เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 223 ช่วยเฉียวเหลียนเฉิงหลอกล่อหมูป่า
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 223 ช่วยเฉียวเหลียนเฉิงหลอกล่อหมูป่า
บทที่ 223 ช่วยเฉียวเหลียนเฉิงหลอกล่อหมูป่า
เนินลาดเล็ก ๆ นั้นไม่ได้สูง และกับดักที่เฉียวเหลียนเฉิงกับคนอื่น ๆ วางไว้ก็มีความลาดชันเพียงเล็กน้อย
เฉียวเหลียนเฉิงวิ่งมาโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใด ตามหลังมาด้วยเสี่ยวไช่
ก่อนที่เจียงหว่านจะวิ่งขึ้นไป เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกลิ้งลงมา
และผู้หญิงคนนั้นก็บังเอิญกลิ้งลงมาอยู่แทบเท้าเธอ
เจียงหว่านมองด้วยความประหลาดใจ
“ไป๋อวี้ซิ่ว เธอมาทำอะไรที่นี่?”
มู่เหย่ที่อยู่ข้างหลังมองอย่างสงสัย “เพื่อนเธอเหรอ?”
เจียงหว่านหน้ามุ่ย “ฉันไม่มียัยดอกบัวขาวใจดำขนาดนี้เป็นเพื่อน”
มู่เหย่ถอนหายใจออกมา
ช่วงขณะนั้น เสียงคำรามของหมูป่าก็ดังมาจากด้านบนอีกครั้ง เจียงหว่านกังวลเกี่ยวกับเฉียวเหลียนเฉิง เธอจึงหันไปมองมู่เหย่
“นายดูยัยนี่ไว้ ฉันจะขึ้นไปดูตรงนั้น”
แล้วเธอก็วิ่งไปโดยไม่ให้โอกาสมู่เหย่ปฏิเสธ
บนเนิน เมื่อเจียงหว่านมาถึง เธอก็เห็นเฉียวเหลียนเฉิงและทหารหลายคนจากฟาร์มกำลังเริ่มต่อสู้กับหมูป่าสองตัวนั้น
มีหมูป่าสองตัว ตัวหนึ่งตัวใหญ่และตัวหนึ่งตัวเล็ก แต่เจ้าหมูป่าตัวเล็กก็มีเขี้ยวงอกแล้วเหมือนกัน พวกมันดูน่ากลัวมาก
เจียงหว่านรู้สึกว่าแบบนี้คงจะจัดการพวกมันไม่ได้แน่ แต่ถึงแม้ว่าเธอจะกังวล เธอก็ทำได้เพียงเฝ้าดูอยู่ที่ใต้ต้นไม้เท่านั้น
สัตว์ร้ายสองตัววิ่งอาละวาดให้วุ่น พวกมันแข็งแกร่ง และเขี้ยวของพวกมันก็อันตรายมาก
แม้แต่ต้นไม้ที่หนาพอ ๆ กับตัวมนุษย์ยังหักครึ่งเมื่อถูกพวกมันพุ่งชนแค่สองสามครั้ง
ทุ่งโล่งกว้างนอกกำแพงฟาร์มตอนนี้อยู่ในสภาพเละตุ้มเป๊ะ
เฉียวเหลียนเฉิงคว้าพลั่วด้วยมือขวา ก้าวไปข้างหน้า คิดจะฟาดหัวหมูป่าให้สลบ
แต่พวกมันก็ว่องไวมาก และเหมือนรับรู้ได้ว่าอันตรายกำลังมาถึงจึงรีบหลีกเลี่ยง
การหลบหลีกของหมูป่าทำให้เจียงหว่านอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องด้วยความประหลาดใจ
เฉียวเหลียนเฉิงเห็นว่าเขาไม่สามารถโจมตีมันได้สำเร็จในครั้งเดียว จึงทำได้เพียงเปลี่ยนวิธีการ และจิ้มไปที่ก้นของเจ้าหมูป่าแทน
แต่ก้นของมันก็หยาบและหนามากเช่นกัน มันไม่สนใจที่ถูกทุบตี ทั้งยังหันกลับมาหมายจะพุ่งชนเฉียวเหลียนเฉิงให้เต็มแรง
เฉียวเหลียนเฉิงรีบเบี่ยงตัวหลบหลีก และฟาดพลั่วลงไปอีกครั้ง
พลั่ก!
คราวนี้โดนเต็ม ๆ แต่ผิวหนังของเจ้าหมูป่าก็หนาเกินไป มันจึงไม่สะทกสะท้านเลย อีกทั้งยังไม่มีแม้แต่เสียงกรีดร้องออกมาด้วยซ้ำ
มันส่ายหัวไปมา และมองเฉียวเหลียนเฉิงราวกับเยาะเย้ย
เฉียวเหลียนเฉิงตะโกนสั่ง ขณะรับมือเจ้าหมูป่า “จ้วงจ้วง เสี่ยวไช่ นายเอาเชือกมาผูกมันไว้! ทำบ่วงมาผูกคอพวกมัน”
ด้วยคำสั่งของเขา ชายทั้งสองรีบไปเตรียมเชือกมาทันที
บ่วงถูกผูกอย่างรวดเร็ว แต่ว่าหมูป่าทั้งสองก็สามัคคีกันเสียจริง ๆ
ทันทีที่เชือกบ่วงพันรอบคอเจ้าหมูป่าตัวเล็ก เจ้าตัวใหญ่ก็รีบวิ่งไปกัดเชือก
และเมื่อเจ้าตัวใหญ่ติดบ่วง เจ้าตัวเล็กก็กัดเชือกให้ พวกมันคอยช่วยกันอย่างรู้ความ
“ไม่ได้การแล้ว เจ้าสองตัวนี้มันสามัคคีกันเกินไป เราต้องหาทางแยกพวกมัน” จ้วงจ้วงตะโกนอย่างหัวเสีย
เฉียวเหลียนเฉิงถามขึ้น “ทำไมเราไม่ขุดกับดักแล้วล่อมันเข้าไปล่ะ?”
จ้วงจ้วงตะโกน “ไม่ พวกมันไม่ตกหลุมพลางง่าย ๆ หรอกครับ ทุกครั้งที่มันไปถึงกับดัก พวกมันก็เบี่ยงหลบ และทำแค่เดินไปรอบ ๆ!”
“ลองดูก่อน!” เฉียวเหลียนเฉิงยังอยากลองก่อน
จ้วงจ้วงหยิบไม้ใหญ่ฟาดใส่หมูป่า แต่เจ้าหมูป่าเลี่ยงการโจมตีได้ และพยายามโจมตีจ้วงจ้วงกลับด้วย
จ้วงจ้วงจึงหันหลังวิ่งหนี และเมื่อเห็นว่าถึงกับดักแล้ว เขาก็รีบหลบไปด้านข้าง
เพื่อจะให้มันหลงเข้ามา
จากนั้นทุกคนก็พบว่าเจ้าหมูป่าเดินตามรอยเท้าของจ้วงจ้วงดีเกินไปจริง ๆ มันหลบหลุมกับดัก และทำแค่เดินไปรอบ ๆ เหมือนที่จ้วง ๆ ทำไม่มีผิด
เป็นเรื่องน่าแปลกที่หมูป่าเดินตามรอยเท้าได้อย่างแม่นยำขนาดนี้
นี่มันอะไรกัน หมูป่ากลายพันธุ์รึไง?
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ทันใดก็มีแสงแวบวาบเข้ามาในหัวของเจียงหว่าน เธอมองไปรอบ ๆ และทันใดนั้นก็เห็นเสิ่นหรูเหมยกำลังเฝ้าดูอยู่บนผนังไม่ไกล
“เสิ่นหรูเหมย! เสื้อสีแดงหรือผ้าสีแดงก็ได้ เอามาให้ฉันที ยิ่งแดงยิ่งดี!” เจียงหว่านตะโกนเสียงดัง
เสิ่นหรูเหมยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่เข้าใจว่าเจียงหว่านต้องการผ้าสีแดงไปทำอะไร เธอเอียงศีรษะงุนงง และครุ่นคิด
“เหมือนว่าจะมีอยู่นะ ฉันจะลองไปหาดู!”
เธอไม่ถามอะไรให้มากเรื่อง หันหลังกระโดดลงจากกำแพงอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เอง มู่เหย่ก็เข้ามาถามว่า “เธอจะเอาผ้าสีแดงไปทำอะไร?”
เจียงหว่านเพิกเฉยเขา เหลือบแขนของชายหนุ่มที่กำลังทำท่ากอดอกอวดดี
“ทำไมนายไม่ไปจับหมูป่า? มาหลบอยู่ตรงนี้ทำไม?!”
มู่เหย่เลิกคิ้ว “ฉันเป็นพลเมืองธรรมดา ไม่ได้มีพละกำลังอะไร สู้มันไม่ได้หรอก!”
เจียงหว่านแค่นหัวเราะ ทันใดนั้นก็นึกถึงไป๋อวี้ซิ่วขึ้นมาได้
“ยัยบัวขาวน้อยใจดำนั่นอยู่ที่ไหน!”
มู่เหย่ชี้ไปที่ต้นไม้ไม่ไกล “นั่น…หล่อนหมดสติไปแล้ว แต่ไม่ต้องห่วง เธอยังไม่ตาย”
“ว่าแต่ไอ้ ‘บัวขาวน้อยใจดำ’ นี่มันอะไร”
เจียงหว่านไม่ต้องการตอบ จึงบอกเพียงว่า “เดี๋ยวนายก็รู้เอง”
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนเธอจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างได้ จึงหันไปถามมู่เหย่
“นายมาจากเหยียนจิง นายจะต้องมีความรู้แน่ ๆ นายรู้จักการต่อสู้วัวกระทิงไหม?”
มู่เหย่ชะงักไปเล็กน้อย “ฉันรู้แค่ว่ามันเป็นงานอดิเรกในสเปน พวกเขาจะถือผ้าสีแดงแล้วเขย่าให้วัวเห็น แล้ววัวก็จะโจมตีผ้าสีแดงด้วยความโกรธ”
พอพูดแบบนั้น มู่เหย่ก็หยุดไปพักหนึ่ง “อา! เธอไม่ได้จะใช้วิธีนี้หลอกล่อหมูป่าใช่ไหม?”
“เฮ้ นั่นมันหมูป่านะไม่ใช่วัว!”
เจียงหว่านขัดจังหวะเขา “หมูป่าก็ไวต่อสีแดงเหมือนกัน ถ้าไม่ลองจะรู้ได้ยังไง!”
มู่เหย่พูดไม่ออก
จากนั้นไม่นาน เสิ่นหรูเหมยก็ได้ผ้าสีแดงมา เธอปีนขึ้นกำแพง แล้วโยนผ้าสีแดงลงไปให้เจียงหว่าน
“นี่ผ้าสีแดง ใช้ได้ไหม?”
เจียงหว่านพยักหน้า “ได้สิ ๆ ต้องใช้ได้”
เมื่อคลี่ผ้าสีแดงออก มันมีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว เจียงหว่านจึงเอื้อมมือออกไปดึงมีดสั้นออกจากเอวของมู่เหย่ แล้วตัดผ้าสีแดงให้เล็กลง
จากนั้นเธอก็ฉีกมันออกครึ่งหนึ่ง แล้วยื่นให้ชายหนุ่มเจ้าของมีด
“แบ่งกันคนละผืน เห็นทางที่จ้วงจ้วงวิ่งไปเมื่อกี้ไหม ตรงนั้นมีกับดักอยู่”
“ไม่ว่าจะเป็นใคร ขอแค่ล่อหมูป่าเข้าไปในกับดักให้ได้ก็พอ!”
มู่เหย่รับผ้าสีแดงมาถือ มือเขาสั่นเล็กน้อย “แน่ใจเหรอว่ามันจะได้ผล?”
เจียงหว่านส่ายหัว “ฉันไม่แน่ใจ แต่จะรู้ได้ยังไงถ้าไม่ลอง มู่เหย่ นายก็มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพ อย่าทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสียล่ะ นายทำได้!”
ขณะพูดแบบนี้ เธอก็กำหมัดชูขึ้นเพื่อให้กำลังใจมู่เหย่
มู่เหย่ยิ้มอย่างเบิกบาน “ขอบใจนะ!”
แม้ว่าเขาจะลังเล แต่เมื่อเห็นเจียงหว่านรีบวิ่งออกไปพร้อมกับผ้าสีแดง เขาก็อดไม่ได้ที่จะติดตามเธอไป
เจียงหว่านชูผ้าสีแดงขึ้น เธอเลียนแบบการสู้วัวกระทิง และตะโกนเรียกหมูป่า “นี่ ไอ้หมูโง่!”
ช่วงเวลานี้หมูป่ากำลังอยู่ในสภาพโกรธจัด พวกมันจึงไม่สนใจสิ่งที่เจียงหว่านพูดเลย
เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผล เจียงหว่านก็ทำได้เพียงวิ่งเข้าไปใกล้หมูป่ามากขึ้น พร้อมกับผ้าสีแดงในมือ
ขณะนี้ หมูป่ากำลังโกรธจัดเพราะถูกเฉียวเหลียนเฉิงหลอกล่อ มันคำรามหงุดหงิด และพุ่งเข้าหาเฉียวเหลียนเฉิงด้วยความบ้าคลั่ง
แล้วจู่ ๆ เจียงหว่านก็ปรากฏตัวขึ้น และส่ายผ้าสีแดงในมือต่อหน้ามัน
เฉียวเหลียนเฉิงจึงหลบการพุ่งชนของมันได้ ส่วนเจ้าหมูป่าก็เบนเป้า มันหันไปมุ่งโจมตีผ้าสีแดงแทน
เฉียวเหลียนเฉิงสับสนเล็กน้อยเมื่อเห็นสิ่งที่เจียงหว่านทำ “หว่านหว่าน คุณทำอะไรน่ะ?”
เจียงหว่านไม่สนใจ “ไม่ต้องห่วง ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ฉันเอง!”
เฉียวเหลียนเฉิงหน้าซีดด้วยความโกรธ “ไม่ได้นะ! พวกนี้ไม่ใช่พวกอันธพาลที่คุณเคยสู้นะ นี่มันหมูป่า!”
“หลีกไปซะ อยู่ห่าง ๆ มันไว้!” เฉียวเหลียนเฉิงพยายามห้าม
แต่เจียงหว่านไม่สนใจจะฟังเขาเลย เมื่อเธอเห็นหมูป่ามองมาที่ผ้าสีแดงในมือ เธอก็ตะโกนอย่างตื่นเต้น
“ใช่แล้ว ๆ มาเลย ๆ ไล่ตามฉันมาสิ!”
“เจ้าหมูโง่ หมูโง่ เจ้าหมูโง่ มาเลย ๆ ตามฉันมา!”
ขณะพูด เธอก็สะบัดผ้าสีแดงใส่หมูป่า แล้วกระโดดโลดเต้นไปรอบ ๆ