เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 203 ถึงจะต้องเล่นกลอุบาย เจียงหว่านก็ไม่กลัว!
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 203 ถึงจะต้องเล่นกลอุบาย เจียงหว่านก็ไม่กลัว!
บทที่ 203 ถึงจะต้องเล่นกลอุบาย เจียงหว่านก็ไม่กลัว!
เจียงหว่านเดาะลิ้นสองสามครั้ง “ดูสิ ๆ ก่อนหน้านี้ยังยืนกรานอยู่เลยว่าแค่ตด เฉียวเหลียนเฉิงก็ออกมา?”
“ตอนนี้คุณเปลี่ยนคำพูดอีกแล้ว แถมบอกว่าหนีจากความตายมาอย่างหวุดหวิดอีก”
“พลิกลิ้นเร็วเกินไปแล้ว!”
“ถ้าจะพูดอีกอย่าง เฉียวเหลียนเฉิงไม่ได้เกิดจากคุณ แต่เขาเกิดมาจากความยากลำบากต่างหาก!”
เจียงหว่านแค่พูดออกไปแบบสบาย ๆ เนื่องจากตัวตนของเธอในฐานะนักเขียนนิยายในชาติที่แล้ว
ช่วงหนึ่งมีนิยายเกี่ยวกับลูกสาวตัวจริงและลูกสาวปลอมแพร่หลายไปทั่วทุกที่ มีฉากการสลับลูกสาวตัวจริงกับลูกสาวปลอมกันมากมายเลย
พอเจียงหว่านเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเฉียวเหลียนเฉิงกับหลี่หงเหมย เธอก็นึกถึงนิยายพวกนั้นขึ้นมา
เฉียวเหลียนเฉิงไม่มีความคล้ายคลึงหลี่หงเหมยเลย แต่เฉียวเหลียนเย่มองปราดเดียวก็รู้ว่าคล้ายหลี่หงเหมยมาก
เจียงหว่านทดสอบหลี่หงเหมยหลายครั้ง และเห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับผู้หญิงคนนี้ สายตาที่หลบเลี่ยงการจับผิด และคำพูดที่ไม่สอดคล้องกันของเธอได้บ่งบอกทุกอย่าง
ถ้าหลี่หงเหมยพาเฉียวเหลียนเฉิงกลับไป ต้องมีข่าวลือกระจายไปทั่วหมู่บ้านแน่นอน
สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ในชนบทคือ การที่ชาวสามารถนินทาได้ทุกเรื่อง โดยไม่สนว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง
เฉียวเหลียนเฉิงบอกว่าเขาได้ตรวจสอบและถามผู้คนในหมู่บ้านแล้ว แต่เขาไม่พบคำตอบที่เป็นประโยชน์เลย
พูดอักอย่างคือ หลี่หงเหมยมีทารก หลังจากตั้งครรภ์อยู่สิบเดือนจริง
ชาวบ้านจึงไม่สงสัยเรื่องนี้
จากนั้นเฉียวเหลียนเฉิงก็พูดถึงพวกคนที่ถูกหมาป่ากัดจนตายอีกครั้ง
เจียงหว่านใช้จินตนาการอันบ้าคลั่งของเธอในฐานะนักเขียน คาดเดาเรื่องนี้ มีความเป็นไปได้ว่าหนึ่งในนั้นคือญาติที่แท้จริงของเฉียวเหลียนเฉิง
เป็นไปได้มากว่ามีคนคลอดลูกขณะกำลังผ่านทุ่งนา และใครคนนั้นก็อยู่ในอาการสาหัสหลังจากรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด
ไม่อย่างนั้นคงไม่มีแม่คนไหนที่สามารถทนเห็นลูกตัวเองโดนสลับไปโดยไม่พูดอะไรสักคำได้
เมื่อใครคนนั้นอยู่ในอาการสาหัส หลี่หงเหมยก็ได้ทำการสลับลูก เธอพาเฉียวเหลียนเฉิงกลับมา พร้อมกับอ้างว่าเป็นคนให้กำเนิดด้วยจุดประสงค์อะไรบางอย่าง
ส่วนลูกของเธอก็คงถูกครอบครัวจริง ๆ ของเฉียวเหลียนเฉิงพาตัวไป
ดังนั้น นี่เป็นเหตุผลที่เจียงหว่านตั้งคำถามในวันนี้
เมื่อเจียงหว่านพูดจบสีหน้าของหลี่หงเหมยก็เปลี่ยนไป เธอตัวแข็งทื่อไป แต่เพียงไม่กี่วินาที หญิงชราก็รีบวิ่งไปหาเจียงหว่านอย่างคลุ้มคลั่ง
“เธอกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร!”
“เขาคือลูกชายของฉัน ฉันให้กำเนิดเขามา และเลี้ยงดูเขาเอง ถ้าเธออยากจะมาคาดคั้นอะไร ฉันบอกเลย ไม่มีทาง!”
หลี่หงเหมยเดินเข้ามากระแทกเจียงหว่านเหมือนวัวแก่
แต่เจียงหว่านไม่ได้โกรธเลย หญิงสาวเอื้อมมือไปคว้าไหล่หญฺงชราไว้อย่างง่ายดาย
เธอใช้โอกาสนี้ทรงตัวให้มั่นคง และโน้มตัวกระซิบข้างหูหลี่หงเหมย
“สรุปแล้วเฉียวเหลียนเฉิงไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของคุณใช่ไหม? คุณใช้ลูกของคุณเองไปสลับตัวกับลูกใครกัน”
ร่างกายของหลี่หงเหมยแข็งทื่อไปอีกครั้ง และเธอก็สั่นอย่างควบคุมไม่ได้
เจียงหว่านสังเกตเห็นหลี่หงเหมยตัวสั่น ดวงตาของหญิงสาวก็ฉายแววดูถูกขึ้นมา และสีหน้าก็เย็นชายิ่งขึ้น “หลี่หงเหมย หวังว่าคุณจะเชื่อฟังฉัน และไม่ก่อปัญหา แล้วฉันจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องที่คุณทำ”
“ฉันจะไม่บอกเฉียวเหลียนเฉิงเรื่องนี้ด้วย ตกลงกันตามนี้เป็นไง”
หลี่หงเหมยจ้องมองด้วยความโกรธ “เหลวไหล!”
เจียงหว่านไม่แยแส และยังคงกระซิบข้างหูของหญิงชรา
“อย่าคิดว่าจะไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น ฉันบอกไว้เลยนะ โลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นความลับไปได้ตลอดหรอก”
“คุณได้ยินที่ฉันคุยกับผู้อำนวยการในวันนั้นแล้ว แม้ว่าการตรวจ DNA จะยุ่งยากในตอนนี้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้!”
“คุณคิดว่าคุณจะเก็บความลับไว้ได้อีกนานแค่ไหน”
หลี่หงเหมยตัวหดลงอย่างรวดเร็ว และมองหญิงสาวด้วยความหวาดกลัว
หลังจากนั้นไม่นาน ความกลัวก็กลายเป็นความโศกเศร้า และดูเหมือนจะยอมรับชะตากรรมอยู่ในที “เธอต้องการอะไรกันแน่”
เจียงหว่านคอบกลับอย่างไม่แยแส “สิ่งที่ฉันต้องการนั้นง่ายมาก คุณและลูกชายของคุณต้องอยู่ที่นี่อย่างเชื่อฟัง และพึ่งพาตนเองให้ได้!”
”ฉันจะให้เงินคุณอย่างตรงเวลา พวกคุณแค่อยู่ที่นี่และอย่าก่อปัญหา”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เจียงหว่านจึงกล่าวต่อ “ตราบใดที่คุณเชื่อฟังและไม่ก่อปัญหา ฉันจะไม่บอกเฉียวเหลียนเฉิง นี่จะดีสำหรับเราทั้งคู่”
หลี่หงเหมยกัดริมฝีปากแน่น ในที่สุดก็พึมพำออกมาจากลำคอ
”ตกลง”
ทันทีที่เธอตอบตกลง ก็ราวกับว่าร่างทั้งร่างได้พังทลายลง
ในตอนนี้ เธอตกหลุมการคาดเดาและการล่อลวงของเจียงหว่านอย่างสมบูรณ์
เจียงหว่านค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก แต่ภายนอกเธอยังคงมีท่าทีนิ่งเฉย
เธอต้องทำให้หลี่หงเหมยรู้สึกเชื่อสนิทใจ และไม่สร้างปัญหาในกองทัพ จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อชื่อของเฉียวเหลียนเฉิง
และเรื่องพวกนี้ เจียงหว่านก็จะไม่บอกเฉียวเหลียนเฉิงอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้
เธอต้องตามสืบให้แน่ชัดซะก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น และตามหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเฉียวเหลียนเฉิง เมื่อถึงเวลานั้น เธอก็ไม่จำเป็นต้องบอกพวกเขา เพราะความจริงก็จะปรากฏออกมาเอง
เมื่อถึงเวลานั้น ญาติของเฉียวเหลียนเฉิงคงไม่ยอมปล่อยหลี่หงเหมยไปง่าย ๆ แน่
และเธอจะได้ไม่ต้องกังวลกับพฤติกรรมของหลี่หงเหมยอีกต่อไป!
ใครบอกว่าเธอเป็นแค่คนปากร้ายที่รู้แค่วิธีการต่อสู้และตบตีกับคนอื่น ดูสิ แม้ว่าเธอจะต้องเล่นกลอุบาย เจียงหว่านก็ไม่กลัว เธอทำได้!
หลังจากปรับอารมณ์แล้ว เจียงหว่านก็พูดอย่างเฉยเมย
“เฉียวเหลียนเฉิงถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจ เขาไม่อยู่ที่นี่”
“และฉันก็มีงานต้องทำเหมือนกัน คุณอยู่ที่นี่กับลูกชายและลูกสาวทูนหัวของคุณเถอะ อ้อ! แล้วก็อยู่กันให้ดี ๆ ด้วยล่ะ”
สีหน้าหลี่หงเหมยดูอึดอัด แต่ก็ยอมแต่โดยดี
เจียงหว่านพูดอย่างเย็นชา “แล้วอย่าไปสร้างปัญหาที่ค่ายทหาร ไม่อย่างนั้น ตอนที่ฉันเกิดบ้าขึ้นมา แม้แต่ฉันก็ยังกลัวตัวเองเลย”
ประโยคนี้เป็นคำขู่ที่รุนแรงมาก!
หลี่หงเหมยหน้าซีดอีกครั้ง และพยักหน้าตอบรับอย่างช่วยไม่ได้
เจียงหว่านรู้ดีว่าความหวาดกลัวแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ก่อนออกเดินทาง เธอหยิบเงินสามหยวนออกมา แล้วพูดว่า
“นี่คือเงินของคุณสำหรับสัปดาห์นี้ ฉันจะกลับมาในสัปดาห์หน้า ถ้าคุณใช้จ่ายเกินความจำเป็น คุณก็ต้องไปหาเงินเอง”
หลังจากพูดจบ และให้เงินไว้แล้ว เจียงหว่านก็จากไปโดยไม่หันกลับมาอีก
เมื่อหญิงสาวจากไป ร่างกายของหลี่หงเหมยก็สั่นเทา ทรุดตัวนั่งลงบนพื้น
หญิงชราหลังโชกไปด้วยเหงื่อมาพักใหญ่แล้ว
เฉียวเหลียนเย่ไม่รู้ว่าทั้งสองพูดอะไรกัน แต่เมื่อเห็นเจียงหว่านจากไป เขาก็โกรธมาก
“แม่ ทำไมถึงปล่อยเธอไปแบบนี้ล่ะ เธอให้เงินเราแค่สามหยวนเองนะ นี่มันจะไปพออะไรกัน?”
หลี่หงเหม่ยโกรธมาก “หุบปาก!”
”พออะไร? แล้วแกจะเอาไปทำอะไร? ดูพี่ชายของแกสิ อย่างน้อยมันก็สามารถเลี้ยงตัวเองได้ แล้วแกล่ะ!”
“แกทำอะไรไม่ได้สักอย่าง นอกจากอยู่เฉย ๆ ทั้งวัน กระทั่งทำสวนยังทำไม่ได้ แล้วชีวิตนี้แกคิดว่าแกจะทำอะไรได้บ้าง”
ความตื่นตระหนก ความกลัว และความคับข้องใจของหลี่หงเหมยดูเหมือนจะพบทางออกในที่สุด เธอต่อว่าลูกชายด้วยความโกรธในใจ!
เฉียวเหลียนเย่เสียใจมาก แม่ไม่เคยดุเขามาก่อน ในครอบครัวนี้ คนเดียวที่ต้องถูกดุก็คือพี่ชายคนโต
แต่นี่จู่ ๆ เขาก็ถูกดุโดยไม่มีเหตุผล “ใครบอกว่าผมทำอะไรไม่ได้ ผมนอน กิน ดื่ม และนอนกับผู้หญิงเพื่อทำหลานให้แม่ได้นะ!”
หลี่หงเหม่ยแค่นหัวเราะด้วยความโกรธ “นอนกับผู้หญิง ให้กำเนิดหลานงั้นเหรอ?”
“ได้ งั้นแกนอนไปเลย ไปทำให้ไป๋อวี้เฟินยอมให้ได้ แล้วฉันจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องพี่ชายของแก”
“ไปนอนซะ ไปทำหลานสิ!”
เฉียวเหลียนเย่รู้สึกแย่มากเมื่อได้ยินแบบนี้ แม้ว่าไป๋อวี้เฟินจะหลอกง่ายกว่าอวี้ซิ่วที่เป็นพี่สาว แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ลื่นไหลไปเรื่อย ไม่ยอมให้เขาสัมผัสหรือจูบเลย!
เธอบอกว่าถ้าไม่แต่งงานก็จะไม่ยอมนอนด้วย!
ไม่อย่างนั้นเขาจะทิ้งเธอไว้โดยไม่แตะต้องได้ยังไง อีกทั้งตอนนี้เธอก็ถูกพี่สาวครอบงำเสียอีก
ในขณะที่แม่ลูกทะเลาะกันเรื่องนี้ และตัวละครหลักของการทะเลาะกันก็เกี่ยวข้องกับน้องสาวของตัวเอง
ทว่าไป๋อวี้ซิ่วกลับเฉยเมย เธอมองหลี่หงเหมยอย่างครุ่นคิด แสงในดวงตาวาบประกายราวกับว่ากำลังวางแผนอะไรบางอย่าง…