่าเป็นแม่กับน้องชายของนาย”
“ตอนนี้ทางสถานีตำรวจต้องการให้นายไประบุตัวตนคนพวกนั้นน่ะ”
เฉียวเหลียนเฉิงขมวดคิ้ว “นายก็รู้จักพวกเขานี่ นายเข้าไปพาพวกเขาออกมาได้ไหม”
เจียงเฉิงกางมือออก “ฉันไม่ใช่ลูกชายของเธอ ทางสถานีตำรวจกำหนดให้ญาติไปเซ็นรับ และนายก็ถือโอกาสนี้ไปดูอาการแขนด้วยสิ”
เฉียวเหลียนเฉิงเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจ
ทั้งสองเก็บข้าวของ จัดเตรียมสิ่งของในฟาร์ม และพาไป๋อวี้ซิ่วกับมู่เหย่ไปด้วย
พอไป๋อวี้ซิ่วได้ยินว่ากำลังจะถูกส่งกลับ เธอก็จับเสาเตียงไว้อย่างสิ้นหวัง ไม่ยอมออกจากห้อง
“ฉันจะไม่ไป ให้ตายฉันก็ไม่ไป!”
ไป๋อวี้ซิ่วร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง ไม่สนใจภาพลักษณ์อะไรทั้งนั้น
เจียงหว่านก้าวไปข้างหน้า เธอยกมือขึ้น แล้วตบอีกฝ่ายทันที
เจียงหว่านพบว่าการตบไป๋อวี้ซิ่วกลายเป็นนิสัยเสียติดตัวเธอไปแล้ว และสาเหตุหลัก ๆ เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้มักจะท้าทายขีดจำกัดความอดทนของเธอเสมอ ดังนั้นเธอจึงต้องตบสั่งสอนสักสองสามครั้ง หล่อนจะได้หยุดทำอะไรน่ารำคาญ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เจียงหว่านไม่คาดคิดก็คือ การตบครั้งนี้ของเธอไม่ได้ผล
ไป๋อวี้ซิ่วร้องไห้ตาแดงก่ำ “ต่อให้เธอตีฉันจนตายฉันก็ไม่ไป!”
เจียงหว่านเลิกคิ้ว และพูดว่า “จะไม่ไปใช่ไหม? ได้! งั้นเฉียวเหลียนเฉิงกับฉันจะไป และจะไม่มีใครมารับเธออีกเลย”
“เฉียวเหลียนเฉิงถูกย้ายออกไปแล้ว และเขาจะไม่มาที่ฟาร์มอีก ถ้าเธอยังยืนยันว่าจะอยู่ที่นี่ก็ตามใจ!”
ไป๋อวี้ซิ่วเบิกตากว้าง เธอหยุดร้องไห้ และถามทันที “เธอพูดจริงเหรอ?”
เจียงหว่านตะคอกอย่างเย็นชา “ไม่เชื่อก็ตามใจ!”
ไป๋อวี้ซิ่วสูดจมูก และพูดว่า “ได้! ฉันจะไป แต่ฉันเดินเองไม่ไหว ฉันอยากให้พี่เฉียวอุ้ม!”
พอพูดจบ เธอก็เหยียดแขนออก ทอดสายตามองเฉียวเหลียนเฉิงด้วยท่าทางอ้อนวอน