เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 241 ในสายตาของเจียงหว่าน แบบนี้มันผิดปกติ!
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 241 ในสายตาของเจียงหว่าน แบบนี้มันผิดปกติ!
บทที่ 241 ในสายตาของเจียงหว่าน แบบนี้มันผิดปกติ!
เจียงหว่านประหลาดใจ “เธอชอบกินน้ำหวานเหรอ”
เสิ่นหรูเหมยส่ายหัว “เปล่าหรอก แต่บางครั้งฉันก็เวียนหัว หมอบอกว่าการดื่มน้ำหวานจะช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้นได้”
เจียงหว่านเข้าใจทันที นี่อาจเป็นภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
เธอโบกมือ “ฉันไม่ดื่มหรอก พอดีกำลังลดน้ำหนักอยู่น่ะ กินอะไรที่หวานเกินไปไม่ได้”
ได้ยินอย่างนั้น เสิ่นหรูเหมยก็ไม่ได้เซ้าซี้ เธอวางแก้วน้ำหวานของตนไว้ข้าง ๆ
เพราะเธอเพิ่งทำน้ำหวานนี่ และมันยังร้อนเกินกว่าจะดื่มได้ จึงต้องรอให้มันเย็นลงอีกสักหน่อย
เจียงหว่านมองดูหมูป่าในคอก มันแตกต่างจากเจ้าหมูที่จับได้เมื่อวานนี้ ดูเหมือนว่าในหุบเขาจะมีหมูอีกมากมายจริง ๆ
“เกิดอะไรขึ้นกับมันเหรอ?” เจียงหว่านถามเสิ่นหรูเหมย
“มันไม่เชื่อฟังฉันเลย!” เสิ่นหรูเหมยขมวดคิ้ว เรื่องนี้ทำให้เธอปวดหัวจริง ๆ
“เธอไม่ได้ฝึกมันบ้างเลยเหรอ?” เจียงหว่านถาม
เสิ่นหรูเหมยเหลือบมองด้วยความประหลาดใจ “ถ้าเป็นหมูบ้านก็ไม่เป็นไรหรอก แต่นี่หมูป่า ฉันไม่กล้าเข้าใกล้เจ้านี่ ถึงจะเป็นแค่ลูกผสมหมูป่าก็ยังดุร้ายอยู่ดี”
“เมื่อวานตอนเสี่ยวซานเอามาส่ง เขาก็กำชับมาด้วยว่าอย่าเข้าใกล้มัน”
เจียงหว่านหรี่ตาลง “ไม่มียาสำหรับหมูสินะ”
เสิ่นหรูเหมยเม้มริมฝีปาก “ไอ้มีก็มีอยู่หรอก แต่ฉันไม่กล้าใช้มันนี่สิ”
เจียงหว่านขมวดคิ้วครุ่นคิด เสิ่นหรูเหมยกล่าวเสริมว่า “หมูป่าดุกว่าหมูบ้านมาก และฉันก็กลัวว่าถ้ามันกินยาและดื้อยา มันอาจจะไปทำร้ายหมูตัวอื่น ๆ หรือแม้แต่สัตว์ตัวอื่น ๆ รวมถึงทำร้ายคนแบบไม่เลือกหน้าด้วย”
เมื่อลองคิดดู โดยปกติสัตว์ป่าก็ล้วนดุร้ายอยู่แล้ว และไม่ต้องสงสัยเลย ตอนนี้มันอยู่ในสภาวะเดือดดาลแน่นอน
การจะผสมพันธุ์ของสัตว์ป่า พื้นฐานแล้วพวกมันจะทำตามสัญชาติญาณ
ตอนนี้เจียงหว่านเองก็เกาหัวอย่างหมดหนทางเช่นกัน เพราะแม้ว่าเธอจะเปลี่ยนตัวหมูป่า แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องมันใช้งานไม่ได้อยู่ดี
วิธีทำให้มันเชื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
“ฉันกำลังคิดว่า เราจะสามารถลองหาหมูป่ารุ่นหลานดูได้ไหม? ถ้าทำได้ บางทีหมูป่ารุ่นหลานน่าจะดุน้อยกว่า” เสิ่นหรูเหมยกล่าวอย่างไม่แน่ใจ
เจียวหว่านไม่ได้พูดอะไร
ตอนนี้อุณหภูมิของน้ำเกือบจะพอดีแล้ว เสิ่นหรูเหมยจึงหยิบน้ำหวานขึ้นมาจิบ
“โอ้!” เธออุทานเสียงดังทันทีที่จิบน้ำหวาน เสียงเธอดึงดูดความสนใจของเจียงหว่านทันใด
“มีอะไรเหรอ?” เจียงหว่านถามอย่างสงสัย
เสิ่นหรูเหมยยื่นแก้วให้เจียงหว่าน แล้วพูดว่า “ลองชิมสิ ฉันรู้สึกว่าน้ำหวานนี่มีกลิ่นหอมหวานต่างไปจากเดิมน่ะ”
เจียงหว่านเหลือบมองด้วยความประหลาดใจ จากนั้นจึงรับมา และลองจิบ
มันหวานและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษจริง ๆ
รสชาติดีมาก
เจียงหว่านคืนแก้วให้อีกฝ่าย “เธอเติมน้ำผึ้งลงไปเหรอ? รสชาติคล้ายน้ำผึ้งเลย”
“ใช่ไหมล่ะ ฉันเองก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน แต่ฉันไม่ได้เติมน้ำผึ้งเลยนะ และขนาดไม่ได้เติมรสชาติยังดีขนาดนี้เลย” เสิ่นหรูเหมยยกแก้วขึ้นจิบอีกเล็กน้อย
“ฉันเพิ่งซื้อมาน่ะ ยังไม่มีเวลากิน จนมาลองวันนี้นี่แหละ เพราะตอนนี้ฉันเพิ่งมีประจำเดือนและเริ่มเวียนหัวอีกแล้วด้วย ถ้าเป็นปกติก็ไม่เป็นไรหรอก แต่นี่ไม่ไหวจริง ๆ”
ขณะที่พูด เธอก็จิบอีกสองครั้ง
คำพูดและพฤติกรรมของอีกฝ่ายช่างสง่างามเหมือนที่เคยเป็น แม้เธอจะดื่มน้ำ แต่เธอก็ใช้วิธีการจิบเบา ๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เสิ่นหรูเหมยจิบน้ำหวานอยู่หลายครั้ง ทว่าน้ำหวานกลับบกไปเพียงหนึ่งในสามของแก้วเท่านั้น
ช่วงเวลานี้เอง หมูป่าที่อยู่ในคอกดูเหมือนจะได้กลิ่นอะไรบางอย่าง มันยกจมูกขึ้น ทำฟุดฟิดสูดดม และทันใดก็รีบวิ่งไปหาเสิ่นหรูเหมย
แต่ตอนนี้เสิ่นหรูเหมยมุ่งความสนใจอยู่กับแก้วน้ำหวานในมือ ไม่ได้สนใจคอกหมูเลย
เจียงหว่านเห็นดังนั้นจึงรีบดึงเสิ่นหรูเหมยออกมา
เสิ่นหรูเหมยไม่ทันได้ตั้งตัวตอนถูกดึง มือที่ถือแก้วจึงไม่มั่นคง ทำให้แก้วก็ร่วงพื้น
ยังมีน้ำหวานกว่าครึ่งแก้วที่เธอยังไม่ได้กิน
ทันทีที่แก้วน้ำหวานร่วง หมูป่าก็รีบวิ่งเข้ามา และก้มหัวลงเลียน้ำหวานที่พื้น
“อา น่าเสียดาย!” เสิ่นหรูเหมยอุทาน
ในยุคนี้น้ำตาลมีราคาแพงมาก ไม่เพียงแต่ต้องใช้เงินซื้อเท่านั้น แต่ยังต้องใช้ตั๋วด้วย
เสิ่นหรูเหมยออมเงินอยู่นาน และยังต้องหาแลกตั๋วกับใครสักคน กว่าจะซื้อของเหล่านี้มาได้
แต่น้ำหวานที่เธออุตส่าห์หามาอย่างยากลำบากกลับถูกหมูป่ากินเข้าไปแล้ว ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนอกหักไม่มีผิด!
เจียงหว่านรีบปลอบใจเธอ “ไม่เป็นอะไรก็ถือว่าดีแล้ว อย่าเพิ่งเข้าไปเลย รอจนกว่ามันจะไปไกล ๆ เราก่อน ค่อยหยิบแก้วออกมาเถอะ”
เสิ่นหรูเหมยถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “มันก็ต้องแบบนั้นล่ะ”
ตอนนี้พวกเธอทั้งสองจึงทำเพียงยืนอยู่ตรงนั้น เฝ้ามองหมูป่าที่กำลังกินน้ำหวานอย่างหิวกระหาย
พวกเธอกำลังรอให้เจ้าหมูกินเสร็จ และรอให้มันยอมเดินเข้าคอกไปเอง
แต่ไม่รู้ว่าทำไม จู่ ๆ หมูป่าก็ไม่ขยับตัว
มันเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นหรูเหมยกับเจียงหว่าน
และมันก็เริ่มทำท่าทางแปลก ๆ ตอนแรกมันส่งเสียงดังในลำคอออกมาสองสามครั้ง หลังจากนั้นก็เริ่มกระทืบเท้า ส่ายหัวไปมา
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เจียงหว่านรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติตอนหมูป่าจ้องมองพวกเธอ
เจียงหว่านรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ
เธอดึงเสื้อของเสิ่นหรูเหมย แล้วถามเสียงแผ่วเบา “หมูป่ามันกินของหวานได้ใช่ไหม?”
เสิ่นหรูเหมยตอบว่า “ใช่สิ หมูกินได้ทุกอย่าง”
เจียงหว่านถามอีกครั้ง “หมูจะเมาน้ำตาลได้ไหม”
เสิ่นหรูเหมยประหลาดใจมาก “เมาน้ำตาลเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไง? ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย”
สิ้นคำเสิ่นหรูเหมย เจียงหว่านก็ดึงเธออย่างแรง “วิ่งเร็ว หมูป่าตัวนี้กำลังจะคลั่งแล้ว”
เสิ่นหรูเหมยสับสน เธอถูกดึงให้วิ่งไปอย่างไม่รู้สาเหตุ
ไม่นานหลังจากพวกเธอวิ่งหนีมา หมูป่าข้างหลังก็คำราม และเริ่มกระแทกประตูรั้วตรงหน้า พอรั้วพัง มันก็วิ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เสิ่นหรูเหมยตกใจมากจนแข้งขาอ่อนแรง
ทันคือหมูป่าที่มีเขี้ยว และเขี้ยวนั่นก็สามารถทะลวงผ่านผิวมนุษย์ได้ง่าย ๆ ด้วย
โชคดีที่เจียงหว่านยังอยู่ใกล้ ๆ เธอจึงดึงเสิ่นหรูเหมย และพากันกระโดดขึ้นไปบนกำแพงเตี้ย ๆ ที่อยู่ไม่ไกล
บริเวณที่เลี้ยงหมูมีการแบ่งแยกออกเป็นสัดส่วน มีกำแพงเล็ก ๆ ทำด้วยอิฐเป็นช่วง ๆ สูงประมาณหนึ่งเมตร มีความหนายี่สิบเซนติเมตร
กำแพงเล็ก ๆ เหล่านี้แบ่งฟาร์มหมูทั้งหมดออกเป็นพื้นที่ลูกหมู พื้นที่ผสมพันธุ์ และโรงเลี้ยงหมูทั่วไป
ตอนนี้หมูป่ากำลังอยู่ในพื้นที่ผสมพันธุ์ ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นก็ไม่ใหญ่นัก
เจ้าหมูป่ากำลังคลั่งหนัก ตอนมันวิ่งออกมา เดิมทีมุ่งเป้าไปทางเจียงหว่านกับเสิ่นหรูเหมย แต่พอพวกเธอปีนหนีขึ้นไปบนกำแพง หมูป่าก็เปลี่ยนเป้าหมาย มันวิ่งพุ่งไปยังโรงเลี้ยงหมูธรรมดาทันที
มันพุ่งเข้ามา และวิ่งไปรอบ ๆ
เสิ่นหรูเหมยหน้าซีดด้วยความตกใจ เธอพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว “เกิดอะไรขึ้น ทำไมมันถึงบ้าคลั่งแบบนั้น!”
เจียงหว่านยังมีความกล้าหาญอยู่ เธอลุกยืนบนกำแพง ชะเง้อคอดูพฤติกรรมเจ้าหมูบ้า หลังจากมองไปสักพัก เธอก็เริ่มเข้าใจ
“หมูป่าตัวนั้นกำลังติดสัด!”
เสิ่นหรูเหมยประหลาดใจทันที “ติดสัดเหรอ? เป็นไปได้ยังไง? ก็เมื่อกี้นี้…”
เจียงหว่านชี้ไปทางเจ้าหมู “ดูสิ มันเริ่มออกอาการแล้ว”
เสิ่นหรูเหมยมองตามนิ้วเจียงหว่านไปด้วยความตกใจ เธอขยี้ตา ก่อนมองหาอย่างละเอียด และในที่สุดก็เห็นหมูป่าอยู่ท่ามกลางฝูงหมู
ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าเธอจะพยายามทำวิธีไหน หมูตัวนี้ก็ปฏิเสธที่จะผสมพันธุ์ แต่ตอนนี้มันกลับเริ่มออกอาการติดสัดเนี่ยนะ?
อีกทั้งยังดูเกรี้ยวกราดมากด้วย…
เสิ่นหรูเหมยยิ้มเจื่อน “ถ้าฉันรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เราก็คงไม่ต้องกังวลตั้งแต่แรก”
“แต่ว่านะ ฉันไม่เคยได้ยินมาว่าน้ำตาลทำให้สัตว์ติดสัดได้มาก่อนแลย!”
เธอเกาหัวแกรก ๆ อย่างสับสน ทว่าไม่นาน พฤติกรรมเจ้าหมูป่าก็ทำให้เธอแทบทรุด
“มันทำอะไรน่ะ หมูตัวน้อยนั้นอายุไม่กี่เดือนเองนะ!” เสิ่นหรูเหมยตะโกนด้วยความประหลาดใจ
ท่าทีของเจียงหว่านก็ดูกังวลไม่ต่างกัน ก็ดีที่หมูป่าตัวนี้กำลังเริ่มผสมพันธุ์ แต่มันดันไม่เลือกคู่เลยนี่สิ…