เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 219 เธอถูกลิงเตะเข้าที่สมองหรือไง
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 219 เธอถูกลิงเตะเข้าที่สมองหรือไง
บทที่ 219 เธอถูกลิงเตะเข้าที่สมองหรือไง?
เหตุการณ์วุ่นวายอยู่พักหนึ่ง หัวหน้าหมู่บ้านรีบขอให้เสี่ยวซานตามหาลุงฝู
ส่วนเจียงหว่านและคนอื่น ๆ ไม่สามารถทนดูเฉย ๆ ได้
หามทั้งสามมานอนลงกับพื้น ตอนนี้พวกเขามีอาการชักเกร็ง และน้ำลายฟูมปาก
ลุงฝูมาอย่างรวดเร็ว และเข้าใจสถานการณ์ทันที
“นี้มันพิษงู เราต้องให้เขากินสมุนไพรขับพิษ!”
ขณะพูด เขาก็หยิบยาออกจากกระเป๋าหนังที่ถือติดตัวมาด้วย
เพราะตอนนี้มืดแล้ว ทุกครัวเรือนจึงกลับบ้านไปหมด หัวหน้าหมู่บ้านและครอบครัวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมาช่วยด้วยตัวเอง
ลุงฝูหยิบยาออกมา ใช้มีดสับ คั้นน้ำสมุนไพร แล้วให้พวกเขาดื่มเพื่อจะได้อาเจียนออกมา
หลังจากทำแบบนี้หลายครั้ง ลุงฝูก็ขอให้ทั้งสามคนนอนลง และหยิบเข็มเงินออกมา และเริ่มฝังเข็ม
เข็มเงินของเขามีความพิเศษเล็กน้อย มันหนากว่าเข็มเงินทั่วไป และมีลักษณะคล้ายกับเข็มจักรเย็บผ้า
หลังจากดื่มยาไปไม่กี่ครั้ง เถาจื่อและคนอื่น ๆ ก็อาเจียนออกมา ทว่าสิ่งที่อาเจียนออกมาล้วนเป็นของเหลวสีดำทั้งหมด
แล้วทั้งสามก็สงบลงในที่สุด
เมื่อเห็นว่าปลอดภัยดีแล้ว ลุงฝูก็วางเข็มเงินลง แล้วพึมพำ
“ทำไมถึงถูกวางยาพิษได้ล่ะ? โชคดีที่พิษพวกนี้มันไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตในทันทีที่โดน ไม่อย่างนั้นพวกเธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว”
“ไร้สาระ พูดอะไรบ้า ๆ!”
เถาจื่อตื่นเป็นคนแรก
เธอลืมตาขึ้น ตอนแรกยังคงสับสนเล็กน้อย เมื่อรู้สึกตัวดีแล้วเธอก็อยากจะลุกขึ้น แต่กลับต้องนั่งลงบนพื้นอีกครั้งเพราะมือและเท้าอ่อนแรง
เถาจื่อลุกไม่ได้ จึงได้แต่นั่งแล้วชี้ไปที่เจียงหว่านพลางตะโกน
“หัวหน้าหมู่บ้าน ยัยอ้วนนั่นวางยาพิษในเหล้าเพื่อจงใจฆ่าฉัน!”
หัวหน้าหมู่บ้านและครอบครัวประหลาดใจเล็กน้อย พวกเขาจึงมองไปที่เจียงหว่าน
เจียงหว่านเย้ยหยัน “เหลวไหล ฉันคิดว่าถ้าเธอไม่ได้ถูกลิงเตะเข้าที่สมอง ก็คงถูกลิงกระชากหัวเข้าไปในส้วมแล้วแช่ไว้แล้วล่ะมั้ง เลยโง่เง่าได้ขนาดนี้น่ะ”
เถาจื่อจ้องเขม็ง “เธอแค้นฉัน เลยจงใจวางยาพิษในเหล้าเพื่อทำร้ายฉัน!”
เจียงหว่านยิ้ม เธอชี้ไปที่อาหารและเหล้าบนโต๊ะ “ลุงฝูคะ คุณช่วยเราตรวจสิ่งที่พวกเขากินได้ไหม ว่าถูกวางยาจากอะไร”
หลังจากคิดได้แล้ว ลุงฝูก็เดินไปที่โต๊ะ หยิบเข็มเงินออกมาตรวจดู
อาหารทุกอย่างดูไม่มีปัญหาอะไร
แต่พอตรวจสอบที่เหล้าในขวด เข็มเงินก็กลายเป็นสีดำ
ทุกคนมีท่าทีเปลี่ยนไป และแม่เสี่ยวสยงก็ตะโกนลั่น
“ไม่ใช่ฉันนะ เหล้าสามขวดนี้เทจากขวดเดียวกันทั้งหมด ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง!”
หัวหน้าหมู่บ้านเอามือประสานกันโดยไม่พูดอะไร
เสี่ยวซานรีบปลอบใจภรรยาของเขา และบอกเธอว่าไม่ต้องกลัว
ตอนนี้เจียงหว่านมองเถาจื่อ และพูดว่า “งั้นเธอก็คงวางยาพิษตัวเอง!”
เถาจื่อตะคอกกลับ “ไร้สาระ!”
เจียงหว่านแค่นเสียง เธอก้าวไปข้างหน้า และตบเถาจื่ออย่างแรง
เถาจื่อถูกตบ เธอก็พยายามจะลุกขึ้นเพื่อตอบโต้ แต่มือและเท้ายังคงอ่อนแอเกินกว่าจะลุกขึ้นได้
เจียงหว่านถามขึ้น “บอกฉันอีกที่สิว่าใครวางยาพิษเธอ?”
เถาจื่อตะคอก “เธอไงที่ทำ! ไม่ว่าเธอจะตบฉันกี่ครั้ง เธอก็เป็นคนทำ!”
เจียงหว่านได้คำตอบแบบนั้น เธอก็ตบเถาจื่ออย่างแรงอีกครั้ง
เถาจื่อคำรามอย่างอ่อนแรง “เธอนั่นแหละ! นังอ้วนสารเลวเป็นคนทำ! เธอมีความแค้นกับฉันเลยจงใจจะแก้แค้นฉัน!”
เพียะ! เพียะ!”
เจียงหว่านตบอีกสองฉาดทันที ตอนนี้เถาจื่อรู้สึกว่าใบหน้าบวมและชา
เธอมองหัวหน้าหมู่บ้านอย่างน่าสมเพช “หัวหน้า…”
“เธอตบฉัน นี่คุณคิดจะแค่ยืนดูอยู่เฉย ๆ เหรอ?”
หัวหน้าหมู่บ้านตะคอกด้วยความโกรธ และมองเถาจื่อด้วยสายตาที่รังเกียจ
เจียงหว่านหัวเราะเยาะ “เอาล่ะ ถ้าเธอบอกว่าเป็นฉัน งั้นบอกทีว่าทำไมเธอถึงรู้ว่ามีพิษอยู่ในเหล้า”
“แม้แต่ลุงฝูก็แยกความแตกต่างแทบไม่ออก เขาต้องทดสอบด้วยเข็มเงินถึงจะรู้ แต่เธอรู้ได้ยังไงว่าเหล้านั้นมีพิษ”
“อย่าบอกนะว่าเธอรู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติในเหล้า แต่ถ้ารู้สึกได้ แล้วทำไมเธอถึงยังดื่มมันอีก?”
“สมองเธอไม่ได้มีอะไรผิดปกติจริง ๆ ใช่ไหม?”
“อา ฉันเข้าใจแล้ว เธอถึงขั้นใส่ร้ายคนอื่นโดยใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อสินะ คงไม่คำนึงถึงว่าตัวเองจะตายเลยใช่ไหม?”
“เธอ…” ใบหน้าของเถาจื่อซีดลง
เถาจื่อแค่อยากแว้งกัดยัยอ้วนนี่ จนลืมคิดเรื่องนี้ไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อหันกลับไปมองหัวหน้าหมู่บ้านและคนอื่น ๆ อย่างละอายใจ ก็พบว่าสายตาของหัวหน้าหมู่บ้านที่ใช้มองเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ
นั่นทำให้เธอตื่นตระหนก
“ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดเรื่องอะไร ฉันจะกลับบ้าน สามีของฉันยังถูกมัดอยู่ที่บ้าน!”
หลังจากพูดจบ เถาจื่อก็ลุกขึ้น และเดินออกจากลานบ้านไปทันที
พี่ชานและต้าหลางก็ตื่นขึ้นมาในเวลานี้เช่นกัน และพวกเขาก็เดาเหตุการณ์ได้ชัดเจน
เมื่อเห็นทุกคนจ้องมองมา พี่ชานก็รีบชี้ไปที่เถาจื่อ “ฉันไม่รู้อะไรเลย ผู้หญิงคนนี้ทำทุกอย่าง”
ต้าหลางโชคร้ายกว่านั้น เพราะเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าเถาจื่อและพี่ชานวางแผนวางยาพิษเมื่อไหร่
แต่ตอนนี้เขาได้เห็นและเข้าใจทุกอย่างแล้ว
เขาจึงพูดออกมาด้วยความโกรธ “เถาจื่อ เธอโหดร้ายเกินไปแล้ว เธอวางยาพิษในเหล้าได้ยังไง เธอบ้าไปแล้วเหรอ?”
“อา…ฉันเวียนหัว ฉันคงต้องกลับก่อนแล้ว”
หลังจากพูดอย่างนั้น พี่ชานกับต้าหลางก็กำลังจะจากไปบ้าง
ทว่าตอนนั้นเอง เถาจื่อที่เพิ่งเดินไปถึงประตูลานบ้าน จู่ ๆ ก็ล้มลง มือและเท้าเริ่มเกร็งกระตุกอีกครั้ง
พี่ชานและต้าหลางที่ตามมาข้างหลังเธอก็เริ่มเซ และล้มลงหลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ขาและเท้าของพวกเขาก็เริ่มกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้อีกครั้งเช่นกัน
ทุกคนตกตะลึง
ลุงฝูรีบไปตรวจชีพจรดู แล้วก็พูดว่า “พิษนี้ไม่บริสุทธิ์ มันเป็นพิษงูปนกับสิ่งอื่น”
หลังจากหยุดชั่วครู่ เขาก็ถามเถาจื่อ “ยาพิษที่เธอใช้วางยาอยู่ที่ไหน”
เถาจื่อเกาคอของตัวเอง ใบหน้ากระตุก เธอตะคอกกลับไปว่า “ฉันจะรู้ได้ยังไง ฉันไม่ได้วางยาพิษสักหน่อย!”
ลุงฝูถอนหายใจ “ถ้าเธอบอกฉันว่ายาพิษอยู่ที่ไหน ฉันจะระบุได้ว่ามีพิษอะไรบ้าง หรือมีอย่างอื่น ๆ ไหม แบบนั้นพวกเธอถึงจะมีโอกาสรอด”
“ถ้าฉันไม่แน่ใจว่ามันเป็นพิษชนิดไหน แล้วฉันจะรักษาเธอได้ยังไงกัน”
เถาจื่อตกตะลึงเล็กน้อย และมองดูพี่ชานอย่างว่างเปล่า
พี่ชานจ้องมองอย่างดุเดือด “บอกสิ บอกว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่? เธออยากเป็นแบบนี้… ไป… ไปตลอดชีวิตรึไง?”
ขณะที่เขาพูด ปากของพี่ชานก็เริ่มกระตุก
เถาจื่อตัวสั่นด้วยความกลัว และชี้ไปที่สวนหลังบ้าน “ข้างรั้วหลังบ้าน”
เจียงหว่านตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และมองไปในทางนั้น มั่นใจว่าที่นั่นคือที่ที่มู่เหย่เดินไป
ดังนั้น ผู้หญิงที่เธอเห็นว่าสวมกางเกงสีน้ำเงินลายดอกไม้สีขาวก็คือ เถาจื่อ!
มู่เหย่ไม่ได้นัดพบกับเธอ แต่เขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงแอบตามไปเพื่อจับตาดูเธอเหรอ?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เจียงหว่านก็มองไปที่มู่เหย่อย่างรู้สึกผิด
ดูเหมือนว่าเธอจะกล่าวหาคนผิดซะแล้ว
ในทางกลับกัน มู่เหย่กลับดูเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เมื่อได้ยินเถาจื่อพูด เสี่ยวซานก็รีบไปหา ในไม่ช้าก็นำลูกธนูทำมือกลับมา
เถาจื่อกล่าวว่า “ฉันแช่ลูกธนูไว้ในน้ำแล้วเทลงในเหยือกเหล้า”
หลังจากพูดจบก็ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ จึงรีบตะโกน “แต่ฉันไม่ได้อยากจะวางยาเธอถึงตาย ฉันรู้ว่าถ้าใครถูกพิษจากการโดนธนูยิงก็จะตายอย่างรวดเร็ว แต่ถ้ากินเข้าไปตรง ๆ มันจะแค่ทำให้เป็นอัมพาตไปหลายวันเท่านั้น”
“ฉันวางแผนแค่ให้พวกเขาเป็นอัมพาต แล้วจะได้เอายัยอ้วนไปให้หนุ่มโสดในหมู่บ้าน”
เจียงหว่านแค่นเสียงเย้ยหยันเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ถ้าอย่างนั้น ผู้ชายโสดสามคนที่เหลืออยู่ในหมู่บ้านก็พร้อมให้เธอใช้งานแล้วล่ะมั้ง!”
เถาจื่อหันหน้าหนีทันที เธอกัดริมฝีปากโดยไม่พูดอะไรอีก