เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 192 ผิงอันมาพร้อมกับแม่ของเขา
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 192 ผิงอันมาพร้อมกับแม่ของเขา
บทที่ 192 ผิงอันมาพร้อมกับแม่ของเขา
หลังจากทานมื้อเย็นแล้ว ผิงอันก็เดินวนไปรอบ ๆ อย่างหดหู่
ขณะเจียงหว่านกำลังเก็บจาน ผิงอันก็มาช่วยล้าง และทำตัวว่านอนสอนง่ายแปลก ๆ
เจียงหว่านมองเด็กชายตัวน้อยอย่างฉงน และถามออกไปตามตรง
“วันนี้มาแปลกนะ มีอะไรผิดปกติรึเปล่า?”
ผิงอันเกาศีรษะอย่างลำบากใจ และเห็นว่าเฉียวเหลียนเฉิงไปเข้าห้องน้ำแล้ว จึงโน้มตัวเข้าไปใกล้ก่อนจะถามเสียงแผ่วเบา
“อื้ม คุณอยากเป็นแม่ของผมไหม?”
เจียงหว่านประหลาดใจ “หมายความว่ายังไง เล่ามาสิ!”
ผิงอันก้มศีรษะลง ใช้เท้าเขี่ยดินไปมา “อาจารย์อยากเจอพ่อกับแม่ คุณไปให้ผมได้ไหม”
เจียงหว่านเงียบไปครู่หนึ่ง และถามขึ้นว่า “แล้วทำไมไม่ให้พ่อนายไป?”
ผิงอันเม้มปากแน่น ก่อนจะกระซิบแผ่วเบา “ผมต่อยกับเพื่อนร่วมชั้น ถ้าพ่อไป หลังจากกลับจากโรงเรียนพ่อต้องตีผมแน่”
“อีกอย่างพ่อก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมา หมอบอกว่าเขาไม่ควรต้องใช้แรงด้วย”
เจียงหว่านเห็นด้วยกับประโยคสุดท้าย จึงถามด้วยความสับสน “แล้วทำไมเธอถึงไปต่อยเพื่อนร่วมชั้นล่ะ?”
ผิงอันเงียบ เขาไม่ต้องการบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
เจียงหว่านไม่พอใจทันที “ถ้าไม่บอก ฉันก็ไม่ไป!”
ผิงอันได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงก่ำ ไม่รู้จะพูดอะไร แต่เมื่อเห็นว่าเฉียวเหลียนเฉิงออกจากห้องน้ำแล้ว เขาก็รีบกระซิบ
“ผมไม่ชอบหน้าเขา”
เจียงหว่านรู้ดีว่าคงไม่ใช่เหตุผลเท่านี้แน่ แต่เธอก็รู้ว่าเฉียวเหลียนเฉิงต้องพักผ่อน เธอจึงตัดสินใจว่าจะไปเอง
อีกอย่าง โรงเรียนนี้เธอเป็นคนสมัครเข้าเรียนให้กับเด็กชาย และคุ้นเคยกับอาจารย์ภายในโรงเรียนพอสมควร
วันรุ่งขึ้น หลังจากเจียงหว่านส่งผิงอันไปที่ห้องเรียน เธอก็ตรงไปที่ห้องพักครู
โรงเรียนประถมในตำบลมีอาคารสองสามแถว มีสถานรับเลี้ยงเด็กในโรงเรียน
ส่วนห้องพักครูอยู่ในอาคารสองชั้นฝั่งตรงข้าม
เมื่อเดินเข้ามาในอาคาร เธอเห็นป้ายขนาดใหญ่ และมีชื่อนักเรียนถูกเขียนเอาไว้
เจียงหว่านมองดู และเห็นว่ามันคือบันทึกรายชื่อของนักเรียนแต่ละชั้นที่บริจาคมูลวัวและถ่านหิน
ฤดูหนาวกำลังจะมาถึง การทำความร้อน ทำตัวให้อบอุ่นในสมัยนี้ก็ไม่มีตัวเลือกมากนัก แต่ยังดีที่ที่นี่ไม่ได้หนาวมาก
เพราะสำหรับทางเหนือนับว่าเป็นอีกเรื่องทีเดียว
เพราะเหตุผลนี้นักเรียนแต่ละชั้นจึงมาบริจาควัตถุสำหรับทำความร้อน
มูลวัว ไม้ และถ่านหินล้วนมีประโยชน์
เจียงหว่านเหลือบมอง เธอไม่เคยได้ยินผิงอันบอกเรื่องนี้เลย หรือเด็กอนุบาลไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินหรือบริจาคของเหล่านี้เหรอ?
ขณะคิดอย่างนั้น เธอก็มาถึงสำนักงานที่ไม่มีใครอยู่
มีหนังสือหลายเล่มวางอยู่บนโต๊ะ ส่วนใหญ่แล้วเกี่ยวข้องกับการศึกษา ตรงกลางมีขวดโหลสีหลุดลอกวางตั้งอยู่
เมื่อเจียงหว่านเดินเข้าไปใกล้ เธอเห็นผู้ชายร่างเล็กสวมเสื้อสีแดงยกมือขึ้น และตะโกนบางอย่าง
ประตูเปิดออก เฉินลั่วเหมยเดินเข้ามา เธอคืออาจารย์ใหญ่ของผิงอัน
“คุณแม่ผิงอัน ฉันมีเรื่องจะสอบถามค่ะ คุณกับสามีมักทะเลาะวิวาทและใช้ความรุนแรงในครอบครัวหรือเปล่าคะ?”
เฉินลั่วเหมยนั่งลง มองเจียงหว่านด้วยสายตาเคร่งขรึม
เจียงหว่านถึงกับสับสน “ไม่นะคะ! ทำไมอาจารย์ถึงถามแบบนั้นล่ะคะ?”
อาจารย์ตอบกลับ “เฉียวผิงอันทะเลาะกับเพื่อนร่วมชั้น เขากดเพื่อนร่วมชั้นลงกับพื้นและต่อยเพื่อน เขาใช้ความรุนแรงค่ะ”
“เขาทุบตีเพื่อนร่วมชั้นจนจมูกฟกช้ำ ใบหน้าบวมเป่งเลยนะคะ!”
“ขนาดอาจารย์อยู่ตรงนั้น เขายังกล้าทำร้ายเพื่อนต่อหน้าอาจารย์ด้วย!”
“พฤติกรรมของเขาถือว่ารุนแรงมาก! ในฐานะพ่อแม่ คุณจะต้องลงโทษเขา!”
เจียงหว่านเงียบ “…”
อาจารย์ใหญ่พร่ำบ่นอยู่นาน ก่อนจะพูดกับเจียงหว่านว่า
“ฉันเรียกพ่อแม่ของเด็กอีกสองคนมาแล้ว อีกไม่นานพวกเขาก็คงจะมาถึง”
“หลังจากพวกเขามาถึงแล้ว คุณต้องบอกให้ผิงอันขอโทษ ให้เขายอมรับความผิดของตัวเอง และถ้าพวกเขาเรียกร้องอะไร พวกคุณสามารถตกลงกันเองได้”
ความหมายของเรื่องนี้ก็คือ ผิงอันต้องขอโทษ และต้องชดใช้ค่าเสียหาย
เจียงหว่านพยักหน้า “ค่ะ เดี๋ยวอาจารย์พาทุกคนที่เกี่ยวข้องมาคุยกันเลยดีกว่า”
“แล้วค่อยพูดคุยกันให้เรียบร้อย”
อาจารย์ใหญ่ครุ่นคิดก่อนจะหันกลับมาเรียกใครบางคน
ไม่นานนัก ผิงอัน เถี่ยหนิว และเถียนเถียนก็มาถึง
เจียงหว่านสังเกตเถียนเถียนทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น
เด็กผู้หญิงคนนี้น่ารักมาก เธอเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงชื่อเถียนเถียน!
หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าแม่ของเด็กหญิงคนนี้จะสวยขนาดไหน หล่อนถึงได้ให้กำเนิดลูกที่มีใบหน้าสวยงามขนาดนี้
ผิงอันเห็นเจียงหว่านไม่ได้พูดอะไร ก็รีบมายืนข้างเธอ
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้น แล้วหญิงชนบทแต่งกายเรียบง่ายก็เดินเข้ามา ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง
“อาจารย์เฉิน ทำไมเถี่ยหนิวของฉันถึงถูกทุบตีแบบนั้น? เด็กคนไหนทำ บอกฉันมานะคะ!”
“กล้ามากที่ตีลูกของฉันแบบนี้ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้ถลกหนังเด็กบ้านั่นด้วยตัวเอง ก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าจ้าวเจวียนเลย!”
ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาพร้อมตะโกนด้วยความโกรธ และหันมองลูกชายของตัวเอง
เถี่ยหนิวเห็นแม่เข้ามาแล้ว เขาก็วิ่งเข้าไปหาเธอ พร้อมกอดแขนแม่ไว้แน่น
สิ่งนี้ยิ่งทำให้จ้าวเจวียนรู้สึกทุกข์ใจมาก เธอพยายามปลอบโยนเขาและอุ้มเถี่ยหนิวขึ้นมาหอมแก้มสองสามฟอด
แม่และลูกชายแสดงความรักกันอย่างโจ่งแจ้ง
เจียงหว่านที่ยืนอยู่ตรงหน้าพูดขึ้น
“ลูกชายฉันต่อยลูกชายของเธอ”
“เถี่ยหนิวเป็นลูกของเธอเองสินะ”
จ้าวเจวียนก็คือเจวียนจือที่ถูกเจียงหว่านจัดการไปก่อนหน้านี้
และเมื่อกล่าวถึงเรื่องนั้น เธอกับจ้าวเฟิงก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันด้วย
แน่นอนว่าจ้าวเจวียนไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเจียงหว่าน
ก่อนเจียงหว่านจะพูดจบ จ้าวเจวียนเองก็จำเธอได้ทันที
จ้าวเจวียนไม่สามารถตอบโต้เจียงหว่านได้อยู่แล้ว เพราะน้ำหนักของเจียงหว่านมันรับมือไม่ได้ง่าย ๆ แน่นอนว่าเธอไม่มีวันลืมผู้หญิงตรงหน้านี้ ต่อให้ผ่านไปสิบปีก็ตาม
จ้าวเจวียนไม่คิดมาก่อนว่า เส้นทางของเธอมันจะคับแคบขนาดนี้
หลังจากเห็นเจียงหว่าน ใบหน้าของเธอมืดครึ้มทันที
เธอเงียบไปสักครู่ ก่อนจะหันมองลูกชาย “เสี่ยวหนิว ลูกบอกว่าโดนเพื่อนร่วมชั้นทำร้าย เป็นลูกชายของผู้หญิงคนนี้งั้นเหรอ?”
เถี่ยหนิวไม่เข้าใจ เขาชี้ไปที่ผิงอัน “เขาตีผมครับแม่ แม่ต้องล้างแค้นให้ผมนะ!”
ใบหน้าของเจวียนจือยิ่งมืดครึ้ม เธอมองเจียงหว่านด้วยความลังเลใจ ก่อนจะถามออกไปอย่างสับสน
“ลูกของเธอตีลูกชายฉัน เราจะทำยังไงกับเรื่องนี้!”
เจียงหว่านมองหล่อนด้วยสายตาเย้ยหยัน ก่อนจะหันมองผิงอัน “ลูกชาย บอกแม่มาสิว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พูดความจริงออกมาให้หมด!”
ผิงอันไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เมื่อเจียงหว่านเรียกเขาว่าลูกชาย เขาก็ยินดีที่จะพูดทุกอย่างออกไป
เด็กชายเล่าเรื่องทุกอย่างตรงไปตรงมา
หลังจากเล่าเรื่องทั้งหมดแล้ว เขาก็พูดต่อว่า “และผมไม่ได้ทำเจ้านั่นพังด้วย แต่เถี่ยหนิวก็ยังเรียกผมว่าเด็กเหลือขอไม่มีแม่สั่งสอน แถมเรียกแม่ว่าหมูอ้วน ผมก็เลยต่อยเขา”
แล้วก็พูดเสริมอีกว่า “ผมไม่ผิด แต่เขาพูดถึงขนาดนั้น ผมเลยจัดการเขา!”
เจวียนจือโกรธทันที “เด็กน้อย ทำไมเธอถึงโหดร้ายขนาดนี้? เด็กก็คือเด็ก เขาก็แค่กล่าวสาปแช่งออกไปอย่างนั้น แต่ดูเธอสิ! เธอมาใช้กำลังตีคนอื่นได้ยังไง?!”
อาจารย์ใหญ่กล่าวขึ้นว่า “คุณแม่ของผิงอัน คนเป็นพ่อเป็นแม่ควรให้ความรู้และชี้แนะลูก ๆ ให้ดี คุณต้องเข้าใจว่าทุกคนต้องรู้จักอดทนอดกลั้นนะคะ”
“เด็กที่โตมาขนาดนี้จะไม่มีเหตุผล และจะเอาแต่ใช้กำลังทำร้ายคนอื่นไม่ได้”
“ในอนาคตถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เขาจะสร้างปัญหาให้กับสังคมนะคะ!”
อาจารย์ใหญ่เฉินกล่าวออกมาอย่างสั่งสอน ปกติแล้วเธอชอบเด็กดี อ่อนโยน จิตใจดี และเกลียดเด็กที่รังแกคนอื่นมากที่สุด