เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 216 เฉียวเหลียนเฉิงพบกับคู่ปรับด้านความรักแล้ว!
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 216 เฉียวเหลียนเฉิงพบกับคู่ปรับด้านความรักแล้ว!
บทที่ 216 เฉียวเหลียนเฉิงพบกับคู่ปรับด้านความรักแล้ว!
เจียงหว่านที่อยู่ข้าง ๆ ดวงตาเป็นประกาย รีบนำคำพูดของเฉียวเหลียนเฉิงมาขยายความต่อ เพื่อทำให้พวกเขาตกใจกลัว
“ฉันได้ยินมาว่า ตอนนี้กองทัพมีวิธีการจัดการกับเรื่องแบบนี้มากมายเลยนะ”
“พวกคุณคิดว่าเข้าไปหลบในภูเขาใหญ่แล้วจะรอดพ้นจากทุกอย่างสินะ แต่รู้รึเปล่าว่าตอนนี้กองทัพมีการจัดสรรเฮลิคอปเตอร์แล้ว มันเป็นเครื่องบินประเภทหนึ่งที่ด้านบนมีใบพัดหมุน บินขึ้นบินลงได้สะดวกมาก”
“ถึงตอนนั้นพวกคุณจะวิ่งวุ่นอยู่บนภูเขาใหญ่ คนที่อยู่ข้างบนก็มองเห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง”
เฉียวเหลียนเฉิงกับเสี่ยวไช่ต่างก็มองเจียงหว่านด้วยความประหลาดใจ
เรื่องเฮลิคอปเตอร์อะไรนั่น พวกเขายังไม่รู้กันเลย!
แต่ตอนนี้พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว มีแต่ต้องเล่นไปตามน้ำเท่านั้น ทั้งสองคนจึงทำหน้าทำตาภาคภูมิใจ
ส่วนมู่เหย่ที่อยู่อีกด้านอดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง มองเจียงหว่านด้วยสายตานึกสงสัย
กองทัพมีการจัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์นั้นเป็นเรื่องจริง ทว่าสถานการณ์ในประเทศตอนนี้ไม่ค่อยดี เพราะไม่มีงบประมาณ อีกทั้งเทคโนโลยียังไม่ทันสมัยเพียงพอ
มีกองกำลังเพียงแค่หนึ่งหรือสองกองเท่านั้นที่จะมีเฮลิคอปเตอร์ได้
อีกทั้งเรื่องนี้ยังเป็นความลับ แม้แต่เฉียวเหลียนเฉิงก็ไม่รู้เรื่องเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ
ส่วนเรื่องที่เขารู้เรื่องนี้ เพราะว่านามสกุลของเขาคือมู่ เขามักจะได้เห็นคนของกองทัพมาหาปู่อยู่บ่อยครั้ง
แต่ทำไมผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าถึงรู้ได้!
ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ คงต้องระวังเธอไว้สักหน่อยแล้ว!
แต่เขาคงไม่รู้ว่าอันที่จริงเจียงหว่านก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้ เธอแค่อยากทำให้หัวหน้าหมู่บ้านตกใจแค่นั้น
ซึ่งหัวหน้าหมู่บ้านก็ตกใจกลัวจริง ๆ ภูเขาใหญ่เป็นป้อมปราการเดียวของพวกเขา หากบนศีรษะมีดวงตาคอยจ้องมอง เช่นนั้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่างคงไม่รอดพ้นเงื้อมมือของกองทัพแน่
แล้วจะไปหลบที่ไหนได้!
หัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกทำอะไรไม่ถูก
แต่ทว่า คำสัญญาก็ไม่อาจพูดไปเรื่อยเปื่อยได้!
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่เอ่ยสิ่งใด แม่ของเสี่ยวสยงที่อยู่ด้านข้างจึงสะกิดโย่วเสี่ยวซาน
โย่วเสี่ยวซานที่ตะลึงงันในที่สุดก็รู้สึกตัว เขาหันไปมองลูกชายที่เพิ่งรอดจากความตาย และรวบรวมความกล้า
“พ่อ สหายเจียงกับหัวหน้ากองพันเฉียวพูดถูก พวกเรากลับตัวกลับใจกันเถอะ”
หัวหน้าหมู่บ้านประหลาดใจที่ได้ยินอย่างนั้น
โย่วเสี่ยวซานพูดออกมาด้วยความสลดใจ “ผมไม่อยากเห็นลูกชายตายไปต่อหน้าต่อตาอีกแล้ว”
“ถึงพวกเราจะต้มตุ๋นคนไปสักกี่หมื่นกี่แสนแล้วจะมีประโยชน์อะไร ถ้าไร้ทายาท แก่ไปยังไงก็ไม่มีคนคอยดูแล”
“ถึงเวลานั้น หมู่บ้านนายพรานก็คงจะต้องจบเห่แน่แล้ว!”
ประโยคสุดท้ายนี้เป็นดั่งมีดที่เสียบแทงเข้าไปในใจของหัวหน้าหมู่บ้าน
ร่างกายของเขาสั่นเทา ดวงตาแดงเรื่อขึ้นมา
เสี่ยวซานมองดูลูกชายของเขาเสียชีวิตไปแล้วหลายคน และทำได้เพียงเฝ้าดูโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
คิดว่าเขาไม่เจ็บปวดอย่างนั้นหรือ?
หัวหน้าหมู่บ้านครุ่นคิดอยู่นาน เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ “สิ่งที่ฉันยังคิดไม่ตกคือ หากหมู่บ้านพวกเรากลับตัวกลับใจ หลังจากนี้คนในหมู่บ้านจะเอาอะไรกิน?”
“เมื่อก่อนหมู่บ้านพวกเราก็เคยคิดจะหาเงินจากการขายของป่า แต่ว่าพ่อค้าหน้าเลือดก็คอยแต่จะกดราคา จนของแทบจะไม่มีราคา”
“อีกทั้งสมุนไพรที่เหล่าผู้ชายในหมู่บ้านเสี่ยงชีวิตไปหามา ก็ขายไม่ได้แม้แต่สตางค์เดียว!”
“พวกเราก็ไร้หนทางแล้ว!”
พูดมาถึงตรงนี้ หัวหน้าหมู่บ้านถอนหายใจด้วยความหดหู่
ส่วนพวกชาวบ้านต่างก็เงียบงัน บรรยากาศอบอวลไปด้วยความโศกเศร้า แม้แต่เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก็ฟังดูเบาบางลง
เจียงหว่านเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว เธอจึงยิ้มออกมา “หัวหน้าหมู่บ้าน ฉันขอถามหน่อย พวกคุณต้องการอะไรกันแน่?”
“เงิน หรือว่าอาหาร?”
หัวหน้าหมู่บ้านขมวดคิ้วมุ่น “เรื่องอาหาร ภูเขาของพวกเรามีมากมาย ข้าวและบะหมี่ข้างนอกขายแพงมาก ตอนที่พวกเราออกไปซื้อ พอคนพวกนั้นเห็นว่าพวกเรามาจากหมู่บ้านนายพรานก็ยังจะขึ้นราคาอีก”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ได้แต่ตาต่อตาฟันต่อฟัน”
เจียงหว่านถามต่อ “หากพวกเราใช้วัตถุดิบจากภายนอกนำมาแลกกับของในภูเขาของพวกคุณล่ะ”
หญิงสาวหยุดไปชั่วครู่แล้วจึงพูดเสริมอีก “เป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน”
หัวหน้าหมู่บ้านตกตะลึง “คุณพูดอะไร คุณยินยอมที่จะแลกเปลี่ยนอย่างนั้นเหรอ?”
เจียงหว่านพยักหน้า “ใช่”
“แต่ที่ฉันพูดคือราคาเท่าเทียมกัน พวกคุณก็ไม่สามารถขึ้นราคาได้ตามอำเภอใจ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลไกทางตลาด”
“พูดอีกอย่างคือ ฉันจะไม่กดราคาพวกคุณ”
หัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกยินดี หากไม่กดราคา พวกเขาก็จะได้กำไรจำนวนมาก
“คุณ คุณพูดจริงเหรอ?”
เจียงหว่านพยักหน้า “จริงสิ ฉันคือภรรยาของหัวหน้ากองพันเฉียว คุณไม่เชื่อฉัน หรือว่าไม่เชื่อสามีของฉันเหรอ?”
หัวหน้าหมู่บ้านมองเฉียวเหลียนเฉิงอย่างเชื่อมั่น
เพราะเฉียวเหลียนเฉิงมีรูปร่างหล่อ ดูเจริญหูเจริญตา
บวกกับทักษะของเขา และตำแหน่ง นั่นทำให้หัวหน้าหมู่บ้านเชื่อมั่นอย่างไม่ต้องสงสัย
“ดี ดีมาก ๆ สหายเจียง ตราบเท่าที่คุณแลกเปลี่ยนสินค้าโดยที่ไม่กดราคา พวกเราหมู่บ้านนายพรานก็จะไม่ต้มตุ๋นคนอีกต่อไป และจะไม่ทำเรื่องที่ผิดกฎหมายอีก”
“คนรุ่นต่อ ๆ ไปของหมู่บ้านเราก็จะมีอนาคตที่สดใส!”
เจียงหว่านยิ้มกว้าง “ได้ ตกลงตามนี้!”
“แต่ฉันยังต้องการคำสัญญาจากคุณอีกสักหน่อย”
หัวหน้าหมู่บ้านถามด้วยความประหลาดใจ “สัญญาอะไร พูดมาได้เลย!”
เจียงหว่านจึงพูดว่า “ฉันต้องการซื้อขายแต่เพียงผู้เดียวกับหมู่บ้านของพวกคุณ”
“ฉันไม่ได้เอากำไรจากพวกคุณ และนี่เท่ากับว่า ฉันเป็นตัวแทนในการนำของออกจากหมู่บ้านไปแลกเปลี่ยนให้ ฉันเป็นตัวแทนของพวกคุณ”
“แต่ว่า หมู่บ้านก็ต้องให้สัญญาว่าจะขายให้ฉันเพียงผู้เดียว ไม่สามารถขายให้คนนอกได้!”
หัวหน้าหมู่บ้านนิ่งเงียบ ราวกับว่ากำลังสับสน
เจียงหว่านยังคงพูดต่อ “หัวหน้าหมู่บ้าน คุณต้องเข้าใจ ฉันไม่ได้กำไรจากพวกคุณเลยนะ”
“ฉันเห็นคุณค่าของป่าจากหมู่บ้านนี้ ฉันจะนำมันออกไปแล้วสร้างคุณค่า ส่งไปยังเมืองใหญ่ ๆ ใช้ความลำบากในการแลกกำไรมา”
“แต่หากว่าคุณขายให้ใครก็ได้ ราคาขายที่พวกเขาให้คงต่ำกว่าฉัน เช่นนั้นแล้วไม่ต้องพูดถึงว่าจะได้กำไรเลย แต่พวกคุณยังจะขาดทุนอีกด้วย!”
เธอยังพูดชักชวนต่อ ทว่าหัวหน้าหมู่บ้านขัดคำพูดเธอ “คุณไม่ต้องพูดแล้ว คุณวางใจได้ ฉันรับปาก!”
คำสัญญาของเขาทำให้เจียงหว่านวางใจ ทว่ากลับทำให้บางคนไม่พอใจ
พี่ซานก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาไม่สนความเจ็บปวดอีก และตะโกนขัด
“ไม่ได้!”
ทุกคนมองเขาเป็นตาเดียว “ผู้หญิงคนนี้ปลิ้นปล้อนจะตาย อย่าเชื่อเธอเป็นอันขาด”
หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวอย่างไม่พอใจ “พอได้แล้ว! ฉันเป็นหัวหน้าของหมู่บ้านแห่งนี้ ยังไม่ถึงเวลาของคนรุ่นเธอจะบงการที่นี่!”
พี่ซานยังคงพูดต่อ ทว่ากลับถูกโย่วเสี่ยวซานยัดพุทราใส่ปาก ทำให้สงบปากสงบคำลงไป
ส่วนเฉียวเหลียนเฉิงที่บรรลุข้อตกลง เตรียมจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อจะดึงแขนและขาที่เคล็ดของพวกคนที่ถูกทำร้ายให้กลับเข้าที่
เมื่อเสี่ยวไช่เห็นจึงรีบรุดไปขวาง “หัวหน้าเดี๋ยวผมทำเอง”
วิธีการของเสี่ยวไช่ค่อนข้างหยาบกร้าน แต่ขณะนี้ก็ไม่มีใครกล้าตำหนิ คนบาดเจ็บทำได้เพียงกรีดร้อง และข้อต่อก็ต่อกลับคืน
เจียงหว่านกับหัวหน้าหมู่บ้านอยู่อีกด้านหนึ่ง พวกเขากำลังหารือกันเรื่องรายละเอียดในความร่วมมือ
และเวลานี้แม่ของเสี่ยวสยงเห็นว่าฟ้ามืดแล้ว จึงเสนอความคิดเห็นว่า
“เย็นนี้นอนที่หมู่บ้านก่อนนะ พรุ่งนี้ค่อยหารือกันใหม่ แล้วค่อยลงเขา”
“เพราะพวกคุณช่วยชีวิตเสี่ยวสยงไว้ ยังไงพวกเราก็ควรจะต้องต้อนรับอย่างดี! โปรดให้โอกาสนี้กับพวกเราด้วยเถอะ”
หัวหน้าหมู่บ้านเองก็พูดขึ้น
“พวกคุณพักอยู่ที่นี่ให้สบายใจเถอะนะ วันนี้ค่ำแล้ว จะลงเขาตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ดี”
“พรุ่งนี้ค่อยลงไปดีกว่า”
“พวกคุณวางใจได้เลย พวกเราหมู่บ้านนายพรานถึงแม้จะเลว แต่ก็มีหลักการที่ยึดถือ”
“พวกเรานับถือคำมั่นสัญญา ถ้ารับปากก็จะไม่มีวันผิดคำพูด หากพวกเรากลับคำพูด เทพเจ้าแห่งขุนเขาก็จะลงโทษพวกเราเช่นกัน!”
“ฉันรับรองว่าพรุ่งนี้เช้าพวกคุณจะลงจากภูเขาไปอย่างราบรื่น และหลังจากนี้ พวกคุณทั้งสามคือสหายของพวกเราหมู่บ้านนายพราน!”
“ไม่มีทางตัดขาดไปทั้งชีวิต!”
เจียงหว่าน “…”