เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 196 เสิ่นหรูเหมยคือผู้เชี่ยวชาญคนใหม่
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 196 เสิ่นหรูเหมยคือผู้เชี่ยวชาญคนใหม่
บทที่ 196 เสิ่นหรูเหมยคือผู้เชี่ยวชาญคนใหม่
เจียงหว่านที่ได้ยินถึงกับหน้าชาวาบ เธอหันมองเฉียวเหลียนเฉิงด้วยสายตาเย็นชา
เฉียวเหลียนเฉิงกระแอมเบา ๆ แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“เอาล่ะ ๆ แล้วผู้เชี่ยวชาญคนใหม่ของฟาร์มล่ะมาหรือยัง!”
ทหารเหล่านั้นรีบตอบ “เธออยู่ในเล้าหมูครับ เดี๋ยวก็คงออกมา!”
“หัวหน้า คุณควรพาพี่สะใภ้ไปพักก่อนนะครับ”
เฉียวเหลียนเฉิงหันมองเจียงหว่าน แล้วพูดขึ้น “เข้าไปนั่งพักก่อนเถอะนะหว่านหว่าน กว่าจะกลับถึงบ้านคงจะมืดค่ำ”
เจียงหว่านพึมพำก่อนจะจอดจักรยาน แล้วหยิบเอากระเป๋าเสื้อผ้าของเฉียวเหลียนเฉิงมา
เฉียวเหลียนเฉิงเดินไปรับของ เจียงหว่านหยุดชะงัก และจ้องมองเขานิ่ง ๆ นายทหารรอบตัวเห็นอย่างนั้นก็รีบมาช่วยรับของทันที
ฟาร์มแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก แต่มีบ้านหลังใหญ่อยู่ด้านหน้าเพียงไม่กี่หลังเท่านั้น
บ้านทั้งหมดสร้างด้วยอิฐและกระเบื้อง เรียบง่าย ดูสบายตา และอุปกรณ์ทำฟาร์มทั้งหมดก็ถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ
เจียงหว่านมองไปรอบ ๆ ลอบชื่นชมอยู่ในใจ สมแล้วที่เป็นฟาร์มของกองทัพ แตกต่างจากฟาร์มของชาวบ้านทั่วไปจริง ๆ
หลังจากทุกคนเก็บของเข้าบ้าน เจียงหว่านเลยรู้ว่าเฉียวเหลียนเฉิงพักอยู่ที่ไหน และตามไปเก็บเสื้อผ้าให้อย่างเป็นระเบียบ
จากนั้น เธอก็หันกลับมาบอกวิธีดูแลแขนซ้ายให้เฉียวเหลียนเฉิงว่าเขาควรจะดูแลยังไงบ้าง
นายทหารในฟาร์มก็ตั้งใจฟังด้วยเหมือนกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เฉียวเหลียนเฉิงรู้สึกเคอะเขิน และทำตัวไม่ถูก
ขณะที่เจียงหว่านพูดเสร็จ เธอก็ได้ยินเสียงอ่อนโยนดังขึ้นจากด้านนอก
“ฉันได้ยินว่าหัวหน้ามาแล้ว เขาอยู่ที่ไหนเหรอ?”
“ผู้เชี่ยวชาญเสิ่นมาแล้วเหรอครับ หัวหน้าอยู่ในห้อง พี่สะใภ้เองก็มาที่นี่ด้วย” นายทหารด้านนอกตอบกลับ
เสียงหวานดังอีกครั้งราวกับว่ามีความสุขมาก
“ดีจัง เราจะได้เจอกับคุณนายที่สองของฟาร์มแล้ว!”
ทันทีที่พูดจบ ประตูก็เปิดออก แล้วสาวสวยคนหนึ่งก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางกระตือรือร้น
เมื่อเธอเดินเข้ามา เจียงหว่านก็ถึงกับตกตะลึง
เพราะผู้หญิงที่เข้ามาใหม่คนนี้คือแม่ของเถียนเถียน เสิ่นหรูเหมย เจียงหว่านได้พบกับหล่อนที่โรงเรียนผิงอันเมื่อไม่กี่วันก่อน
ทันทีที่เสิ่นหรูเหมยเข้ามา และเห็นเฉียวเหลียนเฉิงกับเจียงหว่านยืนอยู่ เธอเองก็ตกตะลึงไปเหมือนกัน
นอกจากเธอและเจียงหว่านที่ตกตะลึง เฉียวเหลียนเฉิงเองก็อดตกใจไม่ได้เมื่อเห็นผู้เชี่ยวชาญของฟาร์ม
ทั้งสามคนจ้องหน้ากันไปมา ร่างกายแข็งค้าง
ขณะนั้นเอง หลี่จ้วงจ้วงก็เข้ามาอธิบายเรื่องราว “หัวหน้าครับ นี่คือผู้เชี่ยวชาญคนใหม่ของฟาร์มเรา เธอเชี่ยวชาญการเลี้ยงหมูมากครับ”
“เธอเก่งมากเลยนะครับ วันนี้เธอช่วยแม่หมูที่คลอดลูกตั้งแต่มาถึงเลย!”
เสิ่นหรูเหมยเรียกสติกลับมาได้ก่อน จึงทักทายทั้งสองด้วยรอยยิ้ม “เหล่าเฉียว ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะ!”
เฉียวเหลียนเฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าหลากอารมณ์ “อื้ม ไม่ได้เจอกันมาสามปีแล้วมั้ง ไม่คิดว่าผู้เชี่ยวชาญคนใหม่จะเป็นเธอ”
เสิ่นหรูเหมยตอบกลับ “ก็แค่เรื่องบังเอิญน่ะ ฉันก็ไม่คิดว่าจะได้เจอนายที่นี่เหมือนกัน”
“เอาล่ะ ถ้ามีนายคอยช่วย ฉันคงสามารถจัดการกับงานนี้ได้แน่นอน”
เสิ่นหรูเหมยมองเฉียวเหลียนเฉิงด้วยดวงตาเปล่งประกาย ดูสดใสน่ามองมาก
เสิ่นหรูเหมยยังคงเป็นเช่นเคย มีความสดใสที่ยากจะอธิบายอยู่บนใบหน้าเสมอ
ขณะเดียวกัน เจียงหว่านกลับไม่ค่อยสบายใจเมื่อเห็นทั้งสองคนคุ้นเคยกันดี
เธอกระแอมเบา ๆ ขัดจังหวะทั้งคู่
เสิ่นหรูเหมยจึงยิ้ม ก่อนจะพูดว่า “คุณแม่ผิงอัน ไม่คิดเลยว่าจะได้พบคุณที่นี่ อย่างนั้นผิงอันก็คงจะ…”
เฉียวเหลียนเฉิงตอบกลับทันที “ผิงอันเป็นลูกชายฉันเอง และนี่ เจียงหว่าน ภรรยาของฉัน”
เสิ่นหรูเหมยทำหน้าประหลาดใจ “เอ๋ ผิงอันเป็นลูกนายเหรอ? ครั้งก่อนที่นายมาพักฟื้นร่างกายบ้านฉัน ฉันไม่ยักรู้ว่านายมีลูกแล้ว”
พูดจบ ดูเหมือนเธอจะตระหนักถึงบางอย่างได้จึงรีบกล่าวต่อว่า
“ขอโทษ ขอโทษนะ คือฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น แต่เพราะลูกสาวของฉันอายุเท่ากับผิงอัน แล้วตอนที่นายมาพักฟื้นที่บ้าน ลูกสาวของฉันก็เพิ่งเกิด”
“ตอนนั้นฉันจำได้ว่านายยังไม่ได้แต่งงานก็เลยตกใจน่ะ ขอโทษด้วยถ้าฉันพูดอะไรผิดไป”
คำขอโทษของเสิ่นหรูเหมยจริงใจมาก ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกผิดจริง ๆ ที่ตัวเองอยากรู้อยากเห็นมากเกินไป
และเจียงหว่านก็ไม่รู้สึกผิดปกติกับถ้อยคำเหล่านี้เลย นอกจากนี้ หล่อนเป็นคนที่มีเหตุผลมากในสายตาของเจียงหว่าน เพราะแบบนั้นเธอเลยไม่คิดจะจริงจัง
เฉียวเหลียนเฉิงตอบกลับ “ก็ไม่ผิดหรอก ผิงอันไม่ใช่ลูกชายแท้ ๆ ของฉัน แต่เป็นลูกชายของสหายโม่อวิ๋นน่ะ”
“โม่อวิ๋น? ครั้งสุดท้ายที่นายมาพักฟื้นที่บ้านฉัน วันนั้นคนที่มารับนายกลับไปก็คือเจียงเฉิงกับโม่อวิ๋นนี่!” เสิ่นหรูเหมยทบทวนความจำ
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้า “ใช่ เขานั่นแหละ แต่โม่อวิ๋นตายแล้ว”
“แม่ของผิงอันก็ตายในสนามรบด้วยเหมือนกัน เราไม่พบเจอญาติของผิงอันเลย ฉันเลยรับเลี้ยงเขาเอง”
หลังได้ยินแล้วเสิ่นหรูเหมยก็มองทั้งสองคนด้วยความชื่นชม
“เหล่าเฉียว นายกับพี่สะใภ้จิตใจดีมาก ทั้งคู่เป็นคนดีจริง ๆ”
เจียงหว่านได้ยินแบบนั้น ก็เขินอายขึ้นมา เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นเพื่อนเก่ากันนะ เหล่าเฉียวทำไมฉันไม่เคยได้ยินนายเล่าเรื่องนี้เลยล่ะ?”
“แม่ของเถียนเถียนก็อยู่ในกองทัพของนายด้วยเหรอ?”
เฉียวเหลียนเฉิงส่ายศีรษะ “เปล่าหรอก ไว้ผมเล่าให้คุณฟังนะ”
เจียงหว่านเข้าใจทันที ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่ละเอียดอ่อนมาก เธอจึงไม่ถามอะไรอีก
เสิ่นหรูเหมยเองก็ทราบสถานการณ์ “เหล่าเฉียว จัดการธุระของตัวเองเถอะ เดี๋ยวฉันไปดูแลเจ้าลูกหมูก่อน”
“พี่สะใภ้อย่าเพิ่งกลับนะคะ ที่นี่อยู่ไกลมาก คุณพักสักคืนก่อนดีกว่า แล้วค่อยกลับพรุ่งนี้เช้า!”
เจียงหว่านส่ายศีรษะ “ไม่ได้หรอกค่ะ ถึงที่นี่จะเป็นฟาร์ม แต่ก็เป็นค่ายทหาร คงไม่เหมาะเท่าไหร่ที่ฉันจะอยู่ต่อ”
เสิ่นหรูเหมยยกยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันก็ไม่ได้อยู่ในค่ายทหารเหมือนกัน หัวหน้ากองพันบอกว่ามันไม่เหมาะสมที่ฉันจะหลับนอนกับทหารพวกนี้ เขาเลยสร้างห้องเล็ก ๆ ให้ฉันในสวนหลังบ้าน”
“ปกติแล้วฉันอยู่ที่นี่คนเดียวค่อนข้างเหงา ถ้ามีคุณอยู่ด้วยคงจะดีมากเลยค่ะ!”
เจียงหว่านอยากจะปฏิเสธ แต่เสิ่นหรูเหมยก็เดินออกไปแล้ว โดยไม่รอฟังคำตอบของเธอ
“งั้นเดี๋ยวฉันจะไปทำความสะอาดบ้านนะคะ คืนนี้เราจะได้นั่งคุยกัน”
หลังพูดทิ้งท้าย เสิ่นหรูเหมยก็ออกไปทันที
เจียงหว่านมองดูผู้หญิงที่อ่อนโยนและสดใสที่เดินจากไป เธอก็รู้สึกประทับใจมาก ผู้หญิงคนนี้ดูดีทั้งการใช้ชีวิต และเวลาทำงานเลย
เจียงหว่านมองแผ่นหลังของเสิ่นหรูเหมย ดวงตาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
เฉียวเหลียนเฉิงจับมือเธอขึ้นมา
“หว่านหว่าน เสิ่นหรูเหมยไม่ใช่คนในกองทัพของเรา จริง ๆ แล้วถ้าว่าง คุณมาหาผมก็ได้นะ ถ้าพักที่บ้านพักของเธอได้ก็คงจะดีเลย”
“เพราะผมคงไม่สามารถออกจากฟาร์มได้ พวกเราเลยต้องแยกกัน”
เจียงหว่านหันมองเขาด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ยังไม่ใช่เวลามาพูดคุยกันเรื่องนี้ เอาล่ะ บอกได้หรือยังว่าระหว่างนายกับเสิ่นหรูเหมยเป็นยังไง? นายสองคนดูเหมือนจะคุ้นเคยกันมาก นายเคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านของเธอเหรอ?”
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความเหงา และความเศร้าโศก
“คราวนั้นผมได้รับภารกิจพิเศษให้ไปรับศาสตราจารย์เถียนที่เพิ่งกลับจากต่างประเทศ และต้องไปส่งเขากลับบ้าน”
“และเวลานั้นพวกเราได้รับบาดเจ็บสาหัส”
“และเพราะได้รับบาดเจ็บ หลังจากถึงจุดหมายแล้ว ผมก็ไม่สามารถกลับออกมาได้”
“เถียนเซี่ยงเฉียนลูกชายของศาสตราจารย์เถียนเป็นคนบอกให้ผมอยู่พักฟื้นที่นั่น ผมเลยอยู่รักษาตัวที่บ้านของเขานานกว่าหนึ่งเดือน”
“และตอนที่ผมจะกลับออกมา เจียงเฉิงกับโม่อวิ๋นก็มารับ พวกเราสามคนไปทำภารกิจด้วยกันต่อ และโม่อวิ๋นก็ตายในภารกิจนั้น…”