เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 198 ทำไมหมูป่าถึงปีนกำแพง
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 198 ทำไมหมูป่าถึงปีนกำแพง
บทที่ 198 ทำไมหมูป่าถึงปีนกำแพง?
เจียงหว่านมองเฉียวเหลียนเฉิงด้วยความตกใจ “หมายความว่าไง! หมูบินเข้ามา? ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม!”
เฉียวเหลียนเฉิงสับสน “ไม่รู้สิ พวกเราไปดูกันเถอะ!”
เจียงเฉิงก็แปลกใจเช่นกัน เขาเดินตามหลังไปโดยที่ไม่เอ่ยอะไรสักคำ
ทั้งสามคนรีบเดินไป จนมองเห็นทุ่งผักเขียวขจีอยู่ด้านหลัง นอกจากนี้ยังมีเล้าหมูอยู่ไม่ไกล
ทหารที่วิ่งออกมากันก่อนหน้านี้กำลังรวมตัวกันล้อมอยู่หน้าคอกหมู ใช้เครื่องไม้เครื่องมือพยายามเพื่อไล่ต้อน
นอกจากนี้ยังส่งเสียงออกมาด้วย
พอเจียงหว่านและทั้งสองคนใกล้ถึง จึงเห็นได้ชัดว่าท่ามกลางฝูงชนที่ล้อมรอบมีหมูป่าตัวหนึ่งอยู่
มันเป็นหมูป่ามีงายาว น่าจะหนักประมาณหนึ่งร้อยกิโลกรัมได้
เวลานี้ มันกำลังถูกล้อม และถูกไล่ต้อนไปเรื่อย ๆ จนเจ้าหมูป่าคำรามไม่พอใจ หันหัววิ่งชนไปอีกทางหนึ่ง
มันเร็วมาก แต่ทางนั้นมีทหารหนุ่มชื่อหลิวกุ้ยหลินขวางทางไว้
พอเห็นหมูป่าวิ่งเข้ามา หลิวกุ้ยหลินก็ตกใจจนกรีดร้อง หมุนตัวกลิ้งออกไปด้านข้าง
เจ้าหมูป่าจึงใช้ประโยชน์จากช่องว่างนี้ รีบออกจากวงล้อม แล้ววิ่งไปจนสุดกำลัง
ด้วยความเร็วของมัน แค่ระยะสิบกว่าเมตรเพียงพริบตาก็ถึง มันรีบออกจากฝูงชน กระทืบเท้าด้วยกีบหลัง แล้วหมูทั้งตัวก็ได้บินขึ้นไป
ใช่ มันบินขึ้นไป!
มันบินข้ามกำแพงสูงสองเมตรไปยังอีกฝั่งได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเห็นสิ่งนี้ทุกคนก็รีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ขึ้นไปยังบนกำแพง แต่ก็ไม่เห็นร่องรอยของหมูป่าแล้ว
เจียงหว่านตกตะลึงอยู่กับที่
“ฉันรู้ว่าหมูป่ามันแรงเยอะ แต่ไม่คิดว่าหมูป่าตัวนี้จะดุดันมาก ความสูงขนาดนั้นมันยังบินข้ามไปได้!”
เจียงเฉิงสงสัย จึงเรียกหลิวกุ้ยหลินที่กลิ้งหลบดเมื่อครู่ แล้วเพิ่งคลานลุกขึ้นมาให้มาหา “หมูป่าตัวนี้มาบ่อยเหรอ?”
หลิวกุ้ยหลินส่ายหน้า “ไม่ได้มาบ่อยครับ หมูที่พวกเราเลี้ยงในฟาร์มล้วนตายหมด พวกเราเลยเลี้ยงหมู่ป่า สองสามวันพวกมันจะมากินอาหารทีนึงครับ”
“พวกเราไม่มีใครสู้มันได้เลย! แต่ไอ้แอบมาขโมยกินเฉย ๆ น่ะไม่เป็นไรหรอก นี่มันยังมาผสมพันธุ์กับแม่พันธุ์ของเราอีก”
เจียงเฉิงกับเฉียวเหลียนเฉิงหน้าเครียด
แต่เจียงหว่านอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “งั้นก็ดีสิ ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการผสมพันธุ์ ทั้งยังมีพันธุ์หมูป่าอีก นี่ไม่เพียงแต่เป็นการปรับปรุงพันธุ์หมู แต่ยังประหยัดเงินด้วยนะ!”
หลิวกุ้ยหลินตอบด้วยความกลัดกลุ้ม “ฟาร์มของเราก็มีหมูป่าอยู่แล้ว ใครจะอยากให้แม่พันธุ์ไปผสมพันธุ์กับเจ้านั่นกันล่ะครับ”
“อีกอย่าง เพราะการแย่งชิงสิทธิ์ผสมพันธุ์ เจ้าหมูป่าตัวนั้นมันถึงกับฆ่าพ่อพันธุ์ของเราไปสองตัวแล้ว!”
อืม นี่ก็นับว่าเป็นปัญหาหนึ่ง
หมูป่าตัวนั้นดุร้ายเกินไปจริง ๆ
เจียงหว่านราวกับคิดอะไรบางอย่างได้ จึงเหลือบมองเฉียวเหลียนเฉิง พอเห็นความตื่นเต้นบนใบหน้าของเขา
เจียงหว่านก็หม่นหมองลง “นายสงบสติอารมณ์ก่อน หมูป่าตัวนี้หนักหนึ่งร้อยกว่ากิโลเลยนะ แขนข้างเดียวของนายน่ะสู้ไม่ได้แน่นอน หรือถ้านายอยากตายก็เอาเลย!”
เขี้ยวยาวขนาดนั้น เจียงหว่านแค่คิดก็กลัวแล้ว
เฉียวเหลียนเฉิงได้ยินเธอพูดอย่างนั้นก็กลุ้มใจ สีหน้าพลันเคร่งขรึม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ส่วนเจียงเฉิงเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว จึงพูดขึ้น “ไปกันเถอะ หมูป่าตัวนี้คงไม่ได้มาทุกวัน วันนี้เพิ่งจะโดนไล่ไปคงจะไม่กลับมาอีกสักพักแหละ”
“คุณต้องกลับไปกับผม ไปทำธุระให้เสร็จเรียบร้อย จะได้รีบกลับมาเฝ้าเขาด้วย”
พูดจบ เขาก็มองไปทางเฉียวเหลียนเฉิง แล้วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ครั้งนี้ฉันก็เห็นด้วยกับเจียงหว่านนะ ตอนนี้นายอย่าอวดเก่งเลยดีกว่า”
“ถ้านายไม่รักษาแขนให้ดี มันก็จะไร้ประโยชน์เอาได้”
เฉียวเหลียนเฉิงหมดหนทาง เขาจึงให้คำมั่นกับทั้งสองคน “ก็ได้ ๆ พวกคุณพูดถูก ผมจะไม่ยุ่งวุ่นวายเลย!”
แม้ว่าเขาจะพูดแบบนี้ แต่เจียงเฉิงกับเจียงหว่านกลับยังไม่เชื่อใจ
พวกเขารู้จักเฉียวเหลียนเฉิงดี และมันคงจะแปลกหากเจอเรื่องแบบนี้ แล้วเขายับยั้งชั่งใจได้
ระหว่างทางกลับ เจียงหว่านที่เหมือนจะคิดอะไรบางอยู่ ก็ถามเจียงเฉิงว่า
“ผู้บัญชาการของพวกคุณกับเสิ่นหรูเหมยสนิทกันเหรอ? ทำไมถึงจ้างเธอมา”
เจียงเฉิงอธิบาย “ผู้บัญชาการกับเสิ่นหรูเหมยไม่ได้สนิทกัน แต่เป็นสหายท่านอื่นแนะนำมาน่ะ”
“เธอถูกยืมตัวมา ระยะเวลาคือครึ่งปี พอดีกับที่สถาบันวิทยาศาสตร์มีความตั้งใจสนับสนุนอุตสาหกรรมการเกษตร และการเพาะพันธุ์ในสถานที่ต่าง ๆ ด้วย”
“เธอจึงมาที่นี่”
เจียงหว่านเอ่ยถามอีก “สามีของเธอเสียชีวิตได้ยังไง?”
เจียงเฉิงครุ่นคิด “ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ แค่บอกว่าเป็นการเสียชีวิตจากอาการเจ็บป่วย แต่ตอนที่พวกเราจากมา เถียนเซี่ยงเฉียนยังปกติอยู่เลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาป่วยเป็นโรคอะไร ทำไมถึงจากไปรวดเร็วขนาดนั้น”
“พูดไป เถียนเซี่ยงเฉียนก็เป็นคนที่ไม่เลวเลยนะ น่าเสียดายที่อายุสั้นไปหน่อย ไม่รู้ว่าสองคนนี้เจอกันได้ยังไง”
ตามที่เจียงเฉิงพูด หลังจากศาสตราจารย์เถียนไปศึกษาที่ต่างประเทศหลังการปฏิวัติ ก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย
ตอนนั้นเถียนเซี่ยงเฉียนยังเด็ก ภรรยาของศาสตราจารย์เถียนจึงไม่ได้ตามเขาไปด้วย
ครอบครัวต้องแยกจากกันเกือบครึ่งชีวิต
พอโตขึ้น เถียนเซี่ยงเฉียนก็ตามแม่ไปที่ชนบท
สมัยนั้นแรงงานมีเกียรติมากกว่าผู้มีการศึกษา ความตระหนักของเถียนเซี่ยงเฉียนก็สูงมาก เขาจึงยืนหยัดในการตัดสินใจของตนเอง เป็นแรงงานที่มีเกียรติ
เมื่ออยู่ชั้นประถม เขาจึงลาออกจากโรงเรียนแล้วติดตามกองทัพไปเปิดพื้นที่รกร้างเพื่อการก่อสร้าง
เขากับเสิ่นหรูเหมยได้พบ และตกหลุมรักกันตอนนั้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดามาก อย่างน้อยก็เป็นเรื่องปกติในทศวรรษ 1960 และ 1970
อย่างไรก็ตาม เจียงหว่านใช้ความรู้สึกของการเป็นนักเขียนนิยายออนไลน์มาเป็นสิบปี รับรู้บางสิ่งบางอย่างได้
เธอรู้สึกว่าเสิ่นหรูเหมยคนนี้ไม่ธรรมดา!
เจียงหว่านกลับมาถึงในตำบล ก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่าแล้ว
อากาศเย็นลงเรื่อย ๆ ฟ้าก็มืดเร็วขึ้น เจียงเฉิงที่มาส่งก็กำลังจะขับรถออกไป
แต่ทว่าเหมือนเขาจะคิดบางอย่างได้ จึงถอยรถกลับมา
“มีบางอย่างที่ผมลืมบอกคุณ หลักจากที่พวกคุณจากไป หลี่หงเหมยไปที่โรงพยาบาลทหาร และก่อเรื่องวุ่นวายหลายครั้งเลย โรงพยาบาลได้ปฏิเสธที่จะไม่บอกข้อมูลส่วนตัวของคนไข้พิเศษอย่างเฉียวเหลียนเฉิงไปหลายครั้งเหมือนกัน”
“และหลังจากนั้นหลี่หงเหมยก็จากไป แต่ผมเดาว่าเธอคงจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก คุณก็ต้องเตรียมตัวให้ดีล่ะ”
เจียงหว่านพยักหน้าเข้าใจ
กลับมาถึงบ้าน ยังไม่ทันได้เข้าไป เธอก็ได้ยินเสียงพูดคุยของผิงอันกับเสี่ยวเสวี่ย
ตอนนี้เสี่ยวเสวี่ยโตขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว ขนอ่อนตอนเป็นทารกเริ่มหลุดร่วง และเริ่มมีปีกแล้ว ดูน่าเกลียดทีเดียว
แต่ถึงอย่างนั้นผิงอันก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาใช้มือลูบหัวเสี่ยวเสวี่ย ไม่สามารถอธิบายได้ว่าอ่อนโยนเพียงใด!
“เสี่ยวเสวี่ย ฟ้ามืดแล้ว แกว่าน้าอ้วนนั่นจะกลับมาไหม”
“ที่จริง ไม่กลับมาก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยเธอก็จะได้อยู่เป็นเพื่อนพ่อ!”
“ถ้าฉันละทิ้งความเกลียดชังที่มีต่อเธอ เธอก็เป็นคนใช้ได้คนนึงเลยนะ!”
เสี่ยวเสวี่ยราวกับว่าเข้าใจในสิ่งที่เด็กชายพูด มันร้องจิ๊บ ๆ ตอบกลับไม่หยุด
และผิงอันก็เปลี่ยนคำพูด “ก็ได้ ๆ ที่จริงแล้วฉันก็ไม่ได้เกลียดเธอหรอก”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอลำบากใจ แต่ใครใช้ให้เธอมาหักหลังฉันกันเล่า มันไม่แปลกสักหน่อยที่ฉันจะรู้สึกกลัวเธอ”
“แต่ว่า ตอนนี้เธอดีขึ้นมาก ๆ”
“ถ้าเธอเป็นแบบนี้ได้ตลอดไป ให้เธอเป็นแม่ของฉันก็ดีเหมือนกัน”
เจียงหว่านที่อยู่นอกหน้าต่างอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น “เธอไม่ต้องกังวล ถึงแม้ว่าเธอจะอยากให้ฉันเป็นแม่ ฉันก็ไม่ได้เต็มใจหรอก”
“และฉันจะเป็นแม่ของเธอหรือเปล่า มันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเธอ แต่ขึ้นอยู่ว่าฉันจะหย่ากับพ่อของเธอไหมต่างหาก!”
เมื่อได้ยินเสียงจากด้านนอก ผิงอันก็ตกใจจนสะดุ้งเฮือก รีบเอื้อมมือไปคว้าเสี่ยวเสวี่ยยัดใส่เข้าไปในเสื้อตัวเอง