เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 224 ทั้งสองเข้าใจกันดี
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 224 ทั้งสองเข้าใจกันดี
บทที่ 224 ทั้งสองเข้าใจกันดี
เฉียวเหลียนเฉิงโกรธจนกัดฟันกรอด “เจียงหว่านออกไปซะ! อย่าบังคับผม!”
เจียงหว่านตะโกนโดยไม่หันกลับไปมอง “อย่าส่งเสียงดังสิ นายคอยดูอยู่ข้าง ๆ ก็พอ!”
ทันทีที่พูดจบ เธอก็เห็นหมูป่ากำลังพุ่งเข้ามาหา เจียงหว่านจึงรีบเก็บผ้าสีแดง และเบี่ยงตัวหลบ
หมูป่าเกลียดสีแดง สีแดงสามารถกระตุ้นความโกรธได้ และทำให้รู้สึกพลุ่งพล่าน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ ความโกรธและความพลุ่งพล่านจะทำให้เกิดความโกลาหลมากขึ้น
การพุ่งชนทั้งสองครั้งของมันล้มเหลว แต่ผ้าสีแดงยังคงแกว่งไปมาอยู่ข้างหน้า นั่นยิ่งทำให้เจ้าหมูป่าโกรธเข้าไปอีก
มันหยุดอยู่กับที่ ก้มหัวลงต่ำ และคำรามอย่างดุร้าย ก่อนจะเอาเท้าหน้าตะกุยกับพื้นอย่างรุนแรง
เมื่อเห็นท่าทีของมัน เฉียวเหลียนเฉิงก็ยิ่งกังวล เขาจึงรีบวิ่งไปหาเจียงหว่าน
แต่เจียงหว่านวางแผนไว้แล้ว เมื่อเธอเห็นว่าหมูป่าโกรธมาก เธอก็รีบเดินหลอกล่อไปที่กับดัก
หมูป่าตะกุยรุนแรงส่งตัวพุ่งกระโจนไปข้าง วิ่งเข้าหาผ้าสีแดงอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อเธอเห็นหมูป่ากำลังจะชนเข้ากับตัวเอง เจียงหว่านก็เบี่ยงหลบอย่างรวดเร็ว พร้อมกับดึงผ้าสีแดงออก
หมูป่ามีแรงมากอยู่แล้ว และเมื่อมันพุ่งตัวใส่เต็มกำลังก็ไม่อาจยั้งฝีเท้าได้ทันที เจ้าหมูป่าที่พุ่งหากับดัก พยายามหยุดฝีเท้าเต็มที่
ทุกคนเห็นความตั้งใจของเจียงหว่าน และคอยเฝ้ามองด้วยดวงตาเบิกกว้างอย่างกังวลอยู่ตลอด
เสิ่นหรูเหมยอยู่บนกำแพง เธอมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด และทุกครั้งที่เห็นหมูป่าพุ่งใส่เจียงหว่าน เธอก็กำหมัดแน่นด้วยความกังวล และอ้าปากค้างด้วยความลุ้นระทึก ทว่าไม่สามารถส่งเสียงใดออกไปได้
และน่าเสียดายที่เมื่อหมูป่าเห็นว่าผ้าสีแดงหายไป มันก็พยายามหยุดอย่างกะทันหัน
การหยุดกะทันหันนี้ทำให้กีบเท้าหน้าของมันขูดกับพื้นจนเป็นรอย
กระทั่งเจ้าหมูป่าหยุดสนิท และมันก็อยู่ห่างจากกับดักประมาณครึ่งเมตร
ทุกคนพากันถอนหายใจ
หมูป่าที่รู้สึกตัวแล้วหันมองหาเจียงหว่าน
ขณะเดียวกัน มู่เหย่ก็ล่อหมูป่าอีกตัว
แต่เขาไม่มีทักษะในการใช้ผ้ามากนัก และผลที่ได้ก็ออกมาไม่ค่อยดี
แต่เฉียวเหลียนเฉิงดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มจึงวิ่งไปคว้าผ้าสีแดงจากมือของอีกฝ่าย
”ฉันเอง!”
เจียงหว่านมองเฉียวเหลียนเฉิง ทั้งสองดูเหมือนจะเข้าใจความคิดของกันและกันในทันที
เจียงหว่านตะโกนลั่น “ทุกคน ถอยออกไป!”
ทุกคนรีบถอยไป และคอยยืนดูอยู่รอบ ๆ
เจียงหว่านล่อหมูตัวใหญ่ และเฉียวเหลียนเฉิงล่อหมูตัวเล็ก
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉียวเหลียนเฉิงทำอะไรแบบนี้ ในสมัยนี้ยังไม่มีทีวี เขาจึงไม่สามารถรู้ได้ว่าการสู้วัวกระทิงคืออะไร
แต่เขาเห็นสิ่งที่เจียงหว่านทำ เฉียวเหลียนเฉิงจึงพอเข้าใจได้ เพราะความหัวไว
ชายหนุ่มถือผ้าสีแดงแล้วเขย่า และเมื่อเห็นแววตาของหมูป่า เท่านี้ก็พอเข้าใจแล้ว
พอเห็นหมูป่ากำลังจะชนตนเอง เฉียวเหลียนเฉิงก็สะบัดผ้าสีแดงขึ้น และหมูป่าก็กระเด็นออกไปด้านข้าง
พอเห็นแบบนี้แล้ว เฉียวเหลียนเฉิงจึงเข้าใจอย่างถ่องแท้
ด้านเจียงหว่านก็วิ่งเข้ามาพร้อมผ้าสีแดง “มาเล่นกันเถอะ!”
เฉียวเหลียนเฉิงขมวดคิ้ว “ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป!”
เจียงหว่านโต้ว่า “ถ้านายยืนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องก็ไม่ต้องกลัวหรอก เราแค่ต้องไว”
“ครั้งนี้มันยังมาแค่สองตัว ถ้าจัดการไม่ได้แล้วคราวหน้ามันเอาพวกมาเป็นฝูง แล้วฟาร์มจะเหลืออะไร?”
เฉียวเหลียนเฉิงเข้าใจ แต่เขาแค่ไม่อยากให้เจียงหว่านมาเสี่ยงอันตราย
เมื่อเห็นความลังเลของชายหนุ่ม เจียงหว่านจึงตัดสินใจแทนเขา “เอาล่ะ ตกลงตามนี้”
พูดจบ เธอก็ยืนหันหลังให้เฉียวเหลียนเฉิง จากนั้นเดินไปข้างหน้าสามสี่เมตร
เฉียวเหลียนเฉิงรู้ถึงนิสัยดื้อรั้นของภรรยาดี เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากยอม ชายหนุ่มจึงเดินไปเข้าที่อย่างจนปัญญา
เจ้าหมูป่าตัวเล็กหันกลับมามอง มันตะกุยเท้าหน้า แล้วรีบพุ่งเข้าหาเฉียวเหลียนเฉิงทันที
เมื่อเห็นหมูป่ากำลังวิ่งเข้ามาอีกครั้ง เฉียวเหลียนเฉิงก็ตะโกน
“หว่านหว่าน!”
เจียงหว่านตอบรับ เมื่อหมูป่าทั้งสองตัววิ่งมาและกำลังจะพุ่งชนผ้าสีแดง
เจียงหว่านตะโกนสั่ง “ถอย!”
สิ้นเสียง ทั้งเจียงหว่านและเฉียวเหลียนเฉิงก็ถอยกลับไปคนละด้าน พลันสะบัดผ้าสีแดงออก
ชั่วขณะที่หมูป่าทั้งสองชนเข้ากับผ้าสีแดง พวกมันมองไม่เห็นกัน เพราะสายตาถูกผ้าแดงล่อไว้ พอพุ่งชนผ้าสีแดงสำเร็จ ผลกลับกลายเป็นว่ามันพุ่งชนกันเอง
ตึง!
หมูป่าทั้งสองเข้าปะทะกัน
แรงปะทะของพวกมันรุนแรงมาก รุนแรงจนทุกคนที่ยืนดูอยู่ต้องกัดฟัน และรู้สึกเจ็บปวดแทนพวกมัน
ทว่า…ยังไม่จบ
หลังจากชนกัน หมูป่าทั้งสองตัวก็พยายามดิ้นลุกขึ้น แต่ขามันพันอยู่กับผ้าสีแดง ทำให้พวกมันสะดุดล้มลงไปอีกครั้ง
ดวงตาของเจียงหว่านเป็นประกายทันทีเมื่อเห็นสิ่งนี้ เธอรีบไปหยิบผ้าสีแดงที่เหลือขึ้นมาจากพื้น แล้วพันรอบหมูป่าทั้งสองตัวไว้
พันขาหน้าก่อนแล้วจึงพันหัว
ผ้าสีแดงนี้เป็นผ้าจากตอนที่ก่อตั้งฟาร์มครั้งแรก เดิมทีมันยาวประมาณสิบเมตร แม้ก่อนหน้านี้เจียงหว่านจะตัดแบ่งครึ่งมันแล้ว แต่ก็ยังยาวอยู่มาก
ตอนนี้เจียงหว่านคลี่ส่วนที่เหลือออก กลายเป็นผ้าผืนยาวที่พันได้หลายทบ เธอจึงเอามาพันรอบหมูป่าทั้งสองให้แน่น
สิ่งสำคัญที่สุดคือการผูกปลายทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน
”มาช่วยหน่อยเร็ว!”
แม้ว่าทุกคนจะมาช่วยกัน แต่หมูป่าทั้งสองก็ยังดิ้น และส่งเสียงคำรามไม่หยุด
เมื่อเห็นว่ากำลังจะสูญเสียการควบคุม เจียงหว่านก็เริ่มวิตกกังวล เธอกระโดดขึ้นและกดน้ำหนักลงไปที่ตัวของหมูป่า
ภาพที่เห็นตอนนี้คือมีหมูป่าสองตัววางซ้อนกัน และมีเจียงหว่านก็กดน้ำหนักลงไป ปราบปรามมันทั้งสองไว้
เห็นแบบนี้ เฉียวเหลียนเฉิงก็รีบวิ่งไปดึงเจียงหว่านออก
“มานี่ มาช่วยกันกด!” เขาหันไปสั่งเหล่าทหาร
ด้วยคำสั่งของเขา เสี่ยวไช่ หลี่จ้วงจ้วง และคนอื่น ๆ ก็เข้ามา และช่วยกันกดหมูป่าอย่างแรง
เสียงกรีดร้องโหยหวนของหมูป่าดังขึ้น เสียงนี้ได้ยินไปไกลมาก
คนในฟาร์มเกือบทุกคนช่วยกันกดพวกมันไว้ หมูป่าค่อนข้างตัวยาว พวกเขาจึงช่วยกันได้หลายคน พวกเขากดทั้งสองตัวทั้ง ๆ ที่มันทับกันอยู่ มีคนที่กดส่วนหัวไม่มาก และเจ้าหมูตัวบนไม่ได้เจ็บนัก แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหมูตัวล่างจะโชคร้ายไปหน่อย
เป็นเวลานานที่ทุกคนพยายามจับหมูป่าทั้งสองตัวไว้ กระทั่งหมูป่าทั้งสองไม่ส่งเสียงใด ๆเล็ดลอดออกมาแล้ว
เจียงหว่านใช้นิ้วจิ้มหัวหมูป่าจึก ๆ แต่มันไม่มีการตอบสนอง
“ตายแล้วเหรอ ไม่สิ อาจจะแค่เป็นลมหรือแกล้งตายก็ได้!”
เสี่ยวไช่ที่กำลังกดอยู่ด้านบนถามว่า “เราควรทำยังไงดี ต้องกดมันต่อไปแบบนี้ใช่ไหม?”
เจียงหว่านลูบคางครุ่นคิด “ทนทำไปก่อน”
เสิ่นหรูเหมยผู้เฝ้าดูอยู่บนกำแพงพูดขึ้นว่า “ทำให้มันเลือดออกสิ ถ้าเลือดออก ไม่ตายก็ต้องตายแล้วแหละ”
เจียงหว่านตบมือดังฉาด “เข้าท่า มู่เหย่ ฉันยืมมีดสั้นหน่อย!”
“อื้อ!” มู่เหย่ยื่นมีดสั้นให้
มีดนั้นมีขนาดเล็กสวยงาม ทั้งยังมีอัญมณีฝังอยู่ด้วย
เจียงหว่านเหลือบมองอย่างสงสัย “โอ้โห มีดเล่มนี้สวยจัง ดูเหมือนของโบราณเลย เป็นมรดกตกทอดจากครอบครัวนายหรือเปล่า?”
มู่เหย่เขินอายเล็กน้อย “ส่งต่อมาจากปู่น่ะ พี่น้องทั้งห้าคนมีคนละอัน แต่ช่างมันเถอะ ลงมือได้แล้ว!”
เจียงหว่านดึงมีดออกมา แล้วแทงไปที่คอหมูป่า
แต่มันก็ไม่ได้เจาะทะลุทันที
“หนังหมูป่าหนามาก เธอต้องใช้แรงหน่อย มีดนี้เป็นสมบัติล้ำค่า มันคมขนาดใช้ตัดเหล็กได้เลยนะ แค่ต้องออกแรงหน่อย!” มู่เหย่อธิบาย และให้คำแนะนำ
เจียงหว่านคร่ำครวญ และยื่นมีดให้เฉียวเหลียนเฉิง
เฉียวเหลียนเฉิงหยิบมีดขึ้นมาดู แต่เมื่อเขาเห็นตัวอักษรสองสามตัวที่สลักอยู่บนนั้น ดวงตาก็หรี่ลง และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป!