เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 187 เฉียวเหลียนเฉิงมาช่วย!
- Home
- All Mangas
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 187 เฉียวเหลียนเฉิงมาช่วย!
บทที่ 187 เฉียวเหลียนเฉิงมาช่วย!
“นายกล้ามาทำร้ายพี่สะใภ้เฉินของฉัน อยากจะเปิดศึกกันจริง ๆ สินะ”
“วันนี้ฉันจะทำให้รู้ว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหน!”
หลิวลู่ถูกทุบตีหลายครั้ง พยายามลืมตาขึ้นมองหาเจียงหว่าน
แต่เจียงหว่านก็ตบเขาอย่างแรง “นังอ้วน แกรนหาที่ตายรึไง?!”
เขาเหยียดฝ่ามือไปทางหญิงสาว และกำลังจะโดนแล้วแท้ ๆ แต่เจียงหว่านกลับหันหลัง และวิ่งหนีไป
หลิวลู่รีบวิ่งไล่ตาม เพียงไม่กี่ก้าว เจียงหว่านก็หยิบเศษดินขึ้นมาอีกหนึ่งกำมือ
หลิวลู่ที่ได้บทเรียนแล้ว รีบหลับตาลง
แต่เมื่อหลับตา เจียงหว่านก็หันกลับมาตีเขาสองครั้ง จากนั้นเธอก็หันหลังกลับ และวิ่งหนีต่อ
หลิวลู่หลับตา แต่ก็ยังพยายามยื่นมือทั้งสองข้างควานหาเจียงหว่าน แต่ก็จับไม่ได้ จึงลืมตาขึ้นมา พอเห็นเจียงหว่านหนีไปแล้ว ก็ไล่ตามไป
ทั้งสองไล่ตาม และหลบหนีไปเกือบทั่วตัวตำบล
ขณะที่เจียงหว่านกำลังวิ่งอยู่ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาขวางเธอเอาไว้
เป็นหลิวฮุ่ย คนที่ถูกเจียงหว่านดึงผม และทุบตี
แต่คราวนี้ผมยาว ๆ ของหลิวฮุ่ยถูกตัดออกไปแล้ว ผมหล่อนเหลือแค่ประบ่า และถูกรวบเก็บเป็นหางม้า
เจียงหว่านอดไม่ได้ที่จะหัวเราะหลังจากที่เห็น “นี่ไปตัดผมมาแล้วงั้นเหรอ แต่ตัดแล้วก็ยังเหลืออีกเยอะเลยนี่ หึ หรือว่าเก็บไว้ให้โดนดึงอีกล่ะ!”
คำพูดติดตลกของเธอทำให้หลิวฮุ่ยโกรธ “ยัยอ้วน ฉันจะพาแกไปลงนรก!”
หลิวฮุ่ยสะบัดหางม้า เดินตรงเข้าหาเจียงหว่านอย่างบ้าคลั่ง
เจียงหว่านแค่ล้อเล่นเท่านั้น และความจริงแล้วในใจเธอรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยด้วยซ้ำ
สองคนนี้รับมือไม่ได้ง่าย ๆ เลย ยิ่งตอนนี้มาพร้อมกัน เธอจะทำยังไงดีล่ะ!
เธอใช้หางตาเหลือบมองออกไป ซวยแล้ว เธอวิ่งเร็วเกินไปจนเลยสถานีตำรวจมา ตรงนี้คือทางเข้าตำบลแล้ว
แต่ยังไงก็เถอะ แพ้ได้แต่อย่าเสียหมา!
เจียงหว่านดึงมีดออกมาถือไว้ในมือข้างหนึ่ง พร้อมถือไม้นวดแป้งไว้อีกข้าง และตะโกนออกไป
“ทุกคนมาดูนี่เร็ว ตระกูลหลิวใส่ยาลงไปในเนื้อ พอฉันจับได้พวกเขาจะฆ่าปิดปากฉัน!”
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนผ่านไปผ่านมาจำนวนมาก และพวกเขาก็เห็นเจียงหว่านกับอีกสองคนกำลังไล่ล่ากัน
ทันทีที่เธอตะโกน ผู้คนก็เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น
สองพี่น้องตระกูลหลิวต่างก็ตกใจ
“แกกำลังพูดเรื่องอะไร!” หลิวลู่สับสน วางยาอะไรกัน?!
เขาจะใส่ยาอะไรลงไปได้!
หลิวฮุ่ยจ้องเขม็ง “อย่าฟังเรื่องไร้สาระของยัยนี้ เธอแค่พยายามแก้ตัว!”
จากนั้นเธอก็หันมองเจียงหว่าน “ยัยอ้วน พูดบ้าอะไร หยุดพ่นเรื่องบ้า ๆ ออกมาได้แล้ว!”
“เธอทุบแผงขายเนื้อของเรา แต่ก็ยังมาใส่ร้ายกันอีก!”
เจียงหว่านโบกมีดในมือ “ใช่ ฉันทุบแผงขายเนื้อของเธอ แต่นั่นก็เพราะเธอใส่ยาพิษลงในหมูตุ๋น และฉันก็กินมันเข้าไป พอฉันเถียงเธอ เธอก็มาขู่ฉัน!”
“ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำลายแผงลอยนั่นซะ!”
“ฉันแค่ปกป้องตัวเอง!”
หลิวฮุ่ยตกใจมากจนหันไปมองหลิวลู่
หลิวลู่ส่ายหัวอย่างไว แทนคำตอบว่า เขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!
“ยัยนี่แค่มาชิมเนื้อ พอชิมเสร็จก็คว่ำหม้อทิ้งเลย!”
หลิวฮุ่ยคิดว่าเจียงหว่านจงใจใส่ร้าย เธอจึงพูดด้วยความโกรธ “ยัยอ้วน วันนี้ฉันจะจัดการแก!”
พูดจบเธอก็เงื้อมือขึ้น
แต่คราวนี้เจียงหว่านเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เธอคิดว่าการใช้กลอุบายเก่า ๆ นั้นไม่ได้ผลอีกต่อไป
และก็รู้ว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้กับสองคนนี้ คงไม่สามารถหลบได้
จะตีก็ตีมา ส่วนฉันจะใช้มีดสับ แค่นั้นแหละ!
ถึงฉันโดนตบก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าแกโดนฉันสับ แกเดือดร้อนแน่!
หากเป็นวิธีนี้ หลิวฮุ่ยจะเสียเปรียบ เพราะถ้าหลบมีดไม่ทัน แขนของเธอก็ต้องถูกมีดบาด
อีกอย่าง ทั้งหมดนี้เป็นมีดเล่มใหม่ เพิ่งลับคมมา …เอาเลยสิ เร็วเข้า!
ตอนนี้หลิวฮุ่ยได้รับบาดเจ็บ เจียงหว่านเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เธอถูกตบไปสองครั้ง
แต่ถ้านับการโดนตบจากหลิวฮุ่ยเมื่อเช้า ก็สามครั้งแล้ว
ครึ่งหนึ่งในร่างกายของเธอเริ่มปวดแสบปวดร้อน เหมือนจะมีรสคาวพลุ่งพล่านอยู่ในตัว
เจียงหว่านกลืนน้ำลายระงับความคาว กระชับมีดในมือ แล้วตะโกนกร้าว
“เธอวางยาพิษในเนื้อ ถึงเธอจะฆ่าฉัน ฉันก็จะพูดแบบนี้!”
”ฉันก็เป็นคนขายเนื้อเหมือนกัน แต่ฉันขายเนื้ออย่างมีจิตสำนึก และไม่เคยขายของสกปรกแบบพวกเธอ!”
“วันนี้ฉันจะทุ่มน้ำหนักกว่าร้อยโลของฉันสู้กับเธอจนตัวตาย!”
หลิวฮุ่ยโกรธมากจนหัวของเธอเหมือนจะลุกเป็นไฟ “ยัยอ้วน แกต้องตาย!”
หล่อนยังคงเกรี้ยวกราดอย่างขาดสติ
เดิมทีหลิวลู่ตั้งใจว่าจะมาจัดการยัยอ้วนด้วย แต่เพราะมีคนมามุงดูมากเกินไป เขาจึงกระดากอายขึ้นมา
เพราะถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป พวกเขาจะกลายเป็นพวกฆ่าปิดปากจริง ๆ
ซึ่งสิ่งนี้ช่วยลดแรงกดดันต่อเจียงหว่านได้มาก
แต่ถึงเธอจะเผชิญหน้ากับหลิวฮุ่ยเพียงคนเดียว เธอก็ยังอยู่ภายใต้ความกดดันไม่น้อยอยู่ดี
เมื่อต้องปะทะกันอีกครั้ง หลิวฮุ่ยก็เข้ามาทุบตีเจียงหว่านอย่างบ้าคลั่ง
เจียงหว่านจึงใช้ความเจ็บแลกความเจ็บ
ไม่ยอมแพ้แม้ว่าจะต้องตาย
หลังจากตบไปสองครั้ง เจียงหว่านก็ถอยหลังไปหลายก้าว เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป และกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
“หา!” ฝูงชนส่งเสียงฮือฮา
เจียงหว่านที่ทั้งอ้วนแล้วตัวสูงใหญ่ขนาดนั้นยังถูกทุบตีจนกระอักเลือดเนี่ยนะ
และจะไม่ให้ทุกคนตกใจได้ยังไง
ด้านหลิวฮุ่ยมีบาดแผลแค่สามถึงสี่แผลบนร่างเท่านั้น ซึ่งแผลทั้งหมดนี้เกิดจากคมมีด
แต่ดูเหมือนหลิวฮุ่ยจะไม่ได้ละความสนใจจากเจียงหว่านเลย ตอนนี้ดวงตาของหล่อนแดงก่ำ มีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น คือฆ่านังหมูอ้วนตัวนี้ซะ!
หล่อนหายใจเข้าลึก ๆ และกำลังจะก้าวไปข้างหน้า แต่หลิวลู่ผู้เป็นน้องชายก็คว้าตัวเอาไว้ก่อน
“พี่ ให้เป็นหน้าที่ผมเถอะ!”
หลิวฮุ่ยจ้องมองด้วยความโกรธ “หลบไป พี่สาวของแกไม่ได้ไร้ประโยชน์ขนาดนั้น ฉันปกป้องพี่ชายของแกไม่ได้ แล้วจะให้ฉันปกป้องแกไม่ได้อีกงั้นเหรอ!”
พูดจบ หล่อนก็รีบวิ่งไปหาเจียงหว่านอีกครั้ง
เจียงหว่านกัดฟัน …ให้ตายเถอะ สู้โว้ย!
หลิวฮุ่ยกำลังเข้ามาใกล้แล้ว เธอเงื้อมือตบหน้าเจียงหว่านทันที
หากฝ่ามือนี้โดนเข้า เจียงหว่านคงถูกตบจนเลือดเต็มหน้าแล้ว
เธอเห็นแล้วว่าฝ่ามือนี้แรงขนาดไหน เพราะงั้นเธอต้องหลบให้ทัน
แต่ความเร็วของอีกฝ่ายเร็วเกินไป เธอไม่สามารถหลบได้!
จบแล้ว!
เจียงหว่านหน้าซีด คิดสงสัยว่าตอนนี้เฉียวเหลียนเฉิงจะเห็นด้วยกับการหย่าร้างหรือยัง เพราะเธอคงกลายเป็นคนโง่แบบสมบูรณ์แล้ว!
แต่ทันใดนั้น!
มือใหญ่ของใครบางคนก็คว้าเอวของเธอไว้ แล้วดึงเธอหลบไปด้านข้าง
ในขณะที่พาเธอหลบ เขาก็หลีกเลี่ยงการโจมตีของหลิวฮุ่ยได้อย่างง่ายดาย
หลิวฮุ่ยหยุดชะงัก หล่อนเห็นชายหนุ่มรูปหล่อ และดูน่าเกรงขามยืนอยู่ข้างเจียงหว่าน
ชายคนนั้นสูง และสง่างาม ดูโดดเด่นท่ามกลางผู้คน
แต่กลับมีกลิ่นอายความชั่วร้ายเล็ดลอดออกมาจากตัวเขา นั่นทำให้หล่อนรู้สึกกลัว
จะต้องฆ่าคนมากี่คนถึงได้มีกลิ่นอายชั่วร้ายแข็งแกร่งแบบนี้?
หล่อนคิดถึงอาจารย์ของตัวเอง
เมื่ออาจารย์ของหล่อนยังเด็ก เขาเป็นสมาชิกของกลุ่มนักดาบปลดแอกประชาชนในช่วงสงคราม สังหารผู้คนไปเป็นจำนวนมาก
ตอนนี้แม้ว่าหล่อนจะอายุมากกว่าเขาในตอนนั้น แต่หลิวฮุ่ยก็ยังรู้สึกถึงกลิ่นอายความชั่วร้ายที่แข็งแกร่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขา
คนธรรมดาอาจไม่สามารถรับรู้ถึงกลิ่นอายใด ๆ ได้ แต่สำหรับผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างหนักเช่นพวกเขา ความรู้สึกนี้จะชัดเจนเป็นพิเศษ
คนตรงหน้ามีกลิ่นอายที่ชั่วร้าย และเลวร้ายยิ่งกว่าอาจารย์เสียอีก
หลิวลู่นึกขึ้นได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบเข้าไป “พี่!”
หลิวฮุ่ยโบกมือ ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น จ้องมองชายที่อยู่ตรงข้าม และถามอย่างเย็นชา “นายคือเฉียวเหลียนเฉิงสินะ!”