เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 227 มีคนจะขโมยหมูป่าของเจียงหว่าน
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 227 มีคนจะขโมยหมูป่าของเจียงหว่าน
บทที่ 227 มีคนจะขโมยหมูป่าของเจียงหว่าน
หลี่จ้วงจ้วงรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา ตอนนี้เขารู้แล้วว่า ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถไร้ยางอายและไร้เหตุผลได้มากขนาดไหน
หากเทียบกันแล้ว ที่เขาเตะเธอไปเมื่อครู่ถือว่าเบามาก
เจียงหว่านกำหมัดแน่นพร้อมหรี่ตาลง เธอพยายามระงับอารมณ์ หญิงสาวกัดฟันแน่นแล้วถามออกไป
“ต้องการอะไร?”
ไป๋อวี้ซิ่วกล่าวออกมา ด้วยความเย่อหยิ่งเช่นเดิม “ฉันอยากจะพักฟื้นอยู่ที่นี่ ตอนนี้ฉันเจ็บไปทั้งตัว และต้องการให้เฉียวเหลียนเฉิงดูแลฉัน!”
ได้ยินอย่างนี้ เจียงหว่านไม่อาจระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอก้าวเท้าเข้าหาไป๋อวี้ซิ่ว ก่อนจะตบหน้าอีกฝ่ายฉาดใหญ่ทันที
เพียะ!
“อยากจะให้เขาดูแลเป็นการส่วนตัวอยู่งั้นเหรอ เธอไร้ยางอายขนาดไหนกัน?!”
“ถ้าเธอคิดจะทำตัวไร้ยางอายแบบนี้ต่อไป ฉันจะทุบตีเธอให้เละ จะได้ช่วยให้เธอรักษาหน้าตัวเองไว้บ้าง”
ไป๋อวี้ซิ่วยกมือปิดแก้ม เธอจ้องมองเจียงหว่านด้วยความโกรธ
“เธอกล้าตบฉันเหรอ?!”
“โอ๊ย มันเจ็บนะ… ตอนนี้เธอทำฉันเจ็บไปทั้งตัวแล้ว ฉันจะออกไปฟ้องกองทัพ”
ขณะไป๋อวี้ซิ่วกำลังตะโกนอย่างนั้น เจียงหว่านก็คว้าคอเสื้ออีกฝ่ายมา แล้วลั่นมือตบหล่อนอีกหลายฉาด หลังจากนั้นก็ตรึงร่างไป๋อวี้ซิ่วไว้กับพื้นพลางรัวหมัดใส่ไม่ยั้ง
เสิ่นหรูเหมยเห็นเจียงหว่านลงมืออย่างนี้ ก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากลังเลสักครู่ เธอถามว่า “พี่สะใภ้เฉียว ช่วยฉันหน่อยได้ไหม ฉันก็อยากจะลองบ้าง!”
เจียงหว่านรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้น และเห็นหญิงสาวใบหน้าอ่อนโยน แววตาสดใสดุจน้ำในลำธาร ทว่าเวลานี้หล่อนกำลังกำหมัดแน่น พร้อมใบหน้าที่ดูตื่นเต้น
“ได้สิ เอาเลย!”
เสิ่นหรูเหมยดีใจมาก เธอวิ่งเข้าไปพร้อมกับเหวี่ยงมือตบหน้าไป๋อวี้ซิ่วทันที
“โอ้ว มันเจ็บมือนิดหน่อยแฮะ!”
เจียงหว่านหัวเราะเบา ๆ “นี่คือกฎการแลกเปลี่ยน ถ้าเธอตีหล่อน เธอก็จะเจ็บมือ แต่รับประกันเลยว่าใบหน้าของหล่อนจะเจ็บกว่าแน่”
“หรือถ้ารู้สึกว่าเจ็บมือ ทำไมไม่ลองกำหมัดดูล่ะ!”
หลังพูดจบแล้ว เจียงหว่านก็กำหมัด และแสดงให้ดูเป็นตัวอย่าง พลันเสิ่นหรูเหมยเองก็เริ่มทำตาม พอเธอชกออกไปแล้ว เธอก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเจ็บเหมือนตอนใช้ฝ่ามือตบ
“ไม่เจ็บจริงด้วย!” เสิ่นหรูเหมยยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้น
เดิมทีพ่อตาของเธอมีลูกสะใภ้ และหล่อนคนนั้นเหมือนกับไป๋อวี้ซิ่วทุกอย่าง เป็นหญิงสาวที่ชอบพูดจาไร้สาระ และทำตัวไร้ยางอาย
ก่อนสามีเธอจะเสียชีวิต ผู้หญิงคนนั้นทำตัวไร้ยางอายตลอดเวลา มันทำให้เธอไม่พอใจมาก
แต่เพราะเธอเป็นคนจิตใจดี จึงทำได้เพียงระงับความโกรธไว้เท่านั้น
ตอนนี้เธอเห็นไป๋อวี้ซิ่วถูกทุบตีอย่างหนัก เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเมื่อเธอได้ทุบตีหล่อนดูบ้าง มันก็ยิ่งสบายใจ!
หลังจากออกแรงชกไปไม่กี่ครั้ง เธอรู้สึกว่าสายตาที่ตนใช้มองไป๋อวี้ซิ่ว นังมารร้ายคนนี้ เปลี่ยนไป ความคับข้องทั้งหมดที่ฝังแน่นในใจปะทุออกมา ภาพอดีตที่เจ็บปวดหวนกลับมาอีกครั้ง การออกแรงของเธอจึงรุนแรงตามไปด้วย
“ผู้หญิงอย่างเธอเอาแต่สร้างปัญหา น่ารำคาญ สมควรจะโดนแล้ว!”
“ฉันจะตีเธอให้ตาย ฉันจะทำให้เธอรู้ผิดชอบชั่วดีซะบ้าง จะได้เลิกสร้างความขัดแย้งให้พี่สะใภ้สักที”
หมัดของเสิ่นหรูเหมยรัวออกไปราวกับห่าฝน
เจียงหว่านไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวใด ๆ เลย
ตอนนี้ ไป๋อวี้ซิ่วถูกทุบตีจนใบหน้าบวมเป่ง คราวแรกเธอยังมีแรงตะโกนสาปแช่ง แต่เวลานี้เธอทำได้เพียงหุบปาก
และกำลังหาโอกาสวิ่งหนี
ทว่าก่อนที่จะหนีออกไป เธอกลับรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงที่ข้อเท้า และจะล้มลงอีกครั้ง
ชายร่างใหญ่ทั้งหลายในฟาร์มเพียงยืนรับชมอย่างเงียบ ๆ ไม่มีใครคิดจะเข้ามาห้ามปราม และรู้สึกมีความสุขที่ได้รับชมสถานการณ์เช่นนี้มาก
แต่หลิวกุ้ยหลินเป็นชายหนุ่มสัตย์ซื่อ เวลานี้เขาอดทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงเดินเข้ามาหาเจียงหว่าน แล้วถามอย่างกังวล
“พี่สะใภ้ แบบนี้จะดีเหรอ? พวกเราอยู่ในค่ายทหาร จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหล่อนวิ่งไปร้องเรียนล่ะ?”
เจียงหว่านเลิกคิ้ว “กลัวอะไร?”
“เป็นฉันกับเสิ่นหรูเหมยที่ทุบตีหล่อน คนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก อีกคนหนึ่งเป็นภรรยาของทหาร พวกเราไม่ใช่คนในค่ายทหารสักหน่อย”
“หล่อนมั่วผู้ชายและคิดไล่ล่าสามีคนอื่น ทั้ง ๆ ที่ฉันยังยืนอยู่ตรงนี้ แต่หล่อนกลับต้องการให้สามีของฉันรับใช้อย่างใกล้ชิด แล้วฉันควรจะทำยังไงล่ะ? ประเคนสามีให้งั้นเหรอ? คำขอไร้ยางอายอย่างนี้ไม่ควรถูกสั่งสอนรึยังไง?”
เสี่ยวไช่หันมากล่าวกับหลิวกุ้ยหลิน “ใช่ พี่สะใภ้พูดถูกแล้ว ถึงพี่สะใภ้จะเป็นภรรยาของทหาร แต่ก็ไม่ควรถูกคนอื่นรังแกเอาได้!”
“กุ้ยหลิน เลิกทำตัวเป็นคนดีได้แล้ว”
หลิวกุ้ยหลินเกาศีรษะ “ความจริงผมก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ควรจะโดนสักที เอาเถอะ งั้นผมไปทำอาหารก่อนนะ จะถือว่าไม่เห็นอะไรแล้วกัน!”
ได้ยินเขาพูดแบบนั้น ทุกคนก็ระเบิดหัวเราะออกมา
ไป๋อวี้ซิ่วโกรธจัดจนหายใจไม่ออก เธอกลอกตาไปมา ก่อนจะเป็นลมหมดสติไป
เสิ่นหรูเหมยเห็นอย่างนั้นก็หยุดต่อย ก่อนจะอุทานออกมา “เอ๋ ฉันทุบตีหล่อนจนตายเลยเหรอ?”
เจียงหว่านชี้ไปที่หูของตัวเอง ก่อนจะพูดว่า “ฟังสิ”
เสิ่นหรูเหมยจึงหยิบหูฟังขึ้นมาตรวจสอบ แล้วกล่าวว่า “อวัยวะภายในยังปกติดี แต่ฉันไม่พบสมองของเธอ”
ทุกคนหัวเราะเสียงดัง
เจียงหว่านหัวเราะร่า ก่อนจะพูดว่า “เธอตีหัวหล่อนแบบนั้น แล้วการฟังอวัยวะภายในของเธอจะมีประโยชน์อะไรล่ะ”
เวลานั้นเองเสิ่นหรูเหมยรู้แล้วว่าเจียงหว่านแกล้งเธอ ใบหน้าของเธอแดงก่ำ แก้มป่องขึ้นเหมือนปลาปักเป้า
ทุกคนจึงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้ง
ทันใด ทหารที่ออกไปด้านนอกก็กลับเข้ามา
“หัวหน้า มีคนบอกว่าพวกเขามาจากหมู่บ้านนายพราน เห็นหมูป่าติดกับดักของพวกเรา พวกเขาเลยต้องการมัน”
เจียงหว่านแผดเสียงทันที “ว่าอะไรนะ! ฉันเป็นคนจับมันได้ ทำไมถึงกล้ามาเอามันไป!”
เธอหันหาไม้นวดแป้งทันที ในสายตาของเธอสิ่งนี้เปรียบได้กับมีดพร้าเลยทีเดียว
ไม้นวดแป้งนี้เธอกลับมาจากโรงพยาบาลทหารด้วย เพราะสิ่งนี้มีไว้เพื่อสั่งสอนเฉียวเหลียนเย่โดยเฉพาะ
เฉียวเหลียนเฉิงเห็นความตั้งใจของเธอ เขาจึงรีบเข้าไปในห้อง และหยิบมันออกมาให้
เจียงหว่านยัดไม้นวดแป้งเหน็บบนหลัง ก่อนจะรีบออกจากฟาร์มด้วยความรวดเร็ว
เฉียวเหลียนเฉิงเกรงว่าเธอจะเป็นอันตราย จึงรีบวิ่งไล่ตามไป
มู่เหย่อยากจะตะโกนบอกว่า ‘พวกนั้นเป็นพวกของเรา ไม่เห็นต้องกังวลเลยนี้!’
แต่ก่อนที่จะเอ่ยปาก ทุกคนก็หายตัวไปแล้ว
เขาทำได้เพียงไล่ตามทุกคนไปเท่านั้น
ด้านนอกกำแพง ทันทีที่เจียงหว่านมาถึง ผู้ชายจากหมู่บ้านนายพรานก็กำลังหาวิธีเอาหมูป่าออกจากกับดักอยู่
ใครบางคนกระทืบกับดัก และกำลังจะส่งใครอีกคนลงไปมัดหมู แล้วป่าที่หมดสติขึ้นมา
แต่เจียงหว่านก็มาถึงเสียก่อน
“นี่!”
“ใครกล้าแตะต้องหมูป่าของฉัน!”
เธอตะโกนเสียงดังจนคนที่ถือไม้ตื่นตระหนก ปล่อยไม้ล้มลงครืน
“เหมินชวน นั่นมันนังสารเลวที่วางยาพี่ชาน”
“เธอเองเรอะ!”
ผู้ชายแปดคนจากหมู่บ้านนายพรานอยู่ที่นี่ ผู้นำคราวนี้คือเหมินชวนเป็นลูกสมุนตัวน้อยของพี่ชาน
เมื่อวานเขาไม่อยู่ในหมู่บ้านเพราะขึ้นไปบนภูเขา
พอวันนี้กลับมาก็ได้ข่าวว่า พี่ชานถูกวางยาพิษจนต้องเสียสติและพิการไปตลอดชีวิต
เขาจึงคิดตามหาผู้หญิงคนนั้นเพื่อจะล้างแค้นให้กับพี่ชาน แต่เมื่อได้ยินว่ามีหมูป่ามาติดกับดักที่ฟาร์ม เขาก็รีบพาคนออกมาโดยยังไม่ทันได้ทำอะไร
และเพื่อไม่ให้มีคนขัดขวางการล้างแค้นให้พี่ชาน เขาจึงทิ้งโย่วเสี่ยวซานไว้คนเดียว และใช้ทางลัดมาที่นี่
หลังได้ยินคำพูดนั้น เหมินชวนหันศีรษะกลับมอง แล้วหักข้อมือตัวเองดังกรึก!
เขาจับจ้องเจียงหว่านด้วยสายตาเย็นชา “เธอพูดเรื่องอะไร หมูป่าของเธองั้นเหรอ?”
เจียงหว่านจ้องมอง “ใช่น่ะสิ ฉันเป็นคนจับหมูป่าตัวนี้ได้ เพราะงั้นมันเป็นของฉัน! พวกนายคิดจะทำอะไร? จะขโมยมันไปงั้นเหรอ?”
เหมินชวนหัวเราะ “นังบ้า ใครขโมยกัน? ฉันเป็นคนเลี้ยงหมูป่าตัวนี้มานะ!”
เจียงหว่านหัวเราะ “ฮ่า ๆ ปั้นน้ำเป็นตัวชัด ๆ ทำไมถึงกล้าพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าฉัน?!”
“ตอนฉันลงจากภูเขา มีชาวบ้านบอกว่าหมูป่าเข้าไปทำร้ายพวกนายบ่อย ๆ แล้วแบบนี้นายจะบอกว่าเลี้ยงมันได้ยังไง”
“และถ้านายเป็นคนเลี้ยงมันอยู่ นายคิดว่ามันจะไม่ดีใจเมื่อได้เห็นเจ้าของเลยเหรอ?”