เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 210 เฉียวเหลียนเฉิงบุกมาถึงหมู่บ้าน
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 210 เฉียวเหลียนเฉิงบุกมาถึงหมู่บ้าน
บทที่ 210 เฉียวเหลียนเฉิงบุกมาถึงหมู่บ้าน
แม่ของเด็กเบิกตากว้าง ก่อนจะหันมองหัวหน้าหมู่บ้านด้วยแววตาอ้อนวอน
“พ่อ!”
หากแต่หัวหน้าหมู่บ้านไม่สนใจ “ไร้สาระ เขาตายไปแล้ว จะทำอะไรได้อีก?”
“ในเมื่อเขาตายแล้ว ก็รีบปล่อยเขาไปตามทางของเขาเถอะ!”
เจียงหว่านพูดออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน “ให้ฉันลองก่อนได้ไหม ถ้าเขาตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ มันจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกหรือไง?”
หัวหน้าหมู่บ้านตกตะลึง
แต่เวลานี้เอง เถาจื่อผู้มีความแค้นกับเจียงหว่านก็กล่าวขึ้นว่า “อย่าไปสนใจเธอเลย เธอคงต้องการหาโอกาสหนีมากกว่า”
“ตอนต้าเจียวกับเสี่ยวเจียวจับตาดูเธอ เธอก็คิดหนี! ต้าเจียว เสี่ยวเจียว พวกเธอก็คิดแบบนั้นใช่ไหม?”
เสียวเจียวไม่ตอบ แต่ต้าเจียวเหลือบมองเจียงหว่านอย่างรังเกียจ
“ใช่ ตอนที่ฉันเฝ้าเธอไว้ เธอใช้โอกาสตอนเสี่ยวเจียวเข้าไปตักน้ำหลบหนีออกไป แต่หลังจากเห็นว่าเพื่อนถูกจับมาอีกครั้ง เธอก็รีบกลับมาเลย”
“ผู้หญิงคนนี้เจ้าเล่ห์มาก อย่าสนใจเลย ยัยนี่ไม่ใช่คนดีแน่นอน!”
เมื่อผู้หญิงทุกคนพูดอย่างนั้น ความคิดของหัวหน้าหมู่บ้านที่คิดจะปล่อยเจียงหว่านออกมาก็จบสิ้นทันที
แม่ของเสี่ยวสยงก็อยู่ในความโศกเศร้า ยังกอดลูกชายเอาไว้แน่น
เจียงหว่านกังวลและพยายามโน้มน้าวอีกครั้ง แต่ไม่มีใครสนใจเธอ
ขณะเดียวกันนี้ก็มีร่างของคนสองคนปรากฏตัวขึ้นที่ทางเข้าหมู่บ้านนายพราน ซึ่งเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก เฉียวเหลียนเฉิงกับเสี่ยวไช่
ทันทีที่ทั้งสองมาถึงทางเข้าหมู่บ้าน ก็มีชายร่างใหญ่ขวางทางพวกเขาไว้
ทั้งที่ตอนนี้เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง แต่ผู้ชายเหล่านั้นกลับสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น เปลือยอก กล้ามเนื้อบนร่างกายของพวกเขาปูดโปนจนเสื้อผ้าไม่จำเป็น ผิวหนังแวววาวเป็นมัน
“พวกแกเป็นใคร มาทำอะไรที่หมู่บ้านนายพราน?”
เสี่ยวไช่อธิบาย
หลังได้ยินแล้ว ชายร่างใหญ่ที่ยืนขวางทางก็ตะคอกดัง “มีเงินจ่ายหนึ่งพันหยวนไหม?”
เสี่ยวไช่กำลังจะบอกว่าเขามีเงินเพียงพอ แต่ทันทีที่ได้ยินจำนวนชัด ๆ เขาก็ชะงักค้างไปชั่วขณะ
“เท่าไหร่นะ?”
ชายคนนั้นตอบกลับ “หนึ่งพัน! พวกแกหูหนวกหรือไงฮะ?”
เสี่ยวไช่หันมองเฉียวเหลียนเฉิงด้วยความสับสน “ฉันได้ยินผิดเหรอ? คนที่มาแจ้งเราบอกว่า ต้องการแค่แปดร้อยหยวนไม่ใช่เหรอ?”
ก่อนเฉียวเหลียนเฉิงจะตอบ คนที่ขวางอยู่ก็พูดเสียขึ้นก่อน
“ใช่ ราคาเดิมคือแปดร้อยหยวน แต่ถ้าพวกแกอยากจะผ่านทาง ต้องจ่ายค่าผ่านทางให้ฉันสองร้อยหยวน”
“มีเงินพอไหม? ถ้าไม่พอก็กลับไปหามาซะ!”
เสี่ยวไช่โกรธจัดทันที “พวกแกมันโจรชัด ๆ ขนาดโจรข้างถนนยังมีสัจจะมากกว่าพวกแกเลย พวกแกมันกลับกลอกเพื่อสิ่งที่ต้องการ เลวยิ่งกว่าโจรเสียอีก!”
ชายที่ยืนขวางกลั้วหัวเราะ “ใช่ พวกเราเป็นโจร รู้ไหมว่าในหมู่บ้านนี้มีต้นกำเนิดมาจากอะไร?”
“หมู่บ้านของพวกเราเคยเป็นแหล่งซ่องสุมโจรมาก่อนที่จะได้รับอิสระไง”
“มายืนโต้เถียงกับเราที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ถ้ามีเวลามากนักก็รีบกลับไปหาเงินซะ!”
“พวกแกน่ะไปให้พ้นทาง ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันหยาบคาย!”
เสี่ยวไช่โกรธจนหน้ากลายเป็นสีม่วง เขาตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “พวกเราเป็นทหารจากกองทัพใกล้ ๆ นี้ และนี่คือผู้บังคับบัญชาของเรา!”
เสี่ยวไช่คิดว่าหลังจากบอกกล่าวสถานะของตัวเองไปแล้ว คนพวกนี้คงหวาดกลัว
แต่เขากลับได้ยินสิ่งที่ไม่คาดคิด เพราะเมื่ออีกฝ่ายได้ยินว่าพวกเขาเป็นทหาร พวกมันก็เย้ยหยัน
“อ้อ ทหารหรอกเหรอ? งั้นกลับไปหาหัวหน้าพวกแกไป๊!”
“โอ๊ย ๆ กลัวจังเลย! กลัวจริง ๆ!”
“ถ้าพวกแกเป็นแค่คนทั่วไปและมีเงินมาให้ ฉันก็ไม่คิดเตะถ่วงหรอก แต่เพราะพวกแกเป็นเจ้าหน้าที่ อย่างนั้นคงจะรวยสินะ!”
“เอาล่ะ งั้นเปลี่ยนจากหนึ่งพันหยวนเป็น… หนึ่งพันห้าสิบหยวนก็แล้วกัน!”
เสี่ยวไช่ตกตะลึง “อะไรนะ! นี่แกคิดจะอ้าปากพูดอะไรก็ได้งั้นเหรอ? นี่มันขึ้นราคาตามใจชอบเกินไปแล้ว!”
คนที่ยืนขวางหัวเราะออกมา “แล้วยังไง? ฉันจะขึ้นราคาตามใจชอบ แล้วมันจะทำไม?”
“ฉันจะบอกอะไรให้นะ บอกตามตรงฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าพวกแกเป็นทหาร แล้วเป็นทหารก็ควรจะเก่งสิ แต่นี่อะไร? สู้กับพวกเราไม่ได้ด้วยซ้ำ ทำไมถึงคิดเอาสถานะทหารมาอวดเบ่งวะ!”
“ออกไปไกล ๆ เลย ไปหาเงินมาซะ ถ้าพวกแกหาเงินมาไม่ได้ภายในสามวัน ภรรยาของผู้บังคับบัญชาแกคงจะต้องกลายเป็นภรรยาของหมู่บ้านนายพรานแล้วแหละ! ไสหัวไป!”
เสี่ยวไช่โกรธจนควันพุ่งออกหัว ใบหน้าของเขาแดงก่ำคล้ายกำลังระเบิดออก
มือสองข้างกำหมัดแน่น
เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป แม้จะเป็นทหารที่ไม่ได้เก่งอะไรนัก แต่เขาก็ไม่คิดจะยอมเสียศักดิ์ศรีเช่นนี้แน่
เขาก้าวไปด้านหน้า และกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เมื่อกี้แกพูดว่าอะไร พูดออกมาอีกทีซิ!”
คนคนนั้นกล่าวเย้ยหยัน “พูดว่าอะไรน่ะเหรอ ก็พูดว่าทหารอย่างพวกแกมันอ่อนด๋อยไงเล่า!”
ก่อนที่ชายเฝ้าหน้าหมู่บ้านจะพูดต่อ เสี่ยวไช่ที่โกรธจัด จนเหวี่ยงหมัดออกไปเสียแล้ว
แต่ขณะที่หมัดกำลังจะโดนอีกฝ่าย ก็กลับมีมือหนาคว้าข้อมือของเขาไว้เสียก่อน
เสี่ยวไช่ตกตะลึงไป ก่อนจะหันกลับมอง และเห็นว่าเป็นเฉียวเหลียนเฉิงที่หยุดเขาไว้ และตอนนี้ชายหนุ่มก็มีท่าทีสงบมาก
“พวกมันดูถูกเรานะครับ!”
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้า แล้วกล่าวเสียงเบา “นายถอยออกไปก่อน ฉันจะจัดการเอง”
เสี่ยวไช่หันมองแขนซ้ายของเฉียวเหลียนเฉิง “แต่ว่าแขนของหัวหน้า…”
เฉียวเหลียนเฉิงตะคอก “นี่คือคำสั่ง!”
“ครับ!” เสี่ยวไช่ตอบรับทันที หันมองผู้คนรอบตัวด้วยแววตาดุร้าย จากนั้นถอยหลังออกไปสองสามก้าว
ใบหน้าของเฉียวเหลียนเฉิงยังคงเรียบเฉย ก้าวขาออกไป และหยุดยืนตรงหน้าของชายคนนั้น
แววตาที่จ้องมองดุร้ายจนน่าขนลุก เพียงสบสายตาแค่เสี้ยววิก็สั่นสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ
จิตสังหารที่ถูกสะสมไว้ในทุกครั้งที่เขาฆ่าคน เมื่อปลดปล่อยออกมา กลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวก็ยิ่งทบทวีขึ้นไปอีก
แม้ชายร่างใหญ่ที่ยืนขวางทางจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็เป็นเพียงคนธรรมดา และยังไม่เคยฆ่าใคร
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับราชาปีศาจตัวจริง ร่างกายก็ถึงกับสั่นสะท้านอย่างไร้การควบคุม
เฉียวเหลียนเฉิงจ้องมองอีกฝ่ายก่อนจะกล่าวเน้นย้ำทีละคำ
“สิ่งที่แกพูดเมื่อกี้…ลองพูดมันอีกครั้งซิ!”
คนยืนขวางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อทำใจ คิดจะกล่าวมันอีกครั้ง แต่ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็ราวกับว่าตนไม่ได้เผชิญหน้ากับทหารนายหนึ่ง แต่กำลังเผชิญหน้ากับปีศาจร่างยักษ์สูงสามเมตร…
แรงกดดันนี้ทำร่างกายคนขวางทางสั่นไหว ลมหายใจเริ่มติดขัด ลำคอแหบแห้ง และไม่สามารถเอ่ยเสียงออกมาได้
ไม่นาน ผู้ขวางทางก็โกรธมากจนออกหมัด คิดใช้กำลังเข้าข่มแทน
ทว่าเฉียวเหลียนเฉิงสบถอย่างเย็นชา เขาใช้มือขวาคว้าหมัดนั้นไว้อย่างง่ายดาย พริบตาเดียว แขนของผู้ขวางทางก็ถูกบิด และร่างทั้งร่างก็ถูกทุ่มลงกับพื้น
มือหนาไม่เพียงแต่รวดเร็วและทรงพลัง แต่กระบวนท่ายังยอดเยี่ยมไร้ที่ติด้วย
ผู้ยืนขวางกรีดร้องออกมาขณะกลิ้งอยู่บนพื้น เฉียวเหลียนเฉิงยังคงล็อกแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ และกดลงที่แผ่นหลังอย่างแรง หันมองผู้ชายอีกคนที่ยืนทำหน้าตาโง่เขลาอยู่ด้านข้าง
“ไปเรียกหัวหน้าหมู่บ้านของแกออกมา!”
ชายคนนั้นกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก ก่อนจะวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ที่ลานของหมู่บ้าน เวลานี้หัวหน้ากำลังสั่งให้คนห่อตัวเด็กด้วยเสื่อแล้วเอาไปโยนทิ้งในหุบเขาใกล้ ๆ แต่ว่าแม่ของเสี่ยวสยงยังคงกอดเด็กชายไว้ แม้จะสิ้นหวัง แต่เธอก็ไม่ยอมปล่อยลูกชาย
หัวหน้าหมู่บ้านโกรธจัด ตะโกนดุด่าลูกสะใภ้
ความวุ่นวายในที่แห่งนี้ยังคงไม่จบสิ้น แต่จู่ ๆ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน
“หัวหน้า เกิดเรื่องแล้ว ออกไปดูเถอะครับ มีผู้ชายสองคนอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน พวกเขาบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกองทัพใกล้ ๆ มาที่นี่เพื่อไถ่ตัวคนของเขา!”
หัวหน้าหมู่บ้านขมวดคิ้ว “ถ้าต้องการไถ่ตัวคนของมัน ก็เอาเงินมาแล้วเราจะส่งคืน ทำไมแกต้องทำหน้าตาตื่นแบบนั้นด้วย? พาพวกมันเข้ามาสิ!”
ชายคนนั้นส่ายหัว “ไม่ครับ พวกนั้นเก่งมาก พอมาถึงก็มีปากเสียงกับต้าหลางนิดหน่อย แต่ตอนนี้หมอนั่นจัดการต้าหลางไปแล้ว!”