เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 244 เจียงหว่านกอดเฉียวเหลียนเฉิงด้วยดวงตาหวานเยิ้ม…
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 244 เจียงหว่านกอดเฉียวเหลียนเฉิงด้วยดวงตาหวานเยิ้ม…
บทที่ 244 เจียงหว่านกอดเฉียวเหลียนเฉิงด้วยดวงตาหวานเยิ้ม…
เจียงหว่านได้แต่นิ่งเงียบ รู้สึกถึงความห่วงใยที่ส่งผ่านมาจากร่างกายของเฉียวเหลียนเฉิง มันทำให้หัวใจรู้สึกอบอุ่นไปด้วย เธอพยักหน้าตอบรับคำของเขาอย่างเงียบ ๆ
ด้วยอ้อมกอดอันอบอุ่น จิตใจที่หวาดกลัวก็พลันสงบลง
เมื่อเธอเริ่มผ่อนคลาย จู่ ๆ เธอก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ
หลังจากอาการวิงเวียนศีรษะผ่านพ้นไป เธอก็ได้ที่กลิ่นหอมมาก และที่มาของกลิ่นนี้ก็คือ เฉียวเหลียนเฉิงที่อยู่ตรงหน้า
โดยไม่ทันได้ประมวลผล เจียงหว่านโน้มเข้าหาแขนของเฉียวเหลียนเฉิงตามสัญชาตญาณ
ชายหนุ่มสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเธอก็ตัวแข็งทื่อ
เจียงหว่านไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่ ขณะนี้จิตใจของเธอกำลังสับสนมาก
เธอโน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขาตามสัญชาตญาณ
รู้สึกว่ากลิ่นกายของเขามันหอมจริง ๆ หอมจนทำให้เธอรู้สึกสบายตัว
แต่มันไม่ได้หยุดลงหลังจากที่ดมแค่ไม่กี่ครั้ง เพราะการดมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเธอได้
เจียงหว่านพบว่ากลิ่นนี้เหมือนจะมาจากเสื้อผ้า เธอจึงเอื้อมมือออกไปและถอดเสื้อผ้าของเขาออกแบบไม่ต้องคิด เธอซบหัวลงไป แล้วซุกไซร้อยู่กับหน้าอกของเฉียวเหลียนเฉิง
ร่างกายของเฉียวเหลียนเฉิงแข็งทื่อ เขาสับสน และใบหน้าก็แดงไปหมด
เขาถามด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา “หว่าน…หว่านหว่าน คุณกำลังทำอะไรน่ะ?”
ขณะนี้เจียงหว่านเหมือนคนหูหนวก และเพียงการซุกหน้าไม่กี่ครั้งก็ยังไม่พอใจ เธออ้าปากเล็ก ๆ งับหน้าอกของเขาเบา ๆ
มันไม่เจ็บ แต่ดูเหมือนว่าจะไปจุดไฟบางอย่างในร่างกายของเฉียวเหลียนเฉิงเข้า
ในหัวของเขาคล้ายมีเสียงดังกึกก้อง และเหมือนมีดอกไม้ไฟจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดอยู่ในใจ
เกือบจะเป็นไปตามสัญชาตญาณ เขาประคองหน้าเจียงว่านให้เงยขึ้น ลดศีรษะตนเองลง แล้วประทับจูบอย่างอ่อนโยนบนริมฝีปากของเธอ
จิตใจของเจียงหว่านยังคงงุนงง ยิ่งมีกลิ่นคุ้นเคยบนจมูก ก็ยิ่งทำให้เธอหลงใหล ตอนนี้ เธอรู้สึกเสพติดและเริ่มสนุกกับมัน
เฉียวเหลียนเฉิงประทับจูบได้ไม่นาน ก็เหมือนเจียงหว่านจะยังไม่พอใจกับแค่การจูบ
ช่วงขณะที่จูบ มือหญิงสาวจึงค่อย ๆ เลื่อนไปบนร่างกายของเฉียวเหลียนเฉิงอย่างซุกซน
เฉียวเหลียนเฉิงรู้สึกเหมือนร่างกายลุกเป็นไฟ เกือบครึ่งหนึ่งของร่างกายเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง และอุณหภูมิร่างกายก็เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน
แต่เขาก็พยายามอดทนกับมัน ชายหนุ่มเอื้อมมือไปคว้ามือซุกซนที่สร้างความหายนะบนหน้าอกเอาไว้ เขาผละตัวออกเล็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“หว่านหว่าน อย่าเพิ่ง นี่ตอนกลางวันนะ”
เจียงหว่านเพิกเฉย เธอพึมพำ “มันหอม กลิ่นหอมมาก ฉันอยากกิน!”
เฉียวเหลียนเฉิงสะดุ้งเล็กน้อย ทันใดเขาก็ตระหนักได้ว่า มีบางอย่างผิดปกติ
แม้เจียงหว่านจะตกลงเริ่มต้นใหม่กับเขา แต่ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงที่เธอกำลังเริ่มจุดประกายความสัมพันธ์ใหม่ และตามบุคลิกของเจียงหว่าน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปถึงจุดนั้นในทันที
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นเวลากลางวันแสก ๆ ด้วย
เฉียวเหลียนเฉิงหัวใจเต้นรัว เขารีบผละออกจากเจียงหว่าน ประคองหน้าของเธอขึ้นเพื่อมองดู
แก้มของเจียงหว่านแดงผิดปกติ ดวงตาดูเลื่อนลอย ปากกำลังพึมพำอะไรบางอย่าง และสีหน้าก็ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด
หัวใจของเฉียวเหลียนเฉิงเต้นรัว และเขาก็เริ่มคิดว่า ‘ทำไมอยู่ ๆ หมูป่าถึงคลั่ง?’
และเมื่อนึกไปถึงตอนเสิ่นหรูเหมยมาหาพวกเขา ตอนนั้นหล่อนพูดว่า ‘หมูป่าดื่มน้ำหวานของฉัน และจู่ ๆ มันก็ติดสัดจนควบคุมไม่ได้!’
หรือจะเป็นเพราะน้ำหวานของเสิ่นหรูเหมย?!
ดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่าง เฉียวเหลียนเฉิงรีบลดเสียงลง และถามเจียงหว่าน
“คุณได้กินน้ำหวานของเสิ่นหรูเหมยหรือเปล่า?”
ดวงตาของเจียงหว่านยังคงเลื่อนลอย แต่เมื่อได้ยินคำถามของเฉียวเหลียนเฉิง เธอก็พยายามครุ่นคิดแม้คลุมเครือ และสุดท้ายก็พยักหน้ารับ
“ใช่แล้ว น้ำหวาน หอม อร่อย!”
หัวใจของเฉียวเหลียนเฉิงแทบจะตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
หลังจากเจียงหว่านพูดจบ เธอก็เกาะเกี่ยวรอบตัวเขาอีกครั้งเหมือนปลาหมึกยักษ์ เธอพยายามซุกหัวเข้าไปในอ้อมอกของเขา
”หอม หอมจัง”
ใบหน้าของเฉียวเหลียนเฉิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขาหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้ง ในที่สุดก็พยายามสงบสติอารมณ์ที่สั่นไหวในหัวใจลงได้
ชั่วครู่หนึ่ง เขาอยากจะใช้โอกาสนี้สานต่อความปราถนา เผื่อว่าบางทีความสัมพันธ์ระหว่างสองเราจะก้าวไปอีกขั้น
อีกอย่างนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของพวกเรา ตราบใดที่เจียงหว่านเต็มใจก็ไม่มีปัญหา
แต่ว่า แบบนี้ไม่ได้!
เฉียวเหลียนเฉิงหยุดจินตนาการทั้งหมด
ตอนนี้หว่านหว่านยังไม่ได้สติ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เขาไม่สามารถฉวยโอกาสจากความไม่ได้สติของเธอได้
สิ่งที่ชายหนุ่มต้องการคือเจียงหว่านที่รักเขา รู้จักเขา และเต็มใจที่จะใช้ชีวิตที่เหลือกับเขา เฉียวเหลียนเฉิงจะไม่ยอมแพ้ให้กับเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน
เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วผลักเธอออกไปเบา ๆ อีกครั้ง หันหลังกลับ และออกจากบ้านไป
เจียงหว่านยังคงสูดดมกลิ่นหอมนั้น แต่เมื่อเป้าหมายของเธอหายไป เจียงหว่านก็สับสนมาก
หญิงสาวสับสนจนคิดไม่ออก เธอทิ้งตัวนอนลงบนเตียง กลิ้งเกลือกครวญคราง
เธอไม่สามารถบรรเทาอาการร้อนรุ่มในร่างกายได้เลย
ผ่านไปไม่นาน เฉียวเหลียนเฉิงก็กลับมาพร้อมถืออ่างน้ำเย็นมาด้วย
เขาวางมันลงบนเตียง ชุบผ้าเช็ดตัวให้เปียก แล้วเช็ดหน้าให้เจียงหว่าน
ความเย็นของน้ำทำให้เจียงหว่านตัวสั่น และในที่สุดเธอก็ฟื้นคืนสติได้ครู่หนึ่ง
เธอมองเฉียวเหลียนเฉิงด้วยความสับสน “ฉัน…มีผิดปกติ มีบางอย่างผิดปกติ!”
เฉียวเหลียนเฉิงพูดอย่างเร่งรีบ “คุณกินน้ำหวานเข้าไปเหมือนหมูป่าก็เลย…”
เขาไม่กล้าพูดคำเหล่านั้น เพราะกลัวว่าเจียงหว่านจะรับไม่ได้
ม่านตาของเจียงหว่านหดลงทันที ราวกับว่าเธอเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่อาการวิงเวียนศีรษะก็กลับมาอีกครั้ง เธอไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีก รีบเอาหน้าจุ่มน้ำในอ่างทันที
ในที่สุดน้ำเย็นก็ทำให้เธอมีสติขึ้นมาอย่างช้า ๆ
เมื่อเงยหน้าขึ้นจากอ่าง ดวงตาของเจียงหว่านก็กลับมาสดใสอีกครั้ง
เธอจิบมันไปแค่เล็กน้อย เป็นเหตุผลว่าทำไมยาถึงได้ฤทธิ์เพียงช่วงสั้น ๆ
เมื่อเห็นว่าเจียงหว่านรู้สึกตัวเต็มที่แล้ว เฉียวเหลียนเฉิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เจียงหว่านเช็ดหน้าของเธอ และอุทานว่า “อา!”
เฉียวเหลียนเฉิงถามอย่างร้านรน “เกิดอะไรขึ้น?”
เจียงหว่านเงยหน้าขึ้นมองเขา ใบหน้าของเธอซีดเล็กน้อย “เจ้าหมูป่าดื่มน้ำหวานแล้วก็คลั่งขึ้นมา”
“ฉันแค่จิบไปนิดหน่อยยังเป็นแบบนี้ แสดงว่าน้ำหวานมีบางอย่างผิดปกติ!”
เฉียวเหลียนเฉิงพูดอย่างจริงจัง “น้ำหวานนั่นมาจากไหน?”
เจียงหว่านโบกมือ “นั่นไม่สำคัญหรอก อย่างน้อยก็ไม่สำคัญในตอนนี้ ที่สำคัญในตอนนี้คือเสิ่นหรูเหมย เธอจิบไปหลายอึกเลยนะ!”
หลังจากพูดอย่างนั้น เจียงหว่านก็ไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีก เธอกระโดดลงจากเตียงด้วยความตื่นตระหนก สวมรองเท้า แล้วรีบวิ่งออกไปทันที
“หว่านหว่าน คุณจะไปไหน!” เฉียวเหลียนเฉิงตะโกนอย่างกังวล
เธอเพิ่งหายเป็นปกติ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นอีกตอนเธอออกไปข้างนอกจะทำยังไง?
เจียงหว่านตะโกนโดยไม่หันกลับไปมอง “ฉันจะไปหาเสิ่นหรูเหมย ฉันว่าอาการของเธอจะแย่กว่าฉัน นายไม่ต้องมานะ!”
แล้วเธอก็วิ่งหายไป
เจียงหว่านรีบวิ่งไปที่บ้านของเสิ่นหรูเหมยอย่างเร่งรีบ ทันทีที่เธอไปถึงประตู ก็มีเสียงกุกกัก แปลก ๆ ดังมาจากบ้าน
จากนั้นเสียงเยาะเย้ยของไป๋อวี้ซิ่วก็ดังขึ้น “แหม ดูสิ ๆ นี่เสิ่นหรูเหมยที่สง่างามคนเดิมคนนั้นหรือเปล่า?”
“มองในกระจกแล้วดูสิว่าตอนนี้เธอเป็นยังไง ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงที่น่าสมเพชสักนิด!”
“กรี๊ดออกมาสิ ตะโกนให้ดัง ให้คนในฟาร์มเห็นว่าตอนนี้เธอเป็นยังไง!”
“เผื่อพวกเขาเห็นว่าเธอไม่สบายตัว แล้วพวกเขาอาจจะทำให้เธอพอใจก็ได้นะ!”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เจียงหว่านก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอเตะประตูเต็มแรง แล้วพุ่งตัวเข้าไปทันที